ตอนที่ 319 สัตว์วิเศษล้อมตีแคว้นหลงอ้าว (1)
“ท่านพี่ ข้ามีธุระ ข้ากลับก่อนล่ะ”
ตอนนี้นางรู้สึกโมโหจนทนไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะไปคิดบัญชีกับหนานเสียนได้อย่างไร ทำได้เพียงหาทางระบายอารมณ์กับพวกลูกหลานขุนนางที่อยู่ในเมืองหลวง
น่าหลานจิ้งมองดูถังอิ่นรีบเดินจากไปด้วยสายตางุนงง ดูเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงต้องโมโห
…
แคว้นหลงอ้าว
เหล่าสาวงามกำลังร่ายรำ เสินอู่กษัตริย์แห่งแคว้นหลงอ้าวกำลังกอดหญิงงาม แววตาของเขาดูหื่นกระหาย
เขาเอื้อมมือดึงสาวงามมากอด แล้วฟัดหอมแก้มของนาง
สาวงามเขินอายก้มหน้า เนินคอขาวเต็มไปด้วยรอยแดง นางมองดูเสินอู่ด้วยสายตาเขินอายและหวาดกลัว
เมื่อเห็นสาวงามสีหน้าเขินอาย เสินอู่จึงเอื้อมมือไปกระชากเสื้อนางจนขาด แล้วขึ้นคร่อมตัวนางอย่างรวดเร็ว
ภาพที่เห็นตรงหน้า คนของแคว้นหลงอ้าวเห็นจนชินแล้ว พวกเขาไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
ในเวลานั้นเอง…
คนๆ หนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากนอกตำหนัก “ฝ่าบาท ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ในขณะที่เสินอู่ขึ้นคร่อมสาวงาม เสียงดังที่ไม่คาดคิดลอยเข้ามา เปรียบเสมือนน้ำเย็นที่สาดเข้าใส่เปลวไฟร้อนแรงในใจเขา
เขาหันหน้าไป มองดูองครักษ์ด้วยสายตารำคาญ สีหน้าหงุดหงิด “มีเรื่องอะไร”
“ฝ่า…ฝ่าบาท ทูตที่พระองค์ส่งไปแคว้นหลิวอวิ๋นถูกฆ่าหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสองก็ถูกคุมขังไว้”
“อะไรนะ”
เสินอู่ผลักสาวงามออก
สาวงามที่เดิมถูกคร่อมทับอยู่กลิ้งกระเด็นไปหลายตลบก่อนตกลงบนพื้น ศีรษะของนางกระแทกเข้ากับโต๊ะที่อยู่ข้างๆ เลือดไหลออกมา
แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง นางพยายามลุกขึ้นแล้วหลบเข้าด้านข้างไปแบบกลัวๆ จากเดิมที่แววตาของนางดูเขินอาย บัดนี้กลายเป็นสายตาที่หวาดกลัว
ตั้งแต่ผลักนางออก เสินอู่ก็ไม่สนใจนางอีกเลย เขารีบลงมาจากเตียง แววตาน่ากลัว “เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไรนะ แคว้นหลิวอวิ๋นจับเยว่เอ๋อร์ไปขังหรือ พวกมันกล้าบังอาจเช่นนี้เชียวหรือ”
ครั้งนี้ที่ไปแคว้นหลิวอวิ๋นตั้งใจว่าจะไปล้างแค้น เขาเลยส่งผู้มีฌานระดับหลิงอู่สามคนติดตามไปด้วย
เมื่อมีผู้มีฌานระดับหลิงอู่สามคนอยู่ด้วย ต้องไม่ล้มเหลวสิ
ทำไม…แคว้นหลิวอวิ๋นที่ไม่มีน่าหลานเยียนอยู่ ยังกล้าทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้!
“ทหารจงไปประกาศให้ชาวเมืองรู้ หากแคว้นหลิวอวิ๋นไม่ปล่อยตัวองค์ชายสอง และไม่ส่งเฟิงหรูชิงมาเป็นตัวประกัน ข้าจะกวาดล้างแคว้นหลิวอวิ๋นให้พินาศ!”
เฟิงหรูชิงที่ไม่เอาถ่านแถมยังอ้วนอัปลักษณ์ แต่นางกลับเป็นลูกสาวของเฟิงเทียนอวี้และน่าหลานเยียน
สมัยก่อน เพื่อชาวบ้านไม่กี่คน น่าหลานเยียนเข่นฆ่าคนของแคว้นหลงอ้าวจำนวนมาก แถมยังบีบคั้นให้ลูกชายคนโตของเขาต้องตาย เป็นความอับอายที่เขาต้องอดทนมานาน
หนี้ที่แม่สร้างไว้ ต้องให้ลูกสาวมาชดใช้คืน! ไม่อย่างนั้น เขาจะไม่มีวันปล่อยให้แคว้นหลิวอวิ๋นได้อยู่เป็นสุข!
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงที่ดูร้อนรนดังลอยเข้ามาจากด้านนอกตำหนัก
องครักษ์กระเสือกกระสนล้มลุกคลุกคลานเข้ามา น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ “ฝูงสัตว์บุกตีเมือง ฝูงสัตว์บุกตีเมืองพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝูงสัตว์บุกตีเมืองอย่างนั้นหรือ” เสินอู่หน้านิ่วคิ้วขมวดและร้องหึ “ดีเลย แคว้นหลงอ้าวยังขาดสัตว์วิเศษอยู่พอดี พวกมันกล้ามาบุกตีเมือง พวกมันจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!”
เรื่องสัตว์วิเศษบุกตีเมืองไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพียงแต่เป็นการต่อสู้ในวงแคบๆ ไม่น่ากลัวอะไร
“แต่ว่า…แต่ว่า…สัตว์วิเศษที่เป็นจ่าฝูง คือสัตว์วิเศษระดับห้าพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” องครักษ์เกือบร้องไห้ออกมา
นั่นมันสัตว์วิเศษระดับห้าเชียวนะ ทั้งแคว้นหลงอ้าว ไม่เคยมีการต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้มาก่อน แล้วฝ่าบาทจะจับตัวมันได้อย่างไร
ตอนที่ 320 สัตว์วิเศษล้อมตีแคว้นหลงอ้าว (2)
ในเวลานั้น เสินอู่อึ้งไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาดูกระวนกระวาย และมีอาการน้ำลายติดคอ
“สัตว์…สัตว์วิเศษระดับห้าหรือ”
สัตว์วิเศษระดับห้าของป่าแห่งสัตว์วิเศษ ปกติจะไม่ออกมามิใช่หรือ
อ้อ…ยกเว้นเมื่อหลายเดือนก่อน เขตระหว่างแคว้นหลงอ้าวกับป่าแห่งสัตว์วิเศษ เคยมีเสือโคร่งระดับห้าปรากฏตัว
เสือโคร่งตัวนั้นไม่ได้ทำร้ายคน มันแค่คาบกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ในปาก พอเห็นคนก็ส่งกระดาษให้ คงบังคับให้คนเอาของตามที่เขียนอยู่ในกระดาษมามอบให้มัน
นอกเหนือจากนี้ สัตว์วิเศษระดับห้าออกมาจากป่าแห่งสัตว์วิเศษน้อยมาก ถ้าออกมาบ่อยๆ จะถือเป็นการกระตุกหนวดเจ้าป่าแห่งสัตว์วิเศษ
แต่เสินอู่กับสัตว์วิเศษระดับห้าไม่ได้มีความแค้นต่อกัน เหตุใดต่อบุกมาตีเมืองด้วย
“ฝ่าบาท!”
เสียงที่ดูลนลานดังขึ้น
เสียงดังกล่าวทำให้เสินอู่รู้สึกกลัว เมื่อได้ยินก็ขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหว
“ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์กระเสือกกระสนเข้ามา สีหน้าเศร้าโศก “ฝูงสัตว์บุกเข้าเมืองหลวงแล้ว ฝ่าบาทรีบหนีเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
จากเดิมที่ภายในตำหนักกำลังเริงระบำ พริบตาเดียวกลายเป็นความวุ่นวาย เหล่าสาวงามที่กำลังร้องเพลงร่ายรำฮือเป็นผึ้งรังแตก กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นอาหารของพวกสัตว์วิเศษ
เสินอู่ขาสั่น เขาจับพนักเก้าอี้แน่นเพื่อให้ตัวเองยืนอยู่ได้
เขาหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ไร้รังสีของความโอหังเหมือนเมื่อครู่
“ไป!” เขากัดฟันแน่น พยายามข่มใจให้นิ่ง แล้วเดินออกไปนอกตำหนักอย่างรวดเร็ว
…
ในวังหลวงเต็มไปด้วยความปั่นป่วน เสียงกรีดร้องด้วยความกลัวดังระงมไปทั่ว ทำให้ความเงียบสงัดยามค่ำคืนหายไปในชั่วพริบตา
ไม่ไกลออกไป เสือโคร่งตัวหนึ่งยืนอยู่หน้าเหล่าสัตว์วิเศษนับร้อย ดุจดั่งเจ้าป่า
แววตาของมันดูหยิ่งผยองและดูเหยียดๆ ราวกับว่ากำลังมองดูขุนนางผู้เป็นข้ารับใช้
เมื่อเสินอู่มาถึงก็พบกับเสือโคร่งที่แววตาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองตัวนั้น
เมื่อเทียบกับฮ่องเต้อย่างเสินอู่ เสือโคร่งดูคล้ายกับกษัตริย์มากกว่า มันดูสูงส่ง ดูน่าเกรงขาม
เมื่อเทียบกับราศีของเสือโคร่ง เสินอู่กลายเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ ในชั่วพริบตา ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขามีสีหน้าดูไม่ได้ เขากำมือแน่น
“เสินอู่!” จู่ๆ เสียงที่ชวนขนลุกก็ดังมาจากท้องฟ้า เข้าไปยังโสตของเสินอู่
สายตาของเสินอู่จ้องมองไปที่หญิงในชุดเขียว
หญิงผู้นั้นสีหน้าเย็นชา แววตาไร้อารมณ์ ชุดเขียวคล้ายใบสน ยืนอยู่นิ่งๆ ท่ามกลางความมืด
“เจ้าคือ…” เสินอู่ตาเบิกโพลง เขาหายใจแรง “ถังจือ?”
ถังจือ ผู้หญิงที่สมัยก่อนเคยติดตามน่าหลานเยียน เหตุใดบัดนี้จึงมาปรากฏตัวที่นี่
หรือว่าสัตว์วิเศษพวกนี้…มีความเกี่ยวข้องกับถังจือ?
ถังจือยิ้ม “นี่เจ้ายังจำข้าได้สินะ วันนี้ข้าได้รับบัญชาจากองค์หญิง ให้มากวาดล้างแคว้นหลงอ้าวของเจ้า”
“องค์หญิง? เจ้าหมายถึง…เฟิงหรูซวง?” น้ำเสียงและแววตาของเสินอู่ดูขึงขัง
เมื่อก่อนเขาเคยได้ยินว่า เฟิงหรูชิงยกทหารหญิงของทัพเลือดเหล็กให้เฟิงหรูซวง แต่หลายปีที่ผ่านมาทัพเลือดเหล็กไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เขาคิดว่าพวกนางคงไม่ยอมสวามิภักดิ์กับนายใหม่
คิดไม่ถึงว่าในที่สุด กองทัพที่น่าหลานเยียนเป็นผู้ก่อตั้งจะตกเป็นของผู้อื่น
บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าเวรกรรมมีจริง!
ทันใดนั้นเสินอู่เงยหน้าหัวเราะก้องฟ้า น่าหลานเยียน ต่อให้เจ้าเก่งแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ลูกสาวของเจ้าเป็นแค่คนไม่เอาถ่าน แม้แต่สิ่งที่เจ้าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตก็ยังถูกคนอื่นแย่งไป