บทที่ 285 ความผิดปกติในบริษัทฮัวหรง
บทที่ 285 ความผิดปกติในบริษัทฮัวหรง
เช้าวันถัดมา
หลังจากอวี้ฮ่าวหรานส่งลูกสาวของเขาเสร็จเรียบร้อย เขาก็ตามหลี่หรงไปที่บริษัทของเธอ
เมื่อไปถึงหน้าตึกบริษัทฮัวหรง ชายหนุ่มแหงนมองดูตึกเล็ก ๆ สูงสามชั้นพลางถอนหายใจ
เขาเกือบลืมไปแล้วว่าตั้งแต่ที่ตัวเองกลับมาโลกนี้ เวลามันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว
ในตอนนั้นเขายังเป็นแค่เซลซ์แมนอยู่เลย แต่ตอนนี้กลายมาเป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองฮ่วยอันเป็นที่เรียบร้อย มันมีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายจริง ๆ นับตั้งแต่เขากลับมา
“พี่ยืนเหม่ออะไรของพี่เนี่ย? ไปกันพี่เขย…รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ!”
หลี่หรงไม่เข้าใจว่าทำไมอวี้ฮ่าวหรานถึงยืนเหม่อลอยแบบนี้ เธอจึงเร่งเร้าเขาทันที
แต่แล้วหลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปถึงออฟฟิศของหลี่หรง อวี้ฮ่าวหราน เหลือบมองเอกสารมากมายที่วางกองพะเนินระเกะระกะบนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนน้องภรรยาของเขาคงยุ่งและรีบมากเพื่อที่จะกลับบ้านให้เร็วที่สุด
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกอบอุ่นในใจเล็กน้อย แม้ว่าจะงานยุ่ง แต่น้องภรรยาของตัวเองก็ยังพยายามรีบกลับบ้านมาทำอาหารให้เขากับถวนถวนกิน
หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ อวี้ฮ่าวหรานก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสบาย ๆ “เอาล่ะ พวกเรามาคุยกันเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทเธอกันเลย พี่จะได้ช่วยจัดการให้เธอ”
“พี่เขย นั่นมันเก้าอี้ของฉัน!”
หลี่หรงรู้สึกจนใจ นี่มันในบริษัทของเธอแท้ ๆ แต่พอมาถึง พี่เขยของเธอกลับนั่งเก้าอี้ผู้บริหารเลยเนี่ยนะ?
แต่เธอก็รู้ดีว่าเวลานี้ควรให้ความสำคัญกับเรื่องไหนก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นจึงเริ่มอธิบายสถานการณ์ของบริษัทเธอออกมาตามตรง
“หลังจากที่ฉันกลับมาจากไปเที่ยวกับพี่ สองวันที่แล้วฉันพบว่า บัญชีมันถูกปรับแต่งและมีเงินบางส่วนในบริษัทหายไป เมื่อวานฉันก็เลยพยายามหาข้อมูลบัญชีย้อนหลังอยู่จนดึกดื่น”
“ถูกปรับแต่งบัญชี?”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ในบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ซึ่งหากมันเกิดขึ้นก็หมายความว่าปัญหาใหญ่นี้เกิดขึ้นจากน้ำมือคนในบริษัท!
“แล้วฝ่ายบัญชีของเธอไปไหน? พวกเขาไม่ได้ให้คำอธิบายกับเธองั้นเหรอ?”
“ฝ่ายบัญชีคนเก่าสองคนลาออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนสองคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ก็ไม่รู้อะไรมากนัก มันดูเหมือนว่าบัญชีมีปัญหามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
“แล้วเธอได้โทรไปถามพนักงานฝ่ายบัญชีสองคนที่ลาออกไปแล้วหรือยัง?”
อวี้ฮ่าวหรานยิ่งขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ ดูเหมือนว่าปัญหานี้มันจะซับซ้อนมากกว่าที่คิด
“แน่นอน ฉันลองโทรไปถามแล้ว แต่พวกเขายืนยันว่าก่อนที่พวกเขาจะลาออก บัญชีทั้งหมดเรียบร้อยดี แถมยังมีหลักฐานยืนยันว่าพวกเขาบริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้”
หลี่หรงรู้สึกปวดหัวมากกับเรื่องนี้จนเมื่อวานเธอแทบไม่ได้กินไม่ได้พักเพื่อพยายามตรวจสอบบัญชีทั้งหมดในบริษัท
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จะไปที่ฝ่ายบัญชีและตรวจสอบข้อมูลบัญชีให้อีกที ส่วนเธอก็นั่งพักไปก่อน ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพี่”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปในทันที
เนื่องจากก่อนหน้านี้อวี้ฮ่าวหรานมาที่บริษัทของหลี่หรงบ่อย พวกพนักงานของที่นี่ส่วนใหญ่จึงจำหน้าชายหนุ่มได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะเดินเตร่ไปที่ไหนจึงไม่มีใครเข้ามาห้ามปรามเขา
แต่หลังจากเดินดูไปตามแผนกต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้สึกว่ามีบางอย่างมันไม่ถูกต้อง
ทำไมตอนนี้มีพนักงานหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเยอะขนาดนี้?
สาเหตุที่เขารู้ได้ว่ามีพนักงานใหม่เข้ามา เป็นเพราะพวกพนักงานเหล่านั้นกำลังได้รับการอบรมจากพนักงานรุ่นพี่
ในขณะที่เดินดูไปเรื่อย ๆ หลี่หรงก็วิ่งตามมาสมทบ
“พี่เขย ให้ฉันไปกับพี่ด้วยดีกว่า ไม่ว่ายังไงที่นี่มันคือบริษัทของฉัน ฉันต้องรู้ทุกอย่างเช่นกัน” เธอเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบรับ เพราะเขาเองก็มีคำถามที่คาใจอยากจะถามอีกฝ่ายเช่นกัน
“ช่วงที่ผ่านมานี้มันมีปัญหาเกี่ยวกับบุคลากรในบริษัทของเธอหรือเปล่า?”
“หืม? ไม่นะพี่เขย พนักงานทุกคนของฉันปกติดีไม่มีใครมีปัญหาอะไรหรอก แต่ก่อนหน้านี้ฝ่ายบุคคลแจ้งมาเหมือนกันว่ามีพนักงานบางส่วนได้ทยอยลาออกไป”
หลี่หรงตอบกลับโดยไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่มีปัญหาอะไร
“แปลกจริง ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานพึมพำกับตัวเอง คิ้วของเขาขมวดแน่นแทบจะติดกัน
“ฝ่ายบุคคลของเธอได้แจ้งไหมว่าพวกเขาได้หาคนมาแทนพวกพนักเก่าที่ออกไป?”
“เอ่อ…ก็จริง ตอนนี้มีคนหน้าใหม่เข้ามาในบริษัทของฉันเยอะจริง ๆ ด้วย ทำไมฝ่ายบุคคลไม่เห็นแจ้งอะไรฉันเลย? เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะไปถามเขาตอนนี้เลยก็แล้วกัน”
เมื่อถูกถามคำถามนี้ หลี่หรงก็เพิ่งนึกได้ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องปกติ
สองวันที่ผ่านมานี้ หลี่หรงเอาแต่สนใจในเรื่องของบัญชีจนมองข้ามปัญหานี้ไปเลย ดังนั้นในตอนนี้เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้ง เธอก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างไม่ถูกต้อง…
อวี้ฮ่าวหรานยิ่งขมวดคิ้วแน่นมากขึ้นไปอีก และหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดว่าต้นตอของปัญหามันไม่น่าจะเกิดจากฝ่ายบัญชีแน่นอน
“พวกเราไม่ต้องไปฝ่ายบัญชีกันแล้ว พวกเราตรงไปที่ฝ่ายบุคคลกันเลย”
หลังจากพูดขึ้นเขาเดินเลี้ยวไปอีกทาง
“เอ๊ะ? ปัญหามันเกิดจากฝ่ายบุคคลเหรอพี่เขย?”
หลี่หรงรู้สึกแปลก ๆ กับฝ่ายบุคคลเช่นกัน แต่เธอยังคงไม่คิดว่าฝ่ายบุคคลคือต้นตอของปัญหาทั้งหมด
“เอาเป็นว่าเธอตามพี่ไปก็พอ พี่มั่นใจว่าเราจะได้เรื่องแน่นอน”
หลังจากที่เดินไปได้ครู่หนึ่ง ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าออฟฟิศของหัวหน้าฝ่ายบุคคล
แต่แล้วด้วยประสาทการรับฟังที่เหนือมนุษย์ของอวี้ฮ่าวหราน เขาได้ยินเสียงคนที่อยู่ด้านในพูดคุยกันอย่างชัดเจนทันที
“…หลังจากแผนการของเราสำเร็จ เมื่อตระกูลอู๋ฮุบบริษัทนี้ได้แล้ว นังเด็กน้อยหลี่หรงนั่นจะต้องคลั่งแน่นอน…”
“ฮึ่ม! ตอนนี้นังเด็กโง่นั่นคงกำลังเอาแต่ดูบัญชีจนหัวหมุนเหมือนเดิม ฉันเห็นว่าเมื่อวานมันอยู่ที่บริษัทจนดึกดื่น”
“ก็แค่เด็กไร้ประสบการณ์จะเอาปัญญาที่ไหนมาสู้กับเรา หึหึ…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็โมโหขึ้นมาทันที
เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาอย่างที่เขาคิดเอาไว้เลย!