หลังจากที่พวกเราออกมาจากห้องอาบน้ำกลางแจ้ง เมย์ฟาก็ได้พาผมไปที่ห้องห้องหนึ่ง
นี่ไม่ใช่ห้องเล็กๆที่เคยใช้ขังผม แต่เป็นห้องกว้างและดูสะอาดกว่าบ้านของผมมาก
เสาทาสีดำสวยงาม เสื่อทาทามิในห้องเป็นสีเขียว มีกลิ่นที่ชวนให้คิดถึงอดีต
พอมองไปรอบๆห้อง จะเห็นว่ามีภาพวาดบนผนัง เหมือนจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าคาเคจิคุ(ภาพแขวนที่ม้วนได้)
ห้องดูหรูหราก็จริงแต่ประตูมันล็อค หน้าต่างก็มีเหล็กกั้น
หนีไปไหนไม่ได้แน่นอน สถานะของผมกับคุณซิลเวียก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับนักโทษเท่าไหร่อะนะ
ใจกลางของห้องมีฟูกสีขาวที่ปูไว้อยู่ ผมลองทดสอบนั่งไขว่ห้างบนฟูกดู
สบายกว่าฟูกในบ้านของผมเยอะเลยแฮะ
จะว่าไป ผมได้ยินมาจากเมย์ฟาว่า สถาปัตยกรรมของที่ของกิลด์แห่งความมืดนี้
ดูจะเน้นสไตล์คล้ายๆกับของอมนุษย์แถวประเทศทางตะวันออกเลย
ดูเหมือนว่าสไตล์ของอมนุษย์จะเน้นปูฟูกนอนบนพรมที่เรียกว่าเสื่อทาทามิไปเลยโดยไม่ต้องมีเตียง
และก็ดูเหมือนว่ากิลด์มาสเตอร์คนแรกของกิลด์แห่งความมืดก็จะชอบรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของทาง
ประเทศตะวันออกด้วย เหมือนเขาจะพูดประมาณว่ามันทำให้นึกถึงบ้านเกิดของเขาล่ะมั้งนะ
พอผมถามเมย์ฟาว่าควอนดร้าเป็นอมนุษย์รึเปล่า แต่เธอก็บอกว่าไม่ใช่ เขาเป็นเผ่ามนุษย์ทั่วไป
เหมือนกับผม แต่มันแปลกมาก ทั้งที่เป็นมนุษย์เหมือนผมแต่เขากลับบอกว่าบ้านเกิดเขา
มีวัฒนธรรมคล้ายๆกับประเทศอมนุษย์
สรุปว่าจริงๆแล้วเขามาจากไหนกันแน่นะ?
ตอนแรกผมก็นึกว่าเขาเป็นคนที่มาจากโลกคู่ขนานเหมือนกับผม
แต่รู้สึกว่าเขาจะต่างกับผมนิดหน่อยแฮะ…
“แรกเริ่มเดิมทีแล้ว เขาไปเจอกับโอริออนดีลได้ไงกันนะ…..?”
“คุณควอนดร้าเหรอคะ? อ๊ะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อจริงๆของเขาก็คือ คุออน เคนทาโร่น่ะค่ะ”
พอได้ยินเสียงใสๆแบบนั้น ผมจึงรีบถอยห่างออกไปจากเสียงนั้นโดยสัญชาตญาณ
แต่ถึงผมจะพยายามหนีก็ไม่ไหว เพราะผมปวดเอว….!
แล้วประตูก็ถูกล็อคอยู่ด้วย ผมคงไม่สามารถหนีไปไหนได้อยู่ดี!
“อะ โอริออนดีล! ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ….!?”
“ค่า โอริออนดีลเองค่า! ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะคุณผู้มีพระคุณเรียกหาฉันยังไงล่ะคะ”
ภูติน้อยที่มาพร้อมผมกับชุดสีเขียวและมีเปียกผีเสื้ออยู่ที่หลัง โอริออนดีลนั่นเอง
การที่เธอเอามือแตะแก้มแล้วยิ้มออกมานั่นมันทำให้เธอดูน่ารักจริงๆ
“เอะเฮะเฮะ พอดีฉันได้ยินเสียงของคุณผู้มีพระคุณเรียกชื่อฉันน่ะค่ะ แถมยังสัมผัสได้ถึงคลื่นความรู้สึกสงสัยเหมือนอยากจะถามอะไร ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่ยังไงล่ะคะ”
“กะ ก็จริงอยู่ที่ผมพูดชื่อเธอ แล้วก็ถึงจะมีเรื่องสงสัยด้วยก็เถอะนะ…..!”
ยัยนี่โผล่มาในตอนที่ผมแค่พูดชื่อเธอออกมาเนี่ยนะ!?
แต่จะว่าไปแล้วเธอได้ยินเสียงผมด้วยเรอะ
ทั้งที่อยู่กันคนละโลกเนี่ยนะ!?
“เอะเฮะเฮะ ถึงยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงอยู่ดีสินะคะ♡ ถึงแม้คุณจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงมากมาย แต่คุณผู้มีพระคุณก็คงเหงาอยากเจอฉันจนอดใจไม่ไหวเลยสินะคะเนี่ย♡”
โอริออนดีลบินไปมาเบาๆพร้อมกับเอานิ้วชี้มาแตะที่ปลายจมูกผม
อึก….ใจเย็นๆสิตัวเรา
จะมาลนลานตอนนี้ไม่ได้นะ ต้องใจเย็นๆเข้าไว้ แล้วก็ค่อยๆคุยกับเธอเพื่อหาข้อมูล….!
“ละ ลำบากแย่เลยนะ โอริออนดีลทั้งที่การข้ามโลกไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ยังข้ามโลกมาหาผมเนี่ย”
“ไม่หรอกค่ะ ถึงจะอยู่ได้ไม่นานก็จริง แต่ถ้าเพื่อคุณผู้มีพระคุณแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ ขอบคุณที่คิดถึงฉันนะคะ”
พอพูดเสร็จโอริออนดีลก็บิดตัวไปมา
รอยยิ้มของเธอเรียกว่ารอยยิ้มของนางฟ้าดูท่าจะเหมาะกว่าภูตินะ
มีแค่รูปลักษณ์กับรอยยิ้มของเธอเท่านั้นแหละที่ดูน่ารักล่ะนะ ยัยนี่น่ะ
“แต่ก็อย่างว่านะคะ ครั้งนี้ก็มีเวลาน้อยเหมือนเดิม ดังนั้นเรามารีบคุยกันเถอะค่ะ เอ่อ….คุณผู้มีพระคุณ ตอนนี้คุณอยู่ในกิลด์แห่งความมืดแล้วสินะคะ? น่าคิดถึงจังเลยนะคะ ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วซะด้วยสิคะเนี่ย”
“น่าคิดถึงจังนะงั้นเหรอ….งั้นก็แสดงว่าภูติที่ควอนดร้าพูดถึงก็คือเธอจริงๆงั้นสินะ”
“ค่ะ ใช่แล้วค่ะ คุณคุออนเองก็น่าคิดถึงนะคะ ว่าแต่คุณเรียวทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เหรอคะ? คุณย้ายออกมาจากเมืองคาสซานดร้าแล้วเหรอคะ?”
โอริออนดีลเอียงคอพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ
ผมจึงอธิบายให้โอริออนดีลฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาจนถึงตอนนี้
“ตายจริง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณผู้มีพระคุณจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้…..”
“เพราะงั้นผมเลยอยากให้โอริออนดีลบอกผมหน่อยน่ะว่าควอนดร้าเนี่ยเป็นใครกันแน่? แล้วแหวนวงนี้คืออะไรกัน?”
“อืม…..นั่นสินะคะ ก็เหมือนกับคุณเรียวนั่นแหละค่ะ คุณคุออนเขาก็เป็นคนจากโลกอื่นน่ะค่ะ แต่ถึงจะบอกว่ามาจากโลกอื่น แต่ก็เป็นโลกอยู่ในจักวาลที่แตกต่างจากที่คุณเรียวกำลังอยู่ในตอนนี้น่ะค่ะ”
(ของเรียวเป็นโลกคู่ขนาน ของคุออนเป็นต่างโลก)
“จักรวาล?”
“ค่ะ เอ่อ ถ้าอย่างของคุณเรียว นอกจากเรื่องแนวคิดชายหญิงที่แตกต่างกัน นอกนั้นก็เหมือนกับโลกเดิมหมดเลยใช่มั้ยล่ะคะ”
“อา นั่นสินะ”
“แต่โลกที่คุณคุออนอาศัยอยู่นั้นเป็นโลกที่แตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะค่ะ ทั้งภาษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เลิกเดิมที่เขาเคยอยู่นั้นไม่มีเวทย์มนตร์อยู่เลยล่ะค่ะ โลกของเขาเป็นโลกแห่งวิทยาศาสตร์ และยังเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูงอีกด้วยค่ะ”
ผมเบิกตากว้างกับคำพูดของโอริออนดีล
“โลกที่ไร้เวทย์มนตร์!? โลกแบบนั้น…..?”
“ใช่ค่ะ แล้วทีนี้คุณคุออนก็ได้ประสบอุบัติเหตุจากการจราจร….เอ่อ ถึงฉันจะพูดว่าอุบัติเหตุจราจรไปก็คงจะไม่เข้าใจสินะคะ เอ่อ….ก็ เขาถูกรถม้าเหล็กขนาดใหญ่วิ่งทับและเสียชีวิตลงประมาณนั้นน่ะค่ะ”
(ทรัคซังนั่นเอง)
“ควอนดร้าตายแล้ว? แต่เขา….”
“ค่ะ ในเวลานั้นร่างกายของเขาได้ตายไปแล้วค่ะ เพียงแต่วิญญาณของเขายังคงอยู่ค่ะ”
โอริออนดีลพยักหน้าอย่างจริงจังให้กับคำถามของผม
“ในตอนนั้นเองฉันกำลังอยากรู้เกี่ยวกับโลกที่ไม่มีเวทย์มนตร์อยู่พอดีค่ะ เลยกำลังเฝ้ามองดูโลกนั้นอยู่ห่างๆ ตอนนั้นฉันก็ได้ไปเห็นอุบัติเหตุของคุณคุออนพอดีค่ะ เขาเสียชีวิตเพราะพยายามจะช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่วิ่งออกไปบนถนน แล้วฉันก็รู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำอันเสียสละของเขามากค่ะ”
“หื้ม”
“เพราะงั้นฉันก็เลยตัดสินใจช่วยเขาด้วยการสร้างร่างกายที่แข็งแรงและนำวิญญาณของเขาเข้าไปใส่น่ะค่ะ เพราะร่างเดิมของเขาใช้ไม่ได้แล้ว ฉันจึงได้สร้างร่างกายที่แข็งแรงที่ทนได้ไม่ว่าจะรถบรรทุกหรือรถอะไรชนกระเด็นไปก็ตามขึ้นมาค่ะ”
“อืมๆ”
บอกตามตรงผมไม่รู้เลยว่าไอ้รถบรรทุกนี่มันคืออะไร….แต่ถ้าให้ผมเดา
ก็คือเธอจะมอบร่างกายที่แข็งแกร่งให้กับเขาสินะ
“แต่ว่าฉันก็คำนวนพลาดไปค่ะ….โลกของคุณคุออนนั้นไม่มีเวทย์มนตร์อยู่เลยค่ะ เพราะฉะนั้นการจะสร้างร่างกายใหม่ให้กับคุณคุออนจึงไม่สามารถทำได้ตามกฎของโลกนั้นค่ะ”
โอริออนดีลผ่อนไหล่ของเธอลง
“ฉันจึงขอโทษคุณคุออนและอธิบายให้เขาฟัง ฉันจึงเสนอทางเลือกให้เขาสองทางค่ะ ซึ่งที่เขาเลือกก็คือการให้ไปเกิดใหม่ในโลกที่มีเวทย์มนตร์ที่จะทำให้คุณคุออนมีชีวิตอยู่ในนานค่ะ”
“อย่างงี้นี่เอง เพราะงั้นควอนดร้าถึงมาที่โลกนี้งั้นสินะ……แล้วอีกทางเลือกที่เสนอไปคืออะไรล่ะ?”
“นั่นคือการเอาโลกนั้นมาสร้างใหม่น่ะค่ะ”
(มันคือการ Rebuild เอาโลกที่คุออนอยู่มาทำใหม่ครับ ไม่ใช่สร้างโลกอีกโลกนะ)
“ครับ…….?”
โอริออนดีลยิ้มให้กับผมที่กำลังตัวแข็งเป็นหิน
“ถ้าจะทำให้โลกที่ไม่มีเวทย์มนตร์นั้นไม่ยอมรับการกลับมาของคุณคุออน ก็ต้องทำลายโลกในระดับนึงแล้วสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่น่ะค่ะ เพราะถ้าทำให้โลกนั้นมีเวทย์มนตร์ คุณคุออนก็จะสามารถคืนชีพขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ”
“ทะ ทำลายโลก….?”
“ง่ายใช่มั้ยล่ะคะ เพียงแค่ทำให้ฝนตก หรือไม่ก็ทำให้อุกาบาตตกเพื่อเพิ่มปริมาณในน้ำทะเลเองค่ะ เพราะการทำแบบนี้ง่ายกว่าการสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเยอะเลยค่ะ”
‘ฮู่ว’ โอริออนดีลถอนหายใจแบบนั้นออกมาด้วยความรู้สึกรำคาญ
“และพอฉันให้คุณคุออนเขาเลือกสองทางเลือกนี้ คุณคุออนจึงบอกว่า [กลับชาติมาเกิดที่ต่างโลกดีกว่า ไม่สิ ได้โปรดให้ผมไปเกิดใหม่เถอะครับ] น่ะค่ะ เขาเลยได้ไปเกิดใหม่ที่โลกนี้นั่นเองค่ะ”
“ก็นะ เป็นใครก็คงเลือกข้อนี้กันหมดแหละนะ….”
ผมเริ่มสงสารควอนดร้าซะแล้วสิ
“จะว่าไปเมื่อกี้นี่เธอพูดว่าเขากลับชาติมาเกิดนี่คือมันอะไรน่ะ? เหมือนผมจะได้ยินว่าควอนดร้าพูดว่ากลับชาติมาเกิดพร้อมแหวนด้วยนี่นา”
“อ่า กรณีของคุณเรียวคือร่างกายและวิญญาณยังอยู่ครบ ดังนั้นกรณีของคุณเรียวจึงอยู่ในรูปแบบของการถ่ายโอนวิญญาณเฉยๆน่ะค่ะ แต่ในกรณีของคุณคุออนคือเพราะเขาตายไปครั้งนึงแล้ว เขาจึงต้องเกิดใหม่ที่โลกนี้น่ะค่ะ เลยเรียกว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดนั่นเองค่ะ”
“หืม….?”
“แต่ว่าในโลกเดิมของคุณคุออนน่ะไม่มีทั้งมอนสเตอร์และเวทย์มตร์ เพราะฉะนั้นฉันจึงได้ตัดสินใจสร้างไอเทมหนึ่งขึ้นมาและมอบมันให้กับเขานั่นก็คือแหวนวงนี้นั่นเองค่ะคือฉันก็เสนอไปหลายอันแล้วล่ะค่ะ แต่คุณคุออนก็ยืนยันว่าขอแหวนนี้ดีสุดแล้วน่ะค่ะ…..คือจริงๆแล้วมีหลายอย่างเลยล่ะค่ะที่ฉันเสนอไป ก็อย่างเช่น ดาบที่สามารถผ่ามิติได้หรือไม่ก็ยาศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บหรือโรคภัยได้ ไม่ก็ยาที่ทำให้เป็นอมตะก็มีนะคะ…..อ๊ะ!”
ระหว่างที่กำลังอธิบายอยู่ จู่ๆโอริออนดีลก็ทำหน้าแปลกๆ
เธอมองหน้ามาที่ผมด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนจะขอโทษ
“ระ หรือว่า คุณผู้มีพระคุณเองก็ต้องการไอเทมแบบนั้นบ้างอย่างงั้นเหรอคะ…? ขอโทษนะคะที่ไม่ทันได้สังเกต!”
“!? ไม่ ไม่ ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ! แค่แหวนนี้ก็พอแล้วล่ะ!”
“แต่ว่าแหวนวงนั้นมันก็เป็นของที่คุณคุออนเคยใช้ด้วยนี่สิคะ….ว่าแล้ว ยังไงคุณผู้มีพระคุณก็ต้องได้รับเหมือนกันบ้างค่ะ”
“ขอผ่านครับ! แค่นี้ก็พอแล้วล่ะนะ!”
โอริออนดีลที่ยืนกรานจะให้ไอเทมพิเศษกับผม แต่ผมก็ไม่อยากได้จึงปฏิเสธไป
พวกเราจึงเถียงกันไปมาอย่างดุเดือดซักพักนึงเลย
ครั้งนี้ผมปล่อยผ่านไปไม่ได้จริงๆ
เพราะไอเทมพวกนั้นสุดท้ายแล้วมันเกินกำลังเกินไปสำหรับผมล่ะนะ
ที่ผมจะสื่อก็คือ มันจะกลายเป็นปัญหาโลกแตกเอาน่ะสิ
“ฮึ่มๆๆ…..เข้าใจแล้วค่ะ คุณผู้มีพระคุณนี่ยังคงมักน้อยไม่เปลี่ยนเลยนะคะ แต่มันจะดีแล้วจริงๆเหรอคะ? ถ้าไม่มีอาวุธที่แข็งแกร่งล่ะก็ อย่าว่าแต่จะหนีไปพร้อมกับดาร์กเอลฟ์นั่นเลยค่ะ แค่จะหนีออกไปจากกิลด์แห่งความมืดนี่คนเดียวก็ยังยากเลยล่ะค่ะ”
“ไม่หรอกน่า ต่อให้หนีไปได้ แต่ถ้าคำขอของบารอนคนนั้นไม่ถูกยกเลิกไป กิลด์แห่งความมืดก็จะมาตามล่าผมอยู่ดี”
“แปลว่าขอแค่มีเมจิคไอเทมที่สามารถทำลายล้างพวกกิลด์แห่งความมืดในครั้งเดียวก็พอสินะคะ?”
“ไม่ใช่แล้ว!? เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย…..คือตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณซิลเวียดูจะมีแผนอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นผมเลยจะขอลองเดิมพันกับเธอดูก่อนน่ะ”
“งั้นเหรอคะ…..เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่านะคะคุณผู้มีพระคุณ ได้โปรดระวังตัวด้วยนะคะ”
โอริออนดีลกระพือปีกของเธอบินเข้ามาใกล้หูของผม
จากนั้นเธอก็เอาหน้าเข้ามาใกล้หูผมและกระซิบเบาๆ
“การยกเลิกคำขอของบารอนกับการที่จะทำให้ผู้มีพระคุณออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยน่ะมันคนละเรื่องกันนะคะ”
“เอ๊ะ…”
“ได้โปรดระวังด้วยนะคะ และก็อีกอย่าง…ดูเหมือนว่าจะมีแมวอยู่นอกประตูนะคะ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเข้ามาข้างในด้วย เพราะงั้นเราพักเรื่องนี้กันไว้ก่อนเถอะค่ะ”
พอเธอพูดเสร็จผมก็จ้องไปที่หน้าของโอริออนดีล
ถึงผมจะเหลือคำถามอยู่แต่ร่างกายของโอริออนดีลก็เริ่มจะโปร่งใสแล้ว
และเธอก็ได้ทิ้งท้ายว่า ‘ถ้างั้น แล้วเจอกันใหม่นะคะ’ แล้วเธอก็หายไปพร้อมรอยยิ้มอันสดใส