ตอนที่ 389 ช็อตนี้ทำได้สวย
ณ ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ในยามเช้า
หลังจากเกาจื้อเวยได้รับตำแหน่งหัวหน้าผู้จัดการดาราแล้ว ด้วยความคึกคักและเห่อตำแหน่งใหม่ เขาเรียกทุกคนมารวมตัวประชุมกันแต่เช้า
พวกประจบประแจงทั้งหลายรีบต้อนเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
“สะใจจริงๆ เลย ไล่ยัยหนังหมาอย่างหลินเยียนออกไปได้สักที! ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าเกานะ นางนั่นมีจ้าวหงหลิงคอยปกป้องไว้ ตอนนี้คงยังอยู่ในบริษัท สร้างความเสียหายให้บริษัทเราไปทั่ว!”
“นั่นน่ะสิ ด้วยความสามารถในการทำงานของจ้าวหงหลิงนั่นยังกล้าอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าอีกเหรอ มาทำเป็นว่าตัวเองมองคนไม่ผิด เห็นขยะอย่างหลินเยียนเป็นสมบัติซะงั้น คนอย่างเธอจะดังระเบิดได้หรือไงกัน?”
“หือ? หลินเยียนดังระเบิดน่ะเหรอ? ถ้าเธอดังระเบิดได้ ฉันจะกินโต๊ะตัวนี้ลงไปเลยล่ะ!”
…
อันเชี่ยนเชี่ยนนั่งอยู่ข้างๆ เกาจื้อเวย หัวเราะด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแล้วพูดขึ้น “พวกเธออย่าพูดแบบนี้สิ หนังของเขาจะเข้าโรงอยู่แล้ว นั่นถือว่าเป็นโปรดักชันร้อยล้านเลยนะ! ถ้ามีซุปตาร์ชายหญิงช่วยผลักหน่อย เธออาจดังตามกระแสก็ได้นะ!”
ผู้คนได้ยินเช่นนั้นแล้ว ในแววตาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “ต่อให้หนังจะดังแล้วจะไปเกี่ยวอะไรกับนางล่ะ? เชี่ยนเชี่ยนเธอดูสิว่าตอนนี้ชาวเน็ตด่าเธอจนหัวเน่าขนาดไหนรู้ไหม?
เพราะนางนั่นแหละ ทำให้แฟนๆ หลายคนพลอยแบนหนังไปด้วย โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้คงกำลังวุ่นวาย รู้สึกคิดผิดไปตลอดชีวิตเลยสินะ!
คนอย่างหลินเยียนน่ะไม่มีอะไรดีเลย ดีแต่เกาะกระแส แย่สุดๆ ไปเลย ชื่อเสียงเน่าๆ ดังไปทั่ววงการ เอาเป็นว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยคนนั้นซวย!”
คนที่พูดรีบเปลี่ยนประเด็นพูดแล้วมองไปทางเกาจื้อเวย ประจบประแจงขึ้นอีกครั้ง “ดีที่หัวหน้าเกาใช้ไม้เด็ด มาถึงก็ไล่ขี้แมลงวันเม็ดนี้ออกไปเลย ไม่งั้นบริษัทพวกเราคงจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย!”
“ใช่ๆ หัวหน้าเกาต้องนำพาฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ของพวกเราไปสู่ยอดที่สูงกว่านี้แน่นอน!”
เกาจื้อเวยฟังคำพูดประจบของผู้คนแล้ว เผยสีหน้าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เขาเอ่ยปากสั่งผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง “พวกแกเตือนฉันพอดี ในเมื่อหลินเยียนยกเลิกสัญญากับบริษัทเราแล้ว ถ้างั้นหลังจากนี้ไปก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทเราแล้ว
เดี๋ยวฝ่ายพีอาร์ไปจัดการซะหน่อย ออกประกาศอย่างเป็นทางการ อธิบายเรื่องนี้ให้ละเอียด อย่าให้สร้างปัญหาอะไรให้บริษัท”
“เข้าใจแล้วครับหัวหน้า ผมสั่งคนดำเนินการอยู่ครับ” ผู้รับผิดชอบฝ่ายพีอาร์เอ่ยปากขึ้นทันที
ผ่านไปไม่นาน เวยปั๋วทางการของฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ได้โพสต์ข้อความประกาศว่าหลินเยียนผู้เป็นดาราในสังกัดได้ยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการแล้ว
ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นแค่บริษัทเล็กๆ ในวงการ ซึ่งโด่งดังได้ก็เพราะเจี่ยงซือเฟย
แต่หลังจากการประกาศในเวยปั๋วทางการถูกปล่อยออกมาแล้ว ได้สร้างกระแสไม่เบาเลยทีเดียว
คอมเม้นต์ภายใต้นั้นมีแต่คนแสดงความสะใจ และก็มีคนจำนวนไม่น้อยแสดงจุดยืนสนับสนุนฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์
[หึ! ยัยหลินเยียนมะเร็งวงการบันเทิงถูกไล่ออกไปสักที! ช็อตนี้ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ทำได้สวยเลย!]
[ว่าแต่ ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์มัวแต่ทำอะไรอยู่ตั้งนาน? เก็บดาราแบบนี้ไว้ในบริษัททำไมกัน! ไม่น่าล่ะ เจี่ยงซือเฟยถึงอยู่ต่อไม่ได้ สุดท้ายต้องไปวั่นจ้งมีเดียน่ะ!]
[ได้ข่าวว่าช่วงนี้ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระดับชั้นสูงน่ะ หัวหน้าก่อนหน้านั้นคอยปกป้องหลินเยียนมาโดยตลอด หัวหน้าคนใหม่คงจะตาถึงกว่าสินะ!]
…
ภายในออฟฟิศหรูหราที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เกาจื้อเวยนั่งอยู่ตรงหน้าคอมแล้วมองดูพวกแฟนคลับชื่นชมตัวเองด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“เชี่ยนเชี่ยน รอดูได้เลย อีกไม่นานเดี๋ยวเธอจะมาขอร้องอ้อนวอนเอง! แต่พอถึงตอนนั้นฉันคงจะไม่ได้คุยง่ายๆ แล้วนะ หึ…”
ตอนที่ 390 ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ช่วงที่ผ่านมานี้ ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ติดตามข่าวในอินเทอร์เน็ตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกระทู้ชื่อดังต่างๆ
ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง ‘คู่ปรับมหากาฬ’ ยังไม่ทันได้เข้าโรงก็โดนต่อต้านจากชาวเน็ตทั้งหลายแล้ว
ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์หมด
อันเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คนอย่างหลินเยียนน่ะ ที่ดังได้ก็เพราะเกาะกระแสข่าวซุบซิบต่างๆ หนังที่เธอร่วมแสดงถูกแบนเป็นเรื่องธรรมดามาก!”
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว มุมปากเกาจื้อเวยเสยขึ้นเล็กน้อย “ทีมงานทางการของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่งจะปล่อยคลิปพีอาร์ไปไม่นานมานี้ ตอนแรกยังมีหลินเยียนโผล่หัวอยู่ในคลิปนั้น แต่พอหลายวันที่ผ่านมานี้โดนชาวเน็ตต่อต้าน ส่วนที่มีหลินเยียนอยู่โดนตัดออกหมดแล้ว!”
ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้จัดการข้างๆ หัวเราะแล้วพูดขึ้น “หัวหน้าเกา นี่เพิ่งจะเริ่มเอง ผ่านไปอีกสักพัก เผลอๆ ฉากที่มีหลินเยียนอยู่ในหนังเรื่อง ‘คู่ปรับมหากาฬ’ จะโดนตัดออกหมด หรือกระทั่งเลือกนักแสดงใหม่แล้วถ่ายทำใหม่ก็ได้!”
ถึงแม้ ตัวละครที่หลินเยียนแสดงใน ‘คู่ปรับมหากาฬ’ ค่อนข้างมีความสำคัญแต่มีฉากไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าชาวเน็ตร่วมกันต่อต้านแบบนี้ ลบฉากที่มีหลินเยียนอยู่ในหนังก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
……
สำหรับจุดนี้ พวกเกาจื้อเวยคิดไม่ผิดจริงๆ
ขณะนี้ทีมงาน ‘คู่ปรับมหากาฬ’ กำลังวุ่นวายกับเรื่องนี้จนหัวหมุนติ้ว
ก่อนหน้านี้ พวกเขาพยายามลดบทบาทหลินเยียนลงแล้ว แต่ไม่คิดว่าก่อนจะเข้าโรงยังมีกระแสต่อต้านมหาศาลขนาดนี้
ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกิดจากฝีมือของคู่แข่ง อยากจะอาศัยจังหวะกดขี่พวกเขา รวมทั้งตุกติกในด้านอื่นๆ อีกด้วย
แต่สรุปแล้วก็เพราะว่าชื่อเสียงของหลินเยียนแย่จริงๆ แค่แฟนคลับยุนิดเดียวก็ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะตื่นตัวและเกิดการต่อต้านจากชาวเน็ตอย่างถล่มทลาย
แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยแล้ว ต่อให้เขาเสียเงินมากมายแค่ไหนก็กดข่าวลงไปไม่ได้แล้ว อีกทั้งอาจจะทำให้แย่กว่าเดิมอีกด้วย
สิ่งที่แย่ไปกว่านั้น คือนักวิจารณ์ภาพยนตร์ผู้มีชื่อเสียงในวงการหลายคนเริ่มนำแฟนคลับแบนภาพยนตร์เรื่อง ‘คู่ปรับมหากาฬ’ อีกทั้งยังประกาศอีกว่าไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่หลินเยียนแสดงในอนาคต พวกเขาจะต่อต้านให้ถึงที่สุด ไม่ดูเด็ดขาด
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ทีมงานเองก็ต้องแบกรับความกดดันมหาศาลเอาไว้
ณ การประชุมทีมงานถ่ายทำ
เฝิงอันหวาวุ่นวายตัวเป็นเกลียว เขาตบโต๊ะด้วยความโมโห “ลบ! ลบให้หมด! บอกทีมโปรโมทว่าคลิปเบื้องหลังถ่ายทำโปรโมทช่วงนี้ห้ามมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหลินเยียน!”
“โปรดิวซ์เฝิง พวกผมเคยลบไปแล้วครับ ที่เคยโพสต์ไปก่อนหน้านั้นก็ลบแล้วลงใหม่แล้ว แต่…ไม่ได้ผลเท่าไหร่…ตอนนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าหลินเยียนเคยแสดงหนังของเราล่ะ?” ทีมงานพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ
ขณะเดียวกัน รองผู้กำกับอู๋เหวินไห่มองไปยังเจียงอีหมิงที่อยู่ข้างๆ แล้วหัวเราะด้วยความเย็นชา “ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนเสนอหน้าให้หลินเยียน ต้องให้เธอแสดงตัวละครหญิงเบอร์สี่ วันนี้พวกเราคงไม่ต้องมาเจอกับปัญหาเดือดร้อนแบบนี้
เพราะขี้แมลงก้อนนี้ การลงทุนหลายสิบล้านของพวกเราจะไหลไปกับน้ำแล้วหรือไง! ต้องมีคนรับผิดชอบไม่ใช่หรือไง?”
เจียงอีหมิงแสดงสีหน้าเคร่งขรึม ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
เขาเชื่อในตัวเอง แต่เขาเองก็รู้อย่างชัดเจนว่าทีมงานถ่ายทำต้องการกำไร
วงการบันเทิงนี้ไม่ได้เป็นแวดวงที่คุยกันเรื่องศีลธรรม…
เฝิงอันหวาพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้ม “งั้นก็ลบฉากที่มีหลินเยียนอยู่ให้หมดเลยแล้วกัน แล้วประกาศขอโทษอย่างเป็นทางการให้แฟนคลับได้ทราบ!”
