วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1122 เห็นฉันเป็นอะไรกัน

ปรสิตอ้างว่าพวกเขามีทีมงานและนักแสดงที่น้ำดีกว่ามดราชินี พวกเขาทำงานกับทั้งช่างเทคนิคพิเศษฝีมือชั้นเยี่ยม นักแสดงที่มีชื่อเสียง และคนเขียนบทชื่อดัง พร้อมทั้งการถ่ายทำที่ยิ่งใหญ่ ประกอบกับการประชาสัมพันธ์อย่างดุเดือดของพวกเขาซึ่งทำให้ภาพยนตร์เป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย ดูท่าแล้วพวกเขาคงตั้งใจจะโค่น มดราชินี อย่างเอาเป็นเอาตาย ดังนั้นทุกคนจึงตั้งตารอดูมัน

เมื่อครั้งที่ถังหนิงกับเฉียวเซินสร้างมดราชินีขึ้นมาเป็นครั้งแรก ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ไม่ง่ายเลยที่จะพาภาพยนตร์ไซไฟมาอยู่ในจุดที่เป็นที่สนใจ ทว่าตอนนี้พวกเขากลับพยายามเกาะกระแส ทั้งที่เอาแต่มองคนอื่นทำมันต่อหน้าต่อตา

อย่างไรเสียถังหนิงก็สูญเสียเฉียวเซินไปแล้ว นี่เป็นช่องโหว่ที่ไม่สามารถอุดได้ และเพราะว่าช่องโหว่นี้ มดราชินีสองถึงเป็นไปอย่างทุกลักทุเล

เธอมีนักแสดงและผู้กำกับให้เลือกมากมาย แต่ถังหนิงไม่อาจยอมยืดหยุ่นได้

ไม่นานไป๋จวินเหยี่ยก็ส่งใครบางคนมาจ่ายเงินที่ติดค้างถังหนิงไว้ เขายังได้ส่งคำเตือนมาพร้อมกับเงิน “เจ้าของชุนชิวดูมีเรื่องบาดหมางกับไห่รุ่ย ระวังเอาไว้ด้วย ผมมาเตือนคุณเพื่อเป็นการตอบแทนกับความใจดีของคุณนะ”

พูดในอีกความหมายคือชุนชิวจงใจจะเป็นศัตรูกับไห่รุ่ย

ดูเหมือนว่าพวกเขาหมายมั่นว่าจะท้าทายราชา

ดังนั้นถังหนิงจึงส่งต่อข้อความนั้นไปให้โม่ถิงและถามดูว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่

เมื่อโม่ถิงได้ยินเรื่องที่ไป๋จวินเหยี่ยเตือน เขากดปุ่มเรียกทันที “ลู่เช่อเข้ามาด้านในที”

“ท่านประธานครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“ช่วยฉันสืบเบื้องหลังของชุนชิวที ตรวจสอบที่มาที่ไปของพวกเขาซะ…” โม่ถิงออกปากสั่ง

“โอเคครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ลู่เช่อเอ่ยก่อนจะออกจากห้องทำงานไป

“ถังหนิง ส่วนเรื่องผู้กำกับของคุณ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอกครับ ตอนที่คุณเตรียมการหนังเรื่องแรก เราไม่มีทางเลือกนอกจากเร่งมือด้วยเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามา แต่ตอนนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้ เราไม่จำเป็นต้องร้อนใจเพราะสิ่งที่คนอื่นทำหรอกครับ โดยภาพรวมความก้าวหน้าในวงการไซไฟก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว” โม่ถิงเอ่ยนิ่งๆ “ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ ใช้เวลาหาคนที่เหมาะสมเถอะครับ”

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณพอมีเวลาไปเยี่ยมลูกๆ กับฉันที่บ้านของแม่ไหมคะ”

“แน่นอนครับ” โม่ถิงพยักหน้ารับ

อันที่จริงถังหนิงไม่ได้รีบถ่ายทำมดราชินีสอง เธอแค่กังวลกับคำพูดของไป๋จวินเหยี่ยเท่านั้น

หากแต่ถังหนิงไม่รู้ว่าในตอนนั้น ทีมงานที่ชัยชนะนั้นได้ถูกปรสิตซื้อตัวออกไปแล้ว

ทีมงานตัดต่อที่ถังหนิงเป็นคนฝึกมากับมือ ทีมงานที่สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ในมดราชินีอยู่ๆ ก็นึกทะเยอทะยานอยากขึ้นไปให้สูงกว่านี้ ทันทีที่อีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าให้ พวกเขาก็กระโดดเข้าไปอยู่ค่ายคู่แข่ง หากพวกเขาทำตามกระบวนการอย่างถูกต้องถังหนิงก็คงห้ามอะไรไม่ได้

ที่แย่ที่สุดคือถังหนิงต้องมารับรู้เรื่องนี้จากปากหลงเจี่ย

ชุนชิวซื้อตัวทีมงานทั้งหมดที่ชัยชนะไป และเสนอเงินก้อนโตให้พวกเขาเพื่อปรสิต พวกเขายอมแลกทุกอย่างที่มีอยู่ในมือเพื่อให้ได้ทีมงานตัดต่อที่ดีที่สุดไป

ถังหนิงติดต่อผู้จัดการของทีมงาน เมื่อก่อนตอนที่อยู่อเมริกา พวกเขาทุ่มเทเพื่อก้าวผ่านทุกอุปสรรคมาด้วยกัน แต่ตอนนี้พวกเขากลับหักหลังเธอและเฉียวเซินเพราะความโลภของตัวเอง

แต่แน่นอนว่าทีมงานอับอายเกินจะสู้หน้าถังหนิง พวกเขาจึงแค่ส่งเงินค่ายกเลิกสัญญามาให้และจากไป

เมื่อข่าวเรื่องนี้หลุดออกมา มันได้สร้างความแตกตื่นไม่น้อย ผู้คนต่างรู้สึกอึ้งพอๆ ความทุ่มเทของถัง

หนิงในการสร้างทีมงานขึ้นมา

ถึงอย่างไรถังหนิงก็เป็นหัวหน้าที่ดี คนพวกนี้ทอดทิ้งเธอไปหาคนอื่นได้อย่างไร

ในวงการส่วนใหญ่การเปลี่ยนงานถือเป็นเรื่องปกติที่คนจะย้ายไปเรื่อยๆ ทว่าตอนนี้ถังหนิงขาดทั้งผู้กำกับและทีมงานตัดต่อ เธอจะสร้างมดราชินีสองขึ้นมาได้อย่างไร

ในตอนนี้เองที่ทีมงานของชัยชนะออกมาขอบคุณกับสาธารณชนสำหรับการดูแลและสนับสนุนถังหนิง แต่นั่นกลับเป็นเพียงการสาดเกลือใส่แผลของเธอเท่านั้น

เมื่อหลงเจี่ยรู้เรื่องนี้ครั้งแรก เธอเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธ

หากแต่ถังหนิงยังคงสงบนิ่งเหมือนอย่างเคย

“คุณไม่โกรธเหรอคะ”

“เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ โกรธไปจะมีโยชน์อะไรล่ะ” ถังหนิงถามกลับ

“ใช่ครับ ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อคุณสร้างชัยชนะมาได้ ผมมั่นใจว่าคุณก็สร้างทีมงานใหม่ขึ้นได้ มดราชินีตายไปแล้วงั้นก็มาประกอบและปลุกมันขึ้นมาอีกครั้งกันเถอะครับ” โม่ถิงเอ่ยขณะที่เขากลับมาถึงบ้านและเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“ตอนนี้เราอยู่ในระดับนี้แล้ว ไม่ได้ขาดคนแน่นอนอยู่แล้วค่ะ แค่รู้สึกแย่ที่ถูกหักหลังน่ะค่ะ” หลงเจี่ยอธิบาย

“ทุกคนก็มีทางเลือกในชีวิตตัวเองทั้งนั้นแหละ แต่พวกเขาก็ต้องรับผลที่ตามมาจากการตัดสินใจของพวกเขา” ถังหนิงเอ่ยก่อนที่จะเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบน จากนั้นจึงแวะส่งหลงเจี่ยที่บ้านและไปเยี่ยมลูกๆ กับโม่ถิง

“ฉันมีคำแนะนำค่ะ” ถังหนิงพูดกับโม่ถิงระหว่างทางไปบ้านตระกูลถัง

“ผมเองก็มีคำแนะนำเหมือนกัน แต่คุณพูดก่อนเถอะ” โม่ถิงตอบ

“ตอนนี้ทีมงานที่ชัยชนะออกไปหมดแล้ว เราต้องหาคนมาแทนที่พวกเขา ไม่สิ ว่ากันตามจริง เราต้องสร้างทีมงานใหม่เลยต่างหาก ฉันเลยวางแผนว่าจะไม่หาคนที่เชี่ยวชาญในการตัดต่อแต่จะหาคนที่เก่งด้านไอทีแทนน่ะค่ะ คุณอาจเคยได้ยินว่ามีเด็กอัจฉริยะในจีนอยู่บ้าง ถึงพวกเขาจะจัดการไม่ง่าย แต่ความคิดนอกกรอบของพวกเขาก็อาจจะช่วยเราสร้างผลงานที่น่าสนใจออกมาได้นะคะ” ถังหนิงอธิบายเสียงเรียบ

“เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไม่ถูกหักหลังอีกล่ะครับ” โม่ถิงถาม

“ถ้าเขาจะต้องทำสุดท้ายเขาก็จะทำอยู่ดีนั่นแหละค่ะ” ถังหนิงหัวเราะ “แต่เชื่อฉันเถอะค่ะ เทียบกับคนที่ศึกษามาตรงสายแล้ว ความเห็นแก่เงินของคนพวกนี้ต่างกันมากโขเลยล่ะค่ะ”

“ลู่เช่อได้ข่าวมาว่าชัยชนะจะนัดเจอกับทีมงานของปรสิตที่โรงแรมไดนัสตีในอีกไม่กี่วันนี้ ถ้าคุณมีเวลาก็แวะไปเอาคืนสักหน่อยสิครับ”

“แน่นอนค่ะ กล้าดียังไงมาตีจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอย่างนี้ เห็นฉันเป็นอะไรกัน แล้วเรื่องที่คุณจะแนะนำคืออะไรล่ะคะ”

“จริงๆ อาจจะพอมีทางที่จะถ่ายทำแบบเฉียวเซินต่อได้นะครับ” โม่ถิงอธิบาย “มีใครบางคนติดต่อผมมาเมื่อเช้าและบอกว่าเธอช่วยคุณได้ทันทีถ้าคุณยอมรับเธอ”

“ใครคะ”

“ลูกสาวของเฉียวเซินครับ” โม่ถิงตอบ “หลังจากคอยช่วยพ่อมานานหลายปี ความคิดของเขาก็ซึมซับฝังในความคิดของเธอทีละนิด เธออาจจะไม่ได้เรียนด้านการกำกับภาพยนตร์มาโดยตรง แต่เธอก็เป็นช่างกล้องที่มีฝีมือมากจนพาหนังสั้นของเธอคว้าชัยชนะได้หลายรางวัลเลยนะครับ

“คุณจะยอมเชื่อใจเธอไหมครับ”

“แน่นอนค่ะ” ตอนนี้เองที่น้ำตาของถังหนิงแทบร่วงลงมา เพราะเธอรู้สึกราวกับว่าเฉียวเซินได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“ถ้างั้นผมจะนัดให้พวกคุณเจอกันให้เร็วที่สุดนะครับ”

“นี่อาจจะเป็นข่าวดีที่สุดที่ฉันได้รับเลยนะคะเนี่ย” อยู่ๆ ถังหนิงก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา

“ขอบคุณคุณมากนะคะ…”

แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย หากแต่พระเจ้าก็ได้มอบสิ่งที่ดีกว่าให้กับพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาไม่ยอมแพ้ก็ยังมีหวังอยู่เสมอ

“แล้วลู่เช่อเจออะไรเกี่ยวกับเบื้องหลังของชุนชิวบ้างไหมคะ”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset