อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 – ตอนที่ 73

ตอนที่ 73 เรื่องยุ่งยากของมิไฮล์

            เหล่าลูกค้าตอบสนองต่อการปรากฎตัวของมิไฮล์

            “เฮ้ย โน้นมัน ‘มิไฮล์ดาบทรงพลัง’ ไม่ใช่เหรอ”

            “จริงดิ ได้ยินมาว่าสามารถเอาชนะออร์ค 5 ตัวได้ด้วยตัวคนเดียว”

            “จอมทัพกล้าหาญแห่งจาราซักนี่”

            “อาจารย์ชั้นยอดไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาที่ร้านเหล้าชานเมืองอย่างนี้”

            ดูเหมือนจะเป็นคนดังพอตัวเลย

            มาสเตอร์บ่นพึมพำออกมาว่า “ไม่ใช่ร้านชานเมืองสักหน่อย”

            มิไฮล์ไม่สนใจเสียงเหล่านั้น และเดินไปนั่งข้างๆฮิคารุ

            “ตอนได้ยินว่าอาจารย์มิเรสอนย่างจริงจังนี่ ยังไม่อยากจะเชื่อเลย—-”

            ในระหว่างที่มิไฮล์พูดก็มองเห็นแก้วที่อยู่ในมือมิเร

            “—-เมาเละตั้งแต่เที่ยงนี่!? ไม่เห็นจะเปลี่ยนเลย!”

            “ไม่ได้เมาเละสักหน่อย! นี่เป็นรางวัล 1 แก้วต่างหาก!”

            ลูกค้าตบมุกกลับมาว่า “แก้วที่ 3 แล้วไม่ใช่เหรอ” 

            “……ฮิคารุ ไม่อยากจะว่าร้ายหรอก แต่มาเรียนดาบใหญ่ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ……”

            “หนวกหูน่าตาลุง ผมบอกไปแล้วนี่ว่าไม่ไปเรียนดาบใหญ่”

            เหล่าลูกค้าถึงกับร้อง “เหวอ” ตอนที่ฮิคารุพูดไม่สุภาพออกมา

            ไม่สิ ขนาดอาจารย์สอนดาบสั้นที่เป็นเพื่อนร่วมงานของมิไฮล์ที่นั่งอยู่ข้างๆฮิคารุยังร้องเสียงหลงออกมา

            “ดะ เดี๋ยวสิฮิคารุคุง อย่าหาเรื่องทะเลาะกับอาจารย์มิไฮล์เลย ไม่มีอะไรดีหรอก น่ากลัวด้วย ดูเหมือนหมอนี่จะอัดนักเรียนที่อวดดีจนยับแล้วเอาไปแขวนไว้กับต้นไม้ หรือไม่ก็ใช้สกิลระหว่างคาบเรียนจนพังกระท่อมไป ไหนจะฆ่าออร์ค 5 ตัวตอนไปฝึกจริงนอกโรงเรียนอีก”

            “ลุง……อย่างนี้มันไม่ดีนะ”

            “อย่ามาเรียกว่าลุงเซ่ เห็นอย่างนี้ก็เป็นอาจารย์ของโรงเรียนนะ”

            มิไฮล์ทำหน้าเจ็บใจเล็กน้อย

            “เข้าใจแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นอาจารย์มิไฮล์ ไม่ว่าจะเสนอมากี่ครั้งแต่ผมไม่เหมาะกับดาบใหญ่ ดังนั้นช่วยล้มเลิกไปเถอะครับ”

            “มาพูดสุภาพอย่างนี้มันชวนจั๊กจี้นะเนี่ย!”

            “แล้วจะให้ทำไง……”

            “ดาบใหญ่มันแกร่งกว่าดาบสั้น นักเรียนที่มีพรสวรรค์ควรจะเรียนดาบใหญ่ไงประเทศนี้ไม่สะดวกพอจะให้ผู้มีความสามารถมาเสียเวลาเล่นๆอย่างนี้หรอก”

            “ใช่แล้วฮิคารุคุง ทำอย่างนั้นเหอะ”

            ทำไมมิเรถึงแนะนำให้ไปเรียนดาบใหญ่นะหรือ เพราะเธออยากจะโดดสอนไง

            “เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน แถมผมไม่ใช่คนของประเทศนี้ด้วย อยากใช้ชีวิตตามใจชอบ”

            “ช่วยคิดใหม่ทีเถอะ”

            มิไฮล์ทำท่าขอร้องออกมา

            “นี่ สุดโหดคนนั้นก้มหัวให้กับเด็กนั่นเหรอ”

            “บาร์เทนเดอร์มีอำนาจขนาดไหนกันเนี่ย……”

            “มิไฮล์เองก็โดนตกด้วยเหล้างั้นเหรอ?”

            รอบๆเริ่มซุบซิบกันมั่วซั่ว

            “แล้วฉันเป็นคนแนะนำให้นายเป็นนักเรียนพิเศษใช่ไหม? การที่นายไม่เข้าเรียนดาบใหญ่มันจะทำให้วิชาดาบใหญ่มันดูไม่ดีน่ะ”

            “เอ๊ะ อาจารย์มิไฮล์เป็นคนพาฮิคารุมาที่โรงเรียนนี้เหรอ?”

            “อาจารย์มิเร? ช่วยเลิกพูดอะไรแปลกๆได้ไหม?”

            “เจี๊ยก! ฮิคารุยิ้มโดยตาไม่ได้ยิ้ม!”

            “นี่……ฮิคารุ คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ ว่านายควบคุมอาจารย์มิเรด้วยความหวาดกลัวเนี่ย……?”

            “อย่าพูดให้คนเข้าใจผิดอย่างหวาดกลัวสิ ผมแค่ควบคุมสุขภาพของอาจารย์เท่านั้นเอง เนอะ?”

            “เจี๊ยก”

            “เห็นไหม”

            “ไม่คิดว่า ‘เจี๊ยก’ เป็นการเห็นด้วยหรอกนะ”

            คนมุงพยักหน้าเห็นด้วย

            “เอาเถอะ ไม่มาเรียนดาบใหญ่มันก็ช่วยไม่ได้ ยังพออะลุ่มอะล่วยได้ แต่ว่านะฮิคารุ ดูเหมือนนักเรียนของฉันจะพูดเรื่องน่ายุ่งยากออกมาด้วย……”

            “ของฉัน……นักเรียนที่เรียนกับลุงนะเหรอ?”

            “อืม”

            มิไฮล์ทำหน้าเหยเก ฮิคารุเลยถามออกมาต่อ

            “อาจารย์ อยู่ที่นี่เองเหรอครับ!”

            ประตูร้านเหล้าถูกเปิดออกมาอย่างแรง และมีเหล่าชายหนุ่มรูปร่างดีเข้ามา

            เนื่องจากทุกคนเป็นผู้ชายทำให้ดูอึดอัด

            นี่น่าจะเป็น “นักเรียนของฉัน” ที่มิไฮล์บอก—-โดยฮิคารุรู้สึกว่าทุกคนไม่ใช่คนของจาราซัก

            มีคนคุ้นหน้าที่ขนไม่ดกอยู่ด้วย

            “อ้อ! แกเองเหรอ!”

            โรเย่ โคกะ ลูมาเนีย นั่นเอง

            เผ่าลูมาเนียที่มีเรื่องกันตรงกิลด์นักผจญภัย รีกบอกไว้ว่าเขา “ถูกส่งมาเรียนเพื่อขจัดเรื่องวุ่นวายที่บ้าน” อยู่

            “อะไรกันฮิคารุ รู้จักเหรอ?”

            “เปล่าหรอก แค่ต่อยฝ่ายเดียว”

            “แก……”

            มิไฮล์ทำหน้าเอือมๆ

            “อาจารย์! ไอ้คนขี้โกงอย่างนี้เนี่ยนะที่อาจารย์ยอมรับ!? ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

            “นี่โรเย่ หมายความว่ายังไง?”

            “หมอนี่ โจมตีใส่ฉันตอนที่กำลังพูดเกี่ยวกับตระกูลโคกะไง!”

            “ว่าไงนะ……”

            “ให้อภัยไม่ได้”

            เหล่าชายหนุ่มจ้องมองด้วยความโกรธ

            “นี่ตาลุง”

            “ฉันไม่ผิดสักหน่อย ฮิคารุทำเองไม่ใช่เหรอ?”

            “มันผิดตั้งแต่ตอนที่ลุงพามาแล้ว”

            “—-กะ แกกล้าเรียกอาจารย์ว่าตาลุงงั้นเหรอ!?”

            พวกโรเย่เข้ามาในร้าน

            แล้วมาล้อมฮิคารุ มิไฮล์ และมิเร

            ถ้าจะให้พูดมิเรหยิบจานและแก้วเตรียมหนีแล้ว แต่โดนฮิคารุจับคอเสื้อเอาไว้

            “อาจารย์มิไฮล์! ไม่ยอมรับหรอกครับ!! กับไอ้เด็กไร้มารยาท—-”

            “นายเป็นคนของลูมาเนียไม่ใช่เหรอ? มาเรียนกับจาราซักไม่มีปัญหาเหรอ?” 

            ฮิคารุถามคำถามที่นึกได้ออกไป

            “กะ การเรียนกับผู้เก่งกาจก็ไม่ใช่เรื่องแย่สักหน่อย……”

            เขากัดฟันพูด

            ขนาดรีกที่อยู่ตระกูลเรียวกิยังค่อนข้างกังวลที่จะไปเรียนกับนักวิจัยของโคโทบี้ โรเย่เองก็คงไม่มีทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ได้ง่ายๆหรอก

            (อ้อ ใช่แล้ว ดูเหมือนจะถูกไล่ออกจากบ้านอะไรทำนองนั้นสินะ เลยทิ้งศักดิ์ศรีและตัวตนแล้วไปฝากตัวเป็นศิษย์กับผู้แข็งแกร่งเพื่อจะได้เก่งขึ้นสักนิดสินะ?)

            ขนาดรีกยังลังเล แต่ดูเหมือนโรเย่จะนำหน้าไปก่อนแล้ว

            ถึงฮิคารุจะคิดว่า เอาเรื่องเหมือนกัน แต่โซลบอร์ดของโรเย่มี “ปริมาณพลังเวท” แค่ 1 แถมไม่มี “ความชำนาญด้านอาวุธ”

            “เอ่อ……อาจจะจุ้นไม่เข้าเรื่อง แต่นายไปเรียนเวทมนตร์น่าจะดีกว่าดาบใหญ่นะ?”

            “!?”

            “ต้องบอกว่ามีความสามารถทางด้านนู้นมาก—-”

            “นะ หนวกหู! หนวกหูๆๆๆ!”

            โรเย่ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่แดงจัด

            ดูเหมือนจะพูดเกินความจำเป็นไปซะแล้ว

            มิไฮล์กระซิบข้างหูฮิคารุ

            “……นี่ รู้ได้ไงเนี่ย? จริงอยู่ที่โรเย่มีความเหมาะสมทางด้านเวทมนตร์มากกว่า”

            “……ถ้ารู้แล้วทำไมไม่แนะนำไปล่ะ”

            “……คติของโรงเรียนเราคือเคารพการตัดสินใจของตัวเองไง ดูเหมือนพี่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญดาบใหญ่ เลยอยากจะเอาคืนตรงนั้นให้ได้ไง”

            “……อ้อ”

            สิ่งนี้คือปมด้อยที่ยังเหลืออยู่กับพี่ชายที่บ้านสินะ ฮิคารุพอจะเข้าใจแล้ว

            “มาสู้ตัดสินกับฉันซะ……แบบเอาจริงด้วย!”

            โรเย่ตะโกนพร้อมกับชี้ไปทางฮิคารุ

            “หา? ทำไมผมต้องไปสู้ด้วยล่ะ?”

            “หนวกหูจริง! ไอ้ยาจก! อย่ามาทำอวดหยิ่งที่ร้านเหล้าห่วยๆนี้นะ!”

            มาสเตอร์พูดออกมาอย่างโกรธๆว่า “ไม่ใช่ร้านเหล้าห่วยๆสักหน่อย”

            “ร้านเหล้าห่วยๆ จะบอกว่ามันห่วยแล้วผิดตรงไหน มันทั้งราคาถูกทั้งห่วยไม่ใช่เหรอ!”

            “—-นี่”

            “เจี๊ยก!”

            ฮิคารุส่งเสียงทุ้มต่ำออกไป ทำให้มิเรถึงกับร้อง “เจี๊ยก” ออกมา

            “จะปากเสียกับอาจารย์มิไฮล์หรืออาจารย์มิเรก็ไม่ว่าหรอก แต่กับร้านนี้เท่านั้นที่ไม่ให้อภัย”

            “วะ……ง่าไงนะ?”

            “เข้าใจแล้ว จะรับคำท้าก็ได้ แล้วจะทำให้รู้ซึ้งถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของมาสเตอร์ให้ดู”

            “หา! เยี่ยม ออกไปข้างนอกเลย”

            โรเย่ ฮิคารุ และเหล่าชายหนุ่มคนอื่นออกไปตามมิไฮล์

            “……หมอนั่นคิดจะแข่งทำอาหารกันด้วยเหรอ?”

            มาสเตอร์พึมพำออกมา

            “จะไปรู้เหรอ……อ้า! ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้เป็นความผิดของอาจารย์มิไฮล์ก็แล้วกัน เจ้าของร้านขออีกแก้ว! อย่างนี้มันต้องดื่มแล้ว!”

            “คิดจะอาศัยความวุ่นวายแล้วดื่มแก้วที่ 4 สินะ ไม่ได้หรอก”

            “เรื่องนั้นพอจะทำอะไรไม่ได้เหรอ!”

            “มีสัญญากับฮิคารุไว้ไง”

            “ทำไมถึงให้ความสำคัญกับฮิคารุมากกว่าขาประจำอย่างฉันเนี่ย!?”

            “รีบๆออกไปดูได้แล้ว”

            ชิ่วๆ มาสเตอร์ไล่ให้มิเรออกไปข้างนอก

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Status: Ongoing
อ่านนิยาย อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น ——————————– อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset