ตอนที่ 661 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (1)
“นี่เธอไม่รู้หรอกมั้ง งานเลี้ยงตระกูลกู้วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงงานวันเกิดธรรมดา ฉันได้ยินมาว่าตระกูลกู้ตามหากู้เหยียนอวี๋ที่หายสาบสูญในปีนั้นเจอแล้ว ตระกูลกู้ได้คุณหนูใหญ่กลับคืนมาจริงๆ สักที”
“ต้องการประกาศตัววันนี้หรือเปล่า แต่ฉันได้ยินมาว่างานเลี้ยงวันนี้คุณนายกู้เป็นคนจัดเตรียมให้”
“ไม่ยินดีแล้วเธอไม่ต้องเตรียมงานให้เหรอ”
“นั่นก็ใช่”
“ฉันชักสนใจกู้เหยียนอวี๋จริงๆ แล้วสิ เดี๋ยวต้องถ่ายหลายๆ รูปสักหน่อย”
กู้เชินเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีปักกิ่ง กู้ซูหลิงก็เป็นคุณหรูไฮโซชื่อดังมีกระแสในสังคมออนไลน์
สื่อมวลชนพวกนี้ได้ยินข่าวนี้มาตั้งนานแล้วว่าวันนี้ตระกูลกู้จะมีเรื่องใหญ่ ฉะนั้นพวกเขาก็เลยย่องมางานนี้เพื่ออยากได้ข้อมูลข่าวก่อนใคร แล้วยังสามารถถ่ายรูปเดี่ยวคุณหนูใหญ่ตระกูลกู้สักรูป
แต่ว่าใครคือกู้เหยียนอวี๋ล่ะ
สายตาของพวกเขาแทบจะจับจ้องไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกู้ซุหลิงอยู่ตลอดเวลา
ใครๆ ต่างก็คิดว่าเธอคือกู้เหยียนอวี๋เลยพากันกระหน่ำถ่ายรูปเธอ รองานเลี้ยงจบและกู้เชินประกาศตามหาลูกสาวเจอจะได้โพสต์รูปออกไปโดยเร็วที่สุด
เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแขกเหรื่อก็มางานเกือบครบแล้ว ไปทางไหนก็เห็นแต่ชายหญิงสวมชุดหรูหราสง่างามยืนคุยกัน เล่นเกม เต้นรำหรือเล่นไพ่กันเป็นกลุ่มสองสามคน
วันนี้หลิงนีก็มา เธอยืนถือแก้วไวน์แดงอยู่ในมุมจ้องกู้ซูหลิงอย่างเย็นชา
จางอี๋เสวี่ยที่ซุบซิบกลุ่มเพื่อนสาวมายืนข้างเธอก่อนจะบ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก “หลิงนี เธอพึ่งจะฉะกับกู้ซูหลิงไปเมื่อวันก่อน เธอไม่อยากเห็นหน้ากู้ซูหลิงไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้เธอถึงลากฉันมางานเลี้ยงนี่ล่ะ”
“ฉันคิดว่าคุณหนูใหญ่กลับมากู้ซุหลิงต้องไม่ดีใจแน่ๆ ฉันอยากเห็นน้ำหน้าอิจฉาริษยาของกู้ซูหลิง ใครบอกว่ากู้เหยียนอวี๋ไร้ประโยชน์ เธอต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณกู้เชิน แล้วเธอดูสภาพหล่อนสิตามตูดกู้ซูหลิงต้อยๆ เหมือนแมลงหวี่ ไอ้หยา น่าผิดหวังจริงๆ เลย”
หลิงนีพูดพลางยกไวน์ในแก้วขึ้นดื่ม
กู้ซูหลิงทำเหมือนเป็นผีเสื้อโบยบินไปทั่วงาน ถือตัววางท่าสูงส่งมองดูแล้วรำคาญตาจริงๆ
ผู้หญิงที่อยู่ข้างหล่อนต้องเป็นกู้เหยียนอวี๋แน่ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนสวยแต่กลับดูไม่มีสง่าราศี พอมาอยู่ข้างกู้ซูหลิงแล้วช่างดูแตกต่างราวฟ้ากับเหว
มีมาดคุณหนูใหญ่ที่น่ายกย่องภูมิใจของตระกูลกู้ซะที่ไหน ผิดหวังๆ ผิดหวังจริงๆ!
คราวนี้ไม่มีละครให้ดูเสียแล้ว
จางอี๋เสวี่ยปราดตามมองกู้ซูหลิงกับไป๋เสวี่ย จากนั้นจึงเอ่ยด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “งั้นเรากลับกันเถอะ งานเลี้ยงแบบนี้น่าเบื่อจะตาย”
หลิงนีนำแก้วไวน์ในมือวางลงบนโต๊ะข้างๆ อย่างแรง “กลับเถอะ ดูสถานการณ์นี่แล้วก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร หล่อนทำอะไรกู้ซูหลิงไม่ได้หรอก”
ปากบอกว่าจะไปแต่เธอกลับไม่ขยับ นิ้วของเธอลูบปลายคางดวงตาเต็มไปด้วยแผนการบางอย่าง “เธอว่า ถ้าฉันพากู้เหยียนอวี๋ไปเที่ยว จะทำให้กู้ซูหลิงโกรธไหม”
“อะไรนะ พากู้เหยียนอวี๋นั่นเหรอ” จางอี๋เสวี่ยรีบส่ายหน้าพัลวัน สีหน้าเต็มไปด้วยความต่อต้าน “ไม่ๆๆ! ฉันไม่เอาด้วยหรอก ฉันไม่ชอบหล่อน ฉันจะพาไปเที่ยวได้ไงล่ะ”
หลิงนีหัวเราะพลางเอ่ยขึ้น “ใครบอกฉันจะพาไปจริงๆ ล่ะ นี่เรียกว่ายืมมือคนอื่นเพื่อหลอกใช้ต่างหาก กู้ซูหลิงอยากหลอกใช้ฉันให้แกล้งอวี๋กานกาน ทำไมฉันจะหลอกใช้กู้เหยียนอวี๋บ้างไม่ได้ ทำให้กู้ซูหลิงอกแตกตายไปเลยล่ะ ฉันอยากให้กู้ซูหลิงรู้ไว้ว่าคนที่กล้าคิดบัญชีกับฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้อยู่สุขแน่”
ตอนที่ 662 งานเลี้ยง! พลิกล็อกกันน่าดู (2)
จางอี๋เสวี่ยเงียบไปครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า “ช่างมันเถอะ เธออย่าลืมสิว่าช่วงนี้คุณพ่อเธอกำลังเกิดวิกฤต”
เมื่อเอ่ยถึงคุณพ่อ สีหน้าของหลิงนีจึงนิ่งไป รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกแต่เธอก็ยังอดทนเอาไว้ “งั้นไปสิๆ ไม่อยากเห็นหน้ายัยกู้ซูหลิงจะแย่อยู่แล้ว”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะออกไป ตรงประตูทางเข้าก็ได้ยินเสียงของความเคลื่อนไหว
เห็นแค่มีผู้ชายหล่อผู้หญิงสวยเดินเข้ามาทางประตู
ชายหนุ่มร่างเพรียวสูงตระหง่าน สวมชุดสูทสีดำเรียบๆ แต่กลับเหมือนขุนนางจากยุคกลาง กระจายราศีความสูงส่งสง่างามไปทั่วทั้งร่าง
แล้วผู้หญิงที่เคียงข้างเขาก็หน้าตาสะสวย แม้จะไม่ได้นับว่าสวยยั่วยวน แต่เธอกลับมีราศีความสวยสุขุม ให้ความรู้สึกสงบสบายใจเมื่ออยู่ใกล้
ชายหนุ่มผู้เย็นชามาพร้อมรัศมีความหล่อแข็งแกร่งดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในประตู
เขาผุดผ่องดั่งหิมะและน้ำค้าง ในขณะที่สายตาของเขามองเพียงแค่ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายดวงตาเย็นชาแข็งกร้าวถึงจะอ่อนโยนลงมาได้
บริกรชายตรงหน้าประตูเมื่อเห็นฟังจือหันและอวี๋กานกานจึงรีบตะโกนไปข้างหน้าทันที “คุณหนูอวี๋ เชิญครับ”
สำหรับฟังจือหันกลับถูกเมินเฉย นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ฟังจือหันมาร่วมงานเลี้ยงแล้วเจอเหตุการณ์เช่นนี้
อวี๋กานกานรู้สึกประมาทเล็กน้อยจึงเผลอเอามือคล้องแขนฟังจือหันอย่างไม่รู้ตัว
ฟังจือหันเบนสายตามองเธอแล้วตบมือของเธอแผ่วเบา “ทำตัวตามสบายนะ”
เมื่อคู่สร้างคู่สมเดินเข้ามาในโถงงานเลี้ยงจึงดึงดูดบรรดานักข่าวที่ซ่อนตัวอยู่ทันที พวกเขาต่างแปลกใจและตื่นเต้น “คือคุณฟังจือหันนี่เอง รีบถ่ายเร็วๆ เข้า”
“ถ่ายแล้วอย่าพึ่งโพสต์ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างเขาคือใคร”
“คู่หมั้นคุณฟังจือหัน เคยมีคนลงข่าวก่อนหน้านี้”
“…”
มองฟังจือหันและอวี๋กานกานที่เดินเข้าประตู หลิงนีก็เปลี่ยนใจกะทันหัน รีบชะงักขาที่จะก้าวออกไปทันที
จางอี๋เสวี่ยถามเธออย่างไม่เข้าใจ “ทำไมเธอถึงไม่ไปแล้วล่ะ”
หลิงนียิ้มอย่างนึกสนุก “เพราะฉันคิดว่า อาจจะมีละครฉากเด็ดให้ดูอีกน่ะสิ”
จางอี๋เสวี่ยถามอย่างสงสัย “ดูละครของใคร ของกู้ซูหลิงหรือของอวี๋กานกาน”
หลิงนียักไหล่อย่างร้ายกาจ “ใครจะไปรู้ล่ะ ไม่ว่าของใครก็ได้ทั้งนั้น ถึงยังไงจู่ๆ ฉันก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ งานเลี้ยงคืนนี้ต้องมีละครฉากเด็ดให้ฉันได้ดูแน่ๆ”
จางอี๋เสวี่ย “…”
เธอหันไปมองกู้ซูหลิงอีกครั้งแล้วหันไปมองฟังจือหันด้วยดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็รีบเข้าไปหาทันที
เธอทักทายฟังจือหันด้วยสีหน้าเหนียมอาย
จางอี๋เสวี่ยหัวเราะอย่างเย็นชา “กู้ซูหลิงบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่อนุญาตให้นางคบกับฟังจือหัน นางตัดใจจากฟังจือหันได้แล้วเหรอ เธอดูท่าทางระริกระรี้ของนางตอนนี้สิ กลัวว่าจะอดใจแก้ผ้าเข้าหาเขาไม่ไหว ยังบอกว่าตัดใจอีก เหอะ!”
หลิงนีหัวเราะเยาะ “คงมีแต่ผีที่เชื่อนาง เมื่อก่อนคิดว่าฉันไม่รู้แผนของนางหรือไง มาตีสนิทกับฉันเพราะอยากรู้เรื่องของฟังจือหัน ไม่เพียงแต่ลองหยั่งเชิงฉันเท่านั้น แต่ที่ฉันเรียกให้นางออกมาเที่ยวด้วยกันก็เพราะอยากหยั่งเชิงนางด้วยเหมือนกัน ถึงอย่างไรเธอก็รู้ดีว่าฟังจือหันเคารพท่านประธานกู้ขนาดไหน มีช่วงหนึ่งที่ฉันกลัวจริงๆ ว่าฟังจือหันจะยอมหมั้นกับกู้ซูหลิง”
“นี่ดูแล้ว เธอคงไม่ได้เกลียดอวี๋กานกานเท่ากับกู้ซูหลิงหรอกใช่ไหม”
“เกลียดทั้งคู่นั่นแหละ”
“พวกเขาคุยอะไรกัน เราเขยิบไปข้างหน้าหน่อย ฟังว่าพวกเขาพูดอะไรกัน”
“ได้ ไปสิ”
สำหรับกู้ซูหลิงที่อยู่ตรงหน้าแล้วฟังจือหันกลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขามีท่าทีเย็นชาเรียบนิ่ง
ท่าทางเย็นชาเช่นนี้กู้ซูหลิงชินตั้งนานแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกอับอายเลยสักนิด