เมื่อไพฑูรย์ตาแมวสองสีกลิ้งเข้าไปฝังในช่องบรรจุมณีบนธนูราชัน โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกว่าพลังปราณสวรรค์ของตนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นดังนั้นเขาจึงไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป เด็กหนุ่มง้างธนูและยิงออกไปอย่างรวดเร็ว
จู่ๆ บางอย่างก็ทำให้เขาประหลาดใจ โจวเหว่ยชิงพบว่าธนูราชันนั้นมีแรงต้านเกือบ 10 เท่าของธนูอุษาม่วง ถึงแม้ร่างกายของตนจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากจากมณียุทธ์ แต่ทว่าเขาก็แทบจะง้างธนูราชันนี้ขึ้นให้สุดไม่ได้ ในที่สุดเมื่อง้างธนูนี้จนเห็นเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง หน้าผากของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อจากการออกแรง ยิ่งไปกว่านั้นเด็กหนุ่มถึงกับใช้ปราณสวรรค์ไป 1 ใน 3 ส่วนเต็มๆ
ในจิตใต้สำนึกของโจวเหว่ยชิง แสงสีดำค่อยๆ แผ่ออกมาจากไพฑูรย์ตาแมวสองสีทันที จากนั้นลวดลายสีดำก็ค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วธนูราชันทั้งคันอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งสายธนูก็ยังเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งหมด ลูกศรฝึกซ้อมที่พาดลงบนธนูราชันเริ่มสั่นเล็กน้อยราวกับว่ามันเกือบจะต้านทานพลังงานมหาศาลของธนูไม่ไหว และอาจจะแตกสลายได้ทุกเวลา
โจวเหว่ยชิงสูดหายใจเข้าลึกพร้อมกับหันหลังกลับอย่างกระทันหัน โผล่ให้เห็นเพียงแค่มือขวาและธนูราชันในขณะที่ร่างยังคงซ่อนอยู่หลังต้นไม้ ด้วยการเล็งเพียงเสี้ยววินาที ทันใดนั้นเขาปล่อยสายธนูให้ลูกศรพุ่งออกไป
โดยปกติแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ทักษะธาตุโดยตรงกับธนูและลูกศร แต่หากใช้ผ่านหลุมบรรจุมณีบนศาสตรามณียุทธ์ชิ้นนั้น เราก็สามารถใช้ทักษะธาตุกับศาสตราวุธได้แล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกของโจวเหว่ยชิงที่ลองใช้มัน ศาสตรามณียุทธ์ของเด็กหนุ่มหลอมรวมเข้ากับทักษะธาตุมณี ด้วยการยิงลูกศรดอกนี้เพียงครั้งเดียว เขาถึงกับเสียปราณสวรรค์ไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ในขณะที่โจวเหว่ยชิงคลายมือจากสายธนูราชัน เขารู้สึกราวกับว่าพลังในร่างกายพลันแห้งเหือดไปจนหมด ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทา และจู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วป่า แม้สายตาของโจวเหว่ยชิงจะเฉียบคมแค่ไหน แต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของลูกศรดอกนี้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ยินเสียงระเบิดห่างออกไปประมาณ 70 หลา อีกทั้งยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินใต้ฝ่าเท้า
“ให้ตาย! ใครจุดปะทัดวะเนี่ย!” โจวเหว่ยชิงตกใจเป็นอย่างมาก เขากระโดดขึ้นไปดูอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเขาดันเป็นฉากที่น่าตกใจเสียจนเขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ณ พื้นดินที่อยู่ห่างออกไปเพียง 70 หลา ที่นั่นเกิดหลุมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เมตร และลึกกว่า 1.5 เมตร ในรัศมีประมาณ 30 เมตรรอบๆ หลุมนั้น มีใบไม้และชิ้นส่วนต่างๆ ของต้นไม้โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าไม่หยุดหย่อน หนวดสีดำทั้ง 12 เส้นกำลังเกี่ยวรัดรอบๆ ร่างกายของเซียวเซ่ออย่างแน่นหนา และเซียวเซ่อผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางของหลุมขนาดใหญ่นั้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถขยับได้และกำลังตกอยู่ในสภาพมึนงง
เมื่อทักษะสัมผัสมืดจับเป้าหมายไว้ได้แล้ว มันก็จะพยายามยึดโยงร่างของเป้าหมายและลากไปหาจ้าวมณีผู้ใช้ทักษะนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโจวเหว่ยชิงหยุดส่งปราณสวรรค์ไปหล่อเลี้ยงพวกมันแล้ว มันจึงทำได้เพียงแค่ตรึงเป้าหมายไว้กับที่เนื่องจากเป้าหมายยังไม่สามารถดิ้นหลุดพ้นจากแรงยึดของมันได้
โจวเหว่ยชิงรีบเก็บธนูราชัน เขาหยิบธนูอุษาม่วงของตนขึ้นมาอย่างใจเย็นแล้วหยิบลูกธนูอีกดอกออกมา ก่อนที่จะเดินไปทางเซี่ยวเซ่อ
หลังจากถูกทำให้ขยับไม่ได้เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่ง เซี่ยวเซ่อก็ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมา ทักษะนี้สามารถทำให้เป้าหมายชะงักได้นานประมาณ 4-5 วินาที นี่ไม่ได้เป็นผลงานของทักษะสัมผัสมืดเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งของลูกธนูที่ยิงโดยธนูราชัน นั่นทำให้เธอถึงกับชะงักค้างไปด้วยเช่นกัน ยิ่งโจวเหว่ยชิงเอง เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่าพลังของธนูราชันเมื่อรวมเข้ากับพลังของไพฑูรย์ตาแมวสองสีจะมีพลังมหาศาลขนาดนี้
ธนูราชันที่เป็นเพียงศาสตรามณียุทธ์ของมณีดวงแรกของเขานั้นมีระยะการโจมตีเกือบ 1 กิโลเมตร และด้วยคุณสมบัติบางอย่างของตัวของมันเอง นั่นจึงส่งผลให้เกิดการระเบิดเช่นนี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาที่โจวเหว่ยชิงใช้ธนูราชัน พลังปราณสวรรค์ของเขาถึงถูกดูดกลืนไปเป็นจำนวนมาก ยิ่งรวมกับการใช้ทักษะสัมผัสมืดก่อนหน้านี้ด้วยแล้ว ตอนนี้โจวเหว่ยชิงจึงเหลือพลังปราณสวรรค์แทบจะไม่ถึง 1 ใน 3 ส่วน
เซียวเซ่อแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าทุกอย่างตรงหน้าเธอจะเป็นเรื่องจริง เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจะทำให้โจวเหว่ยชิงตกเป็นรองอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังห่างจากชัยชนะเพียงไม่กี่ก้าว แต่ทว่าทันทีที่เธอคิดเช่นนั้น เสียงอะไรบางอย่างก็คำรามแหวกอากาศออกมา และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไร ระเบิดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นห่างจากเธอไปเพียงไม่กี่หลา จากนั้นแรงสั่นสะเทือนที่ตามมาก็ทำให้เธอชะงักด้วยความตกใจสุดขีด ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ใช่จ้าวมณี ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถฝึกฝนปราณสวรรค์ไปได้จนถึงระดับที่ 2 อีกทั้งความแข็งแกร่งทางกายภาพก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่การต้องเผชิญหน้ากับการระเบิดที่รุนแรงอย่างกะทันหันเช่นนี้ เธอก็ได้แต่รับการแรงแทกจนร่างกายกระเด็นออกไปและได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆมองดูอย่างตกตะลึง
เมื่อรู้ตัวอีกที เธอก็พบว่าตัวเองถูกตรึงอยู่กับพื้นด้วยเงาหนวดสีดำ ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถขยับตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการของพวกมันได้ และตอนนี้อ้วนน้อยโจวก็ยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับหัวลูกศรที่ชี้มาที่เธอ
“ท่านแพ้แล้ว” โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างอย่างเฉื่อยชา
ตาของเซียวเซ่อหรี่ลงขณะที่เธอพูด “เจ้าเป็นจ้าวมณี?”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าพร้อมกับยกข้อมือขวาของเขาขึ้นมาและเผยให้เห็นมณียุทธ์หยกน้ำแข็งที่เปล่งประกายระยิบระยับ เขากล่าวว่า “ถ้าจะให้ถูกต้องกว่านั้น ข้าคือจ้าวมณีสวรรค์ต่างหาก”
เซียวเซ่อสั่นสะท้านเล็กน้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าโจวเหว่ยชิงอยู่ห่างจากเธอไปไม่ถึง 50 หลา เธอพูดอย่างหดหู่ “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ก็ได้ หากพ่ายแพ้ให้แก่จ้าวมณีสวรรค์ข้าคิดว่ามันก็ยังยุติธรรมอยู่”
โจวเหว่ยชิงเรียกคืนทักษะสัมผัสมืดอย่างรวดเร็ว เขายิ้มในขณะที่ยังถือลูกธนูเอาไว้
ในขณะที่กำลังจะเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายเซียวเซ่อและบอกเธอว่าเขาเป็นใคร ทันใดนั้นใบหน้าที่เศร้าสลดของเซียวเซ่อก็หายวับไปในพริบตาเดียว จู่ๆ ธนูอุษาม่วงของเธอก็ถูกยกขึ้นง้าง และเล็งไปยังโจวเหว่ยชิง ความเร็วของเธอนั้นมากเกินไป และด้วยการตรวจสอบของเด็กหนุ่ม เขาพบว่าแม้ตนเองจะใช้ทักษะธาตุลม เขาก็ยังช้ากว่าเธออยู่ดี นี่ย่อมเป็นผลมาจากการฝึกยิงธนูซ้ำแล้วซ้ำเล่าในระยะเวลาหลายปี
โจวเหว่ยชิงหยุดชะงักทันที ในระยะใกล้เช่นนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้ธนูอุษาม่วงยิงออกไป
“เจ้าโกงหน้าด้านๆ!” โจวเหว่ยชิงจ้องไปยังเซียวเซ่อ
ดวงตาของเซียวเซ่อเผยความหยอกล้อ “ข้าลงมืออย่างไร้ยางอายหรือ? โอ้ เจ้าคิดว่าคำพูดของข้าก่อนหน้านี้คือการยอมรับความพ่ายแพ้หรือ? ช่างโง่เขลาเสียจริง เหตุใดเจ้าถึงเชื่อคำพูดของศัตรูได้อย่างง่ายดายขนาดนี้? หากนี่คือสนามรบ เจ้าก็คงตายไปแล้ว พวกเราก็ได้ฟังกฏการแข่งขันไปแล้วไม่ใช่หรือ? กฏก็คือคนที่ยิงโดนฝั่งตรงข้ามจะได้รับชัยชนะ ไม่มีข้อไหนพูดถึงการยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยปากเปล่าเลยนี่นา เจ้านั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”
ในขณะที่เธอพูด เซียวเซ่อก็ยกนิ้วของเธอเบาๆ จากนั้นลูกธนูก็พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงสุดมุ่งตรงไปที่โจวเหว่ยชิง เนื่องจากเธอได้ชี้ให้เห็นความผิดพลาดของโจวเหว่ยชิง ดังนั้นเธอจึงจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม วินาทีถัดมาม่านตาของเซียวเซ่อก็หดตัวอย่างกระทันหัน ร่างกายของเธอก็รู้สึกแข็งค้างด้วยความตกใจ นั่นเป็นเพราะลูกศรที่เธอคิดว่าจะนำชัยชนะมาให้เธออย่างแน่นอนนั้นกลับพลาดท่ายิงไม่โดนเป้าหมาย ร่างของโจวเหว่ยชิงจู่ๆ ก็เหมือนจะหายวับไปในอากาศทันทีที่เซียวเซ่อปล่อยลูกธนูออกมา จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วห่างออกไป 3 หลาโดยที่มีแสงสีเงินเรืองรองอยู่รอบๆตัว ทันใดนั้นร่างของเด็กหนุ่มก็กระโจนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับเสือดาวและมุ่งหน้าไปยังเซียวเซ่อ
‘เคลื่อนย้ายในพริบตา?’ เขาใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาเมื่อกี้ใช่หรือไม่? แม้ว่าเสี่ยวเซ่อจะไม่ใช่จ้าวมณี แต่เธอก็มีความรู้และประสบการณ์อยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าทักษะเคลื่อนย้ายพริบตานี้เป็นทักษะสนับสนุนระดับสูงของมณีธาตุ 3 ดวงแรก! นี่ยังไม่ได้รวมถึงทักษะธาตุมืดที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ หรือว่าอีกฝ่ายจะมีทักษะธาตุแบบคู่? นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
………………………………………………………….
Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 17.2 ทักษะสัมผัสมืด (2)
Posted by ? Views, Released on September 19, 2021
, Heavenly Jewel Change
Type: Web Novel Author: Tang Jia San Shao, 唐家三少
ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ
มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์
ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม
ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?
ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…
หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!
ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา
ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา
มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!
สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…
แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?
ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา
สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร
Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power.
Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels.
Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters.
Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes.
Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.
Recommended Series
Comment
Facebook Comment