“คุณหนู” ลวี่หลีมีความกังวลอยู่บ้าง
“พวกเราไปร้านจวีเซียงฟางก่อน”
อย่างไรก็ตาม นางต้องไปร้านจวีเซียงฟางสักครั้ง
ในเมื่อเยี่ยโยวเหยามอบป้ายทองให้ ดังนั้นต้องมีบันทึกการใช้จ่าย เยี่ยโยวเหยาสามารถตรวจสอบได้อย่างแน่นอน หากเยี่ยโยวเหยาส่งคนไปตรวจสอบที่ร้านจวีเซียงฟาง แล้วไม่มีบันทึกค่าใช้จ่าย ความลับต้องถูกเปิดเผยเป็นแน่
หากเยี่ยโยวเหยาทราบหลังจากที่ฮองเฮาและหลวงจีนทุศีลหนีไปได้แล้วก็ยังพอทำเนา แต่หากล่วงรู้ก่อนที่พวกเขาจะหนีไปได้คงจะยุ่งยากมากทีเดียว
เรื่องของหลวงจีนทุศีลกับฮองเฮา เพียงซูจิ่นซีเอ่ยปากบอกเยี่ยโยวเหยา ก็คงจัดการได้ง่ายขึ้น ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจลึกๆ ของนางกลับไม่ต้องการให้เรื่องนี้ไปรบกวนเยี่ยโยวเหยา
ซูจิ่นซีนำป้ายทองของเยี่ยโยวเหยาซื้อของมากมายจากร้านจวีเซียงฟาง กระทั่งน้ำหอมที่เพิ่งออกวางขายในร้านจวีเซียงฟาง นางก็ซื้อมาทั้งหมด
ครั้งก่อน เพื่อน้ำหอมกลิ่นดอกมู่หลันขวดนั้น ซูจิ่นซีลังเลอยู่นาน นางต้องแย่งชิงกับฮั่วอวี้เจียวและหวาหรงจวิ้นจู่อยู่ครึ่งค่อนวัน ทว่าครั้งนี้ซูจิ่นซีสามารถสั่งซื้อน้ำหอมขวดนั้นได้ในพริบตา
ใครให้เขาแต่งงานกับคนในยุคปัจจุบันเล่า!
หลังออกมาจากร้านจวีเซียงฟางแล้ว พวกนางก็ตรงไปยังจวนของรองเจ้ากรมหลี่ทันที
ระหว่างทางซูจิ่นซีตั้งใจซื้อหมวกฟางใบหนึ่งมาสวม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น
ขณะที่ซูจิ่นซีรอให้คนที่หน้าประตูจวนเข้าไปรายงาน นางใช้ป้ายคำสั่งของเชื้อพระวงศ์ทั่วไปในการแสดงตัวตน ทว่าไม่ได้ใช้ป้ายของจวนโยวอ๋อง
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ซื่อก็ออกมาต้อนรับด้วยตนเอง
เขาเห็นบนศีรษะของซูจิ่นซีสวมหมวกฟางอยู่ จึงเข้าใจเจตนาของนางในทันที นางไม่ต้องการเปิดเผยสถานะพระชายาโยวอ๋องต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก
“ฮูหยินมาเยือน ข้าน้อยไม่ทันได้ออกมาต้อนรับ ขอฮูหยินโปรดอภัยให้ข้าน้อย”
“ใต้เท้าหลี่ ไม่ต้องมากพิธี! ”
“ฮูหยิน เชิญด้านในขอรับ! ”
หลังจากที่หลี่ซื่อพาซูจิ่นซีไปยังโถงกลาง ซูจิ่นซีก็ถอดหมวกฟางบนศีรษะออก
“หลี่ซื่อ ข้าได้ยินมาว่า บุตรชายคนเล็กของท่านป่วยหนัก วันนี้จึงตั้งใจมาเยี่ยมเป็นพิเศษ”
หลี่ซื่อได้รับความโปรดปรานเช่นนี้ คาดไม่ถึงว่า จู่ๆ ซูจิ่นซีจะมาดูอาการป่วยของบุตรชายคนเล็กของเขาด้วยตนเอง
“กระหม่อมขอบพระทัยพระชายา” ดวงตาทั้งคู่ของหลี่ซื่อเปล่งประกาย รีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที
“เจ้าอย่าเพิ่งรีบขอบคุณข้า ข้าขอดูอาการป่วยของบุตรชายเจ้าก่อนว่าเป็นเช่นไร”
“ได้ ได้ ได้! พระชายาเชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะนำพระชายาไปพบบุตรชาย”
หลี่ซื่อพาซูจิ่นซีไปยังห้องของหลี่เสี่ยวหลาง
ซูจิ่นซีเดาไม่ผิดแม้แต่น้อย หลี่เสี่ยวหลางถูกพิษจริงๆ
นางเพิ่งเดินเข้าประตูเข้าไป ระบบถอนพิษก็แจ้งเตือนทันที
ทว่าเพื่อปกปิดสายตาผู้คน ซูจิ่นซีจึงทำเหมือนทุกครั้งที่กำลังรักษาคน คือจับชีพจร ให้คำปรึกษา และตรวจ…
ไม่ขาดแม้แต่ขั้นตอนเดียว
รองเจ้ากรมหลี่ซื่อใบหน้าเคร่งเครียด “พระชายา เจ้าหนูป่วยเป็นอันใด? รักษาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”
ปีนี้บุตรชายคนเล็กของหลี่ซื่อเพิ่งมีอายุเจ็ดปี ขณะที่ฮูหยินหลี่คลอด นางใช้ชีวิตแลกชีวิต ด้วยเหตุนี้ หลี่ซื่อจึงรักบุตรชายคนนี้มากเป็นพิเศษ กลับคิดไม่ถึงว่า เมื่อเด็กคนนี้เกิดมาจะมีปัญหามากมาย
จนถึงตอนนี้ ไม่คิดว่าจะล้มป่วยจนกลายเป็นเช่นนี้
ซูจิ่นซีหันไปมองลวี่หลีที่ยืนอยู่ด้านข้าง ลวี่หลีเข้าใจในทันที นางเดินออกไปปิดประตู
บนใบหน้าหลี่ซื่อปรากฏความสงสัยเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าซูจิ่นซีทำเช่นนี้เพราะเหตุใด
“หลี่ซื่อ ข้าขอพูดตามตรง บุตรชายของเจ้าไม่ได้ป่วยหนัก ทว่าถูกคนวางยาพิษ”
“วางยาพิษ? ” ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครพูดมาก่อน!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลี่ซื่อไม่สนใจแล้วว่าอดีตจะเป็นเช่นไร ในเวลานี้ ทุกคนล้วนทราบดีว่า ผู้ที่มีทักษะด้านการถอนพิษที่สูงส่งในแคว้นจงหนิงคือ พระชายาโยวอ๋องที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้
“พระชายา ท่านช่วยชีวิตบุตรชายของกระหม่อมด้วยเถิด! กระหม่อมขอร้องพ่ะย่ะค่ะ”
“ให้ข้าช่วยบุตรชายของเจ้าก็ย่อมได้ ทว่าใต้เท้าหลี่ ท่านต้องตอบตกลงข้าเรื่องหนึ่ง”
หลี่ซื่อเพิ่งจะฉุกคิดขึ้นได้ว่า เหตุใดวันนี้ซูจิ่นซีจึงมาดูอาการป่วยของบุตรชายของตน
ทว่าซูจิ่นซีไม่ได้บีบบังคับ นางทำเพียงรอคอย
“ไม่ทราบว่า พระชายาต้องการให้กระหม่อมทำเรื่องใด”
ซูจิ่นซีพูดเรื่องแผนการที่จะช่วยเหลือหลวงจีนทุศีล ทว่าไม่ได้พูดแผนการออกมาทั้งหมด นางพูดเพียงว่าจะช่วยเหลือหลวงจีนทุศีล แต่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องของฮองเฮา
ใบหน้าของหลี่ซื่อซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด
เขาเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ยุติธรรมมานานหลายปี ไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน
“ข้ารู้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลำบากใจมากสำหรับใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่จะเลือกไม่รักษาก็ได้”
ไม่รักษา?
หากก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่า บุตรชายของตนยังสามารถช่วยเหลือได้ ในใจของหลี่ซื่ออาจรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียบุตรชายไป แต่รู้ทั้งรู้ว่าช่วยได้ กลับไม่ช่วย ในใจของเขาจะสงบลงได้อย่างไร ต่อไปเขาจะเผชิญหน้ากับภรรยาที่อยู่ในปรโลกได้อย่างไร?
หลี่ซื่อขมวดคิ้วคิดหนัก
ซูจิ่นซียังคงไม่บีบบังคับ นางรอคอยอยู่เงียบๆ
เรื่องที่ให้อีกฝ่ายทำผิดต่อมโนธรรมของตนนั้น เดิมทีไม่ใช่สิ่งที่ซูจิ่นซีต้องการทำ ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ขาวสะอาด
ภายในใจของหลี่ซื่อสับสน เขามองซูจิ่นซี และมองบุตรชายที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
เด็กชายเป็นคนที่เชื่อฟังและน่ารัก แม้แต่ละวันจะฟื้นขึ้นมาเพียงหนึ่งหรือสองชั่วยามเท่านั้น ทว่าเขามักจะทำให้หลี่ซื่อมีความสุขและความทรงจำที่ดีมากมาย
ใบหน้าและนิสัยของเขาเหมือนมารดาของเขามาก ทำให้หลี่ซื่อนึกถึงภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว
หลี่ซื่อสูญเสียภรรยาไปแล้ว เขาจะทำใจสูญเสียบุตรชายไปอีกคนได้อย่างไร?
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดหลี่ซื่อก็ตัดสินใจเรื่องสำคัญครั้งใหญ่ในชีวิต
“พระชายา กระหม่อมตกลงพ่ะย่ะค่ะ ขอร้องพระชายาช่วยบุตรชายของกระหม่อมด้วยได้หรือไม่? ”
“ใต้เท้าหลี่ ท่านคิดดีแล้วหรือ สิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านทำคือเรื่องที่ต้องใช้เล่ห์กล หากวันใดถูกค้นพบ ความซื่อสัตย์ยุติธรรมของท่านในหลายปีมานี้ ทุกอย่างจะสลายสิ้นภายในวันเดียว”
“กระหม่อมตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว พระชายาโปรดลงมือได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้ ใต้เท้าหลี่วางใจ หากเรื่องนี้กระทำด้วยความรอบคอบระมัดระวัง มันก็จะเป็นเพียงความลับระหว่างข้าและท่าน นอกจากหลวงจีนทุศีลแล้ว จะไม่มีผู้อื่นล่วงรู้ หากวันหนึ่งวันใดเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา ข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาด้วยตนเอง ข้าไม่มีวันทำลายความบริสุทธิ์และความซื่อสัตย์ของท่าน”
หลี่ซื่อไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาคิดไม่ถึงว่า ซูจิ่นซีจะเอ่ยปากรับรองเรื่องเหล่านี้ด้วยตนเอง
ต้องรู้ว่า ซูจิ่นซีมีฐานะสูงส่งและเป็นที่นับถือเพียงใด
ซูจิ่นซีมองหลี่ซื่อด้วยสายตาขอบคุณซาบซึ้ง นางยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ต้องเชิญใต้เท้าหลี่ช่วยเป็นลูกมือ ถอดเสื้อผ้าคุณชายน้อยของท่านออก”
หลี่ซื่อรีบตอบสนอง เขาลุกขึ้นช่วยซูจิ่นซีถอดเสื้อผ้าบนร่างกายของหลี่เสี่ยวหลาง
เป็นเหมือนที่ซูจิ่นซีคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ผิวหนังบริเวณหน้าอกของหลี่เสี่ยวหลางเป็นสีเขียวทั้งหมด ฝ่าเท้าทั้งสองข้างก็เป็นสีดำ
นี่เป็นเพราะ ขณะที่มารดาตั้งครรภ์ได้ใช้ยาทำแท้ง เมื่อคลอดออกมา สารพิษนั้นไม่ถูกกำจัดออกจนหมดและตกค้างอยู่ในร่างกาย หลังจากคลอดทารกออกมาระยะหนึ่งก็ยังได้รับสารพิษเพิ่มเข้าไปอีก
ในตอนนั้น หลี่ฮูหยินใช้ยาทำแท้งได้อย่างไร?
เด็กทารกที่เพิ่งคลอดออกมา จะได้รับยาพิษจำนวนมากได้อย่างไร?
ในจวนของรองเจ้ากรมหลี่ แม้จะมีอนุไม่มาก ทว่าก็มีอนุสองนาง เรื่องเช่นนี้ไม่ต้องให้ซูจิ่นซีกล่าวให้มากความ
นางทำเพียงถอนพิษ พร้อมทั้งอธิบายสาเหตุความเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดอาการป่วยให้รองเจ้ากรมหลี่ฟังรอบหนึ่ง
รองเจ้ากรมหลี่ได้ฟังแล้ว แววตายิ่งขึงขังมากขึ้นเรื่อยๆ