ตอนที่ 297 คือนางผู้งามเหนือใคร (5)
ถ้าไม่เป็นเพราะผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนนั้นตอบสนองว่องไว พลิกหลบได้ ป่านนี้พลังคงไม่ใช่แค่ทะลุผ่านไหล่เขาไป แต่จะเป็นตำแหน่งหัวใจของเขาแทน
จู่ๆ ตำหนักก็เงียบสงบลง
ทุกคนรวมถึงคนของแคว้นหลงอ้าวต่างมองไปที่ความมืดด้านนอกตำหนัก ทุกคนต่างลืมหายใจ
ค่ำคืนอันมืดมิด แสงจันทร์นวลผ่อง
หมาป่าสีขาวตัวหนึ่งกระโจนผ่านสายลมยามค่ำคืน แล้วแตะลงพื้นยืนอยู่ที่กลางตำหนัก
บนหลังของหมาป่าสีขาวมีหญิงสาวที่งามสง่ามากความสามารถนั่งอยู่
นางงดงามกว่าใครในแคว้น งามจนผู้คนต่างพากันหลงใหล
หากพูดว่าถานซวงซวงคือหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นหลิวอวิ๋น แต่หญิงสาวคนนี้ ไม่ว่าจะชื่นชมความงามของนางด้วยถ้อยคำอะไร ก็ไม่อาจบรรยายหน้าตาอันงดงามไร้ผู้ใดเปรียบของนางได้
ผิวของนางขาวดุจหิมะ แต่งกายด้วยชุดขาว เรือนร่างสะโอดสะอง ดวงตาดำขลับราวหมาป่าในยามค่ำคืน แฝงด้วยความอำมหิต ทำให้คนที่ได้เห็นต้องตัวสั่นสะท้าน
มือของหลิ่วอวี้เฉินที่ถือจอกเหล้าอยู่หยุดชะงัก สายตาของเขามองดูหญิงสาวที่อยู่บนหลังหมาป่าอย่างตกตะลึง ไม่อาจละสายตาจากนางได้
ถ้าความทรงจำของเขาหยุดอยู่ที่เฟิงหรูชิงเมื่อครั้งหนักสองร้อยห้าสิบชั่ง บางทีเขาอาจจำไม่ได้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใคร
แต่ครั้งก่อนที่เขาเจอเฟิงหรูชิง นางผอมลงมากแล้ว
เพราะฉะนั้นชั่วพริบตาที่ได้เห็นหญิงสาวปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าที่คุ้นเคยทำให้เขารู้ทันทีว่านางเป็นใคร
แต่…
เหตุใดนางจึงงดงามได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ครั้งก่อนตอนเจอนาง นางยังไม่งามขนาดนี้เลย! อย่างมากก็แค่งามกว่าถานซวงซวงเล็กน้อย
ใช่แล้ว หลิ่วอวี้เฉินยอมรับ ครั้งก่อนที่ได้พบเฟิงหรูชิง แม้นางจะอวบๆ อยู่บ้าง แต่ใบหน้าที่งดงามจิ้มลิ้มทำให้นางดูงามกว่าผู้หญิงจำนวนมาก
แต่ครั้งนี้ที่ได้เห็นนาง ก็พบว่าหญิงสาวผู้นี้งดงามจนผู้คนต่างหลงใหล แม้แต่ถานซวงซวงหญิงงามอันดับหนึ่ง ก็ไม่อาจนำมาเปรียบกับนางได้
ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน!
เมื่อเทียบกับความตกใจของหลิ่วอวี้เฉิน ดูเหมือนเสิ่นเยว่จะตกตะลึงยิ่งกว่า
แม่…แม่นางคนนี้มาจากไหนหรือ รูปโฉมดูงดงามเช่นนี้ เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลย
เดี๋ยวก่อน…
ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าแม่นางคนนี้ช่างคุ้นหน้า เหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน
เฟิงหรูชิงไม่สนใจอาการตกใจของคนเหล่านั้น สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่เฟิงเทียนอวี้ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้
เฟิงเทียนอวี้ที่สีหน้าซีดเซียวและดูอ่อนแอทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดใจ ไฟโทสะอันมหาศาลลุกโชนขึ้น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว
นางไม่เคยแค้นใจขนาดนี้มาก่อน!
เสด็จพ่อที่ให้ความรักทะนุถนอมนางมากมายมาตั้งแต่เกิด ถูกคนอื่นทำร้ายได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ!
ทั้งๆ ที่นางเคยพูดว่าจะปกป้องญาติเหล่านี้ให้ดี แต่สุดท้ายนางมาช้าไป มาช้าเกินไป
‘ขอโทษ’
เฟิงหรูชิงรีบพุ่งเข้าไปหาเฟิงเทียนอวี้ นางมือสั่น ระหว่างที่ลอยตัวอยู่บนอากาศนั้นก็ได้คว้ายาวิเศษออกมา
“เสด็จพ่อ หม่อมฉันขออภัย หม่อมฉันกลับมาช้าเกินไปเพคะ”
ยังดี ยังดีที่ยาวิเศษของนางยังเหลืออยู่อีกหนึ่งชาม
แม้ยาวิเศษนี้จะต้มมานานแล้ว ฤทธิ์ของยาอาจลดลงไปบ้าง แต่อย่างไรเสียมันก็ยังพอใช้ได้
เมื่อนางจัดการเรื่องที่นี่เรียบร้อย จะต้มยาวิเศษให้เสด็จพ่ออีกครั้ง ตอนนี้รักษาอาการบาดเจ็บที่เพิ่งเกิดกับเสด็จพ่อให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
เสิ่นเยว่ได้ยินคำที่นางใช้เรียกเฟิงเทียนอวี้ เขาตะลึงและหยีตา “เจ้าคือเฟิงหรูซวงหรือ”
เฟิงเทียนอวี้มีลูกสาวเพียงสองคน คนหนึ่งคือเฟิงหรูชิง อีกคนก็ต้องเฟิงหรูซวง
เฟิงหรูชิงเป็นหมูตอนน้ำหนักสองร้อยห้าสิบชั่ง คนที่อยู่ตรงหน้าไม่มีทางเป็นนางได้ ดังนั้นจึงเหลือเฟิงหรูซวงเพียงคนเดียวเท่านั้น!
คิดไม่ถึงว่าเพื่อลูกสาวที่ไม่เอาไหน เฟิงเทียนอวี้จะทำกับเฟิงหรูซวงแบบนี้ แต่สุดท้ายกลับเป็น
เฟิงหรูซวงที่เลือกกลับมาปกป้องแคว้นหลิวอวิ๋นด้วยชีวิตของนาง
ตอนที่ 298 คือนางผู้หยิ่งผยอง (1)
ถ้าหาก…
เฟิงเทียนอวี้ยอมยกเฟิงหรูซวงไปเป็นเมียน้อยให้เขา และยอมทำลายฌานของตัวเองทิ้ง เขาจะให้โอกาสแคว้นหลิวอวิ๋นได้อยู่ต่อไป
สายตาของเสิ่นเยว่จับจ้องอยู่ที่เฟิงหรูชิง เป็นสายตาที่ดูหื่น เปิดเผยตรงไปตรงมา
เขาอาจจินตนาการถึงหญิงสาวที่โชว์ขาอ่อนขาวจั๊ว ถูกเขานอนทับอยู่บนเตียง จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เฟิงเทียนอวี้ ข้าเพิ่งรู้ว่าองค์หญิงเฟิงหรูชวงของท่านจะหน้าตาดีขนาดนี้ ถ้าท่านยินยอมให้นางไปเป็นสนมชั้นโทของข้าละก็ ข้าจะเห็นแก่หน้าของนาง ไม่ถือโทษในความผิดที่พวกท่านทำลงไป!”
เฟิงหรูซวง?
คนที่อยู่ตรงนั้นอึ้งไปตามๆ กัน ในตำหนักจัดเลี้ยงทุกคนต่างเงียบกริบเมื่อกี้เสิ่นเยว่พูดว่า…เฟิงหรูซวงอย่างนั้นหรือ แล้วเฟิงหรูซวงอยู่ที่ไหน ทำไมพวกเขามองไม่เห็น
“เฮอะๆ !” หลิ่วอวี้เฉินหัวเราะเบาๆ
เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเสียงดังลั่นไปทั่วตำหนัก
ในยามค่ำคืน มีเพียงเสียงหัวเราะของเขาที่ดังไม่หยุด มันชวนให้ขนลุก
“นางไม่ใช่เฟิงหรูซวงสักหน่อย” สีหน้าของหลิ่วอวี้เฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเสียดาย “นางคือ…เฟิงหรูชิง!”
เฟิงหรูชิง นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการใช่ไหม
ที่เจ้ามุมานะอุตสาหะขนาดนี้ ก็เพื่อให้ข้ารู้สึกเสียดายเจ้าใช่ไหม
เจ้าทำสำเร็จแล้ว ข้าเสียดายจริงๆ !
หลิ่วอวี้เฉินเอานิ้วนวดขมับที่กำลังปวด สีหน้าห่อเหี่ยวไม่สมกับวัยหนุ่มฉกรรจ์
เมื่อเขานึกถึงการที่ตัวเองไม่สนใจคำทัดทานของพ่อตัวเอง ดึงดันที่จะพาถานซวงซวงมาอยู่ในจวนให้ได้ ถึงแม้จะโน้มน้าวพ่อตัวเองยอมรับนางในฐานะภรรยาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็รับผิดชอบต่อชีวิตของนางแล้ว
แต่แม่ของเขาที่เดิมทีรักใคร่ถานซวงซวงมาก ไม่รู้ทำไมภายหลังถึงขัดแย้งกับนางมาโดยตลอด
เขาเป็นลูกกตัญญู ไม่อาจต่อต้านแม่ของตนเพื่อถานซวงซวงได้ ทำให้ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาจวนเสนาบดีมีแต่ความวุ่นวาย
เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เขาไม่ได้กลับบ้านมาเดือนเศษแล้ว
ถ้า…แต่ถ้าเป็นเฟิงหรูชิงละก็
ต่อให้นางเป็นคนขี้อิจฉา ไม่ยอมให้เขารับเมียน้อย แต่อย่างน้อยนางก็เชื่อฟังแม่ของเขา ไม่ฟูมฟายเอาเรื่องไปฟ้องแม่ของเขาหรือทำให้เขาต้องรู้สึกลำบากใจ
เสียดายที่ไม่มีคำว่า “ถ้า” อีกต่อไป คือเขาเองที่ทิ้งเฟิงหรูชิง…ทำให้ต้องสูญเสียนางไป
“เฟิงหรูชิง?”
ชื่อๆ นี้เปรียบเหมือนเสียงฟ้าผ่าดังเข้าไปในโสตประสาทของเสิ่นเยว่
“เจ้าพูดว่านางคือเฟิงหรูชิงหรือ เฟิงหรูชิงเป็นยายหมูตอนชัดๆ นางไม่มีทางเป็นเฟิงหรูชิงหรอก!”
น่าหลานจิ้งเอามือปาดเลือดที่มุมปาก จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ “ท่านอาของข้าเป็นหญิงงามที่สุดในใต้หล้า แน่นอนว่าน้องสาวข้าย่อมไม่ต่างไปกว่านาง!”
เพราะว่าสมัยก่อนเฟิงหรูชิงกินมากเกินไป ทำให้นางน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ตอนนี้นางผอมลงแล้ว จะไม่สวยได้อย่างไร
เสิ่นเยว่อึ้งไป ตอนแรกเขารู้สึกว่าแม่นางคนนี้หน้าตาคุ้นๆ ตอนนี้ลองดูให้ดีๆ นางดูคล้ายน่าหลานเยียนในสมัยก่อนพอสมควร
แต่นางดูสดใสยิ่งกว่าน่าหลานเยียน ลูกนั้นสวยกว่าแม่จริงๆ !
ดังนั้นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า หากมิใช่เฟิงหรูซวงที่เขาเข้าใจ แต่เป็น…เฟิงหรูชิงเช่นนั้นหรือ
นี่…เป็นไปได้อย่างไร! นางผอมลงขนาดนี้ได้เชียวหรือ
ตาของเสิ่นเยว่กลอกไปมา ไม่ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใคร ขอแค่นางหน้าตาสะสวยก็พอแล้ว
เขาไม่สนหรอกว่านางจะเป็นคนเอาถ่านหรือไม่!
“ไม่ว่าเจ้าคือเฟิงหรูชิงหรือเฟิงหรูซวง ถ้าวันนี้อยากช่วยแคว้นหลิวอวิ๋นละก็ เจ้าต้องมาเป็นเมียน้อยของข้า!” เสิ่นเยว่หยีตา เขาเลียริมฝีปาก สายตาดูหื่นๆ
เฟิงหรูชิงเชิดหน้าขึ้น สายตาอันโกรธแค้นมีเปลวไฟลุกโชน แต่เฟิงหรูชิงรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คืออะไร ดังนั้น นางจึงหยิบเอาผลไป๋เฉากั่วที่ซ่อนไว้ออกมา