“ซิลเวีย….นักผจญภัยดาร์กเอลฟ์สาวคนนั้นน่ะเหรอ”
“ค่ะ แล้วเธอก็ยังเป็นเอซของปาร์ตี้นักผจญภัยแรงค์ S เฮียกกะเรียวรันที่ประจำอยู่ในเหมืองหลวงด้วยค่ะ เธอเป็นนักดาบประเภทความเร็วที่ใช้ดาบเรเปียร์ค่ะ”
ตอนนี้ผมกับคุณไอริสกำลังมาที่สวนสาธารณะใหญ่ที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองมาเล็กน้อย
ที่ใจกลางที่นี่มีรูปปั้นทองของกษัตริย์ใหญ่โตตั้งอยู่ มีน้ำพุ และมีแปลงดอกไม้
รอบๆล้อมไปด้วยต้นไม้ บริเวณน้ำพุตรงกลางเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและประชาชนในเมืองหลวงที่กำลังเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาว่าง
ดังนั้นพวกเราจึงนั่งข้างกันบนม้านั่งที่แสนสงบของที่นี่
และผมก็ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากปากของคุณไอริส
“เหตุผลที่เมื่อกี้พยายามจะออกห่างจากผมนั่น ก็เพราะนักผจญภัยที่ชื่อซิลเวียนั่นรึเปล่า?”
“นั่นก็มีส่วนค่ะ แต่ก็แบบว่า ถ้ามีใครเห็นเอลฟ์อย่างฉันเดินไปไหนมาไหนกับคุณล่ะก็บางร้านก็อาจจะไม่ขายของให้ค่ะ….ฉันก็เลยคิดว่ามันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าต้องทำให้คุณเรียวมีปัญหา…”
“เอ๊ะ อย่างงั้นเหรอ!?”
เป็นถึงนักผจญภัยแรงค์ S เลยนะ แต่ทำแบบนั้นมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ
ดูจากท่าทางไหล่ตกของคุณไอริสแล้ว ทุกๆวันคงจะต้องเจออะไรมามากแน่ๆเลย
อืม….แต่ว่า ต่อให้ให้จะคิดตามมาตรฐานโลกเดิมของผมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา
นั่นก็เพราะว่ากิลด์มาสเตอร์ในโลกเดิมยังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโกเลมและถูกพวกนักผจญภัยโจมตีเลยนี่นา
ถ้าลองยกตัวอย่างก็น่าจะประมาณนักผจญภัยที่มีหน้าตาเหมือนออร์คหรือก็อบลินเข้าไปซื้อของที่ร้าน
ไม่ว่าจะเป็นนักผจญภัยแรงค์สูงแค่ไหน เจ้าของร้านก็คงจะดูไม่ค่อยยินดีซักเท่าไหร่ล่ะนะ
“แต่ว่าขอโทษนะคะ สุดท้ายแล้วฉันก็ก่อปัญหาให้กับคุณเรียวซะได้….”
คุณไอริสไหล่ตกพร้อมทำท่าทางหดหู่ ตอนนี้เธอก็ยังสวมเสื้อคลุมสีเทาอยู่
แล้วจากนั้นเธอก็คว้าฮู้ดของเธอลงมาปิดหน้า
“เมื่อกี้จะต้องเป็นบทลงโทษตัวฉันที่มีความสุขจนถึงตอนนี้แน่ค่ะ ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ฉันก็เคยชินกับบรรยากาศในเมืองคาสซานดร้าไปซะแล้ว ฉันก็รู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ข้างๆคุณเรียว….แต่ฉันเกือบลืมไปซะสนิทเลยล่ะค่ะ พอฉันได้กลับมาเห็นปฏิกิริยาของคนในเมืองหลวงที่มีต่อฉันก็ทำให้ฉันจำได้ค่ะ ว่าฉันมันไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนผู้หญิงทั่วไป”
“เรื่องแบบนั้น….”
ผมพยายามที่จะเปิดปาก แต่ก็ถูกนิ้วชี้ของคุณไอริสหยุดไว้
“ฮุฮุ….นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณเรียวปฏิบัติกับฉันเหมือนผู้หญิงทั่วไปนั่นแหละค่ะ มันเลยทำให้ฉันเกือบจะลืมเรื่องนั้นไปเลยค่ะ”
“…..”
“เรื่องที่ว่าฉันเป็นเอลฟ์ที่น่ารังเกียจแค่ไหนนั่นน่ะ”
จากนั้นนิ้วของคุณไอริสก็ค่อยๆขยับออกจากริมฝีปากของผม
“แต่เพราะเมื่อกี้ ถึงจะเป็นแค่คำโกหก แต่ฉันก็รู้สึกมีความสุขมากเลยล่ะค่ะ”
“โกหก?”
“ก็เรื่องที่คุณบอกว่าเดทกันยังไงล่ะคะ ฮุฮุ พอนึกถึงหน้าของซิลเวียกับคนอื่นๆตอนนั้นแล้วมันช่าง…”
คุณไอริสหัวเราะคิกคัก
แต่พอผมเห็นเธอแบบนั้นผมก็ส่ายหัว
“ไม่ได้โกหกนะ”
“เอ๊ะ?”
“ผมก็คิดว่าเรากำลังไปเดทกันตั้งแต่แรกแล้วนะ”
คุณไอริสที่ได้ยินแบบนั้นเงียบไปครู่นึง
ทันใดนั้นเธอก็หน้าแดงจนถึงหู
“คะ คุณเรียวนี่ล่ะก็ ทำแบบนี้อีกแล้ว….!”
ผมจ้องไปที่คุณไอริสเงียบๆแบบจริงจัง
หลังจากนั้นก็ดูเหมือนคุณไอริก็จะเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องโกหกจริงๆ
หลังจากนั้นเธอก็จ้องมองมาทางผมด้วยดวงตามีน้ำในตาเล็กน้อย
“ฮึก…คุณเรียวนี่ล่ะก็…..อยู่ในที่ๆลับตาคนไร้การป้องกันกับผู้หญิงสองต่อสองแถมยังพูดอะไรน่ารักแบบนี้อีก ถ้าเป็นปกติคุณคงถูกจู่โจมไปแล้วนะคะ ยังดีนะคะที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นฉันแบบนี้น่ะ”
“ถึงจะทำอย่างงั้น ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ”
“เห็นมั้ยล่ะคะ คุณเรียวยังลำบากใจเลย ถึงคุณเรียวจะลามกแค่ไหนแต่ก็….เอ๊ะ!?”
คุณไอริสกระพริบตาแล้วจ้องมาที่ผม
คุณไอริสทำหน้าตาเหมือนกับว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ผมยื่นมือไปหาคุณไอริสและถอดฮู้ดของเธอออก
ภายใต้ฮู้ดนั่นปรากฎให้เห็นถึงผมสีเงินนุ่มสลวยที่โผล่ออกมา
ผมของเธอที่กระทบกับแสงที่ลอดมาจากต้นไม้นั้นช่างดูงดงาม
“คะ คุณเรียว….?”
“ไหนๆก็มาเดทกันทั้งที ผมไม่อยากให้มันจบลงไม่ดีเพราะพวกเธอทั้งสามคนนั้นหรอก นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าทั้งสามคนนั้นจะแอบตามเรามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
คุณไอริสหยุดกึ้กตอนที่ได้ยินคำพูดของผม
“คุณเรียวเองก็รู้สึกตัวเหมือนกันสินะคะ….”
“อ๊ะ อย่างที่คิดเลยรู้ตัวอยู่แล้วสินะ สมกับเป็นนักผจญภัยแรงค์ S ล่ะนะ”
เอาเถอะ แค่ผมยังสังเกตได้เลยนี่นะ ก็พวกเธอแอบกันโจ่งแจ้งขนาดนั้น
เอาจริงๆ มันก็โคตรจะโจ่งแจ้งเลยแหละ
ผมสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่ผมเข้าใกล้คุณไอริสหรือสัมผัสเธอด้วยการถอดฮู้ดให้เธอแบบนี้ ก็จะมีการเคลื่อนไหวแปลกๆเกิดขึ้น
อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าผมเข้ากับคุณไอริสได้ดีก็เลยอารมณ์เสียกันรึเปล่านะ
“ให้ตายสิ เมื่อกี้ก็เพิ่งอธิบายให้ฟังว่านี่คือเดทแล้วแท้ๆนะ”
“สำหรับพวกเธอแล้ว ยังไงมันก็คงจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากแหละค่ะ การที่เอลฟ์อย่างฉันจะไปเดทกับผู้ชายแบบนี้ บางทีแล้วพวกนั้นอาจจะกำลังคิดว่าฉันกำลังข่มขู่คุณเรียวอยู่ก็ได้ค่ะ”
ถ้านึกภาพก็คงประมาณว่า ตัวเองถูกแบล็คเมล์โดยเอลฟ์สาวสุดสวยและถูกเธอบังคับให้มีความสัมพันธ์ทางกายกัน
….อะไรล่ะนั่น ดูน่าสนุกสุดๆไปเลยไม่ใช่รึไงกัน!
ไม่ว่าจะมองยังไงก็เหมือนกับว่าได้รางวัลชัดๆ!
เอาเถอะเรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น แต่ผมไม่ชอบให้ทั้งสามคนนั้นมาสะกดรอยตามพวกผมแบบนี้เลยนะ
ถ้าอย่างงั้น….
“คุณไอริส พูดถึงที่เราคุยกันเมื่อกี้น่ะ อยากจะมาทำกับผมตอนนี้เลยมั้ย?”
“เอ๊ะ…..!?”
“ทั้งสามคนนั้น ดูเหมือนว่าถ้าผมพูดแค่นี้พวกเธอจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรเท่าไหร่ ถ้างั้นผมคงต้องแสดงอะไรบางอย่างให้พวกเธอดูซักหน่อย”
“นะ นั่นก็คือ….”
คุณไอริสกลืนน้ำลายและมองมาที่ร่างกายของผม—ส่วนล่างของร่างกายของผม
“นะ ในที่แบบนี้…คุณกำลังจะบอกว่าเรากำลังจะทำเรื่องลามกกันโจ่งแจ้งกลางวันแสกๆแบบนี้เลยเหรอคะ? คุณเรียวจะทำแบบนั้นกับเผ่าเอลฟ์อย่างฉัน?”
“แน่นอน แต่ถ้าคุณไอริสไม่ต้องการล่ะก็…”
“ทะ ทำค่ะ ทำแน่นอนค่ะ!”
คุณไอริสคำรามอย่างดุเดือดและรีบเข้ามาใกล้ผม
“ฮุ…ฮุฮุ…ฮุฮุฮุฮุ เอลฟ์ผู้น่าเกลียดอย่างฉันคนนี้…กำลังจะได้แสดงให้พวกซิลเวียเห็นว่าฉันกำลังจะทำเรื่องลามกอย่างการมีเซ็กส์กับชายหนุ่มผู้ซุกซนอย่างคุณเรียวอยู่งั้นเหรอคะ? เรื่องแบบนั้น….เรื่องแบบนั้น…สุดยอดไปเลยไม่ใช่เหรอคะ…♡!”
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว มือของเธอก็เลื้อยมาที่ต้นขาของผม
แล้วเธอก็ใช้มือของเธอลูบขาของผม
อืม ยังไม่ได้พูดอะไรเลยแต่เธอไปไวมาก
ผมกอดเอวบางๆของคุณไอริสและจูบริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอ
ยังกับน้องหมาที่ได้กระดูก คุณไอริสเลียริมฝีปากของผมและสอดลิ้นเข้าไปในปากของผม
จูบรุนแรงมาก แรงพอที่จะดูดลิ้นของผมไปด้วยเลย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าจูบได้อีกต่อไปรึเปล่า
ระหว่างที่กำลังจูบกันอย่างเร่าร้อน ผมก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่ทั้งสามคนนั้นซ่อนอยู่
ยังกับว่าพวกเธอจะลืมไปแล้วว่ากำลังซ่อนตัวอยู่
ใบหน้าของพวกเธอสามคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก