ตอนที่ 703 ผมอยากทำข้อแลกเปลี่ยนกับคุณ
อวี๋เยว่หานขมวดคิ้ว ไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง “ผมได้ยินว่าซ่างซินเพิ่งรับงานงานหนึ่ง ต้องไปถ่ายทำที่ต่างประเทศ คุณรอเธอไปก่อนเหรอ”
“……” ถังหยวนซือนิ่งเงียบไป เท่ากับเป็นการยอมรับ
มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะพยายามหรือไม่พยายามอีกแล้ว
ในเมื่อรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาก็ไม่เสียใจที่ผลักใสเธอออกไป
ที่เขาเสียใจก็คือคืนนั้นเขาดื่มมากเกินไป ควบคุมตัวเองไม่ได้จนทำให้เธอกลายเป็นของเขา
เรื่องบางอย่าง เมื่อเริ่มไปแล้วก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับได้อีก
เขาฝืนบังคับตัวเองไม่ให้ไปใส่ใจเธอ แต่กลับอดไม่ได้ที่จะสืบข่าวคราวเรื่องของเธอ กลัวว่าเธอจะถูกรังแกในวงการบันเทิง
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าหากอยู่ให้ห่างจากเธอหน่อย เวลาผ่านไปเธอก็จะลืมเขาได้เอง
แต่พอได้ยินว่าเธอตกอยู่ในอันตราย ความพยายามที่ทำมาทั้งหมดก็ดูเหมือนจะศูนย์เปล่า อยากจะไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอภายในหนึ่งวินาที……
เขาคิดว่าตัวเองยังมีเวลา
เขาเคยคิดว่าขอแค่ตัวเองเต็มใจที่จะลอง บางทีชะตาอาจจะไม่โหดร้ายกับเขาขนาดนั้น
เห็นช่วงเวลาที่เธอหนีไปด้วยความโกรธ เขาก็ตามไปโดยไม่ลังเล ให้เวลาเขาอีกสักสองสามนาทีเขาก็จะตามเธอทันแล้ว
เขาจะบอกกับเธอว่า ตั้งแต่ที่เขาเห็นเธอครั้งแรกตอนเป็นเด็ก ในใจของเขาก็มีเด็กผู้หญิงคนนี้เข้ามาอยู่แล้ว
ให้เธอได้รับรู้ว่าเขาชอบแค่ไหนที่เธอเรียกเขาว่า “พี่เสี่ยวซือ”
เรื่องที่เขาเสียดายมากที่สุดในชีวิตนี้ก็คือทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอไม่ได้ สัญญาที่ว่าจะดูและเธอเป็นที่พึ่งให้เธอตลอดไป……
ตลอดไป……
“ผมอยากทำข้อแลกเปลี่ยนกับคุณเรื่องหนึ่ง” สองมือของถังหยวนซือค้ำไว้ที่เตียง พยายามหยัดตัวขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก จากนั้นก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้น
น้ำเสียงของชายหนุ่มแหบแห้งมาก เป็นเสียงแปร่งๆ ที่ไม่ควรมีในช่วยอายุของเขา
ชายหนุ่มเอนตัวพิงหัวเตียง สายตาจับจ้องไปที่อวี๋เยว่หานแล้วพูดขึ้นทีละคำ
“ผมจะเอาหุ้นทั้งหมดของตระกูลถังที่ผมมีแลกกับคำสัญญาข้อหนึ่งของคุณ ตอนนี้คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดมีวันหนึ่งที่จำเป็น ช่วยปกป้องเธอแทนผม”
นี่คือเรื่องเดียวที่เขาปล่อยวางไม่ได้……
ซินเอ๋อร์ของเขา เมื่อไม่มีเขา เธออยู่คนเดียวในเมืองเอชมันอันตรายมาก
สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการดูแลเธอให้ปลอดภัยที่สุด
ขอแค่เห็นเธอมีความสุข ชีวิตนี้เขาก็ไม่มีอะไรต้องเสียดายอีกต่อไปแล้ว
“ตอนนี้การแพทย์ก้าวหน้าไปมาก ไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ เหรอ” ดวงตาของอวี๋เยว่หานไหววูบ คิ้วขมวดแน่น
โรคหัวใจของถังหยวนซือเป็นมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา
หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ประคองกันมาได้
บางที ผ่านไปอีกสักสองสามปี รอให้การแพทย์ก้าวหน้ากว่านี้ อาการป่วยของเขาอาจมีหวังก็ได้
สิ้นเสียง ถังหยวนซือก็ส่ายหน้าน้อยๆ แววตาไม่มีความเกรงกลัวต่อความตาย มีแต่ความสงบ
“แม้ผมจะไม่เคยพูดถึงสถานะของซ่างซิน แต่คุณก็น่าจะเดาได้ เธอคือซ่างมู่ซิน ลูกสาวคนเดียวของตระกูลซ่างซึ่งเป็นตระกูลหนึ่งในสามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองเอส
ตอนนั้น เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
ต่อมา มีวาสนาได้นักธุรกิจใหญ่อย่างเหยียนเฉิงฉือรับตัวไปเลี้ยง กลายเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลเหยียน
งานอดิเรกของเหยียนเฉิงฉือไม่มีอะไรนอกจากการหวงลูกสาว
งานอดิเรกที่ชอบที่สุดก็คือการแย่งลูกสาวของเพื่อนสนิทอย่างซ่างหลิงซือ
มักจะพาซ่างมู่ซินที่อายุยังน้อยๆ มาที่บ้านตระกูลเหยียน
เวลาผ่านไป พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกัน
ในตระกูลเหยียน แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ลูกบุญธรรม แต่ว่าเหยียนเฉิงฉือดีต่อเขามาก ไม่อย่างนั้น ด้วยสภาพร่างหายอย่างเขาคงอยู่มาไม่ได้จนถึงทุกวันนี้หรอก
อีกอย่าง เรื่องความสามารถในการทำธุรกิจของเขา เหยียนเฉิงฉือก็เป็นคนสอนมาเอง
หากโรคของเขาสามารถรักษาให้หายได้นั้น มันจะยื้อมาจนถึงทุกวันนี้เหรอ……
ที่เขายอมกลับมาที่ตระกูลถัง นอกจากอยากจะเห็นหน้าครอบครัวที่ทอดทิ้งเขาไปแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คืออยากอยู่ให้ห่างจากเธอ
ตอนที่ 704 ผู้ชายที่โดนทิ้ง
เมื่อเวลาผ่านไป หญิงสาวก็จะลืมเขาไปเอง การตายของคนที่ไม่สำคัญในชีวิตของเธอก็คงจะไม่ได้ทำให้เธอต้องเสียใจสักเท่าไหร่
เธอยังคงเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่างได้อย่างไม่ต้องมีอะไรกังวลใจ
แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวจะตามเขามาที่เมืองเอช
เปลี่ยนสถานะเป็นนักแสดงเข้าสู่วงการนางแบบ
ติดตามอยู่ข้างกายเขาอย่างไม่ยอมย่อท้อ
ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนที่เขารับรู้เรื่องนี้ จิตใจภายในของเขาสั่นไหวสักแค่ไหน
ถ้าหากเป็นไปได้ เขายินดีที่จะแลกทุกอย่างเพื่อที่จะได้มีโอกาสอยู่กับเธอ
แต่เขาจะบอกเธอได้อย่างไรกันว่าผู้ชายที่เธอรักคนนี้ ไม่มีปัญญาแม้แต่จะอยู่กับเธอไปตอลดชีวิต
แถมยังต้องให้เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัวทุกวันว่าจะต้องเสียคนรักของตัวเองไปในวันใดวันหนึ่ง……
เขาทำไม่ได้……
และก็เกลียดที่ตัวเองไร้ความสามารถแบบนี้
“ผมจะพิจารณาข้อเสนอของคุณ แต่ว่าคุณหายตัวไปนานเกินไป ตอนนี้ตระกูลถังเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ถ้าคุณยังไม่ปรากฏตัวอีกล่ะก็ เกรงว่าซ่างซินก็คงจะสังเกตความผิดปกติได้ในเร็วๆ นี้แหล่ะ” อวี๋เยว่หานพูดขึ้นช้าๆ
ร่างสง่า ค่อยๆ เอนพิงพนักเก้าอี้ทางด้านหลัง
“พรุ่งนี้ผมจะออกจากโรงพยาบาล” ถังหยวนซือพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เหมือนว่า ชายหนุ่มจะรู้ทุกอย่างหมดแล้ว
เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น อวี๋เยว่หานก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก
เขาวางสมุดบันทึกอาการป่วยลง แล้วลุกขึ้นยืน
เตรียมจะหมุนตัวเดินจากไป
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ก็พบกับหมอที่พาพยาบาลเดินเข้ามาพอดี
ชายหนุ่มกวาดตามองดูถาดที่พยาบาลเดินถือเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเห็นว่าในถาดมียาอยู่ คิ้วก็ขมวดแน่นขึ้น
ตอนที่เขาดูบันทึกอาการป่วยของถังหยวนซือเมื่อครู่ก็กำลังสงสัยอยู่พอดี นึกไม่ถึงเลยว่าถังหยวนซือจะเริ่มใช้ยารุนแรงเพื่อที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลโดยเร็ว
ดูเหมือนว่า เพื่อที่จะให้ซ่างซินจากไปอย่างสบายใจ เขาไม่ห่วงแม้แต่ชีวิตของตัวเองจริงๆ……
ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ
อวี๋เยว่หานหลุบตาลง จากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อชายหนุ่มกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ เตียงใหญ่ในห้องนอนหลักของเขาก็มีคนโตใหญ่กับคนตัวเล็กนอนกอดกันหลับสบายอยู่บนเตียงแล้ว
เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นคนที่นอนดิ้นมากคนหนึ่ง
ร่างของเจ้าก้อนข้าวเหนียว ตอนแรกยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ดีๆ พริบตาเดียวก็คลานไปทางหน้าอกของหญิงสาว
ศีรษะเล็กซุกอยู่ตรงหน้าอกนุ่มนิ่ม เหมือนหนูแฮมเตอร์ตัวน้อยๆ พยายามจะไถลตัวไปข้างหน้าต่ออย่างสุดความสามารถ
จนสุดท้าย ใบหน้าเล็กก็ไปเกยหนุนอยู่บนหน้าอกของเหนียนเสี่ยวมู่ ขมุบขมิบปากแล้วหลับต่อ……
สองแม่ลูกหลับสบายมาก ราวกับไม่มีใครสนใจเลยว่าหัวหน้าครอบครัวอย่างเขาหายตัวไป
อวี๋เยว่หานถอดเสื้อคลุมออกแล้วโยนไปบนโซฟาอย่างลวกๆ
ใช้มือดึงเน็คไทออกแล้วเดินไปที่เตียง
มองดูเจ้าก้อนข้าวเหนียวที่แย่งที่นอนของเขา ดวงตาสีดำเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย อุ้มเธอขึ้นแล้ววางไว้ข้างๆ
เนื่องจากบทเรียนครั้งที่แล้วที่เสี่ยวลิ่วลิ่วกลิ้งตกลงไปบนพื้น จนทำลายแผนการดีๆ ของเขาไป
ครั้งนี้ อวี๋เยว่หานจึงปูผ้าห่มผืนหนาลงบนพื้นอย่างใส่ใจ
ให้แน่ใจว่าเมื่อเธอกลิ้งตกลงไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมา
จากนั้นก็เอนตัวลงนอนข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่อย่างพอใจ ดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
เลียนแบบท่าทางของเสี่ยวลิ่วลิ่ว ซุกหน้าลงบนหน้าอกของเหนียนเสี่ยวมู่ ในใจก็รู้สึกพอใจ……
“เพี๊ยะ” มือข้างหนึ่งปัดศีรษะของเขาให้ออกห่างอย่างแรง
ตามด้วยเสียงพึมพำอย่างรำคาญของเหนียนเสี่ยวมู่ “ออกไปห่างๆ อย่ามากวนฉันนอน……”
อวี๋เยว่หาน “???”
ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ เธอต้องคิดว่าเขาคือเสี่ยวลิ่วลิ่ว
อวี๋เยว่หานล้มตัวลงนอนข้างหญิงสาวอีกครั้ง น้ำเสียงทุ้มต่ำชวนให้หลงใหล “เหนียนเสี่ยวมู่ ผมเอง”
วินาทีต่อมา ก็ถูกมือข้างหนึ่งผลักออกอีกครั้งอย่างไม่ลังเล “ฉันก็หมายถึงคุณนั่นแหล่ะ”
อวี๋เยว่หาน “……”!!