“เช่นนั้นก็ดี เจ้าลองไปดูด้วยตนเองเถิดอาเป่ย หากถูกใจสตรีนางไหนก็ขอให้บอกมา”
ฮ่องเต้หมิงหาได้รู้สึกกังวลไม่ ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นเพียงการแสดงคั่นเวลาแต่เพียงเท่านั้น
หลินเมิ้งหยาเริ่มสงสัย ความจริงฮ่องเต้หมิงน่าจะรู้เรื่องของหลินเมิ้งหวู่อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
แต่เพราะเหตุใด ฮ่องเต้หมิงจึงไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ เช่นนั้น?
หรือเขากำลังปิดบังแผนการอะไรบางอย่างอยู่ แม้แต่นางเองก็มองความคิดของเขาไม่ออก
หากเป็นดั่งที่ตนเองคิดจริงๆ ฮ่องเต้หมิงจะต้องเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวมากอย่างแน่นอน
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”
หูเทียนเป่ยลุกออกจากที่นั่งของตนเอง ในมือถือจอกเหล้า ก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปในฝูงชน
ใบหน้าหล่อเหลา กอปรกับเครื่องแต่งกายหรูหรา ส่งผลให้เขางามสง่าเกินพรรณนา
แม้จะเป็นองค์ชายรัชทายาท แต่กลับไร้ซึ่งความหยิ่งผยอง ดังนั้นเขาจึงชนะใจของหญิงสาวผู้มาร่วมงานได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกัน หญิงสาวบางคนรวบรวมความกล้า เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
หลินเมิ้งหยายิ่งรู้สึกมั่นใจ หูเทียนเป่ยหาได้รู้เรื่องแผนการลับระหว่างฮ่องเต้หมิงและฮองเฮาไม่
อันที่จริงสามารถมองออกได้อย่างง่ายดาย ฮ่องเต้หมิงไม่มีทางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฮองเฮาจึงพยายามยัดเยียดหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปเป็นสะใภ้ของตนเอง นอกจากการดึงตนเองเข้าไปเป็นพวกแล้ว ก็คงเพื่อจับตามองพวกเขา
หากวันใดเขาคิดไม่ซื่อขึ้นมา แน่นอนว่าชายาที่ถูกยัดเยียดมาจะต้องรู้เรื่องนั้น
แต่หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับหลินเมิ้งหวู่ ความรับผิดชอบก็จะถูกโยนมาที่เขา อีกทั้งเขาคงมิได้แต่งงานเอาลูกสะใภ้เข้าบ้าน แต่กลับกลายเป็นพาร่างไร้วิญญาณเข้าบ้านแทน
ยิ่งไปกว่านั้น เขามองออกถึงเจตนารมณ์ของหลินเมิ้งหวู่
ทั้งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ทว่าหญิงสาวที่ยอมพลีกายถวายชีวิตให้ชายอื่น จะเป็นชายาที่ดีได้อย่างไร?
คาดว่าหากเป็นเช่นนั้น ราชวงศ์แห่งซีฟานจะกลายเป็นตัวตลกของราษฎรเสียมากกว่า
หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่ หูเทียนเป่ยไร้ซึ่งภาพความทรงจำที่ดีกับหญิงสาวแห่งต้าจิ้นโดยสิ้นเชิง
หลินเมิ้งหยาไม่เคยรู้สึกเห็นด้วยกับการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เหตุเพราะวันใดทั้งสองประเทศเกิดทำสงครามกันขึ้นมา
คนที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นชายาคนนั้น
ทว่า นางหาใช่คนที่จะสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้
คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่หูเทียนเป่ยเดินวนอยู่หนึ่งรอบ เขามิได้วางจอกเหล้าบนโต๊ะของหญิงสาวคนใดเลย
ทว่าเขากลับเดินตรงเข้ามายังที่นั่งของเหล่าราชนิกุลแห่งต้าจิ้น
คิ้วของฮองเฮาขมวดเข้าหากัน หรือเขาจะถูกใจองค์หญิง?
แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่พวกองค์หญิงมิได้ใช้งานง่ายเหมือนอย่างหลินเมิ้งหวู่
ทว่าหูเทียนเป่ยมิได้ถูกใจองค์หญิงองค์ใดเลย แต่เขากลับหยุดยืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยา
วางจอกเหล้าของตนเองลงบนโต๊ะของหลินเมิ้งหยา ความตกตะลึงพลันปรากฏขึ้นในดวงตาของทุกคน ปากอ้าค้าง
“วันนั้น ข้ารู้สึกถูกใจสาวใช้คนหนึ่งที่วัด พอลองไปสอบถามดูจึงได้รู้ว่านางเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระชายาอวี้ ไม่ทราบว่าพระชายาอวี้จะยินยอมให้นางอภิเษกสมรสกับข้าได้หรือไม่?”
ขณะนี้ คำพูดของหูเทียนเป่ยทำให้ทุกคนผงะ
องค์ชายรัชาทายาทแห่งซีฟานตกหลุมรักสาวใช้คนหนึ่ง
นี่…มันเรื่องตลกอะไรกัน?
หลินเมิ้งหยาเองก็อยู่ในอาการตกตะลึงเช่นเดียวกัน สายตาจ้องมองจอกเหล้าจอกนั้น
นี่มันหมายความว่าอย่างไร? หรือเขาจะหมายถึงป๋ายจื่อ?
จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ วันนั้นทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกล่องขนมกัน แต่หากบอกว่าเพียงเพราะเรื่องนี้ทำให้เขาหลงรักนางตั้งแต่แรกพบ มันจะสมเหตุสมผลอย่างนั้นหรือ?
“ท่าน…ข้าไม่ค่อยเข้าใจความหมายขององค์ชายนัก องค์ชายเข้าใจผิดไปหรือไม่?”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง เหตุเพราะกลัวว่าหูเทียนเป่ยจะพูดเรื่องจริง
“ไม่ ข้าตัดสินใจแล้ว วันนี้ข้าจะไม่อภิเษกกับใครทั้งสิ้นนอกจากนาง ข้าหวังเหลือเกินว่าพระชายาจะยินยอม”
สายตาและคำพูดของเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น
สีหน้าของฮองเฮาและไท่จื่อพลันดำถมึงทึง ทว่าพวกเขาได้ลั่นวาจาไปแล้ว อีกทั้งยังมิอาจคืนคำ
“องค์ชาย ตำแหน่งชายามีความสำคัญมาก ไม่อาจเลือกกันได้ง่ายๆ หากท่านชอบนางจริงๆ แล้วละก็ สามารถขอให้พระชายาอวี้มอบสาวใช้คนนั้นไปเป็นชื่อเฉี้ย1ก็ได้”
แววตาของไท่จื่อกระวนกระวาย ส่งเสียงยับยั้งอีกฝ่าย
หลินเมิ้งหยาเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ ป๋ายจื่อคือสาวใช้ของนาง ไท่จื่อมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทน
นางครุ่นคิด หยิบจอกเหล้าขึ้นมาพลางเอ่ยด้วยความโกรธ
“ป๋ายจื่อเป็นสาวใช้ของหม่อมฉัน นางเปรียบเสมือนน้องสาวคนหนึ่ง เรื่องนี้หม่อมฉันขอถามความเห็นจากนางก่อน หากนางยินยอม องค์ชายจะต้องอวยยศนางเป็นชายาเอกนะเพคะ”
เพียงประโยคเดียว หลินเมิ้งหยาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตจากฮองเฮาและไท่จื่อ
ฮึ วางแผนการเอาไว้อย่างแยบยล แต่สุดท้ายถูกสาวใช้ของนางช่วงชิงโอกาสไป
บางทีตอนนี้ไท่จื่อและฮองเฮาคงเกลียดนางจับใจ
เกลียดแล้วอย่างไรเล่า? นางหาได้กลัวกลอุบายชั่วร้ายใดๆ ไม่
ตอนนี้จวนของนางมีองครักษ์และชิงหูคอยคุ้มครองดูแล ต่อให้พวกเขาวางแผนแทงนางข้างหลัง นางก็ไม่กลัว
ไม่มีใครคาดคิดว่าหูเทียนเป่ยจะตอบตกลง
ยกจอกเหล้าขึ้น ทั้งสองชนแก้วกัน พันธสัญญาเป็นอันจบลง
ขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่คนนอกยังอดที่จะสงสัยไม่ได้
หูเทียนเป่ยหลงรักป๋ายจื่อตั้งแต่แรกเห็นจริงหรือ?
หลินเมิ้งหยาจ้องมองหูเทียนเป่ยเพื่อจับสังเกต ทว่ากลับเห็นเขากะพริบตาใส่ตนเองถี่ๆ
เข้าใจความหมายของเขาในทันที หลินเมิ้งหยาแอบพยักหน้า
ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่แอง
ช่างเป็นองค์ชายที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบ นี่จึงจะเรียกว่าละเอียดรอบคอบของจริง
หูเทียนเป่ยกลับไปยังตำแหน่งของตนเอง เมินสายตาผู้อื่น แต่ถึงกระนั้นเขาแอบชำเลืองเห็นหลินเมิ้งหยาที่กำลังพยักหน้าให้กับเขา
แม้ฮองเฮาและไท่จื่อจะเห็นแต่กลับไม่อาจห้ามได้ เกรงว่าตอนนี้คงกระอักเลือดแล้วกระมัง
“ฮ่องเต้หมิง เรื่องนี้จะเป็นการตัดสินใจเร็วเกินไปหรือไม่?”
ไท่จื่อหยักยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก เขาอยากไถ่ถามความเห็นจากฮ่องเต้หมิง
“คือว่า…”
ฮ่องเต้หมิงเองก็อยากยุติการแต่งงานอันแสนวุ่นวายนี้เต็มที แต่เขากลับได้เห็นหูเทียนเป่ยลุกขึ้นยืนแล้วคุกเข่าลงบนพื้น
“เสด็จพ่อ สิ่งที่พวกเราชาวซีฟานยึดถือมากที่สุดคือคำสัญญา เมื่อครู่เอ๋อร์เฉินได้ทำสัญญากับชายาอวี้เอาไว้แล้ว หากกระหม่อมผิดคำสัญญา เกรงว่าจะขัดต่อจริยธรรมคำสั่งสอนของชาวซีฟาน ยิ่งไปกว่านั้นหาได้มีข้อกำหนดว่าชายาเอกแห่งซีฟานจะต้องมาจากสกุลใหญ่โตไม่ ท่านเองก็มักจะบอกว่าความรักและสมานฉันท์ของสามีภรรยานั้นสำคัญที่สุดมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
คำพูดของหูเทียนเป่ยสกัดกั้นคำคัดค้านจากฮ่องเต้หมิง
ไม่อาจผิดคำพูดได้ ไท่จื่อและฮองเฮาล้วนเอ่ยโน้มน้าวให้ตอบตกลงคำขอร้องของหูเทียนเป่ย
ตอนนี้เพียงแค่เลือกผิดคนเท่านั้น ใช่ว่าความรุ่งโรจน์จะจากไป
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดของหูเทียนเป่ยจะได้ผล
ทัศนคติของฮ่องเต้หมิงเปลี่ยนไปทันที มือยกขึ้นตบบ่าของหูเทียนเป่ย
“ดี บุตรแห่งซีฟานจะต้องรักษาคำมั่นสัญญา เจ้าลุกขึ้นเถิด ข้าอนุญาตการอภิเษกสมรสของเจ้าในครั้งนี้แล้ว”
ฮ่องเต้หมิงลั่นวาจาแล้ว เป็นอันว่ากระดานของเขาถูกตอกตะปูจนมั่นคง
ไท่จื่ออ้าปาก แต่กลับไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา
“ดี ในเมื่อหัวใจขององค์ชายมีเจ้าของแล้ว เช่นนั้นพวกเราคงมิอาจเอื้อมเข้าไปทำลายความรู้สึกของพระองค์ได้”
ฮองเฮายังคงเจ้าเล่ห์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทัศนคติของนางเปลี่ยนไป อีกทั้งยังเอ่ยวาจาให้การสนับสนุนกับความรักของหูเทียนเป่ย
“ขอบพระทัยฮองเฮา”
หูเทียนเป่ยและฮ่องเต้หมิงรีบแสดงความขอบคุณ แม้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงจะอึดอัด ทว่าฮองเฮากลับยิ้มออกมาได้อย่างดงาม
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป หลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้สบตากัน เกรงว่าอีกไม่นานพายุจะต้องเข้าอย่างแน่นอน
“เสด็จพ่อ ฮองเฮา พอข้าได้เห็นท่านพี่ได้เลือกสาวงามแล้ว ข้ารู้สึกอิจฉาเหลือเกิน ไม่ทราบว่าข้าเองก็สามารถเลือกชายากลับซีฟานได้หรือไม่?”
คำพูดของหูลู่หนานทำให้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงแปลกไปอีกครั้ง
หูเทียนเป่ยมองน้องชายตนเองอย่างไม่เห็นด้วย เหตุเพราะท่านพ่อหาได้รู้สึกยินดีกับการเลือกลูกสะใภ้ในคราวนี้ไม่
เหตุใดอยู่ๆ ลู่หนานจึงร้องขอเรื่องนี้ขึ้นมา?
“หากองค์ชายรองมีพระประสงค์เช่นนั้น เสด็จแม่เองก็คงยินดีไม่น้อย”
แม้แผนเลือกชายาให้องค์ชายรัชทายาทจะไม่สำเร็จ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะเลือกชายาให้องค์ชายรองไม่สำเร็จนี่
เหตุเพราะยังไม่แน่ชัดเลยว่าตำแหน่งฮ่องเต้จะเป็นของผู้ใด
ครุ่นคิด หูลู่หนานเองก็คิดเห็นเช่นนั้นเช่นเดียวกัน กระตุกยิ้มสง่างาม ก่อนที่นิ้วจะชี้ไปยังหญิงสาวที่อยู่ในมุมมุมหนึ่ง
“ข้าคิดว่าหญิงสาวท่านนั้นจิตใจดีมีคุณธรรมยิ่งนัก เช่นนั้นข้าเลือกนางแล้วกัน”
หัวใจของหลินเมิ้งหยากระตุกระรัว สายตาทุกคนหันไปมองทางหญิงสาวคนดังกล่าว ผลปรากฏว่านางคือเยว่ถิง
เยว่ถิงหันมาสบตานาง ใบหน้ากระวนกระวาย
บังอาจนัก กล้ามาเลือกคนที่สกุลหลินหมายปองอย่างนั้นหรือ
เรื่องนี้กลับมาเกี่ยวข้องกับหลินเมิ้งหยาอีกครั้ง
ตอนนั้นทุกคนต่างรู้เรื่องการหมั้นหมายระหว่างคุณชายใหญ่แห่งสกุลหลินและคุณหนูใหญ่แห่งสกุลเยว่
ทว่าตอนนี้เยว่ถิงกลับถูกองค์ชายแห่งซีฟานเลือกเป็นชายา ดังนั้นจึงเริ่มมีคนถกเถียงกันเกี่ยวกับสกุลหลิน
“เกรงว่าคราวนี้คุณชายใหญ่สกุลหลินจะถูกสวมเขาเสียแล้ว”
“มิใช่หรืออย่างไรเล่า? เขากำลังออกรบด้วยความกล้าหาญ ทว่าว่าที่ภรรยาของตนเองกลับถูกองค์ชายรองแห่งซีฟานเลือก ช่าง…”
เสียงซุบซิบนินทาดังเข้ามาในโสตประสาทของหลินเมิ้งหยา ความโกรธของนางจึงปะทุขึ้น
องค์ชายรองตัวดี ลักพาตัวนางไม่พอ ยังคิดจะมายุ่งกับพี่สะใภ้ของนางอีก
ดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงเลิกสนใจปัจจัยอื่นใด แค่นหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ช่างเป็นราชวงศ์ที่รักคุณธรรมเสียนี่กระไร แม้แต่ภรรยาของผู้อื่นก็ยังคิดจะช่วงชิงได้”
เสียงของหลินเมิ้งหยาแม้จะเบา แต่กลับได้ยินกันอย่างถ้วนทั่ว ดังนั้นผู้คนในตำหนักหยวนซานจึงพากันสูดกลืนน้ำลาย
พระชายาอวี้ใจกล้าบ้าบิ่นเหลือเกิน
สายตาอำมหิตของไท่จื่อตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะทำลายแผนการอภิเษกสมรสอีกครั้ง
ดังนั้นความโกรธจึงปะทุขึ้นมา
“น้องสาม จงไปดูแลชายาของเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”
แม้อ๋องอวี้จะเฉยชา ทว่าดวงตาของเขากลับเผยให้เห็นถึงความขบขัน
หากเป็นแต่ก่อน หลงเทียนอวี้คงเข้าไปห้ามปรามชายาของตนเองโดยไม่พูดกระไร
ทว่าวันนนี้หลงเทียนอวี้กลับลุกขึ้นแล้วจ้องชายาของตนเองนิ่ง
“หย๋าเอ๋อร์พูดถูกแล้ว ข้าเองก็เห็นด้วยกับนาง”
“เฮือก…” ทุกคนเกือบจะล้มลงเพราะความตกตะลึง
พวกเขามิได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่?
ชายผู้มีใบหน้าเย็นชา แม้จะมีหญิงสาวล้มลงตรงหน้าก็ไม่คิดยื่นมือเข้าไปช่วยผู้นี้กำลังเข้าข้างชายาของตนเอง
สวรรค์โปรด งานเลี้ยงในวันนี้บ้าคลั่งเหลือเกิน!
************************
1 ชื่อเฉี้ย หมายถึงสนมที่มีฐานันดรเป็นเพียงสามัญชน ยศต่ำกว่าชายารอง