ตอนที่ 363 พวกเธอจะทำอะไรฉันได้
ขณะนี้ สาววัยรุ่นหน้าตาสวยพริ้งแต่งตัวทันสมัยข้างๆ เกาจื้อเวยมองไปทางจ้าวหงหลิง หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “ทำยอดไม่ได้ก็ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าซะ นี่เป็นคำพูดของหัวหน้าจ้าวเองเลยนะ!”
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาสามเดือนที่พูดไว้เลยนะ!” ตัวตัวกัดฟันโต้กลับ
ถึงแม้การเดิมพันนั้นไม่มีทางจะสำเร็จได้ ทำได้แค่ยืดเวลาออกสามเดือนแค่นั้นเอง แต่ว่าคนพวกนี้รีบขนาดนั้นเลยเหรอ?
ในเวลานี้ หนึ่งในศิลปินที่ยืนมุงอยู่ข้างๆ พูดขึ้น “เหลือเวลาไม่ถึงอาทิตย์แล้ว ยังคิดจะแซงหน้าการทำยอดของพี่เวยในเวลาสั้นๆ แบบนี้อีกเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
“นั่นน่ะสิ! ผลงานเชี่ยนเชี่ยนในเดือนนี้ดีอย่างระเบิดระเบ้อ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จะเข้าโรงสองเรื่อง แล้วก็ยังมีละครที่ได้แสดงเป็นนางเอกกำลังจะเปิดกอง อีกทั้งยังเซ็นพรีเซนต์เตอร์ CA ในโซนประเทศจีนได้อีกด้วย! พวกเธอเอาอะไรไปเทียบกับเขาล่ะ? หรือว่าจะใช้นางหนังหมาที่โดนด่าหัวเน่าจนไม่กล้าออกไปไหนน่ะเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ ยัยหนังหมาอย่างหลินเยียนนั่นน่ะเหรอ ต่อให้จ้าวหงหลิงให้หล่อนเกาะทั้งวงการบันเทิงไปทั่ว ยังเทียบไม่เท่านิ้วก้อยของเชี่ยนเชี่ยนเลย! อย่ามาทำให้เชี่ยนเชี่ยนเสียหายนะ!”
“ก็นั่นน่ะสิ ภาพยนตร์เรื่องเดียวที่ใกล้จะเข้าโรงยังเป็นได้แค่ตัวละครเบอร์สี่ นี่ยังไม่ทันได้ฉายก็โดนด่า ชาวเน็ตด่าจนหัวเน่าไปแล้ว! ถึงตอนนั้นถ้าเอามาเทียบกับฝีมือการแสดงของเจี่ยงซือเฟยก็คงเป็นได้แค่เศษฝุ่นแหละมั้ง!”
“ได้ข่าวว่าก่อนหน้านั้นยังอายไปถึงวงการรถแข่งอีกด้วย!”
…
ตอนแรกเกาจื้อเวยเป็นผู้จัดการที่อยู่ภายใต้จ้าวหงหลิง ซึ่งแตกต่างไปจากผู้จัดการที่ให้ความสำคัญกับผลงานที่แท้จริงอย่างจ้าวหงหลิง เกาจื้อเวยชอบตีสนิทไปเรื่อย
ส่วนอันเชี่ยนเชี่ยนเป็นดาราสาวที่อยู่ในการดูแลของเกาจื้อเวย หน้าตาพอใช้ได้ แต่ดาราสาวสวยหน้าตาดีในวงการบันเทิงมีอยู่เยอะแยะไป เธอไม่ค่อยมีความสามารถพิเศษอะไร ก็เลยไม่ได้โด่งดังเท่าไหร่
แต่ช่วงนี้เกาจื้อเวยหาเถ้าแก่ที่ไม่ธรรมดามาหนุนหลังให้อันเชี่ยนเชี่ยน ทำให้อันเชี่ยนเชี่ยนกางปีกบินเพียงชั่วพริบตา ผลงานเยอะจนดังระเบิด ทำลายสถิติทะลุยอดของฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์อย่างรวดเร็ว
ยอดแบบนั้น ต่อให้ช่วงที่จ้าวหงหลิงดูแลเจี่ยงซือเฟยอยู่ก็ยังไล่ตามไม่ได้
ในบริษัทแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครทำยอดได้สูงกว่าคนนั้นก็ทำอะไรได้ตามใจชอบได้
ตอนนี้เกาจื้อเวยกำลังหลงระเริง คิดว่าตำแหน่งหัวหน้าแผนกผู้จัดการศิลปินเป็นของตัวเองตั้งนานแล้ว ก็คงจะไม่เห็นหัวจ้าวหงหลิงแล้วล่ะ
ส่วนพนักงานคนอื่น เห็นจ้าวหงหลิงคุมอำนาจไม่อยู่แล้ว ก็คงจะลุกขึ้นมาอีกไม่ได้ ต่างหันไปประจบเกาจื้อเวยกันหมดแล้ว
“ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา พี่หลินยังเป็นหัวหน้าอยู่ พวกเธอไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรแบบนี้!” ตัวตัวกดความโมโหไว้แล้วพูดขึ้น
เกาจื้อเวยหัวเราะ “อ๋อ…ยังไม่ถึงเวลางั้นเหรอ! ยังไม่ถึงเวลาก็จริง แต่ว่าฉันจะไล่พวกเธอออกไป พวกเธอจะทำอะไรฉันได้ล่ะ? มีปัญญาก็ไปฟ้องบอสสิ! ไปลองดูว่าเขาจะสนใจหล่อนไหม?”
อันเชี่ยนเชี่ยนกอดอกไว้แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม “ตกต่ำถึงขั้นต้องพึ่งดาราขยะอย่างหลินเยียนแล้ว ยังคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าผู้จัดการศิลปินที่เคยดูแลสุดยอดนางเอกอีกเหรอ!”
ตอนนี้อันเชี่ยนเชี่ยนมีคนหนุนหลังเบอร์ใหญ่แล้ว ยิ่งไม่เกรงกลัวอะไรเข้าไปใหญ่ เธอปัดนิ้วขาวใสราวกับต้นหอมอย่างไม่จงใจแล้วสั่งด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก ขนต่อไป! อ้อ แล้วก็จัดการห้องพักที่ชั้นสามด้วย ต่อไปนี้นอกจากฉันแล้วไม่ให้ใครไปใช้อีก!”
ตัวตัวได้ยินแล้วสีหน้าบูดไปกว่าเดิม พี่หลิงเป็นคนออกเงินตกแต่งห้องพักชั้นสามด้วยตัวเอง มีไว้เพื่อให้เจี่ยงซือเฟยมีที่พักผ่อนได้อย่างสบายใจตอนที่กลับมาบริษัท แม้กระทั่งสิ่งนี้พวกเขายังไม่ปล่อยไปเหรอ…
ตอนที่ 364 เพ้อเจ้อได้ดีจริงๆ
เมื่อพนักงานเหล่านั้นได้ยินอันเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยปาก ต่างรีบผลักตัวตัวออกไปอย่างไม่ปราณี จากนั้นเริ่มขนของต่อไป
ได้ข่าวว่าคนหนุนหลังของอันเชี่ยนเชี่ยนครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้จะเป็นบอสฉี่ซิง เอนเตอร์เนเมนต์ของพวกเขาก็ไม่กล้ายุ่งกับอันเชี่ยนเชี่ยน แทบจะบูชาเธออย่างกับเทพ เหลือแค่ไม่ได้จุดธูปให้แค่นั้นเอง
อันเชี่ยนเชี่ยนอยากได้ออฟฟิศกับห้องพักแค่นี้ แน่นอนว่าไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
สิ้นประโยค อันเชี่ยนเชี่ยนค่อยๆ เดินไปยังชั้นวางหนังสือ สายตามองไปยังถ้วยรางวัลคริสตัลใบหนึ่ง จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบถ้วยรางวัลนั้นขึ้นมา
“โอ้…ถ้วยรางวัลนักแสดงรองหญิงดีเด่นของเจี่ยงซือเฟยสินะ”
นี่เป็นรางวัลชิ้นแรกของเจี่ยงซือเฟย ถึงแม้จะเป็นแค่ถ้วยรางวัลนักแสดงรองหญิงดีเด่น แต่ถือว่าเป็นถ้วยรางวัลที่จ้าวหงหลิงให้ความสำคัญมากที่สุด
ถ้วยรางวัลนี้แหละ มอบประกายแห่งความหวังในขณะที่มืดมัวลำบากที่สุด ในขณะที่เธอทนไม่ไหวอยากจะยอมแพ้ สิ่งที่ทำให้เธอยึดมั่นในทางเดินของตัวเอง สุดท้ายทำให้เธอค่อยๆ พาเจี่ยงซือเฟยไต่สู่ตำแหน่งนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมทีละก้าว ส่วนเธอเองก็ค่อยๆ ไต่มาสู่ตำแหน่งหัวหน้าผู้จัดการศิลปิน ทำให้มีพื้นที่เป็นของตัวเองในวงการนี้…
จ้าวหงหลิงมองดูถ้วยรางวัลนั้นด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
แต่ในขณะที่เธอมีหน้ามีตา กำลังจะมุ่งสู่จุดที่สูงกว่าเดิม เจี่ยงซือเฟยกลับยกเลิกสัญญาแล้วจากไป ความพยายามทุกอย่างของเธอเหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า
วินาทีต่อมา เสียง ‘เพล้ง’ ดังขึ้นข้างหู
แววตาแห้งเหือดราวกับบ่อน้ำเก่าแก่ของจ้าวหงหลิงสั่นคลอนขึ้นมาดั่งสึนามิซัดเข้าฝั่ง ได้แต่เห็นถ้วยรางวัลคริสตัลนั้นหล่นลงมาจากมืออันเชี่ยนเชี่ยนและร่วงอยู่ข้างๆ ขา แตกกระจายไปทั่ว
“อันเชี่ยนเชี่ยน!” ตัวตัวเห็นถ้วยรางวัลที่แตกร้าวนั้นแล้วกรีดร้องออกมา
“อุ๊ย ขอโทษทีนะ หลุดมือน่ะ…..” อันเชี่ยนเชี่ยนพูดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ อยู่บนหน้า
“พวก…พวกแกทำเกินไปหรือเปล่า!” ตัวตัวน้ำตาคลอเบ้า
เธอรู้อยู่แก่ใจที่สุดว่าจ้าวหงหลิงให้ความสำคัญกับถ้วยรางวัลนี้มากแค่ไหน จะต้องใส่ใจเช็ดถูมันทุกเช้า ยามที่อารมณ์ไม่ดีหรือพบเจออุปสรรคอะไรก็ชอบถือถ้วยรางวัลนี้ไว้
คนเหล่านี้ ถือว่าเป็นหมาพึ่งพาบารมีคนชัดๆ![1]
จ้าวหงหลิงมองดูเศษแก้วเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย ค่อยๆ ก้มตัวลง เอานิ้วไปสัมผัสตรงที่มีเศษแก้วกระจายอยู่…
เศษแก้วที่คมกริบบาดปลายนิ้วจนเลือดสีแดงสดไหลออกมา
แต่เหมือนจ้าวหงหลิงจะมองไม่เห็น ยังคงเก็บเศษแก้วเหล่านั้นต่อไป…
“ชิ ซวยจริงๆ! นี่มันออฟฟิศใหม่ของฉันนะ! อย่าหยดเลือดของเธอไว้บนพื้นล่ะ!” เกาจื้อเวยบ่นขึ้นอย่างไม่พอใจ
พูดจบ เกาจื้อเวยก็ให้คนมาไล่เธอไป “จ้าวหงหลิง ออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว ไสหัวไปเถอะ! ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันใจไม่กว้างพอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็เป็นผู้ช่วยฉันแล้วกัน ฉันยังเก็บห้องเก็บของชั้นหนึ่งไว้ให้เธออยู่! ไม่งั้นด้วยผลงานของเธอตอนนี้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีออฟฟิศเลยรู้ไหม”
ในที่ไม่ห่างจากนั้น หลินเยียนมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้แล้วเสยมุมปากขึ้นเล็กน้อย
เจ้าเกาจื้อเวยนี่เพ้อเจ้อได้ดีจริงๆ ตัวเองไม่มีความสามารถแถมไม่รู้ว่าจะสั่งสอนศิลปินหน้าใหม่ยังไง ทำเป็นแค่ประจบประแจงตีสนิทไปทั่ว ก็เลยมาบังคับจ้าวหงหลิงเป็นผู้ช่วยของเขา ทำงานเพื่อเขา ถึงตอนนั้นต่อให้จะสร้างผลงานได้ แต่ทั้งหมดนั้นก็ถือว่าเป็นของเขาหมด
ยังมาทำเป็นพูดจาแบบมีน้ำใจอย่างงั้น
ฝันไปเถอะ!
“ยังยืนงงอยู่ทำไม ไม่ได้ยินที่พี่เกาพูดเหรอ รีบยกขยะพวกเธอไปที่ออฟฟิศตัวเองไป!” หนึ่งในพนักงานยัดกล่องกระดาษเน่าๆ ใส่มือตัวตัวด้วยท่าทางหงุดหงิด
[1] หมาพึ่งพาบารมีคน การอาศัยบารมีคนอื่นอวดเก่ง