นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 72

 

หลังจากที่พวกเราออกมาจากห้องอาบน้ำกลางแจ้ง เมย์ฟาก็ได้พาผมไปที่ห้องห้องหนึ่ง

นี่ไม่ใช่ห้องเล็กๆที่เคยใช้ขังผม แต่เป็นห้องกว้างและดูสะอาดกว่าบ้านของผมมาก

เสาทาสีดำสวยงาม เสื่อทาทามิในห้องเป็นสีเขียว มีกลิ่นที่ชวนให้คิดถึงอดีต

 

พอมองไปรอบๆห้อง จะเห็นว่ามีภาพวาดบนผนัง เหมือนจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าคาเคจิคุ(ภาพแขวนที่ม้วนได้)

ห้องดูหรูหราก็จริงแต่ประตูมันล็อค หน้าต่างก็มีเหล็กกั้น

หนีไปไหนไม่ได้แน่นอน สถานะของผมกับคุณซิลเวียก็ไม่ค่อยต่างอะไรกับนักโทษเท่าไหร่อะนะ

 

 

 

ใจกลางของห้องมีฟูกสีขาวที่ปูไว้อยู่ ผมลองทดสอบนั่งไขว่ห้างบนฟูกดู

สบายกว่าฟูกในบ้านของผมเยอะเลยแฮะ

 

จะว่าไป ผมได้ยินมาจากเมย์ฟาว่า สถาปัตยกรรมของที่ของกิลด์แห่งความมืดนี้

ดูจะเน้นสไตล์คล้ายๆกับของอมนุษย์แถวประเทศทางตะวันออกเลย

 

ดูเหมือนว่าสไตล์ของอมนุษย์จะเน้นปูฟูกนอนบนพรมที่เรียกว่าเสื่อทาทามิไปเลยโดยไม่ต้องมีเตียง

และก็ดูเหมือนว่ากิลด์มาสเตอร์คนแรกของกิลด์แห่งความมืดก็จะชอบรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของทาง

ประเทศตะวันออกด้วย เหมือนเขาจะพูดประมาณว่ามันทำให้นึกถึงบ้านเกิดของเขาล่ะมั้งนะ

 

พอผมถามเมย์ฟาว่าควอนดร้าเป็นอมนุษย์รึเปล่า แต่เธอก็บอกว่าไม่ใช่ เขาเป็นเผ่ามนุษย์ทั่วไป

เหมือนกับผม แต่มันแปลกมาก ทั้งที่เป็นมนุษย์เหมือนผมแต่เขากลับบอกว่าบ้านเกิดเขา

มีวัฒนธรรมคล้ายๆกับประเทศอมนุษย์

 

สรุปว่าจริงๆแล้วเขามาจากไหนกันแน่นะ?  

ตอนแรกผมก็นึกว่าเขาเป็นคนที่มาจากโลกคู่ขนานเหมือนกับผม  

แต่รู้สึกว่าเขาจะต่างกับผมนิดหน่อยแฮะ…

 

“แรกเริ่มเดิมทีแล้ว เขาไปเจอกับโอริออนดีลได้ไงกันนะ…..?”

 

“คุณควอนดร้าเหรอคะ? อ๊ะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อจริงๆของเขาก็คือ คุออน เคนทาโร่น่ะค่ะ”

 

พอได้ยินเสียงใสๆแบบนั้น ผมจึงรีบถอยห่างออกไปจากเสียงนั้นโดยสัญชาตญาณ

แต่ถึงผมจะพยายามหนีก็ไม่ไหว เพราะผมปวดเอว….!

แล้วประตูก็ถูกล็อคอยู่ด้วย ผมคงไม่สามารถหนีไปไหนได้อยู่ดี!

 

“อะ โอริออนดีล! ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ….!?”

 

“ค่า โอริออนดีลเองค่า! ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะคุณผู้มีพระคุณเรียกหาฉันยังไงล่ะคะ”

 

ภูติน้อยที่มาพร้อมผมกับชุดสีเขียวและมีเปียกผีเสื้ออยู่ที่หลัง โอริออนดีลนั่นเอง

การที่เธอเอามือแตะแก้มแล้วยิ้มออกมานั่นมันทำให้เธอดูน่ารักจริงๆ

 

“เอะเฮะเฮะ พอดีฉันได้ยินเสียงของคุณผู้มีพระคุณเรียกชื่อฉันน่ะค่ะ แถมยังสัมผัสได้ถึงคลื่นความรู้สึกสงสัยเหมือนอยากจะถามอะไร ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่ยังไงล่ะคะ”

 

“กะ ก็จริงอยู่ที่ผมพูดชื่อเธอ แล้วก็ถึงจะมีเรื่องสงสัยด้วยก็เถอะนะ…..!”

 

ยัยนี่โผล่มาในตอนที่ผมแค่พูดชื่อเธอออกมาเนี่ยนะ!?

แต่จะว่าไปแล้วเธอได้ยินเสียงผมด้วยเรอะ

ทั้งที่อยู่กันคนละโลกเนี่ยนะ!?

 

“เอะเฮะเฮะ ถึงยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงอยู่ดีสินะคะ♡ ถึงแม้คุณจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงมากมาย แต่คุณผู้มีพระคุณก็คงเหงาอยากเจอฉันจนอดใจไม่ไหวเลยสินะคะเนี่ย♡”

 

โอริออนดีลบินไปมาเบาๆพร้อมกับเอานิ้วชี้มาแตะที่ปลายจมูกผม

อึก….ใจเย็นๆสิตัวเรา

จะมาลนลานตอนนี้ไม่ได้นะ ต้องใจเย็นๆเข้าไว้ แล้วก็ค่อยๆคุยกับเธอเพื่อหาข้อมูล….!

 

“ละ ลำบากแย่เลยนะ โอริออนดีลทั้งที่การข้ามโลกไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ยังข้ามโลกมาหาผมเนี่ย”

 

“ไม่หรอกค่ะ ถึงจะอยู่ได้ไม่นานก็จริง แต่ถ้าเพื่อคุณผู้มีพระคุณแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยค่ะ ขอบคุณที่คิดถึงฉันนะคะ”

 

พอพูดเสร็จโอริออนดีลก็บิดตัวไปมา

รอยยิ้มของเธอเรียกว่ารอยยิ้มของนางฟ้าดูท่าจะเหมาะกว่าภูตินะ

มีแค่รูปลักษณ์กับรอยยิ้มของเธอเท่านั้นแหละที่ดูน่ารักล่ะนะ ยัยนี่น่ะ

 

“แต่ก็อย่างว่านะคะ ครั้งนี้ก็มีเวลาน้อยเหมือนเดิม ดังนั้นเรามารีบคุยกันเถอะค่ะ เอ่อ….คุณผู้มีพระคุณ ตอนนี้คุณอยู่ในกิลด์แห่งความมืดแล้วสินะคะ? น่าคิดถึงจังเลยนะคะ ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วซะด้วยสิคะเนี่ย”

 

“น่าคิดถึงจังนะงั้นเหรอ….งั้นก็แสดงว่าภูติที่ควอนดร้าพูดถึงก็คือเธอจริงๆงั้นสินะ”

 

“ค่ะ ใช่แล้วค่ะ คุณคุออนเองก็น่าคิดถึงนะคะ ว่าแต่คุณเรียวทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เหรอคะ? คุณย้ายออกมาจากเมืองคาสซานดร้าแล้วเหรอคะ?”

 

โอริออนดีลเอียงคอพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ

ผมจึงอธิบายให้โอริออนดีลฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาจนถึงตอนนี้

 

“ตายจริง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณผู้มีพระคุณจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้…..”

 

“เพราะงั้นผมเลยอยากให้โอริออนดีลบอกผมหน่อยน่ะว่าควอนดร้าเนี่ยเป็นใครกันแน่? แล้วแหวนวงนี้คืออะไรกัน?”

 

“อืม…..นั่นสินะคะ ก็เหมือนกับคุณเรียวนั่นแหละค่ะ คุณคุออนเขาก็เป็นคนจากโลกอื่นน่ะค่ะ แต่ถึงจะบอกว่ามาจากโลกอื่น แต่ก็เป็นโลกอยู่ในจักวาลที่แตกต่างจากที่คุณเรียวกำลังอยู่ในตอนนี้น่ะค่ะ” 

(ของเรียวเป็นโลกคู่ขนาน ของคุออนเป็นต่างโลก)

 

“จักรวาล?”

 

“ค่ะ เอ่อ ถ้าอย่างของคุณเรียว นอกจากเรื่องแนวคิดชายหญิงที่แตกต่างกัน นอกนั้นก็เหมือนกับโลกเดิมหมดเลยใช่มั้ยล่ะคะ”

 

“อา นั่นสินะ”

 

“แต่โลกที่คุณคุออนอาศัยอยู่นั้นเป็นโลกที่แตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะค่ะ ทั้งภาษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เลิกเดิมที่เขาเคยอยู่นั้นไม่มีเวทย์มนตร์อยู่เลยล่ะค่ะ โลกของเขาเป็นโลกแห่งวิทยาศาสตร์ และยังเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูงอีกด้วยค่ะ”

 

ผมเบิกตากว้างกับคำพูดของโอริออนดีล

 

“โลกที่ไร้เวทย์มนตร์!? โลกแบบนั้น…..?”

 

“ใช่ค่ะ แล้วทีนี้คุณคุออนก็ได้ประสบอุบัติเหตุจากการจราจร….เอ่อ ถึงฉันจะพูดว่าอุบัติเหตุจราจรไปก็คงจะไม่เข้าใจสินะคะ เอ่อ….ก็ เขาถูกรถม้าเหล็กขนาดใหญ่วิ่งทับและเสียชีวิตลงประมาณนั้นน่ะค่ะ”

(ทรัคซังนั่นเอง)

 

“ควอนดร้าตายแล้ว? แต่เขา….”

 

“ค่ะ ในเวลานั้นร่างกายของเขาได้ตายไปแล้วค่ะ เพียงแต่วิญญาณของเขายังคงอยู่ค่ะ”

 

โอริออนดีลพยักหน้าอย่างจริงจังให้กับคำถามของผม

 

“ในตอนนั้นเองฉันกำลังอยากรู้เกี่ยวกับโลกที่ไม่มีเวทย์มนตร์อยู่พอดีค่ะ เลยกำลังเฝ้ามองดูโลกนั้นอยู่ห่างๆ ตอนนั้นฉันก็ได้ไปเห็นอุบัติเหตุของคุณคุออนพอดีค่ะ เขาเสียชีวิตเพราะพยายามจะช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่วิ่งออกไปบนถนน แล้วฉันก็รู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำอันเสียสละของเขามากค่ะ”

 

“หื้ม”

 

“เพราะงั้นฉันก็เลยตัดสินใจช่วยเขาด้วยการสร้างร่างกายที่แข็งแรงและนำวิญญาณของเขาเข้าไปใส่น่ะค่ะ เพราะร่างเดิมของเขาใช้ไม่ได้แล้ว ฉันจึงได้สร้างร่างกายที่แข็งแรงที่ทนได้ไม่ว่าจะรถบรรทุกหรือรถอะไรชนกระเด็นไปก็ตามขึ้นมาค่ะ”

 

“อืมๆ”

 

บอกตามตรงผมไม่รู้เลยว่าไอ้รถบรรทุกนี่มันคืออะไร….แต่ถ้าให้ผมเดา

ก็คือเธอจะมอบร่างกายที่แข็งแกร่งให้กับเขาสินะ

 

“แต่ว่าฉันก็คำนวนพลาดไปค่ะ….โลกของคุณคุออนนั้นไม่มีเวทย์มนตร์อยู่เลยค่ะ เพราะฉะนั้นการจะสร้างร่างกายใหม่ให้กับคุณคุออนจึงไม่สามารถทำได้ตามกฎของโลกนั้นค่ะ”

 

โอริออนดีลผ่อนไหล่ของเธอลง

 

“ฉันจึงขอโทษคุณคุออนและอธิบายให้เขาฟัง ฉันจึงเสนอทางเลือกให้เขาสองทางค่ะ ซึ่งที่เขาเลือกก็คือการให้ไปเกิดใหม่ในโลกที่มีเวทย์มนตร์ที่จะทำให้คุณคุออนมีชีวิตอยู่ในนานค่ะ”

 

“อย่างงี้นี่เอง เพราะงั้นควอนดร้าถึงมาที่โลกนี้งั้นสินะ……แล้วอีกทางเลือกที่เสนอไปคืออะไรล่ะ?”

 

“นั่นคือการเอาโลกนั้นมาสร้างใหม่น่ะค่ะ”

(มันคือการ Rebuild เอาโลกที่คุออนอยู่มาทำใหม่ครับ ไม่ใช่สร้างโลกอีกโลกนะ)

 

“ครับ…….?”

 

โอริออนดีลยิ้มให้กับผมที่กำลังตัวแข็งเป็นหิน

 

“ถ้าจะทำให้โลกที่ไม่มีเวทย์มนตร์นั้นไม่ยอมรับการกลับมาของคุณคุออน ก็ต้องทำลายโลกในระดับนึงแล้วสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่น่ะค่ะ เพราะถ้าทำให้โลกนั้นมีเวทย์มนตร์ คุณคุออนก็จะสามารถคืนชีพขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ”

 

“ทะ ทำลายโลก….?”

 

“ง่ายใช่มั้ยล่ะคะ เพียงแค่ทำให้ฝนตก หรือไม่ก็ทำให้อุกาบาตตกเพื่อเพิ่มปริมาณในน้ำทะเลเองค่ะ เพราะการทำแบบนี้ง่ายกว่าการสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเยอะเลยค่ะ”

 

‘ฮู่ว’ โอริออนดีลถอนหายใจแบบนั้นออกมาด้วยความรู้สึกรำคาญ

 

“และพอฉันให้คุณคุออนเขาเลือกสองทางเลือกนี้ คุณคุออนจึงบอกว่า [กลับชาติมาเกิดที่ต่างโลกดีกว่า ไม่สิ ได้โปรดให้ผมไปเกิดใหม่เถอะครับ] น่ะค่ะ เขาเลยได้ไปเกิดใหม่ที่โลกนี้นั่นเองค่ะ”

 

“ก็นะ เป็นใครก็คงเลือกข้อนี้กันหมดแหละนะ….”

 

ผมเริ่มสงสารควอนดร้าซะแล้วสิ

 

“จะว่าไปเมื่อกี้นี่เธอพูดว่าเขากลับชาติมาเกิดนี่คือมันอะไรน่ะ? เหมือนผมจะได้ยินว่าควอนดร้าพูดว่ากลับชาติมาเกิดพร้อมแหวนด้วยนี่นา”

 

“อ่า กรณีของคุณเรียวคือร่างกายและวิญญาณยังอยู่ครบ ดังนั้นกรณีของคุณเรียวจึงอยู่ในรูปแบบของการถ่ายโอนวิญญาณเฉยๆน่ะค่ะ แต่ในกรณีของคุณคุออนคือเพราะเขาตายไปครั้งนึงแล้ว เขาจึงต้องเกิดใหม่ที่โลกนี้น่ะค่ะ เลยเรียกว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดนั่นเองค่ะ”

 

“หืม….?”

 

“แต่ว่าในโลกเดิมของคุณคุออนน่ะไม่มีทั้งมอนสเตอร์และเวทย์มตร์ เพราะฉะนั้นฉันจึงได้ตัดสินใจสร้างไอเทมหนึ่งขึ้นมาและมอบมันให้กับเขานั่นก็คือแหวนวงนี้นั่นเองค่ะคือฉันก็เสนอไปหลายอันแล้วล่ะค่ะ แต่คุณคุออนก็ยืนยันว่าขอแหวนนี้ดีสุดแล้วน่ะค่ะ…..คือจริงๆแล้วมีหลายอย่างเลยล่ะค่ะที่ฉันเสนอไป ก็อย่างเช่น ดาบที่สามารถผ่ามิติได้หรือไม่ก็ยาศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บหรือโรคภัยได้ ไม่ก็ยาที่ทำให้เป็นอมตะก็มีนะคะ…..อ๊ะ!”

 

ระหว่างที่กำลังอธิบายอยู่ จู่ๆโอริออนดีลก็ทำหน้าแปลกๆ

เธอมองหน้ามาที่ผมด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนจะขอโทษ

 

“ระ หรือว่า คุณผู้มีพระคุณเองก็ต้องการไอเทมแบบนั้นบ้างอย่างงั้นเหรอคะ…? ขอโทษนะคะที่ไม่ทันได้สังเกต!”

 

“!? ไม่ ไม่ ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ! แค่แหวนนี้ก็พอแล้วล่ะ!”

 

“แต่ว่าแหวนวงนั้นมันก็เป็นของที่คุณคุออนเคยใช้ด้วยนี่สิคะ….ว่าแล้ว ยังไงคุณผู้มีพระคุณก็ต้องได้รับเหมือนกันบ้างค่ะ”

 

“ขอผ่านครับ! แค่นี้ก็พอแล้วล่ะนะ!”

 

โอริออนดีลที่ยืนกรานจะให้ไอเทมพิเศษกับผม แต่ผมก็ไม่อยากได้จึงปฏิเสธไป

พวกเราจึงเถียงกันไปมาอย่างดุเดือดซักพักนึงเลย

 

ครั้งนี้ผมปล่อยผ่านไปไม่ได้จริงๆ

เพราะไอเทมพวกนั้นสุดท้ายแล้วมันเกินกำลังเกินไปสำหรับผมล่ะนะ

ที่ผมจะสื่อก็คือ มันจะกลายเป็นปัญหาโลกแตกเอาน่ะสิ

 

“ฮึ่มๆๆ…..เข้าใจแล้วค่ะ คุณผู้มีพระคุณนี่ยังคงมักน้อยไม่เปลี่ยนเลยนะคะ แต่มันจะดีแล้วจริงๆเหรอคะ? ถ้าไม่มีอาวุธที่แข็งแกร่งล่ะก็ อย่าว่าแต่จะหนีไปพร้อมกับดาร์กเอลฟ์นั่นเลยค่ะ แค่จะหนีออกไปจากกิลด์แห่งความมืดนี่คนเดียวก็ยังยากเลยล่ะค่ะ”

 

“ไม่หรอกน่า ต่อให้หนีไปได้ แต่ถ้าคำขอของบารอนคนนั้นไม่ถูกยกเลิกไป กิลด์แห่งความมืดก็จะมาตามล่าผมอยู่ดี”

 

“แปลว่าขอแค่มีเมจิคไอเทมที่สามารถทำลายล้างพวกกิลด์แห่งความมืดในครั้งเดียวก็พอสินะคะ?”

 

“ไม่ใช่แล้ว!? เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อย…..คือตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณซิลเวียดูจะมีแผนอะไรบางอย่างอยู่ ดังนั้นผมเลยจะขอลองเดิมพันกับเธอดูก่อนน่ะ”

 

“งั้นเหรอคะ…..เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่านะคะคุณผู้มีพระคุณ ได้โปรดระวังตัวด้วยนะคะ”

 

โอริออนดีลกระพือปีกของเธอบินเข้ามาใกล้หูของผม

จากนั้นเธอก็เอาหน้าเข้ามาใกล้หูผมและกระซิบเบาๆ

 

“การยกเลิกคำขอของบารอนกับการที่จะทำให้ผู้มีพระคุณออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยน่ะมันคนละเรื่องกันนะคะ”

 

“เอ๊ะ…”

 

“ได้โปรดระวังด้วยนะคะ และก็อีกอย่าง…ดูเหมือนว่าจะมีแมวอยู่นอกประตูนะคะ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเข้ามาข้างในด้วย เพราะงั้นเราพักเรื่องนี้กันไว้ก่อนเถอะค่ะ”

 

พอเธอพูดเสร็จผมก็จ้องไปที่หน้าของโอริออนดีล

ถึงผมจะเหลือคำถามอยู่แต่ร่างกายของโอริออนดีลก็เริ่มจะโปร่งใสแล้ว

และเธอก็ได้ทิ้งท้ายว่า ‘ถ้างั้น แล้วเจอกันใหม่นะคะ’ แล้วเธอก็หายไปพร้อมรอยยิ้มอันสดใส

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset