อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 48

ประกาศ เนื่องจากความเบลอเลยทำให้แปลตกไปฮับ ที่ฮิคารุเห็นตอนท้ายดูเหมือนว่าจะเป็นยักษ์ที่เปล่งแสงสีม่วงฮับ ขออภัย

ตอนที่ 48 เมืองใต้ดินของเทฑโบราณ 7

ทันทีที่เห็นยักษ์ตัวนั้น ฮิคารุรีบปิดหน้าต่างทันที ลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าถ้าจ้องนานไปอาจจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นก็ได้

แสงที่เคยส่องสว่างทั่วปราสาทตอนนี้ได้มืดลงแล้ว จากที่ฮิคารุลองใช้ตรวจจับมานาดู ดูเหมือนว่าพวกอันเดดนั้นจะสับสนเล็กน้อยแต่ก็กลับมาเป็นปกติในเวลาไม่นาน

ตอนนี้ห้องที่ถูกส่องสว่างด้วยตะเกียงเพียงดวงเดียว ฮิคารุและลาเวียนั่งลงบนเก้าอี้ที่ยังคงอยู่ที่นี่มาตลอดร้อยปี

“เห็นนั่นมั้ยน่ะ” ฮิคารุถาม

“เห็นสิ เจ้ายักษ์นั่นมันอะไรกันน่ะ”

“เคยอ่านเจอในนิยายบ้างมั้ย”

“เหมือนว่าจะไม่เคยมีหนังสือเกี่ยวกับยักษ์เลยนะ อ๊ะ แต่ดูเหมือนจะมีตำนานที่บอกว่ายักษ์เป็นนักรบของพระเจ้าด้วยล่ะ”

“โอ้ นักรบของพระเจ้าสินะ”

ทั้งคู่สบตากัน

“ฉันว่าฉันพอจะเดาออกแล้วล่ะว่าทำไมเมืองนี้ถึงกลายเป็ฯแบบนี้น่ะ”

“พวกนั้นพบเจอกับวามพิโรธของเทพสินะ”

“…..”

“…”

ทั้งคู่เงียบไป

น่ากลัวแฮะ ปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ ยังไงโลกนี้เองก็มีตัวตนของพระเจ้าออกมาอยู่แล้วด้วย

ในกระเป๋าของฮิคารุเองก็มีบัตรกิลด์ที่มีผลอวยพรจากพระเจ้าอยู่ด้วย

“ลืมเรื่องยักษ์นั่นไปก่อน ตอนนี้เรามาตรวจสอบที่นี่กันเถอะ”

การสั่นสะเทือนหยุดลง อย่างที่คิดไว้ มันเกี่ยวกับแสงนั่นจริงๆ ฮิคารุเริ่มด้วยการดูกระดาษหนังสัตว์ก่อน เพราะว่าเขาจับมือลาเวียไว้ตลอดไม่ได้ เขาเลยให้ลาเวียแตะตัวเขาไว้ก่อน ดูเหมือนว่าอำพรางหมู่จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผิวหนังสัมผัสกันเท่านั้น

[ปี XX เดือน X วันที่ X การประชุม สองวันหลังจากที่เมืองหลวงถูกย้ายมาที่ใต้ดิน]

“อ๊ะ แจ็คพ็อตล่ะ ดูเหมือนว่าจะถูกเคลื่อนย้ายลงมาจริงๆด้วยสินะ”

ฮิคารุอ่านออกเสียงให้ลาเวียได้ยิน

[การประชุมเพื่อหาวิธีรับมือกับยักษ์ที่โจมตีเมือง เจตนารมณ์ของฝ่าบาทยังเป็นปริศนา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมต้องการให้นำเมืองกลับขึ้นไปบนผืนดินแล้วสู้กับยักษ์ รัฐมนตรีการคลัง พูดถึงเรื่องความหายนะของเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ปฏิบัติการณ์เกี่ยวกับทรัพยากรมานาศักดิสิทธิ์ก็ไปได้ไม่ดีนัก

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรายงานเรื่องของประชาชน ที่ยินดีเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจของฝ่าบาท ในขณะที่การขาดมานาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับประชาชนมากนัก

การประชุมถูกหยุดชั่วคราวเมื่อมีเสียงคำรามดังเหมือนกับจะทำให้ท้องฟ้าแยกออกจากกัน รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์พูดถึงเรื่องทีมีอะไรบางอย่างคิดจะเข้ามาในเมืองแต่ว่าถูกกันไว้โดยบาเรีย รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้ออกคำสั่งให้เหล่าอัศวินตื่นตัวเข้าไว้

เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ดังกว่าเดิมมาก]

บันทึกจบแค่นี้

“[อะไรบางอย่าง]ที่พยายามจะเข้ามาในเมืองเนี่ย หมายถึงยักษ์นั่นเหรอ” ลาเวียถาม

“ถ้าเป็นแบบนั้น ทุกอย่างก็เริ่มเข้าใจได้แล้วล่ะ ว่าทำไมที่นี่ถึงมีทหารนิ้ย พวกนั้นคงจะไปสู้กับยักษ์แล้วโดนฆ่าตายหมดล่ะมั้ง”

“ดูเหมือนว่าในนี้จะใช้คำว่าศักดิ์สิทธิ์เยอะจังนะ”

“ดูเหมือนว่าพวกนี้จะมีอะไรบางอย่างที่ย้ายเมืองลงมาใต้ดินได้ แล้วก็คิดว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงสินะ”

ในนี้พูดถึงเรื่องย้ายเมืองกลับไปบนพื้นดินด้วย แปลว่าพวกนี้อาจจะเป็นคนที่ย้ายเมืองลงมาเองก็ได้

หรือก็คือ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เวทมนต์เพื่อเคลื่อนย้ายเมือง และโชคไม่ดีที่เทคโนโลยีนั่นหายสาบสูญไปแล้วด้วย

“แล้วทำไมยักษ์ถึงเข้าโจมตีเมืองล่ะ เราไม่รู้หรอกว่าไอ้เจ้า [ทรัพยากรมานาศักดิ์สิทธิ์]น่ะมันคืออะไรด้วย แล้วทำไมคนทั้งเมืองถึงกลายเป็นอันเดดล่ะ นี่เป็นเพราะว่าความพิโรธของเทพเจ้าเหรอ” ลาเวียถาม

“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ บางทีเราคงต้องหาข้อมูลมากกว่าน….”

แผ่นดินเริ่มไหวอีกครั้ง ฝุ่นมากมายเริ่มคลุ้ง

“ฉันว่ายักษ์นั่นน่าจะหยุดแล้วล่ะ บางทีมันอาจจะเห็นเราแล้วก็ได้”

“เดี๋ยวนะ ฮิคารุ นี่มัน” ลาเวียชี้ไปที่สิ่งหนึง่บนโต๊ะ

“ผังครอบครัวราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์น่ะ ทำไมเหรอ”

“ทำไมมันมาอยู่ที่นี่ล่ะ บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกนั้อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินก็ได้นะ”

“เจ๋งมากลาเวีย”

ฮิคารุกางผังครอบครัวออก มีทั้งชื่อของคนที่แต่งงานด้วย แล้วก็คนที่ออกไปจากครอบครัวด้วย

อะไรน่ะ เหมือนจะรู้สึกถึงเวทอะไรบางอย่างได้จากไอ้นี่แฮะ สำคัญรึเปล่านะ แล้ว…

ปกติแล้วสุดท้าชื่อนั้นจะจบด้วย จี โพเอลซีเนีย แต่ว่า นี่มีทั้งพวกที่กลับมาเข้าตระกูล พวกที่แต่งงานกับราชวงศ์ ชื่อของพวกนั้นเองก็ถูกเชียนไว้ด้วย และพ่อของราชานั้นมาจากตระกูลชนชั้นสูงที่ต่างออกไป และมีชื่อของเขาเขียนไว้ในทุกที่

“วาล์ว”

ชัดเจนว่ากราฟาสตี้ต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องแน่ๆ

“ฮิคารุ!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งคู่มองออกไปที่นอกหน้าต่างแล้วพบว่ายักษ์นั่นกำลังตรงมาทางนี้

“ดูไม่เหมือนกำลังยืดเส้นยืดสายเลยนะเนี่ย”

“มันกำลังมาทางนี้รึเปล่าน่ะ”

“บางทีน่ะ ลาเวีย เตรียมตัวไว้นะ”

“เตรียมอะไรอะ”

“ฆ่าราชาไงล่ะ อ๊ะ หมอนั่นตายอยู่แล้วนี่นา”

ลาเวียตัวแข็งทื่อ

“..เข้าใจแล้ว ถ้านายว่าอย่างนั้น เราจะจัดการเอง”

“ขอบใจนะ พูดให้ถูกก็คือ ฉันจะจัดการราชาเอง ส่วนเธอ ฝากพวกลูกกระจ๊อกด้วยนะ”

“เข้าใจแล้ว”

ฮิคารุยัดเอกสารลงไปในกระเป๋า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ว่า กราฟาสตี้น่าจะอยากได้มันมากแน่ๆ จะเอากลับไปก็ไม่เสียหาย แล้วทั้งคูเองก็ไม่มีเวลามาตรวจสอบมากนักด้วย ทั้งคู่จูงมือกันและออกจากห้องเอกสารไป

ทั้งเครื่องตรวจจับที่สามารถตรวจจับมนุษย์ได้ แสงที่ดูเหมือนกับการใช้ไฟฟ้า มันคือสิ่งที่ฮิคารุไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่มาอยู่โลกนี้

ทรัพยากรไฟฟ้า …. ทรัพยากรมานาศักดิ์สิทธิ์ 

พื้นสั่นตามจังหวะการเดินของยักษ์ ลาเวียและฮิคารุ ก็ตรงไปที่ห้องบัลลังก์

“งั้น เราจะจัดการราชาแล้วตรงไปที่ห้องสมบัติสินะ”

“ใช่แล้วล่ะ เราสู้กับยักษ์นั่นไม่ไหวหรอก การหนีน่าจะดีที่สุดล่ะนะ”

ฮิคารุค่อนข้างมั่นใจว่ายักษ์นั่นเป็นตัวการที่ทำให้คนทั้งเมืองกลายเป็นอันเดด เพราะว่าประชากรที่เรียกตัวเองว่าเป็นพวกศักดิ์สิทธิ์ไม่มีทางฆ่าตัวตายและกลายเป็นอันเดดแน่นอน แล้วอีกอย่างยักษ์นั่นทำลายทุกอย่างเป็นวงกว้างด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องทรงพลังแน่นอน 

ทหารของพระเจ้าเหรอ..

ศัตรูขนาดใหญ่นั้นมันเกินมือฮิคารุอยู่แล้ว

“ลาเวีย ถึงแล้วล่ะ”

ทั้งคู่หยุดที่หน้าห้องบัลลังก์ ฮิคารุยังได้ยินเสียงของพวกอันเดดที่กำลังคุยกันอยู่

พวกมันไม่ได้ขยับไปไหนเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าจะมียักษ์อยู่ใกล้ๆก็ตาม บางทีพวกนี้อาจจะถูกเปลี่ยนเป็นอันเดดโดยไม่รู้ตัวก็ได้

“เดี๋ยวฉันจะไปจัดการราชาเอง เธออยู่ตรงนี้แล้วร่ายเวทไว้นะ ถ้าฉันปล่อยมือเมื่อไรพวกมันจะเห็นเธอทันที แต่เธอก็จัดการพวกมันด้วยเวทมนต์ซะล่ะ”

“อะ อืม”

“ไม่ต้องยั้งมือล่ะ ฉันไม่เป็นไรอยู่แล้ว”

“จริงๆนะ?”

“อืม สัญญาเลย ปกติฉันก็ระวังตัวอยู่แล้วล่ะ”

มือของฮิคารุคลายลง

“…นายนี่ขี้โกหกจังเลยนะ”

“ฉันไม่ได้อยากตายหรอกน่า แล้วอีกอย่างฉันก็คำนาณความเสี่ยงอยู่แล้วเวทของเธออาจจะกระจายเป็นวงกว้างก็จริง แต่แค่ไปหลบหลังกำแพงก็เรียบร้อยแล้วล่ะ”

“เข้าใจแล้ว”

“ฉันไม่เป็นอะไรแน่นอน ไม่ว่าเธอจะใช้เวทแบบไหนก็ตาม”

“เราเชื่อนายก็ได้” ลาเวียยิ้มออกมา

ดูสบายใจขึ้นแล้วสินะ ฮิคารุคิด

ลาเวียเริ่มร่ายเวท วงเวทปรากฎออกมาที่เท้าโดยมีลาเวียเป็นศูนย์กลาง แต่ด้วยอำพรางหมู่ทำให้พวกนั้นยังไม่รู้เรื่อง

ตอนนี้ล่ะ

“จิตวิญญาณเอ๋ยจงร่ายรำ!”

อันเดดทุกตัวหันมาทางลาเวีย ฮิคารุเดาะลิ้นเพราะไม่คิดว่าพวกมันจะรู้ตัวไวขนาดนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่อยากจะหยุดตอนนี้

“ข้าขอเสนอมานาของข้า จงร่ำร้องเสีย!”

ฮิคารุจัดการราชาในการแทงครั้งเดียว จากนั้นก็รู้สึกได้ว่าแรงค์อัพ พวกอันเดดที่ตรงไปหาลาเวียหยุดทันทีเมื่อรู้ว่าราชาของพวกมันตายไป จากนั้นฮิคารุก็ถอดแหวดออกและปลดลอบเร้น

“ยินดีที่ได้รู้จัดทุกท่าน แล้วก็ ลาก่อน” ฮิคารุแสยะยิ้มจากนั้นก็หันหลังไป

“จงนำโลกที่แสนบริสุทธิ์ของเรากลับมา และเผาทุกสิ่งให้เป็นเถ้าถ่านเสีย!!”

พวกอันเดดรีบวิ่งมาทางฮิคารุ แต่ฮิคารุก็เร็วว่า ระเบิดพลังสองแต้มทำงานได้ดีทีเดียว

บอลไฟลูกใหญ่โผล่ขึ้นมา

“เพลิงส่งวิญญาณ !”

วงเวทแตกกระจาย เปลวเพลิงกลืนกินพวกอันเดดเข้าไป ทันทีที่มันแตะพื้น ลมร้อนรุนแรงก็พัดไปทั่ว

ฮิคารุแบกลาเวียที่เหนื่อยจากการใช้มานาไปที่ทางเดิน ห้องบัลลัก์ส่องสว่างราวกับเป็นกลางวัน เหล่ารูปสลักของสงครามระหว่าเทพแลพปิศาจได้พบกับแสงสว่างอีกครั้ง แต่ไม่นานก็ถูกลบหายไป

ลมพัดกลิ่นของศพไหม้ๆให้คลุ้งไปทั่ว

“เดินไหวมั้ย”

“อืม ตอนนี้เรารู้สึกดีขึ้นมาแล้วล่ะ บางทีอาจจะเป็นเพราะเราเปลี่ยนคลาสด้วยล่ะมั้ง”

พลังลดลงไปแต่การใช้มานาก็ลดลงไปด้วย คลาสที่เคยใช้ก่อนหน้านี้มันทรงพลังเกินไป

“รู้สึกเหมือนแรงค์ขึ้นเยอะมากเลยล่ะ”

นี่คือการสังหารหมู่ชัดๆ แต่จะเรียกว่าสังหารหมู่ก็ไม่ถูกนัก เพราะว่าพวกนั้นตายอยู่แล้ว

“บางทีน่ะนะ เอาไว้ค่อยตรวจสอบทีหลังแล้วกันนะ หมอนั่นกำลังมาแล้ว”ฃ

แรงสั่นเริ่มใกล้เขย้ามเรื่อยๆ ฮิคารุกำแหวนแน่น

____________________________________

ประกาศจากผู้แปลอีกเเล้วจ้า 

เนื่องจากมหาลับของผู้แปลจะเปิดวันที่ 1 นี้เเล้วเลยอาจจะทำให้ไม่ได้แปลบ่อยเท่าเดิม แต่ก็จะพยายามมาแปลต่เรื่อยๆนะฮับ จริงๆก็เคยบอกไว้ในเพจแล้วแหละ เเต่คิดว่าผู้อ่านบางท่านอาจจะไม่ได้คามในเพจเลยมาประกาศในนี้ด้วย ขอบคุณครับ

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset