ตอนที่ 379 ถ้านอนคนเดียวแล้วกลัว
หลังจากจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลินเยียนหยิบโปสเตอร์ที่ถูกเผยอวี่ถังฉีกจนขาดวันนี้ออกมา
เจ้าเด็กเฮงซวย!
รู้ไหมว่าโปสเตอร์นี้ถูกเก็บรักษาไว้นานแค่ไหนแล้ว?
ฉีกซะลึกขนาดนี้…
ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยไปขอแบบลิมิเต็ดอีกแผ่นแล้วกัน!
ขณะที่หลินเยียนกำลังจะหาสก็อตเทปมาติดโปสเตอร์ จู่ๆ เสียงเผยอวี้เฉิงดังขึ้นจากด้านหลัง…
“เก็บเสร็จหรือยัง? ให้ช่วยอะไรไหม?”
หลินเยียนแทบจะกระอักเลือด ตกใจจนหัวใจเกือบจะหยุดเต้น เธอรีบเตะโปสเตอร์เข้าไปใต้เตียง
คนเราทำอะไรไร้คุณธรรมไม่ได้จริงๆ สินะ บ้าเอ้ยตกใจหมดเลย!
เกือบลืมไปเลยว่านี่มันบ้านเผยอวี้เฉิง เธอต้องระวังกว่านี้…
สงบสติอารมณ์ หยิบกระเทียมขึ้นมาแล้วแขวนมันบนลูกบิดตู้เก็บของพลางพูดขึ้น “ไม่ต้องๆ ฉันเก็บจะหมดอยู่แล้วค่ะ!”
หลินเยียนน่าจะไม่รู้ว่าปฎิกิริยาของเผยอวี้เฉิงเร็วกว่าคนปกติเยอะ
ดังนั้นที่เธอคิดว่าตัวเองเร็วแล้ว แต่จริงๆ แล้วเผยอวี้เฉิงเห็นท่าทางที่ยัดของเข้าใต้เตียงแล้ว
แต่เขาไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขากวาดสายตามองสิ่งของที่หลินเยียนแขวนอยู่ในห้อง เอ่ยปากพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน “โอเค งั้นก็รีบพักผ่อนนะ”
หลินเยียนพยักหน้า “ได้เลยค่ะ คุณก็รีบพักผ่อนนะคะ!”
เผยอวี้เฉิงพยักหน้าตอบรับแล้วหันหลังจากไป
เห็นเขาไปสักที หลินเยียนค่อยยังโล่งอกหน่อย
แต่เพิ่งจะเดินหน้าไปได้ก้าวหนึ่งเผยอวี้เฉิงกลับชะงักฝีเท้าแล้วหันหลังกลับมามองเธอ เขาเอ่ยปากพูดขึ้น “อ้อ หลินเยียน…”
“ทะ…ทำไมเหรอคะ?”
หลินเยียนคิดว่าเผยอวี้เฉิงมีอะไรจะบอกตัวเองอีก จึงมองไปด้วยสายตาสงสัย
อย่าบอกว่ารู้เรื่องอะไรหรือเปล่า?
ภายใต้แสงไฟอ่อนๆ ที่ส่องจากด้านบน ทำให้เรือนร่างสูงยาวของเผยอวี้เฉิงมีแสงออร่าสีทองอ่อนๆ แผ่ออกมา เลนส์แว่นสะท้อนแสงเล็กน้อยทำให้ปกปิดอารมณ์ในแววตาของเขา
เขายืนย้อนแสงแล้วมองไปทางเธอ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้มขรึมราวกับเชลโล “`ถ้านอนคนเดียวแล้วกลัว มาหาฉันได้นะ”
หลินเยียนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วสำลักไอขึ้นมาทันที “แฮ่กๆๆ …”
นี่…หรือว่าจะเป็นการเชิญชวนงั้นเหรอ?
เห็นท่าทางตกใจของเธอแล้ว เขาหัวเราะเบาๆ แล้วหันหลังกลับไปที่ห้องมาสเตอร์
เหลือเพียงแต่หลินเยียนยืนอยู่ในห้องคนเดียว สมองรวนจนเละเป็นโจ๊ก…
ใจเย็นก่อน!
คิดมากไปทำไมล่ะ เผยอวี้เฉิงก็แค่เป็นห่วงเธอทั่วไป กลัวเธอนอนในที่แปลกแล้วจะไม่ชินงั้นเหรอ?
จะเป็นคำเชิญชวนอะไรกันล่ะ…
เอ่อ…
ถึงจะเป็นคำเชิญชวน…ก็คงจะชดใช้มื้ออาหารที่เธอกินคืนนี้ไม่ได้หรอกนะ…
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินเยียนได้ทิ้งตัวนอนลงเตียงสักที
เครื่องนอนที่นุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของพืชไม้นานาพรรณโชยเข้ามาจากนอกหน้าต่าง เสียงร้องจากสัตว์ชนิดต่างๆ ปะปนอยู่…
ความคิดว้าวุ่นในหัวเริ่มเลือนลาง หลินเยียนค่อยๆ ดำดิ่งสู่ความฝัน…
ณ ห้องนอนมาสเตอร์ข้างๆ
เผยอวี้เฉิงนอนพิงหัวเตียงพร้อมหนังสือในมือ ชุดนอนคลุมอยู่บนตัวอย่างไม่จงใจ ขณะนี้แว่นที่สวมใส่อยู่ถูกถอดออกแล้ว เขาเผยแววตาคมเข้มยิ่งกว่าท้องฟ้ายามวิกาล
ห้องมาสเตอร์กับห้องรับแขกที่หลินเยียนอยู่ใกล้กันมาก รวมถึงหน้าต่างเปิดอยู่ ถ้าขยับแรงนิดหน่อยก็ได้ยินกันได้
เมื่อสังเกตได้ว่าหลินเยียนที่อยู่ข้างๆ ห้องน่าจะนอนแล้ว เขาจึงวางหนังสือในมือแล้วนอนลง
หลินเยียนเองก็หลับไปตั้งนานแล้ว
แต่ขณะที่เธอหลับไหล เสียง ‘ติ๊ดๆๆ’ ค่อยๆ ดังขึ้นจากห้องมาสเตอร์ข้างๆ อย่างเป็นพักๆ
ตอนที่ 380 ตัวยาสงบใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว?
ณ หน้าประตูคฤหาสน์เมฆ
เผยหนานซวี่ตั้งใจสร้างโอกาสอยู่กันสองต่อสองให้พี่ชายเขาและหลินเยียน ตอนแรกเตรียมตัวจะกลับไปในวันถัดมา
แต่ดันได้รับข่าวมาจากทีมผู้เชี่ยวชาญกลางดึก เห็นบอกว่าค่าร่างกายของพี่ชายเขาเริ่มพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
ทำไมสภาพร่างกายของพี่ชายมีปัญหาล่ะ
หลินเยียนอยู่ที่บ้านแท้ๆ!
ก็เพราะว่าเขารู้ว่าหลินเยียนอยู่ด้วยพี่ใหญ่ก็เลยไม่มีปัญหา เขาเลยออกมาอย่างไว้วางใจ แต่ไม่คิดว่าผู้เชี่ยวชาญจะโทรหาเขากะทันหันแบบนี้
เผยหนานซวี่ได้แต่รีบกลับบ้านกลางดึก
ระหว่างทางเขาโทรหาหลินเยียน แต่หลินเยียนคงจะหลับไปแล้ว มือถือปิดเครื่องไม่มีใครรับสาย
ตอนที่เขารีบมาถึงที่ นอกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ฉินฮวนและซิงเฉินก็อยู่ด้วย
“เกิดอะไรขึ้น” เผยหนานซวี่เอ่ยถามขึ้นด้วยความหอบเหนื่อย
ฉินฮวนเองก็เผยสีหน้ามึนงง “ไม่รู้สิ นิ่งสงบไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ แล้ว พวกเราก็คิดว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าเริ่มเป็นอีกแล้ว!
อีกทั้งต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วย ตอนนี้ยังไม่หยุดเลย! จะว่าไปคุณชายรอง ทำไมคุณไม่อยู่ข้างๆ ด้วยล่ะ! สภาพพี่อวี้ตอนนี้ ห่างได้ที่ไหนล่ะ”
เผยหนานซวี่เอ่ยปากขึ้นด้วยความลนลาน “คุณหลินอยู่กับพี่ผม ผมก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
ฉินฮวนได้ยินแล้วชะงักไปทันทีแล้วเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความตะลึง “คุณหลิน? คุณหมายถึงหลินเยียนเหรอ คืนนี้เธอนอนที่บ้านพี่อวี้เหรอ”
เผยหนานซวี่ “ตอนนี้อยู่ด้วยกันน่ะ”
ฉินฮวนเผยสีหน้าดีอกดีใจเหมือนตอนที่เผยอวี่ถังได้ยินครั้งแรก “ไม่ได้แค่คืนดีอย่างเดียว! ย้ายมาอยู่ด้วยกันด้วยเหรอ จริงป้ะเนี่ย! งั้นก็ดีเลยล่ะสิ งั้น…ซูเปอร์ยาสงบอย่างหลินเยียนอยู่ พี่อวี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสิ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น ยาสงบอย่างหลินเยียนใช้ไม่ได้ผลอีกแล้วเหรอ”
เผยหนานซวี่ส่ายหัว “ฉันก็เพิ่งรีบกลับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ โทรหาคุณหลินแล้วปิดเครื่องโทรไม่ติด ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ตอนที่เผยอวี้เฉิงกำเริบ นอกจากหลินเยียนแล้ว คนอื่นจะเข้าใกล้เขาไม่ค่อยได้ เพราะพลังของเขาอาจจะขาดการควบคุมได้ทุกเมื่อ อีกอย่าง ถ้าคนอื่นอยู่ข้างๆ อาจจะมีผลต่ออารมณ์ของเขาอีกด้วย
ฉะนั้น ภายใต้กรณีที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่กล้าเข้าไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
ซิงเฉินได้ยินเช่นนั้นแล้ว กัดอมยิ้มในปากแล้วเผยสีหน้าฉงน
ขณะเดียวกัน หนึ่งในทีมหมอก็ถืออุปกรณ์สีดำที่มีขนาดประมาณมือถือไว้ที่มือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถือกล่องสีเทาเหล็กสั่งทำพิเศษอยู่ เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้ม “แบบนี้อันตรายเกินไป ต้องรีบฉีดยาสงบให้คุณชายใหญ่เดี๋ยวนี้!”
เผยหนานซวี่จ้องไปยังกล่องที่อยู่ในมือหมอ ขมวดคิ้วเข้ม “อาจารย์ถังครับ พวกคุณเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ายาสงบที่คิดค้นออกมาใหม่มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก”
ฉินฮวนพูดเสริมไปด้วย “ใช่แล้ว ร่างกายของพี่อวี้ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้าฉีดอะไรแบบนั้นตอนนี้ ร่างกายจะไปรับไหวได้ไงล่ะ?”
ซิงเฉินเอ่ยปาก “จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น แค่คุณหลินอยู่ พี่อวี้ก็จะไม่เป็นแบบนี้ แล้วก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่มีกรณียกเว้น นอกเสียจาก…”
เผยหนานซวี่รู้ว่าซิงเฉินหมายถึงอะไร รีบเอ่ยปากอธิบาย “ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเขาค่อนข้างดี ตอนที่ฉันออกจากบ้าน พี่ชายผมยังทำกับข้าวให้คุณหลินอยู่เลย”
ฉินฮวนได้ยินแล้วเผยสีหน้าตะลึงทันที “พี่อวี้ทำกับข้าวให้หลินเยียน! คุณให้พี่อวี้ทำกับข้าวให้ผู้หญิงคนนั้นได้ไงล่ะ! แย่แล้วๆๆ ผู้หญิงคนนั้นกินอาหารที่พี่อวี้ทำแล้วต้องเลิกกับเขาแน่ๆ เลย!”
“…”