นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 54

 

หลังจากที่สงบสติอารมณ์ลงได้ ผมก็เดินตามคุณซิลเวียเข้าไปในบ้านของผม

…..มีใครเคยเข้าบ้านตัวเองด้วยความรู้สึกตึงเครียดแบบนี้กันบ้างรึเปล่า?

 

“หื้ม…..นี่คือห้องของนายอย่างงั้นเหรอ”

 

คุณซิลเวียที่เข้ามาก่อนได้มองไปรอบๆห้องด้วยความสงสัย

 

“…..ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เถอะ แต่ดูแตกต่างจากห้องของคนคนนั้นโดยสิ้นเชิงเลยนะเนี่ย…..จะ…จะว่าไงดีล่ะ….ที่นี่รู้สึกหอมๆยังไงก็ไม่รู้สินะ…..”

 

คุณซิลเวียพูดประโยคที่ทำให้รู้สึกเดจาวู

ก่อนอื่นผมก็ให้เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้วผมก็นั่งลงตรงข้ามกับเธอ

 

“คือว่า….คุณซิลเวีย”

 

“มีอะไร?”

 

ผมลังเลอยู่นิดหน่อย แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจถามคำถามที่ผมกังวลก่อนหน้านี้ไป

 

“เมื่อกี้น่ะ คุณมีกุญแจบ้านแบบของบ้านผมใช่มั้ย? แต่ว่าคุณไม่เคยเห็นบ้านของผมมาก่อนนี่นา ผมก็เลยคิดว่ามันดูมีอะไรแปลกๆน่ะ”

 

“อา เรื่องนั้นเองเหรอ พอดีว่าฉันขอร้องให้คนที่บ้านค้นหาที่อยู่ของนายให้น่ะ ถึงจะอยู่ในเมืองคาสซานดร้าแต่นายก็เป็นผู้ชายเพียงไม่กี่คนในเมือง เพราะงั้น การจะหาบ้านนายเลยไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่”

 

อ๊ะ เป็นงี้นี่เอง…..

การรับมือกับคนมีอำนาจและเงินทองนี่ยุ่งยากจริงๆนะ…….

 

“และพอฉันรู้ที่อยู่ของนาย ฉันก็ได้ทำการตรวจสอบหมายเลขการผลิตของที่ล็อคประตูดูแล้วก็เอากุญแจที่ซ้ำกันมาน่ะ”

 

“อย่างงี้นี่เอง”

 

“เพราะงั้นก็วางใจได้ นอกจากฉันแล้วไม่มีใครสามารถทำกุญแจแบบนี้ขึ้นมาได้หรอก”

 

“…….”

 

จะให้ผมวางใจได้ยังไงล่ะนั่น?

เพราะกุญแจนั่นน่ะ มันดันอยู่ในมือของคนที่ผมไม่อยากจะให้อยู่มากที่สุดไงล่ะ

ผมอยากจะพูดแบบนั้นออกไปแต่ผมก็หยุดตัวเองไว้

แล้วผมก็ได้ตัดสินใจถามคำถามที่สำคัญที่สุดออกไป

 

“ถ้างั้น เอ่อ…..คุณซิลเวีย แล้วคุณสามีของคุณล่ะ?”

 

“แน่นอนว่าเราหย่ากันแล้ว หลังจากตอนที่ฉันเจอนายกับคาร์ล่านั่นแหละนะ”

 

เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วยเหรอฟร้า!!

ถะ ถึงจะพอเดาได้อยู่แล้วก็เถอะนะ….!

 

ตรงข้ามกับผมที่กุมหัวอยู่ คุณซิลเวียแสดงสีหน้าออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

 

“น่าแปลกจังเลยนะ ตอนที่ฉันแต่งงานน่ะ ฉันเคยคิดว่าถ้าคนคนนั้นทอดทิ้งฉันขึ้นมาล่ะก็ ชีวิตฉันก็คงต้องจบสิ้น…..แต่ว่าตอนนี้น่ะกลับรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ รู้งี้น่าจะทำแบบนี้ให้เร็วกว่านี้ซะก็ดี”

 

“….คุณสามียอมรับการหย่าทันทีเลยงั้นเหรอ?”

 

“ก็ยอมรับแบบไม่ต้องการคำตอบรับน่ะนะ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่แต่งงานกันฉันก็ได้ใบหย่ามาอยู่แล้ว เพราะงั้นฉันก็แค่ยื่นใบหย่าไปที่รัฐเฉยๆเท่านั้น”

 

“ครับ!?”

 

ให้ใบหย่าในวันรุ่งขึ้นหลังแต่งงานเลยเนี่ยนะ…?

อะไรล่ะนั่น ประเพณีของพวกชนชั้นสูงเรอะ?

 

“วันรุ่งขึ้นหลังจากตอนแต่งงาน เขาก็ได้ยื่นใบหย่าที่กรอกเสร็จหมดแล้วให้กับฉัน พร้อมทั้งยังบอกกับฉันว่า ‘เพียงเท่านี้หน้าที่ในฐานะภรรยาของเธอก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว เพราะงั้น อยากจะออกไปตอนไหนก็ไปซะ’ น่ะ”

 

“อุ อุหวา เลวจริงๆเลยนะ ผู้ชายคนนั้นน่ะ…..”

 

“เพราะงั้นการจะหย่ามันเลยง่ายมากๆไงล่ะ ที่ฉันต้องทำก็แค่ประทับตาลงไปในใบหย่าที่มีอยู่แล้วก็เท่านั้น แล้วก็ส่งไปยังหน่วยงาน มันง่ายกว่าการไปพูดกับเขาที่คฤหาสน์นั่นมากเลยล่ะ”

 

“เอ๊ะ? ถ้างั้นก็แปลว่าไม่ได้ไปเจอหน้าคุณสามีงั้นเหรอ?”

 

“อืม นั่นมัน….จะว่าเจอก็เจออยู่หรอกนะ”

 

คุณซิลเวียที่พูดจาอย่างคล่องแคล่วมาจนถึงเมื่อกี้ จู่ๆก็พูดติดๆขัดๆ

พอมองดูที่เธอดีๆก็เหมือนว่าเธอกำลังนึกถึงเรื่องราวหนึ่งอยู่ 

และรอยยิ้มของเธอได้ปรากฎขึ้นมาบนมุมปาก

 

“ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้คุยกันหรือทำอะไรที่เหมือนคนรักทำกัน แต่ถึงอย่างงั้นพวกเราก็เป็นคนรักกันอย่างเป็นถูกต้องตามกฎหมาย เพราะงั้นอย่างน้อยฉันก็เลยไปเพื่อขอบคุณเขาเป็นครั้งสุดท้าย ถึงจะเป็นเอลฟ์ที่น่าเกลียดแบบนี้แต่เขาก็ยังยอมเป็นสามีฉัน ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นานก็เถอะ แล้วก็จากนี้ไปเขาก็จะไม่เห็นหน้าฉันอยู่ที่เมืองหลวงแห่งนี้อีกแล้ว เพราะงั้นไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไปแล้วล่ะ ประมาณนี้น่ะ”

 

“ถึงผมจะคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปขอบคุณผู้ชายแบบนั้นก็เถอะนะ….แล้ว คุณสามีว่ายังไงบ้างล่ะ”

 

“ในตอนแรกไม่รู้ทำไมเขาถึงมองมาที่หน้าของฉันด้วยหน้าตาที่ดูว่างเปล่า ในตอนนั้นฉันเลยคิดว่าบางนี่ฉันกำลังทำอะไรผิดไปอยู่รึเปล่า ฉันก็เลยพูดกับเขาไปเหมือนเดิมอีกครั้ง แล้วในตอนนั้นเอง…..”

 

คำพูดของคุณซิลเวียติดอยู่ที่ลำคอ

หลังจากนั้นเธอก็เริ่มพูดถึงสามีของเธอในตอนที่เธอพูดเรื่องการหย่าขึ้นมา

 

————————————————————

 

“อะ? เอ๊ะ? มะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

 

“ก็บอกว่าจะหย่ายังไงล่ะ ขอบคุณที่คอยดูแลกันมาจนถึงตอนนี้…..”

 

“ยะ อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย! กะ แกเนี่ยนะจะแยกทางกับผม!? ถะ ถ้าจะแยกทางกับผมล่ะก็คนที่จะเดือดร้อนนั่นมันก็คือแกไม่ใช่รึไง! แล้วนี่พูดเรื่องบ้าอะไรออกมากัน!?”

 

เขาขัดคำพูดของฉัน แต่ฉันไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมเขาถึงโกรธ

 

“…..? ไม่ล่ะ ไม่ว่าฉันจะเดือดร้อนหรือไม่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณไม่ใช่เหรอ?”

 

“ห๊ะ…!”

 

ก็จริงอยู่ที่ว่าการที่คู่รักหย่ากันในยุคนี้มันเป็นเรื่องหายาก

ยิ่งการที่ผู้หญิงเป็นคนขอหย่าเองแบบนี้แล้วแทบจะไม่เคยมีให้เห็น

แถมยังเป็นดาร์กเอลฟ์ที่น่าเกลียดที่สุดในทุกเผ่าบนโลกอีกด้วย

 

แต่เรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรกับผู้ชายคนนั้นด้วยล่ะ?

ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยจะสนใจใยดีฉันเลยด้วยซ้ำ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจอะไรเลยนี่นา

จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงที่หย่าไปก็ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรต้องสนใจเลยนี่

 

พอฉันพูดแบบนั้นไป เขาก็ขยับปากพะงาบๆแล้วจ้องมาทางฉัน

หน้าเขาเปลี่ยนสีจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน สีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีแดง และเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว

สีเปลี่ยนไปมาจนเกือบจะหัวเราะออกไปโดยไม่ตั้งใจเลยล่ะนะ

 

จากนั้นคนคนนั้นก็กัดนิ้วโป้งแล้วบ่นพึมพำอะไรบางอย่างขึ้นมา

 

“หย่าเนี่ยนะ ไม่สิ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางพูดแบบนั้นออกมาหรอกน่า อย่ากับผมขึ้นมาก็ไม่ได้อะไร ก็ยัยนี่น่ะ….”

 

“ถ้าเกิดว่าได้หย่าขึ้นมาจริงๆ ก็จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากบ้านของยัยนี่อีกแล้วน่ะสิ…..จะพูดกับครอบครัวยังไงดีล่ะเนี่ย…..”

 

หลังจากนั้นเขาพูดออกมาเสียงดังแล้วเข้ามาจับแขนของฉัน

 

“….อาา งั้นเหรอ! เป็นอย่างงั้นนี่เอง! ให้ตายสิ เข้าใจแล้ว”

 

ถ้าเป็นตัวฉันจนก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ การที่เขาเข้ามาจับตัวแบบนี้ฉันอาจจะร้องไห้ด้วยความดีใจไปแล้วก็ได้

แต่ว่า สิ่งที่เข้ามาในหัวของฉันตอนนั้นกลับมีเพียงแค่ความรู้สึกรังเกียจอย่างรุนแรงก็เท่านั้น

 

ทันทีที่เขาจับตัวของฉันมันก็ทำให้ฉันขนลุก รู้สึกราวกับว่าถูกสิ่งสกปรกมาแตะต้องตัว 

ฉันอยากจะสะบัดสิ่งนั้นออกไปจากแขนให้ไวที่สุดเลยล่ะ

 

“ให้ตายสิ ช่วยไม่ได้นะ เจ่าเล่ห์น่าดูเลยไม่ใช่รึไงซิลเวีย สมกับที่เป็นดาร์กเอลฟ์เลยนะ ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์น่ารังเกียจ แต่จิตใจยังน่ารังเกียจอีกด้วยสินะ”

 

“….คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ? ขอโทษทีนะแต่ช่วยปล่อยมือหน่อยได้รึเปล่า”

 

“เธอน่ะ อยากให้ผมกอดเธอใช่มั้ย? เพราะงั้นถึงเอาเรื่องหย่าขึ้นมาพูดใช่มั้ยล่ะ”

 

“ห๊ะ……?”

 

ฉันหยุดชะงักไป เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะพูด

พอเขาเห็นฉันหยุดนิ่งไป เขาก็ยืดอกและพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ

 

“เรื่องหย่าน่ะมันก็เป็นแค่การขู่ใช่มั้ยล่ะ? จริงๆแล้วคงไม่ได้กะจะส่งใบหย่านั่นจริงๆหรอก ถึงจะเป็นนักผจญภัยแรงค์ S กับลูกสาวบริษัทใหญ่ก็ตาม แต่ผู้ชายที่รับผู้หญิงน่ารังเกียจแบบนี้มาเป็นภรรยาน่ะ คงไม่มีใครนอกจากผมหรอกมั้ง?”

 

“……”

 

“เพราะไม่ได้กอดกันตั้งแต่วันแรก เพราะงั้นก็เลยร้อนใจใช่มั้ยล่ะ? ให้ตายสิ…..เอาล่ะ งั้นไปที่ห้องเลยก็แล้วกัน วันนี้จะให้เป็นวันพิเศษสำหรับเธอ….”

 

“….คึ อะ ฮะฮะฮะฮ่ะ อะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“!?”

 

ฉันหัวเราะออกมาโดยไม่ตั้งใจ

ไม่สิ ฉันพยายามกลั้นขำไว้แล้วนะ แต่มันกลั้นไม่ไหว

ใบหน้าของคนคนนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองแล้วยังพล่ามไร้สาระจนฉันทนไม่ไหว 

ฮึฮึ ไม่ได้สิ จนถึงตอนนี้พอได้ย้อนนึกดูก็ยังน่าขำอยู่เลย

 

“มะ มีอะไรแปลกรึไง!?”

 

“ฮึ ฮึฮึฮึ….อะ ฮ่าฮ่าฮ่า! ตะ ตั้งแต่ที่แต่งงานมา เพิ่งเคยได้หัวเราะตั้งขนาดนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย อะฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“ชะ ช่างเป็นผู้หญิงที่หยาบคายอะไรแบบนี้! เพราะงี้ไงถึงได้ไม่ชอบดาร์กเอลฟ์หญิงน่ะ! เวรเอ๊ย ผมชักจะเลือดอดแล้วนะ ผมจะไม่กอดเธออีกเป็นครั้งที่สองแล้วล่ะนะ!”

 

พอเห็นเขาตะโกนแล้วจ้องมาที่ฉันแบบนั้น ฉันก็เกือบจะหลุดขำออกมาอีกรอบ

แต่พอกลั้นขำได้แล้วมองไปที่หน้าของเขาคนนั้นอีกครั้ง

 

“อา ฉันเองก็ไม่อยากถูกคุณแตะเนื้อต้องตัวอีกแล้วต่อไปเหมือนกันล่ะนะ”

 

“ห๊ะ!?”

 

“นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าคุณจะกำลังเข้าใจอะไรผิดไปอยู่นะ เพราะว่าเอกสารการหย่าน่ะได้ถูกส่งไปเรียบร้อยแล้วยังไงล่ะ เพราะงั้นพวกเราก็ไม่ใช่สามีภรรยากันอีกต่อไปแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปหรอก”

 

“ระ เรื่องจริงงั้นเหรอ….? นี่หย่ากับผมจริงๆแล้วอย่างงั้นเหรอ ซิลเวีย…..?”

 

“อา นั่นก็เพราะ……”

 

ผู้ชายคนนั้นมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่ดูตกใจ เหมือนหนูที่หวาดกลัวอะไรซักอย่าง

ฉันหัวเราะเบาๆแล้วกระซิบที่ข้างหูเขา

 

“เพราะว่า…..ดุ้นจิ๋วๆของคุณนั่นน่ะ มันไม่สามารถทำให้ฉันพอใจได้อีกต่อไปแล้วไงล่ะ♡”

 

“วะ วะ วะ!?”

 

“อ๊ะ ขอโทษด้วยนะ ยังไงซะฉันเองมันก็เป็นแค่ดาร์กเอลฟ์ที่มีจิตใจและรูปร่างที่รังเกียจนี่นะ ก็เลยเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาซะหมดเลยน่ะ”

 

“อะ อะ….! ซิ ซิลเวีย นี่แก….!?”

 

“เสียใจแทนพวกภรรยาของพวกคุณทุกคนกันเลยจริงๆนะ ในโลกใบนี้น่ะ ยังมีดุ้นที่ดุดันและแข็งแรงยิ่งกว่านี้ แถมยังพร้อมที่จะทรมาณรูที่สกปรกได้อย่างไร้ปราณีอยู่ด้วยล่ะ♡ ฉันใช้ชีวิตมาโดยที่ไม่เคยได้รู้จักกับความสุขของผู้หญิงจากการถูกดุ้นกระแทก♡ ฉันที่ได้รู้จักแค่กับดุ้นที่แทบจะน้ำพุ่งทันทีที่ใส่เข้ามานิดเดียวแบบนี้…..ให้ตายสิ ไม่คิดว่ามันรู้สึกน่าสมเพชเลยรึไง? ห๊ะ?”

 

ฉันค่อยๆเอาหน้าออกห่างจากเขา เขาทรุดตัวลงไปพร้อมกับใบหน้าที่แดงจัด

จากนั้นเขาก็เปิดปากกว้างพร้อมมองมาที่ฉัน แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากเลย

แล้วทันใดนั้นเองฉันก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นๆ พอมองลงไปที่เป้าของเขาก็เห็นว่าเป้าของเขาแข็งขึ้นมา

 

แน่นอน มันไม่ได้สำคัญอะไรกับฉันอีกต่อไปแล้วล่ะ

อย่างที่พูดไปกับคนคนนั้นนั่นแหละ….ไม่ว่าจะแข็งหรือไม่ขนาดก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก♡

 

“ถ้างั้น ก็ขอลาขาดจริงๆล่ะ ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ พวกเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกต่อไปแล้วล่ะ รักษาสุขภาพด้วย”

 

ฉันหันหลังให้เขาแล้วเดินออกจากห้องไป

แต่คราวนี้เขาไม่ได้รั้งฉันไว้แต่อย่างใด

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset