ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 387 ความอ่อนโยนจอมปลอม / ตอนที่ 388 แล้วจะทำไงได้ล่ะ?

ตอนที่ 387 ความอ่อนโยนจอมปลอม

ถึงแม้เผยอวี้เฉิงจะทรงตัวได้ชั่วคราว แต่ไม่มีใครกล้าชะล่าใจ เผยหนานซวี่และฉินฮวน ซิงเฉินรวมถึงผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นอกห้องตลอดทั้งคืน อีกทั้งได้เตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้เรียบร้อย

เช้าวันถัดมา นอกจากฉินฮวนแล้วทุกคนเป็นหมีแพนด้าในชั่วข้ามคืน

ฉินฮวนยืดเส้นยืดสายแล้วเอ่ยปากขึ้น “ฉันบอกแล้วไงถ้าผู้หญิงคนนั้นอยู่ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว! พวกนายชอบทำเป็นเรื่องใหญ่ไปเรื่อย”

ดูท่าทางไร้น้ำใจของฉินฮวนแล้ว ซิงเฉินเหลือบมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งแล้วขยับมือซ้ายตัวเองด้วยความเคยชิน ทันใดนั้นมือซ้ายของเขามีเสียงอี๊ดเอี๊ยดของโลหะดังขึ้น

นั่นเป็นเพราะว่าฉินฮวนโชคดี ก็เลยไม่เห็นท่าทางน่ากลัวตอนที่พี่อวี้ขาดสติ…

ส่วนเขาผ่านมาหมดแล้ว

ถึงทุกวันนี้เขายังไม่อยากนึกย้อนถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น…

ตอนนั้นเขาอยู่รอดมาได้ เสียไปแค่แขนข้างหนึ่ง ตอนนี้ถึงย้อนกลับไปถือว่าเขาโชคดีจริงๆ

เมื่อมั่นใจว่าสภาพของเผยอวี้เฉิงมั่งคงแล้ว ผู้คนถึงจากไป

ณ ห้องนอนอันกว้างใหญ่ที่สว่างไสว

บนเตียงสีขาวล้วนนั้น หลินเยียนนอนอยู่ข้างๆ เผยอวี้เฉิงไม่กล้าหลับตาตลอดทั้งคืน

มือของเธอจับมือเขาไว้อย่างระมัดระวัง ไม่ได้คลายออกตลอดทั้งคืนเช่นกัน

เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยมือไป นาฬิกามรณะบนข้อมือเขาก็จะเริ่มส่งเสียง ‘ติ๊ดๆๆ ‘ ขึ้น…

เธอผิดไปแล้ว เธอผิดไปโดยสิ้นเชิง…

เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองทำความผิดมหาศาล!

ก่อนหน้านั้นเธอบอกตัวเองมาตลอดว่าให้เชื่อในด้านอ่อนโยนเป็นมิตรของเผยอวี้เฉิง จนกระทั่งลืมด้านมืดแสนน่ากลัวนั้นไป

เธอลืมไปแล้วว่าความอ่อนโยนและเป็นมิตรนั้น…เขาสร้างมันขึ้นมาทั้งนั้น

แต่เขาปลอมได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ…

เธอถูกด้านดั่งเทวดาของเผยอวี้เฉิงชักจูงไปสู่นรกทีละก้าว…

แต่นี่ก็โทษเธอไม่ได้จริงๆ บนโลกนี้ไม่มีคนไหนที่จะรับความอ่อนโยนอันจอมปลอมที่ผู้ชายคนนี้ตั้งใจเสแสร้งได้

ที่บอกว่าจะมาอยู่ด้วยนั้น เป็นคำพูดของตัวเธอเอง ตอนนี้จะกลับคำพูดก็ไม่ทันแล้ว…

อีกอย่างเธอก็ไม่กล้ากลับคำด้วย

หลินเยียนเบิกตากว้างแล้วนอนอยู่บนเตียง เธอตื่นตัวตลอดทั้งคืนไม่กล้าหลับตา ขณะที่มือที่ถูกเธอกำไว้อยู่ขยับเล็กน้อย เธอสังเกตได้อย่างทันทีทันใด

หลินเยียนค่อยๆ มองตามมือนั้นขึ้นบนเรื่อยๆ แล้วมองไปยังเผยอวี้เฉิง

เห็นแค่ว่าเขาตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นัยน์ตาเข้มขรึมคู่นั้นกำลังจ้องไปยังเธอนิ่งๆ …

หลินเยียนตกใจ แทบจะวิ่งหนีภายในเสี้ยววินาทีนั้น เธอเกร็งคอไม่กล้าหายใจแรง กระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเก้อๆ “คุณเผยอวี้เฉิง…คุณ…คุณตื่นแล้วเหรอคะ”

เผยอวี้เฉิงไม่ได้พูดอะไร แสงจากพระอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องบนหน้าเขา แต่ก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนความเย็นชาแสนยะเยือกบนใบหน้านั้นได้

ท่าทางไม่พูดไม่จาของเผยอวี้เฉิงยิ่งทำให้รู้สึกระแวงกว่าเดิม เธอเกรงกลัวและหยุดกลั้นลมหายใจไว้ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ถ้าพูดอะไรผิดเดี๋ยวจะไปกระตุ้นเขาอีกทำไงล่ะ?

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สายตาของเผยอวี้เฉิงจดจ่อไปบนมือเล็กๆ ของหญิงสาว นิ้วอันเรียวยาวนั้นถูไถกลางฝ่ามือหญิงสาวเบาๆ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ “…มาเสียใจทีหลังเหรอ?”

สิ้นเสียงเผยอวี้เฉิง หัวใจหลินเยียนกระตุกไปวูบหนึ่ง

ขณะนี้ สายตาเผยอวี้เฉิงราวกับว่ามองทะลุผ่านเธอจนไม่มีอะไรหลงเหลืออย่างงั้น

ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า?

แค่มองก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?

นอกจากนั้น เผยอวี้เฉิงในขณะนี้ให้ความรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่ค่อยรู้จักกัน ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเหมือนไม่เคยเข้าใจคนตรงหน้าอย่างแท้จริงแต่อย่างไรเลย…

ตอนที่ 388 แล้วจะทำไงได้ล่ะ?

เสียใจทีหลังงั้นเหรอ

เสียใจสิ! เธอจะไม่เสียใจได้ยังไง

แต่ในวินาทีนี้ ต่อให้ตีเธอจนตายเธอก็ไม่กล้าพูดหรอกนะ

เวรกรรมจริงๆ ก่อนหน้านั้นเผยอวี้เฉิงยังดีอยู่เลย แต่ทำไมมาขาดสติกะทันหันแบบนี้ล่ะ?

เพราะแค่ฝันร้ายงั้นเหรอ

เขาว่ากันว่าคิดอะไรตอนเช้า ตอนกลางคืนก็จะฝันแบบนั้น เขาได้รับผลกระทบอะไรหรือเปล่า ทำให้ถึงกับต้องฝันร้ายและขาดสติอีกด้วย…

หรือว่า…ตอนที่เธอซ่อนโปสเตอร์ตอนเช้านั้นโดนจับจนได้? อีกทั้งโดนจับได้ทั้งสองครั้งเลย?

น่าจะ…ไม่…ซวย…ขนาดนั้นหรอกมั้ง?

ไม่ทันได้คิดอะไรมาก ตอนนี้ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน เธอได้แต่กะพริบตาปริบๆ ตีมึน “หืม? สะ…เสียใจเหรอ เสียใจอะไรเหรอคะ”

นิ้วของเผยอวี้เฉิงค่อยๆ ล็อกฝ่ามือของหญิงสาวเอาไว้ จากนั้นพลิกมือมากดเอาไว้ จากนั้นกดเสียงลงต่ำแล้วเอ่ยปากขึ้น “เสียใจที่อยู่ข้างๆ ผม เสียใจที่…ถูกผมกระชากลงนรก”

น้ำเสียงเคร่งขรึม สายตาเย็นเฉียบของผู้ชายราวกับโซ่เหล็กค่อยๆ ฉุดเธอเข้าสู่ส่วนลึกแห่งความมืดมัว

หลินเยียน “…”

เอ่อ…

เสียใจก็จริง แต่ก็นะ คุณใช้ความสามารถหลอกล่อฉันมาได้ ฉันก็ต้องยอม จะให้ทำไงได้ล่ะ

สุดท้าย หลินเยียนกระแอมขึ้นแล้วเงยหน้าพร้อมรอยยิ้มสุดจริงใจ เอ่ยปากขึ้น “เป็นไปได้ไงล่ะคะ! ที่ที่มีคุณอยู่ ต่อให้เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งคุณก็เป็นโอเอซิสสำหรับฉัน! คุณคือแหล่งน้ำที่ปลายสุดของทะเลทราย คุณคือแสงอาทิตย์อันอบอุ่นบนยอดภูเขาหิมะ คุณคือประกายดาวในค่ำคืนที่แสนจะมืดมน!”

หลินเยียนเองคงจะคิดไม่ถึงว่าทักษะการแสดงที่ตัวเองหมั่นเรียนรู้นั้นสามารถเอามาช่วยชีวิตตัวเองได้

นี่บ่งบอกถึงอะไร

บ่งบอกว่าคนเราต้องตั้งใจเรียนรู้ ขยันหมั่นเพียร มีทักษะเพิ่มขึ้นหนึ่งอย่างก็มีวิธีเอาตัวรอดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง!

เธอยังต้องพยายามต่อไป พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนถึงจะสามารถรับมือกับบอสในแต่ละด่านที่มีความยากง่ายต่างกัน

ภายใต้การกดดันมหาศาลในครั้งนี้ ปรับตัวได้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อสบตาผู้ชายแล้ว เธอพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงใจมากกว่าเดิม “อีกอย่าง ต่อให้คุณพาฉันไปขุมนรกแล้วจะเป็นไรไปล่ะคะ ตรงนั้นมีคุณอยู่นี่นา!”

เผยอวี้เฉิงฟังที่หญิงสาวพูดแล้ว ลูกตาเคลื่อนที่ไปอย่างรุนแรง ราวกับจมดิ่งลงในห้วงความคิดที่แสนจะซับซ้อน

นี่เป็นคำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากหญิงสาวมาก่อนเลย…

ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะมีวันที่จะได้ยินเธอพูดออกมาจากปาก

แค่ที่ที่มีคุณอยู่…

ต่อให้จะเป็นนรกแล้วจะไปไรไปล่ะ ตรงนั้นมีคุณอยู่นี่นา

คำพูดนี้วนเวียนอยู่ข้างหู ราวกับเหล้าพิษ ถึงแม้เขารู้ว่ามันมีพิษแต่ก็ยังอยากลิ้มรสอยู่เรื่อย…

เผยอวี้เฉิงชะงักไปสักพักแล้วเสยมุมปากขึ้นเล็กน้อย พลางยิ้มเบาๆ ริมฝีปากบางนั้นขยับขึ้นแล้วพึมพำเอาไรบางอย่าง

โกหก…

เสียงชายหนุ่มเบาเกินไปทำให้หลินเยียนฟังไม่ชัด เธอจึงเอ่ยปากถามขึ้น “หืม? คุณเผยคะ…เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ ฉันฟังไม่ค่อยชัด…”

“คุณหลินไม่ต้องตื่นเต้น…” เผยอวี้เฉิงหัวเราะเบาๆ อยู่ในท่าทางที่จับมือหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิม แล้วเอ่ยปากขึ้น “ไม่ว่าเธอจะพูดเพ้อเจ้อยังไง ฉันเชื่อหมด”

“อ้ะ แค่กๆๆ…” หลินเยียนได้ยินแล้ว แทบจะสำนักน้ำลายตัวเอง เธอรีบพูดขึ้นด้วยความลนลาน “ปะ…เปล่าๆๆ! ฉันไม่ได้พูดเพ้อเจ้อนะคะ! ทุกคำพูดล้วนกลั่นออกมาจากใจหมด!”

เผยอวี้เฉิง “อื้ม ฉันเชื่อ”

หลินเยียน “…”

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ
Status: Ongoing
หลินเยียน นักกีฬาแข่งรถแนวหน้าของวงการต้องถึงคราวตกต่ำเพราะข่าวฉาวที่ถูกจัดฉากขึ้น มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสนับสนุนเขายังหักหลังนอกใจไปคบกับน้องสาวของเธอเองอีกด้วย! แต่แล้วโชคชะตาก็ดลบันดาลให้เธอก็ได้พบกับ เผยอวี้เฉิง ประธานเครือบริษัทข้ามชาติเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน ที่ทั้งเดาอารมณ์ยาก เย็นชาและไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร วันดีคืนดีจู่ๆ เขาก็เกิดสูญเสียการควบคุมตัวเองไปดื้อๆ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะพาเขากลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ การพบกันครั้งแรกของเธอและเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเธอและเขาเคยพบกันมาก่อนหน้านี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะ ‘ลืมเลือน’ เขาไปด้วยตัวเอง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset