บทที่ 55 – ‘Mage Card’
หลังจากที่ฉันกลับมาถึงห้องก็ปิดประตูลง เงาร่างของสกาเล็ตก็ค่อยๆ โผล่ออกมา พวกเรามองหน้ากันเงียบๆ
“ฉันคิดว่าเธอมีอะไรต้องพูดนะ”
“อืม.. ข้าไม่น่าถามเลย”
“ฉันเองก็ไม่น่าสมองใสไปถามเจ้าหมอนั่นเหมือนกัน”
“….”
พวกเราถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างช่วยไม่ได้ แต่จู่ๆ สกาเล็ตก็เหมือนจะโกรธขึ้นมา
“บัดซบ เจ้าเด็กนั่นมันพูดบ้าอะไรของมัน หัวข้าปวดไปหมดเลย”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าถ้าเร็วขึ้นเวลาเราจะไหลช้าลง เข้าใจป่ะ?”
“เข้าใจแล้วๆ”
สกาเล็ตรีบเข้าใจแทบจะทันที ทั้งฉันและเธอต่างก็ไม่เข้าใจสิ่งที่ไอน์สไตน์พูดสักอย่าง ไม่สิ .. สกาเล็ตคงพอเข้าใจละมั้ง ฉันเองก็ไม่มั่นใจ
แต่สำหรับฉันคือไม่มีอะไรเข้าหัวเลยสักอย่างจ้า.. ช่างเรื่องนั้นไผเถอะกลับมาที่เรื่องเดิมของเรา
อย่างที่ฉันบอกว่าเราจะเข้าไปในมิติพิเศษแล้วเอามิตินั้นเร่งความเร็วในเครื่องเร่งมวล ในมิตินั้นเราจะไม่รู้สึกผิดปกติอะไรเลย
หากให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนโลกเดิมของฉันนั่นแหละ โลกหมุนรอบตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่พอมันยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปด้วย
ในขณะที่ระบบสุริยะเองก็หมุนรอบกาแล็กซีอีกทีหนึ่ง ซึ่งความเร็วมันสูงมากแต่เราก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเคลื่อนไหวอยู่
ในมิติพิเศษนี้เช่นกัน แม้มิติจะโดนเร่งแต่เราที่อยู่ในนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องห่วง
“แล้วการแข่งขันรอบสามคืออะไรกันแน่ ดูทางโรงเรียนของพวกเจ้าจะไม่เปิดเผยการแข่งขันรอบสามสักทีนะ”
“นั่นก็แน่นอนล่ะ”
ฉันตอบออกไป ไม่แปลกใจที่ทางโรงเรียนจะเงียบเรื่องการสอบรอบสุดท้ายไว้ เพราะว่าถ้าหากบอกก่อนละก็นักเรียนจะเตรียมตัวทันไงล่ะ
อีกอย่างถ้าบอกก่อนในการแข่งขันรอบหนึ่งกับรอบสองต้องเปลี่ยนกระแสแน่ๆ
“เพราะการแข่งขันรอบสามก็คือ ‘การเอาตัวรอด’ ยังไงล่ะ”
“หมายความว่าไง?”
สกาเล็ตถามด้วยความสงสัย ฉันเองก็ซื้อของที่ต้องการมาแล้วเลยเริ่มวาดแผนที่ตามที่ฉันต้องการ ถึงทักษะการเรียนการเขียนฉันจะไม่ดี
แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าทักษะการวาดภาพของฉันน่ะ…
“เจ้าวาดตัวไรเนี่ย อุบาทว์เกิน สัตว์ประหลาดหมีเหรอ”
“โหดร้าย! ฉันวาดแผนที่ต่างหาก แผนที่อ่ะ!”
ใช่ กากหมาเหมือนกันค่ะ ….
อ่ะแฮ่ม ช่างเถอะเอาเป็นว่ามันสวยในแบบของมันนั่นแหละน่า ฉันเมินคำดูถูกของสกาเล็ต ขอแค่ฉันเข้าใจก็พอแล้วล่ะ
อีกอย่างถ้าคนอื่นดูไม่ออกจะสะดวกต่อฉันมาก เพราะตอนเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายพวกคนตรวจของจะได้ไม่รู้ว่านี่คือแผนที่ของสถานที่ที่ต้องไปสอบไงล่ะ
สมกับเป็นฉันมองโลกในแง่ดีได้เก่งสุดๆ เลย..
“จะบอกว่าเอาตัวรอดก็ไม่ถูกซะทีเดียว….”
ฉันเริ่มอธิบายการแข่งขันที่สามให้กับสกาเล็ตฟัง ใช่แล้วข้อได้เปรียบของฉันคือนี่แหละรู้ว่าการแข่งขันคืออะไรและได้เปรียบในการวางแผน
นอกจากจะรู้ว่าการแข่งขันที่สามคืออะไรแล้ว… ฉันรู้ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ แทบทุกอย่างในงานแข่งขันด้วย
จะเรียกว่าเห็นอนาคตก็คงได้ จากที่ฉันอยู่โรงเรียนมาถึงบางเหตุการณ์อาจจะไม่เหมือนในเกมซะทีเดียว แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะเหมือนในเกมค่อนข้างมาก
อีเว้นนี้เป็นอีเว้นที่นางร้ายประจำรูทจะได้รับพลังด้านมืดมาและกลายเป็นบอสลับไปในที่สุด
ใช่ ฉันหมายถึงว่าไม่ใช่แค่รูทของอนาสตาเซีย แต่เป็นรูทของนางร้ายคนอื่นด้วย ดังนั้นตอนเล่นฉันจึงต้องโฟกัสอีเว้นนี้
เลยทำให้จำรายละเอียดได้เยอะ อย่างไรก็ตามหากเลือกเดินทางผิดรูทที่เจ็ดนี้อาจจะพาฉันไปตายตั้งแต่ตอนต้นเกมก็ได้
ซึ่งใครมันจะไปยอมตายฟระ ยังไม่ได้กอดถูไถ ดมฟุตฟิต สาวหูสัตว์หรือสาวเอล์ฟเลยนะ!
กลับมาเรื่องเดิมก่อน อีเว้นนี้จะให้นักเรียนเข้าไปที่พื้นที่พิเศษ โดยพื้นที่พิเศษดังกล่าวนั้นจะกว้างขวางมาก กว้างขนาดหลายพันตารางกิโลเมตรเลยก็ว่าได้ล่ะ
โดยในพื้นที่ดังกล่าวจะถูกเรียกว่า ‘เขตเฟสเตอร์’ ตามชื่องานแข่งขันเฟสเตอร์
เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นพวกเราจะถูกกระจัดกระจายไปตามแต่ละสถานที่ โดยจะวัดจากคะแนนข้อสอบเขียน และข้อสอบเอาตัวรอดในสองรอบก่อนหน้า
ภายในเขตเฟสเตอร์นั้นจะแบ่งออกเป็น 6 โซน ซึ่งประกอบไปด้วย 5 โซนของนักเรียนทั้งหมดและ 1 โซนที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ
แน่นอนว่า 5 โซนนั้นคือไว้รองรับทั้งห้าโรงเรียนนั่นแหละ แต่กิจกรรมครั้งนี้จะไม่ได้แบ่งตามโรงเรียน เพราะพวกเขาจะแบ่งตามสัดส่วนความสามารถ
กล่าวคือเราจะได้ไปอยู่โซนหนึ่งร่วมกับโรงเรียนอื่น!
โดยทั้งห้าโซนนั้นจะนับเป็นศัตรูกันก็ได้ หรือจะร่วมมือกันก็ได้
อันที่จริงภายในแต่ละโซนยังมีการแบ่งภูมิภาคกันอีกต่อหนึ่งด้วย โดยภูมิภาคจะแบ่งออกเป็นสิบๆ ภูมิภาคเลยก็ว่าได้
“แล้วพวกเจ้าต้องทำอะไรในนั้น?”
จู่ๆ สกาเล็ตก็ถามขึ้น ฉันจึงอธิบายต่อ
โดยในเขตพื้นที่เฟสเตอร์นี้จะมีสิ่งทีเรียกว่า ‘เมจ การ์ด’ (Mage Card) อยู่ซึ่งพวกมันจะกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในเขต
บ้างก็ถูกปกป้องไว้ด้วยปีศาจหรืออสุรกาย บ้างก็ถูกปกป้องด้วยกลไกหรือ Puzzle ที่พิเศษต้องแก้ไขมัน
การเก็บรวบรวมเจ้า Mage Card นี้นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำในงานแข่งขันนี้โดย Mage Card เองก็มีหลากหลายระดับอีกด้วย
โดยจะแบ่งเป็นสีต่างๆ ไล่จาก ดำคือต่ำที่สุด แดงคือระดับค่อนข้างต่ำ ส้มคือระดับกลาง เหลืองคือระดับค่อนข้างดีและสุดท้ายสีทองคือยอดเยี่ยม
การ์ดดำมีคะแนนอยู่ 3 คะแนน แดงมี 5, ส้มมี 10, เหลืองมี 20 และทองมี 50 ยิ่งเรามีแต้มเยอะมากเท่าไหร่เมื่อการแข่งขันจบเราจะยิ่งมีโอกาสได้รับชัยชนะ
แต่ทว่าไม่ใช่แค่นั้น อย่างที่บอกว่ามันคือการ์ดเวท (Mage Card) มันคือการ์ดที่สามารถแสดงคุณสมบัติบางอย่างออกมาได้!
เช่นสมมุติฉันมีการ์ดดำ หากฉันใช้การ์ดดำเหล่านี้ การ์ดดำอาจจะสร้างเวทมนตร์ไฟขึ้นมาทำลายล้างได้หนึ่งครั้ง
แต่การใช้การ์ดจะทำให้การ์ดหายไป และกลับไปอยู่จุดที่มันเคยอยู่ ซึ่งเราจะไม่มีสิทธิ์ท้าทายเพื่อรับมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ
อย่างน้อยต้องรอประมาณ หนึ่งถึงสองวันก่อนนั่นเอง
แน่นอนว่ายิ่งการ์ดระดับสูง สิ่งที่ออกมาเมื่อใช้งานจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก…
แต่ยังไม่หมดเท่านี้เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นในโซนของตัวเองนักเรียนทุกคนจะได้รับการ์ดระดับมาคนละหนึ่งใบทุกคน
โดยระดับของการ์ดนั้นจะสุ่มให้จากการคำนวณการแข่งขันสองรอบก่อนหน้านั่นแหละ
แต่พวกเขาจะไม่สามารถใช้การ์ดของตัวเองได้ นอกจากนี้การ์ดเริ่มต้นจะไม่นับว่าเป็นคะแนน แต่ที่นักเรียนต้องทำคือปกป้องการ์ดนี้จากโซนอื่น
เพราะการ์ดเริ่มต้นนี้จะถูกเก็บไว้ในภูมิภาคที่นักเรียนอยู่ หากต้องการจะรับต้องเคลียร์เงื่อนไขเหมือนการ์ดอื่นๆ เลย
แค่มีนักเรียนมาปกป้องเพิ่มเฉยๆ และหากแย่งชิงการ์ดเวทจากโซนอื่นได้คะแนนที่ได้จากการ์ดดังกล่าวจะ ×2!!
และหากนักเรียนคนไหนถูกขโมยการ์ดที่ตัวเองดูแลไปละก็ คะแนนที่พวกเขามีทั้งหมดจะถูกหักลดไปครึ่งหนึ่งเลย!
แต่โซนเดียวกันถึงจะขโมยการ์ดที่อยู่ในโซนเดียวกันก็ไม่ได้คะแนนอะไรหรอกนะเออ
โซนทั้งห้าจะถูกแบ่งออกเป็นห้าทิศเหมือนรูปดาว.. ส่วนตรงกลางดาวคือโซนที่ไม่มีการปกป้องจากนักเรียน แต่การ์ดเวทในนี้จะเยอะมาก
แต่ก็แลกมาด้วยกับภัยอันตรายที่มากมาย…
ใช่แล้วสิ่งที่นักเรียนต้องเผชิญไม่ใช่แค่การเอาตัวรอด แต่ต้องเก็บรวบรวมคะแนนและปกป้องการ์ดไปด้วยนั่นเอง
“และอย่างที่ฉันบอก โซนหนึ่งไม่ได้มีนักเรียนจากโรงเรียนเดียวกัน.. แม้จะนับว่าเป็นทีมเดียวกันแต่ในความคิดฉัน หากขายคนที่อยู่โซนเดียวกันให้กับโรงเรียนตัวเองที่อยู่คนละโซนมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร”
“เจ้าจะบอกว่า…?”
“..ใช่ ไม่ใช่แค่ต้องเอาตัวรอด ปกป้องและเก็บคะแนน แต่ยังต้องระวังพวกโซนเดียวกันมาลอบกัดอีกด้วย จริงๆ รายละเอียดการแข่งขันมันเยอะกว่านี้หรอกนะ มีทั้งการร่วมมือกัน การแชร์คะแนน หรือขายคะแนนของตัวเองแลกกับการย้ายโซน”
“….”
ใช่แล้ว ถึงจะมีอะไรยิบย่อยอีกมากมาย แต่ตอนนี้เข้าใจแค่นี้ไปก่อนก็ได้.. เพราะงานแข่งขันครั้งนี้จะไม่ใช่งานแข่งขันของเด็กอายุสิบต้นๆ..
แต่เป็นการแข่งขันชิงไหวพริบ และแผนการหักหลัง…
และฉันเองก็ต้องเตรียมตัวรับมือ ในฐานะที่มองในมุมมองบุคคลที่สามและรับรู้แผนของตัวละครที่มีบทในเกมแทบทุกคน
ฉันจะเอามาประยุกต์ใช้ในแบบของตนเอง
“หึๆ.. การแข่งขันนี่ ฉันจะต้องชนะแน่! ไม่สิ ฉันต้องชนะให้ได้ เพื่ออนาคตที่ต้องนัวเนียสาวหูสัตว์!”
“เอาจริง อย่างหลังเจ้าไม่ต้องพูดก็ได้นะ.. มันเหมือนคนโรคจิตอ่ะ..”
……….
[เป็นไข้พึ่งหายขรั่บ ไม่ได้หายไปไหนนะเออ! – ผู้เขียน]