หลังจากพบว่าอสูรสวรรค์ระดับเทวะหวาดกลัวเขา และให้ความร่วมมือกับการกักเก็บทักษะของเขาเป็นอย่างดี โจวเหว่ยชิงจึงได้แต่กรุ่นคิด จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าสิ่งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับไข่มุกสีดำแปลกๆ นั่นแน่นอน พลังของไข่มุกสีดำมักจะให้ก่อให้เกิดภาพเสือดำขนาดใหญ่ที่มีปีกขึ้นมาภายใต้จิตใต้สำนึกของเขา และเสือก็ถือเป็นราชาแห่งสัตว์ร้าย ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าอสูรสวรรค์ทุกตัวหวาดกลัวกลิ่นอายของมัน
หลังจากใช้เงินไปจนหมด 50,000 เหรียญทองแล้ว โจวเหว่ยชิงก็สามารถกักเก็บทักษะระดับสูงที่คนอื่นๆ อาจทำไม่สำเร็จแม้พวกเขาจะจ่ายไปถึง 5 ล้านเหรียญทองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอนนี้โจวเหว่ยชิงกลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์อย่างแท้จริงแล้วเพราะว่าเขาเพียบพร้อมไปด้วยทักษะธาตุ และศาสตรามณียุทธ์ครบครัน
ทักษะ ‘สัมผัสมืด’ ในมณีระดับปัจจุบันของเขาสามารถส่งหนวดของพวกมันออกไปได้มากสุด 12 เส้น พวกมันสามารถกระจายตัวออกไปรอบๆ ได้ในรัศมี 25 เมตร และภายในรัศมีนี้ประสาทสัมผัสของโจวเหว่ยชิงจะไวขึ้นเป็น 3 เท่าจากปกติ ในเวลาเดียวกันหากเขาทำการเลือกเป้าหมายแล้ว เมื่อคนๆ นั้นเดินเข้ามาในอาณาเขตและเหยียบโดนเงาหนวดพวกนั้น ภายใต้การควบคุมของเขา หนวดเหล่านั้นก็จะยึดร่างเป้าหมายเอาไว้ด้วยแรง 1,000 จิน (1 จิน เท่ากับ ครึ่งกิโลกรัม) ตราบใดที่พละกำลังของเป้าหมายน้อยกว่า1,000 จิน หรืออาจจะกล่าวได้ว่า หากแรงดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นไม่ถึง 1,000 จิน คนๆ นั้นก็จะถูกลากไปหาโจวเหว่ยชิงในสภาพไม่สามารถขยับตัวได้ทันที
นี่คือทักษะธาตุที่โจวเหว่ยชิงได้รับจากสัตว์อสูรหมึกยักษ์สีดำขนาดใหญ่ กล่าวไว้ว่า หากอสูรสวรรค์ระดับเทวะตัวนี้ใช้ทักษะของมัน รัศมีของทักษะ ‘สัมผัสมืด’ นั้นจะสูงถึง 1 กิโลเมตร และเมื่อหนวดพวกนั้นสัมผัสโดนเป้าหมายแล้ว แรงดึงของมันจะมีมากกว่า 100,000 จิน พวกมันจึงใช้ทักษะนี้ลากอาหารมากินได้ในชั่วพริบตา
โจวเหว่ยชิงรู้จากซ่างกวนปิงเอ๋อร์ว่าทักษะเหล่านี้จะสามารถพัฒนาขึ้นได้เองเมื่อระดับพลังของมณีธาตุเพิ่มขึ้น และก็เหมือนเคย การเพิ่มระดับทักษะธาตุของจ้าวมณีสวรรค์นั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่าของจ้าวมณีธาตุธรรมดา ดังนั้น หากในอนาคตเขาฝึกฝนไปจนถึงจุดหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งของทักษะ ‘สัมผัสมืด’ ก็จะน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะทักษะนี้จัดเป็นทักษะชั้นนำของธาตุมืดเลยทีเดียว
หลังจากปลดปล่อยทักษะ ‘สัมผัสมืด’ แล้ว โจวเหว่ยชิงก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป รัศมี 25 เมตรนั้นไม่ถือว่าเล็ก ตราบใดที่เซียวเซ่อเดินเข้ามาในเขตพื้นที่ของเขา เขาก็จะต้องเอาชนะเธอได้อย่างแน่นอน ใช้ทักษะธนูเพื่อแข่งขันกันอย่างเดียว? มีเพียงคนโง่เท่านั้นแหละที่จะทำแบบนั้น! ท่าทางมั่นอกมั่นใจของหญิงสาวก็บอกได้อย่างชัดเจนว่าฝีมือการยิงธนูของเธอต้องดีมากอย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถใช้ปราณสวรรค์ได้ในระหว่างการแข่งขันทหารใหม่ โจวเหว่ยชิงจึงทำได้เพียงใช้ทักษะการยิงธนูที่เขาได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนทักษะการยิงธนูที่ล้ำลึกกว่านี้คงต้องอาศัยความร่วมมือของปราณสวรรค์ในร่าง ซึ่งเขาก็คงจะต้องเรียนรู้เองโดยธรรมชาติ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวเซ่อก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำไมเจ้าอ้วนน้อยโจวถึงไม่ส่งเสียงหรือเคลื่อนไหวใดๆเลย เนื่องจากเธอตั้งใจทำเสียงดังให้เขาได้ยิน ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบกลับ แต่อย่างน้อยก็ควรจะยิงลูกธนูออกมาใส่เธอบ้าง! ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หญิงสาวก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
น่าเสียดาย สำหรับโจวเหว่ยชิงแล้ว หลังจากเขากรุ่นคิดถึงความสำเร็จและภาคภูมิใจในตนเองได้ไม่นาน เด็กหนุ่มก็พลันรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย นี่เป็นเพราะเขาค้นพบว่าแม้ทักษะสัมผัสมืดนี้จะดีมาก แต่หลังจากปลดปล่อยพวกมันออกไปแล้วจริงๆ พวกมันกลับดูดกลืนพลังปราณสวรรค์จำนวนมหาศาลไปจากตัวเขาเพื่อคงรูปร่างของพวกมันไว้ แม้ว่าความเป็นจริงแล้วโจวเหว่ยชิงจะยังไม่ได้เลือกเป้าหมายเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งความเร็วในการดูดกลืนก็ยังถือว่าไม่เร็วมาก แต่ด้วยพลังปราณสวรรค์ระดับ 4 ของเขา ระยะเวลาที่เด็กหนุ่มสามารถคงรูปพวกมันไว้ได้ก็ยังค่อนข้างจำกัด
ทำยังไงดี? ดูเหมือนว่าจะรอต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นหากพลังปราณสวรรค์ของตนหมดเกลี้ยง เขาก็อาจไม่สามารถเอาชนะเธอได้
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โจวเหว่ยชิงก็ไถลตัวลงมาจากต้นไม้อย่างระมัดระวัง หยิบหินขึ้นมาจากพื้นดินแล้วโยนลงออกไปพุ่มไม้ด้านหน้า
ทันทีที่หินตกลงไปในพุ่มไม้ก็มีเสียง *ปั่ก* ดังออกมาทันที อย่างไรก็ตาม โจวเหว่ยชิงรู้สึกประหลาดใจมากที่เสี่ยวเซ่อไม่ได้ถูกยิงลูกศรออกมาเลย
ในอีกด้านหนึ่ง มุมปากเซี่ยวเซ่อขยับขึ้นสูง โยนก้อนหินเพื่อให้ข้าเผยตัว? เจ้าพยายามจะหลอกลวงข้าด้วยเล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เองหรือ? เธอกระโดดขึ้นสูงอย่างนุ่มนวล คว้ากิ่งไม้ใหญ่อันหนึ่งไว้และม้วนตัวขึ้นไปบนนั้นอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้บริเวณที่มีเสียงดังออกมา ในฐานะนักธนูที่มีความสามารถโดดเด่น ความสงบ และมั่นคงเป็นคุณสมบัติสำคัญที่นักธนูพึงมี
โจวเหว่ยชิงเห็นว่าความคิดชั่ววูบเมื่อกี้ของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า ฉับพลันอีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในทันที เด็กหนุ่มกลับไปซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “ข้าอยู่ที่นี่”
คราวนี้เซียวเซ่อไม่มีการลังเลอีกต่อไป ลูกศรดอกหนึ่งพุ่งออกมาทันที มันปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่โจวเว่ยชิงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอย่างแม่นยำ เธอใช้ธนูอุษาม่วงแต่ลูกธนูฝึกซ้อมก็มีความเฉื่อยอยู่มาก เมื่อลูกธนูกระทบกับต้นไม้ทำให้ต้นไม้สั่นไหวทันที
ทันใดนั้นโจวเหว่ยชิงก็รู้สึกอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งที่ซ่อนทันทีเนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงรังสีอาฆาตของเธอผ่านทักษะสัมผัสมืดที่กางไว้ ทันใดนั้นเอง จู่ๆเด็กหนุ่มก็ต้องตัวแข็งทื่อ *หวือ* *หวือ* ลูกศรอีก 2 ลูกพุ่งเข้ามาต่อจากดอกแรกแทบจะทันที และพวกมันปะทะเข้ากับจุดเดียวกับที่ลูกศรก่อนหน้านั้นพุ่งชนอย่างแม่นยำ
แม่เจ้า! กะ แกร่งมาก! เธอใช้ทั้งทักษะลูกศรยิงเร็วและลูกศรยิงคู่ไปพร้อมๆ กันได้ ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะมั่นใจในตัวเองขนาดนี้
‘ลูกศรยิงเร็ว’ หมายถึงการยิงธนูตามออกไปทันทีหลังยิงครั้งแรกด้วยความเร็วสูงมาก และ ‘ลูกศรยิงคู่’ คือการยิงธนูพร้อมกันทีเดียว 2 ดอก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทักษะการยิงธนูขั้นสูงและเป็นเรื่องยากที่จะฝึกให้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกศรยิงคู่ เนื่องจากการยิงลูกศร 2 ดอกในเวลาเดียวกันให้แม่นยำนั้นยากมาก ทุกคนจึงสามารถจินตนาการได้ถึงความแข็งแกร่งของนักธนูคนนั้นได้
ขณะนี้เซียวเซ่อกำลังยืนอยู่ห่างจากโจวเหว่ยชิงประมาณ 150 หลา และในขณะที่เธอกำลังระดมยิงอย่างต่อเนื่องนั้น เธอก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ใหญ่และเคลื่อนตัวไปหาโจวเหว่ยชิงอย่างรวดเร็ว มือขวาของเธอเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายฟ้า ลูกธนูกระโจนเข้ามาในมือของเธออย่างไม่หยุดหย่อน พวกมันถูกยิงออกไปโดยธนูอุษาม่วงทุกๆ ด้าน ทำให้โจว เหว่ยชิงตกเป็นรอง ลูกศรพวกนั้นบังคับให้โจวเหว่ยชิงต้องซ่อนตัวอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นอย่างยากจะหลบหลีกพ้น ในเวลาเดียวกัน เซียวเซ่อก็เปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็วตลอดเวลา เธอขยับเข้าใกล้เข้าเรื่อยๆ ในขณะที่เดินวนไปรอบๆ เป็นวงกลมเพื่อสกัดเขาให้หมดจดทุกทิศทาง
ลูกศรยิงเร็วของเซียวเซ่อนั้นรวดเร็วเกินไป แม้ว่าโจวเหว่ยชิงจะพึ่งพาประสาทสัมผัสที่เพิ่มขึ้นจากทักษะสัมผัสมืดของตัวเอง แต่เขาก็ยังไม่สามารถจับตำแหน่งของเธอได้อย่างเต็มที่เพื่อจะทำการวางแผนหลบหนีให้พ้น เมื่อเธอเข้าใกล้ถึงระยะ 100 หลา ด้วยความแข็งแกร่งของธนูอุษาม่วง และทักษะการยิงที่น่าอัศจรรย์ของเธอ สำหรับโจวเหว่ยชิงแล้ว นี่มันยากเกินกว่าที่เขาจะหลบพ้นได้
ขณะที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาแคบลงอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ช่องว่างระหว่างทั้งคู่จะลดลงเหลือ 80 หลา ลูกศรของเซียวเซ่อพุ่งเข้ามาเร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆ โจวเหว่ยชิงทำได้เพียงพึ่งพาสัญชาตญาณของเขาในการขยับเคลื่อนที่ไปรอบๆ ต้นไม้อย่างไม่หยุดหย่อนและใช้มันเป็นที่กำบัง
ริมฝีปากของเซียวเซ่อยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยือกเย็น ในสายตาของเธอ เธอชนะการแข่งขันครั้งนี้แล้ว เธอยังคงมีลูกธนูเหลือมากกว่า 20 ดอกในที่แล่งธนูของเธอ และตราบใดที่เธอเข้าใกล้ถึงระยะ 50 หลา ด้วยพลังปราณสวรรค์ระดับ 2 ของเธอ นั่นก็เกินพอแล้วที่จะยิงทะลุผ่านต้นไม้ที่ผ่านการยิงจนพรุนต้นนั้น เมื่อถึงเวลานั้น โจวเหว่ยชิงจะซ่อนตัวได้อย่างไรหากไม่มีต้นไม้ป้องกัน เฮ้อ นี่ช่างเป็นชัยชนะที่ง่ายดายเสียจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้โจวเหว่ยชิงที่ซ่อนตัวอยู่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน เขาคิดกับตัวเองว่า ข้าไม่ได้เป็นเพียงจ้าวมณีสวรรค์ แต่ข้าเป็นนักธนูจ้าวมณีสวรรค์!
เขาพลันถอนทักษะสัมผัสมืดกลับคืนอย่างรวดเร็ว โจวเหว่ยชิงพิงธนูอุษาม่วงบนลำต้นของต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น
แม้ว่าวงล้อทักษะธาตุของโจวเหว่ยชิงจะยังคงหยุดอยู่ในส่วนสีดำ แต่เขาก็ยกมือขวาขึ้นมาถ่ายเทปราณสวรรค์ลงในมณียุทธ์ ไอหมอกอันเย็นยะเยือกและธนูราชันก็ปรากฏตัวขึ้น หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สายธนูก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ
โจวเหว่ยชิงเปลี่ยนไปถือคันธนูด้วยมือซ้าย และเมื่อเพ่งสมาธิไปยังไพฑูรย์ตาแมวสองสีบนข้อมือของเขา มันขยับตัวกลิ้งออกมาเงียบๆบนมือและกลิ้งตกลงไปยังหลุมเล็กๆ ที่เว้าลงไปบนตัวคันธนู ทันใดนั้นธนูราชันก็ส่องสว่างด้วยแสงเรืองรองจากไพฑูรย์ตาแมวสองสี
…………………………………………………………….
Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 17.1 ทักษะสัมผัสมืด (1)
Posted by ? Views, Released on September 19, 2021
, Heavenly Jewel Change
Type: Web Novel Author: Tang Jia San Shao, 唐家三少
ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ
มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์
ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม
ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?
ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…
หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!
ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา
ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา
มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!
สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…
แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?
ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา
สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร
Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power.
Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels.
Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters.
Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes.
Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.
Recommended Series
Comment
Facebook Comment