อยากรีบกลับบ้านไปนอนแล้วอะ….! นี่คือสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจ
แต่พอเห็นสายตาอันเร่าร้อนของเมย์ฟาที่จ้องมาหาผม
ผมก็รู้เลยว่ายังไงก็คงจะเป็นไปไม่ได้สินะ
ผมหยิบถ้วยชาที่อยู่ข้างๆมา แล้วก็นั่งจิบน้ำชาอุ่นๆให้ใจร่มๆ
น่าจะเป็นชาชั้นดีเลยนะ แต่ด้วยความประหม่าเลยไม่รู้รสชาติหรือกลิ่นเลยซักนิด
“ผมไม่ใช่ผู้สืบทอดของควอนดร้าซักหน่อย เพียงแค่เพราะผมมีแหวนทองวงนี้เองเนี่ยนะ คิดง่ายกันเกินไปหน่อยรึเปล่า?”
ผมพูดแบบนั้นออก แต่เมย์ฟาก็ส่ายหัวให้กับคำพูดของผมทันที
“ไม่ค่ะ ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอนค่ะ! แหวนที่สวมอยู่ที่นิ้วของท่านเรียวนั่น เป็นแหวนของท่านควอนดร้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ ซึ่งแหวนนั้นเป็นต้องเป็นแหวนที่ได้สืบทอดต่อกันมาในบันทึกของท่านควอนดร้าแน่ค่ะ”
“บันทึกที่พูดถึงเนี่ย?”
“แน่นอนว่าแหวนที่ทรงพลังแบบนั้น เราคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะที่จะมีไอเทมที่ทรงพลังขนาดทำให้ติดสถานะผิดปกติได้โดยไม่เกี่ยวกับการต้านทานอะไรแบบนั้นถึง 2 ชิ้นน่ะค่ะ”
อึก มามุขนี้งั้นเหรอ
การใช้หนามจากแหวนใส่เมย์ฟาเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่เลย
“หื้ม….แล้วเรียวได้แหวนวงนั้นมายังไงล่ะ?”
ในขณะที่ผมกำลังพูดไม่ออก คุณซิลเวียก็ถามคำถามนี้กับผม
แต่ผมจะตอบเธอยังไงดีหว่า
ตามจริงผมได้มาจากภูติที่ชื่อโอริออนดีล
แต่เมื่อกี้ตามที่เมย์ฟาบอก เหมือนควอนดร้าจะพูดไว้ว่ามันเป็นของขวัญจากภูติ
ถ้าผมตอบไปตามความจริง พวกเธอก็คงจะบอกว่ามันเหมือนกับท่านควอนดร้าเลยค่ะ แน่ๆ
“แหวนวงนี้น่ะ….พ่อของผมให้มาในตอนที่ผมยังเด็กน่ะ”
หลังจากที่ผมลังเลอยู่นาน สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเล่าไปว่าพ่อที่ตายไปแล้วให้มา
“ท่านพ่อของท่านเรียว….! ถ้างั้นก็แปลว่าแหวนนี้ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของท่านเรียวอย่างงั้นเหรอคะ!?”
เมย์ฟาโน้มตัวมาข้างหน้าด้วยท่าทางตื่นเต้น
ซึสึที่อยู่ข้างเมย์ฟาก็พูดออกมาเบาๆว่า
‘เมี้ยว….เมย์ฟาจัง เป็นครั้งแรกเลยที่เค้าได้เห็นเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้’
“ไม่หรอก นั่นก็เพราะว่า…….พ่อแม่ของผมเสียชีวิตด้วยโรคระบาดตั้งแต่ตอนที่ผมอายุได้ 6 ขวบเพราะงั้นตอนที่ได้แหวนวงนี้มา ผมก็ไม่เคยได้ถามพ่อหรอกว่าได้แหวนวงนี้มาจากไหนน่ะ….”
“ปะ เป็นอย่างงั้นเองเหรอคะ…..”
เยี่ยม! ดูเหมือนของดูต่างหน้าของพ่อผู้ล่วงลับจะไปได้สวย
ถ้าตั้งเรื่องไว้แบบนี้ก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปที่ผมจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแหวนเลย
ผมชูกำปั้นอยู่ในใจ
แต่เมย์ฟาที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับก้มหน้าลงด้วยหน้าเศร้า
“ขออภัยด้วยค่ะท่านเรียว….ที่ฉันถามอะไรไปไม่คิด”
“เห๊ะ? อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก”
“ถ้าท่านเรียวไม่พอใจล่ะก็ เชิญลงโทษหมาตัวเมียผู้โง่เขลาตัวนี้ตามที่ท่านต้องการเลยค่ะ ไม่ว่าจะอะไรก็เชิญลงโทษได้เลยค่ะ! ถ้าบอกให้ไปคว้านท้องก็จะคว้านท้องเดี๋ยวนี้ทันทีเลยค่ะ….!”
“คว้านท้อง!? ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกนะ”
“หากท่านไม่สบายใจที่จะลงโทษด้วยตัวเองล่ะก็ ท่านสามารถสั่งให้คนอื่นมาทำแทนก็ได้ค่ะ ท่านจะสั่งซึสึที่นั่งอยู่ตรงนี้ ให้เธอลงโทษเราจนกว่าท่านจะสบายใจก็ได้ค่ะ”
“เมี้ยว!?”
“ไม่ล่ะ ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง! มันไม่ได้หนักหนาอะไรกับผมถึงขนาดนั้นหรอก! ทางนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจไม่ใช่รึไง?”
ผมรีบหยุดเมย์ฟาที่กำลังจะเอามีดออกมา
แล้วเมย์ฟาก็ทำสีหน้ามีความสุข
“อา ท่านเรียว….มีเมตตากับคนโง่เขลาอย่างเราถึงขนาดนี้…..!”
เมย์ฟาเปลี่ยนจากหน้าเศร้ากลายเป็นหน้าตาที่ดูหลงใหล
ละ ลำบากใจแฮะ
ทัศนคติในตอนที่ได้เจอกับผมครั้งแรกตอนนั้นยังรู้สึกสบายใจกว่าตอนนี้เลย….
โชคดีที่คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆผม กระแอมออกมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
ผมเบือนหน้าหนีเมย์ฟาไปหาคุณซิลเวีย
“ถ้าอยากจะยืนยันว่าเรียวมีสายเลือดของควอนดร้าจริงหรือไม่ล่ะก็ ไปเมืองคาสซานดร้าและลองดูที่ทะเบียนบ้านเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ? ว่าไปแล้ว ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับวงศ์ตระกูลของควอนดร้าอยู่ในกิลด์แห่งความมืดนี้เลยรึไง?”
“อึก…นะ นั่นมัน…..”
พอได้ยินคำถามของคุณซิลเวีย ดวงตาของเมย์ฟาก็ล่อกแล่กไปมา
“มีเหตุผลอะไรอยู่งั้นเหรอ?”
“คือว่า…..ท่านควอนดร้าเขามีเซ็กส์กับผู้หญิงหลายคนมาก ไม่ใช่แค่กับผู้หญิงที่อยู่ในกิลด์แห่งความมืดนี้เท่านั้น….เขานอนกับผู้หญิงมาเป็นพันคนแล้วล่ะ….”
“นะ หนึ่งพัน!?”
ผมกับคุณซิลเวียประหลาดใจ
“เอาจริงๆก็พอจะสามารถดูบันทึกผู้สืบสายเลือดของท่านควอนดร้าได้อยู่หรอกค่ะ….แต่ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา บันทึกส่วนใหญ่มันก็ได้หายสาปสูญไปแล้วในระหว่างการต่อสู้กับกิลด์นักผจญภัยและฝ่ายอื่นๆที่โจมตีพวกเราน่ะค่ะ”
“อืม….อย่างงี้นี่เอง”
“แต่เราก็ได้พยายามส่งทีมค้นหาไปยังที่ต่างๆเพื่อที่จะตามหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่มีเชื้อสายของท่านควอนดร้ากับแหวนทองคำอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ทำมาจนถึงก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ข้อมูลเกี่ยวกับแหวนเลยซักนิดค่ะ เราเคยคิดว่าแหวนนั้นหายไปพร้อมกับท่านควอนดร้าแล้วจริงๆ….จนมาถึงวันนี้ค่ะ!”
เมย์ฟาจ้องมองมาทางผมอย่างหลงใหลอีกครั้ง
“และวันนี้ ท่านเรียวก็ได้มาปรากฎตัวต่อหน้าพวกเราพร้อมกับแหวนทองคำนั่นค่ะ!”
แต่ผมถูกพวกคุณลักพาตัวมานะครับ?
“แหวนที่นอกจากท่านควอนดร้าแล้วไม่มีใครสวมมันได้ กับท่านเรียวที่สามารถใช้มันได้อย่างอิสระ แถมยังเหมือนกับคำพูดทิ้งท้ายที่ท่านควอนดร้าทิ้งไว้นั่นอีก จะเป็นใครไม่ได้นอกจากท่านเรียวค่ะ! ถึงแม้ว่าจะหาบันทึกเกี่ยวกับสายเลือดไม่ได้ก็จริง แต่การที่ครอบครองแหวนนั้นได้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วล่ะค่ะ ว่าท่านเรียวคือผู้สืบทอดของท่านควอนดร้า!”
“…….”
….โอ…..โอริออนดีลลลลลลล!
กะแล้วเชียวภูติตนนั้นไม่ใช่อะไรที่ดีเลยซักนิด
บ้าเอ๊ย ไม่คิดเลยว่าจะได้แหวนเจ้าปัญหาถึงขนาดนี้มา…!
แต่ก็นะ ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าควอนดร้าที่เป็นผู้ก่อตั้งกิลด์แห่งความมืด
จะเป็นผู้ที่มาจากโลกคู่ขนานเหมือนผม
แถมเขายังดูเป็นผู้ชายที่นิสัยดีอย่างน่าประหลาดด้วย
ควอนดร้าได้คาดไว้แล้วว่าถ้าเขาเสียชีวิตไป โอริออนดีลจะต้องมอบแหวนนี้ให้กับคนอื่น
เขากังวลว่าจะต้องมีคนอื่นที่ตกเป็นเหยื่อของภูติตนนั้นเหมือนกันกับเขาแน่นอน
เขาจึงส่งมอบเจตจำนงที่จะช่วยเหลือนั้นไว้ให้กับลูกน้องของเขา
…..อืม ขอบคุณสำหรับความรู้สึกของคุณมากๆเลยนะครับ ไม่งั้นผมคงจะโคตรลำบากเลยครับ!
แต่เอาจริงๆนะ อย่างน้อยก็ช่วยเหลือคำพูดนั้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษณไว้ให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อยได้มั้ย!?
อย่างแบบ [ใครมีแหวนนั้น ก็ช่วยเหลือเขาด้วยล่ะ! อ๊ะ แต่ว่าฉันไม่น่ามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดกับเขาหรอกนะ
แต่ถึงอย่างงั้นก็ฝากด้วยล่ะ★] อย่างน้ยถ้าเขียนไว้ชัดเจนประมาณนี้ก็คงจะยุ่งยากน้อยกว่านี้หน่อย
เวรเอ๊ย…..เอาไงดีฟะ?
ถ้าผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับควอนดร้าขึ้นมาจริงๆผมจะถูกส่งไปชั้นใต้ดินอีกครั้งมั้ยเนี่ย?
ผมอยากจะเลี่ยงเรื่องนี้
แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องให้เรื่องมันเป็นไปว่าผมเป็นผู้สืบทอดของควอนดร้า
ผมที่กำลังสงสัยว่าจะผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปยังไงดี
จึงได้หันหน้าไปหาคุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ
คุณซิลเวียที่เห็นสายตาของผมจึงพยักหน้าอย่างจริงจังและเริ่มพูดขึ้นมาเบาๆ
“เรียว….จริงๆแล้วนายก็คงเข้าใจสินะ?”
“เห๊ะ?”
คะ คุณซิลเวียครับ? นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่?
“นายกับควอนดร้าน่ะมีสิ่งที่เหมือนกัน สิ่งนั้นแหละที่น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีที่สุดแล้วว่านายมีสายเลือดของควอนดร้าอยู่….”
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!?
แม้แต่คุณซิลเวียก็ด้วย? พูดอะไรออกมากันเนี่ย!?
“ซะ ซิลเวียจัง หมายความว่ายังไงน่ะ!?”
“อืม….ในตอนที่คุยกันก่อนหน้านี้ เธอบอกว่าความรู้สึกในด้านความงามของควอนดร้ามันตรงข้ามกับคนอื่นถูกมั้ย? ถ้าจะให้พูดให้เห็นภาพล่ะก็ เรียวน่ะบอกว่าเอลฟ์อย่างฉันน่ะสวยมากเลยยังไงล่ะ”
“จะ จริงเหรอ!? กะแล้วเชียว ว่าท่านเรียวน่ะ….!”
“อา แล้วก็ค่านิยมแปลกๆแบบนี้ของเรียวก็ดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่กำเนิดด้วย ตอนแรกก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ตอนนี้ฉันก็เข้าใจได้แล้วล่ะ”
พอพูดแบบนั้นแล้วคุณซิลเวียก็จ้องมาทางผม
“เรียว บางทีแล้วค่านิยมแบบนั้นของนายมันอาจจะเป็นกรรมพันธ์ก็ได้ การที่นายได้แหวนวงนั้นมาก็ด้วย บางทีแล้วพ่อของนายอาจจะเป็น สายเลือดของควอนดร้าก็ได้”