ตอนที่ 325 สถานะของแฟนตัวจริงน่าตกใจยิ่งกว่า
“ธะ…เธอกับราชาภาพยนตร์เผย…พวกเธอ…”
นี่เขาค้นพบความลับอันน่าตื่นตระหนกอะไรกันเนี่ย?
ตอนที่อยู่บนรถช่วงก่อนหน้านี้ เขายังถามหลินเยียนอย่างติดตลกอยู่เลยว่าในบรรดาแฟนที่อยู่ในข่าวฉาวหลายคนของเธอนั้น มีใครที่เป็นตัวจริงบ้าง
เขาเดาไปทั่วทั้งรถ แต่กลับลืม…เผยหนานซวี่…แค่คนเดียว
หลินเยียนกับเผยหนานซวี่? สองคนที่ต่างกันราวกับฟ้าและดิน นะ…นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?
ขณะนี้เอง หลินเยียนก็อึ้งเช่นเดียวกัน คิดไม่ถึงว่าระวังตัวแจขนาดนี้แล้ว กลับบังเอิญเจอคนในสถานการณ์แบบนี้ได้อีก
แถมคนคนนี้ยังเป็นเฉินเจามู่ หนึ่งในแฟนหนุ่มที่อยู่ในข่าวฉาวของเธออีกด้วย?
อยู่กันสองต่อสองกับเผยหนานซวี่อยู่บนสถานที่อย่างทางเดินบันไดแบบนี้ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็คงอธิบายได้ไม่ชัดเจนกระมัง?
เดิมทีนั้นเธอกับเผยหนานซวี่กะว่าจะเดินทยอยเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทีละคนจากตรงนี้ ใครจะไปรู้ว่ายังไม่ทันถึงก็มาเจอเฉินเจามู่เสียก่อน
ใครจะไปคิดว่าหมอนี่จะไม่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงดีๆ แต่กลับดอดหนีมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?
เผยหนานซวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าไม่ค่อยดีเล็กน้อย
“ทำไมพี่ถึงไม่อยู่ในห้องจัดเลี้ยง มาอยู่ที่นี่ทำไมคะ?” หลินเยียนหน้าตาอับจนคำพูด
เฉินเจามู่เอ่ยปากพูดด้วยท่าทีอึ้งๆ “ห้องจัดเลี้ยงมันน่าอึดอัดเกินไป ฉันเลยออกมาสูบบุหรี่กับสูดอากาศสักหน่อย งั้น…พวกเธอสองคนล่ะ…”
หลินเยียนลูบคาง พูดเสียงทุ้มต่ำออกมาว่า “ถ้าฉันบอกว่า…พวกเราออกมาสูดอากาศเหมือนกัน จะเชื่อหรือเปล่า?”
เฉินเจามู่ “เธอคิดว่าฉันจะเชื่อรึเปล่าล่ะ?”
หลินเยียน “…”
ท่าทางเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อ…
เฉินเจามู่จ้องมองหลินเยียนด้วยความตื่นตะลึงพร้อมพูดขึ้นมาว่า “พับผ่าสิ! พระเจ้า! สวรรค์! ฆ่าฉันเถอะ! หลินเยียน! หมายความว่าแฟนที่เธอเพิ่งจะพูดถึงบนรถก็คือราชาภาพยนตร์เผยอย่างงั้นเหรอ???”
เผยหนานซวี่ “…”
หลินเยียน “…”
ถึงคำตอบจะผิด แต่ว่าคำตอบนี้กลับเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงความจริงมาก
เฉินเจามู่แสดงสีหน้าเหมือนโลกกลับตาลปัตร “เป็นไปไม่ได้ๆ ! นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! หลินเยียน เธอกับเผยหนานซวี่? พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกันได้ยังไง?”
หลินเยียนหรี่ดวงตาทั้งสองข้างเล็กน้อย “พวกเราทำไมเหรอ? ทำไมต้องตื่นตระหนกขนาดนี้ด้วย?”
เธอกับเผยหนานซวี่มีอะไร ทำไมถึงทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อขนาดนี้?
ช่างโลกแคบซะจริงเชียว!
เห็นเธออยู่กับเผยหนานซวี่ยังตกใจเสียขนาดนี้ ถ้าหากรู้สถานะที่แท้จริงของแฟนเธอจะตกใจจนมีสภาพแบบไหนนะ?
“จะไม่ขนาดนี้ได้ยังไง!” เฉินเจามู่พูดด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน “ถ้าเรื่องที่เธอคบหากับเผยหนานซวี่ถูกเปิดโปงจะต้องเหมือนระเบิดลงทั่วทั้งวงการบันเทิงแน่!”
หลินเยียนเบ้ปาก นี่กลับเป็นเรื่องจริง…
เพียงแต่เขาไม่มีทางรู้เลยว่าความจริงจะระเบิดยิ่งกว่านี้…
ตอนนี้เผยหนานซวี่จึงทำได้แค่รีบพูดอธิบายเท่านั้น “คุณเฉิน คุณเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแบบนั้น…”
หลินเยียนพูดเสริมเช่นกัน “ใครบอกพี่ว่าคนที่ฉันคบอยู่คือเผยหนานซวี่?”
เมื่อเฉินเจามู่ได้ยินก็ไม่รอให้หลินเยียนพูดจบ รีบผงกศีรษะอย่างต่อเนื่องพร้อมทำท่ารูดซิปปาก “ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจทุกอย่าง! วางใจได้ ปากฉันหนักมาก จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น!”
หลินเยียนมุมปากกระตุก ที่แท้นายเข้าใจอะไรบ้างเนี่ย?
“ขอโทษที่รบกวน พวกเธอต่อ ต่อไปเถอะนะ…”
จนใจที่เฉินเจามู่ไม่ฟังคำอธิบายเลยสักนิด เขาจากไปอย่างรู้งาน
เผยหนานซวี่ยืนอยู่ที่เดิม ถอนหายใจ ยิ้มขื่นพลางมองหลินเยียน แบบนี้ท่าทางต่อให้มีปากก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนแล้ว
“ทำยังไงดี?” หลินเยียนถามด้วยหน้าตาละห้อย
เผยหนานซวี่พูดปลอบใจ “เรื่องนี้เกรงว่าต่อให้พวกเราอธิบายก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนแล้วล่ะครับ โชคยังดีที่เฉินเจามู่คนนี้ ถึงแม้จะใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา แต่นิสัยกลับไม่เลว คงไม่พูดจาเพ้อเจ้อข้างนอกแน่ กลับไปผมจะคุยกับเขาสักหน่อย บอกให้เขาอย่าแพร่งพราย”
“เหมือนว่าคงทำได้แค่นี้นั่นแหละ…”
หลินเยียนได้แต่ปลอบใจตัวเองเช่นกัน โชคยังดีที่ว่าที่เจอนั้นไม่ใช่เธอกับเผยอวี้เฉิง…
ตอนที่ 326 ความสำคัญของการมีผู้ช่วยที่พึ่งพาได้
ครู่หนึ่งผ่านไป ในที่สุดหลินเยียนกับเผยหนานซวี่ก็เข้าไปในห้องจัดเลี้ยงได้อย่างราบรื่น
ถึงแม้จะเข้าไปคนละเวลา แต่เฉินเจามู่ เผยหนานซวี่ และหลินเยียน สามคนต่างทยอยกันเข้ามา ก็ยังทำให้ทุกคนต้องเหล่ตามองบ้างอยู่ดี
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือพอเฉินเจามู่ซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างเผยหนานซวี่เห็นหลินเยียนเข้ามาก็รีบลุกขึ้นทันที จากนั้นก็พูดกับหลินเยียนว่า “ไอ้หยา หลินเยียน ที่นั่งเธอเหมือนอากาศจะปลอดโปร่งกว่านะ มาๆๆ แลกกับฉันเถอะ!”
พอพูดจบก็เดินไปตรงหน้าหลินเยียน ดึงดันว่าจะแลกที่นั่งกับเธอ พูดไปพลาง ส่งสายตาให้เธอไปพลาง แสดงสีหน้าว่า “ฉันรู้งานใช่หรือเปล่า”
หลินเยียน “…???”
หลินเยียนรู้สึกพูดไม่ออกจริงๆ เธอมองเผยหนานซวี่ จากนั้นก็มองเฉินเจามู่อีกทีแล้วมองเทียบกัน รู้สึกถึงความสำคัญของการมีผู้ช่วยที่พึ่งพาได้จริงๆ แล้ว
สุดท้ายหลินเยียนก็ถูกเฉินเจามู่บังคับให้ไปนั่งข้างเผยหนานซวี่
ที่แย่ยิ่งกว่านั้นเข้าไปอีก ตำแหน่งของเธอข้างซ้ายคือเผยหนานซวี่ ด้านขวาคือ…หันอี้เซวียน ด้านขวาของด้านขวาคือเจี่ยงซือเฟย
พอแล้วจริงๆ…
ก่อนหน้านี้เธอหลบหนีเรื่องวุ่นวายที่มีอยู่ทั้งหมดด้วยความลำบากยากเย็นจนหาตำแหน่งที่ปลอดภัยได้ ตอนนี้ถูกตาเฉินเจามู่ทำลายจนหมดสิ้น
เมื่อเห็นหลินเยียนถูกเฉินเจามู่เปลี่ยนที่จนมานั่งอยู่ด้านข้างเผยหนานซวี่ นักแสดงหญิงที่อยู่ตรงโต๊ะหลายคนต่างมีสีหน้าไม่ค่อยดี โดยเฉพาะนางเอกอย่างเจี่ยงซือเฟย
“พี่ซือเฟย ตำแหน่งที่อยู่ด้านข้างราชาภาพยนตร์เผยควรเป็นของนางเอกอย่างพี่ไม่ใช่เหรอคะ เฉินเจามู่ก็ช่างเถอะ หลินเยียนมีหน้าอะไรไปนั่งอยู่ตรงนั้น!” เฮ่อซานซานซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างเจี่ยงซือเฟยพูดทวงความเป็นธรรมด้วยสีหน้าอิจฉาตาร้อน
เดิมทีนั้นด้วยบทของเฮ่อซานซานไม่มีคุณสมบัติที่จะมาร่วมงานได้ เพียงแต่เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างหันอี้เซวียนกับหลินซูหย่า เฝิงอันหวาถึงเชิญเธอมาด้วย
อาศัยอำนาจพี่เขยของหันอี้เซวียนหนุนหลัง เฮ่อซานซานจึงไม่ยั้งเสียงที่ใช้พูด คนที่อยู่ตรงโต๊ะต่างได้ยินประโยคนั้นกันหมด
ทุกคนต่างเคียดแค้นและอิจฉาหลินเยียนเท่านั้น ไม่สนใจว่าเฉินเจามู่จะขอเปลี่ยนด้วยตัวเองหรือเปล่า ดีไม่ดียังรู้สึกว่าหลินเยียนเหยียบเรือสองแคม ทางหนึ่งยั่วยวนเฉินเจามู่ อีกทางหนึ่งก็ยั่วยวนเผยหนานซวี่ด้วยซ้ำ
หลินเยียนกัดฟันกรอดพร้อมถลึงตาใส่เฉินเจามู่ แต่ฝ่ายหลังกลับทำหน้าตาถูกใส่ร้าย
ช่างเถอะ ด้วยชื่อเสียงของเธอตอนนี้ ต่อให้ไม่ได้ทำอะไร แค่หายใจเธอก็ผิดแล้ว
ตามใจก็แล้วกัน…
พวกเธอสบายใจก็พอ
เฝิงอันหวาพูดแก้สถานการณ์ “เยี่ยมไปเลย คนมาครบได้เสียที! มาๆๆ! ทุกคนชูแก้ว! พวกเราดื่มหมดแก้ว!”
พอเฝิงอันหวาพูดจบ ทุกคนต่างทยอยชูแก้วอย่างให้เกียรติ
การถ่ายทำของกองถ่ายนี้รวดเร็วมาก วันนี้ไม่ใช่แค่หลินเยียนถ่ายปิดกอง เจี่ยงซือเฟยและดาราคนอื่นก็ถ่ายปิดกองด้วยเช่นกัน มีแค่คนที่ค่อนข้างสำคัญอย่างพวกเผยหนานซวี่กับเฉินเจามู่เท่านั้นที่ยังต้องถ่ายต่อ
“วันนี้เป็นวันถ่ายปิดกล้องของซือเฟยเหมือนกัน พวกเราดื่มให้ซือเฟยกัน!” เฝิงอันหวามองเจี่ยงซือเฟยด้วยความเอาใจใส่ เอ่ยปากพูดขึ้นมาโดยเฉพาะ
แม้วันนี้หลินเยียนจะถ่ายปิดกล้องด้วยเหมือนกัน แต่เธอเป็นแค่ตัวประกอบตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีความสำคัญเป็นธรรมดา
“ขอบคุณโปรดิวเซอร์เฝิง ขอบคุณผู้กำกับเจียง ขอบคุณการดูแลตลอดช่วงหลายวันมานี้ของทุกคนค่ะ!” เจี่ยงซือเฟยยืนขึ้นด้วยท่าทางผ่าเผย คารวะทุกคนกลับ
“ฮ่าๆๆ ซือเฟย เธอเกรงใจไปแล้ว พวกเราต้องขอบคุณเธอถึงจะถูก มีราชินีภาพยนตร์เจี่ยงคอยหนุนอยู่ เรื่องนี้จะต้องดังระเบิดแน่!” เฝิงอันหวาพูดชมด้วยสีหน้ามั่นใจเปี่ยมล้น
เจี่ยงซือเฟยมองเผยหนานซวี่ด้วยสีหน้าเอียงอาย “ฉันจะเทียบราชาภาพยนตร์เผยได้ยังไงกันล่ะคะ ต่อให้ดังระเบิด ก็ควรเป็นผลงานของราชาภาพยนตร์เผยค่ะ”
