ตอนที่ 576 ต้องไปจากที่นี่แล้ว
หลังจากเหยียนอวี้วางสาย เขาก็มองกล่องที่อยู่บนโต๊ะแล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เดิมทีคิดว่าพวกเขาคืนดีกันแล้ว ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นกะทันหันในเวลานี้ได้
เขากุมขมับ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
‘ช่างเถอะ ช่างเถอะ มันเป็นสิ่งที่พวกเขาก่อขึ้นทั้งนั้น’
มั่วไป๋กลับมายังห้องพักผู้ป่วย มองดูห้องที่ว่างเปล่า ในใจก็มีความรู้สึกบางอย่างที่พูดไม่ออกเอ่อขึ้นมา เหมือนข้างในทะลุเป็นรูกลวงขนาดใหญ่ว่างเปล่า
เวลาผ่านไปนานแล้ว มั่วไป๋หลับตาลง ปกปิดความเศร้าเสียใจสู่ก้นบึ้งของหัวใจลงไปอย่างช้าๆ
……
หลังจากไป๋จิ่งมาถึงที่ร้านกาแฟใต้ตึก เขาก็โทรหาเหยียนอวี้ เพียงไม่นานเหยียนอวี้ก็ยกกล่องเดินเข้ามา
ไม่เจอกันไม่กี่วัน ไป๋จิ่งผอมลงเท่าตัว เหยียนอวี้อดไม่ได้ที่จะอยากถอนหายใจ
สองคนนี้ต่างฝ่ายต่างใช้วิธีของตัวเองทรมานตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาเดินไปอยู่ต่อหน้าไป๋จิ่งอย่างช้าๆ แล้วนั่งลงไป
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ” เหยียนอวี้เอ่ยถามเสียงต่ำ
ไป๋จิ่งพยักหน้ารับ “ดีมากครับ”
เหยียนอวี้ได้ยินก็เอ่ยต่อ “เขาสบายดีมาก คุณวางใจได้ครับ”
มือไป๋จิ่งที่วางอยู่บนแก้วกำแน่นขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าแบบนี้จะทำให้ตัวเองสงบจิตใจลงขึ้นมาได้บ้างยามได้ยินเรื่องของมั่วไป๋
เวลาผ่านไปสักพัก ไป๋จิ่งขานรับ “อืม รบกวนคุณดูแลเขาเยอะๆ ด้วยนะครับ”
“วางใจเถอะครับ ผมเป็นเพื่อนของเขา ต้องดูแลเขาได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว” เหยียนอวี้มองเขาแวบหนึ่ง “แล้วคุณล่ะ ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอครับ”
เหยียนอวี้มองเขาอีกแวบหนึ่ง แล้วค่อยเก็บสายตากลับเข้ามา
“ผมต้องไปจากที่นี่สองวัน” จู่ๆ ไป๋จิ่งก็เอ่ยขึ้นกะทันหัน
เหยียนอวี้เลิกคิ้ว “วันผ่าตัดวันนั้นคุณจะกลับมาได้หรือเปล่าครับ”
“ได้ครับ ผมจะอยู่กับเขาตอนผ่าตัด” ไม่ว่ามั่วไป๋อยากจะเจอเขาหรือไม่ก็ตาม เขาก็จะอยู่เคียงข้างมั่วไป๋
เมื่อก่อนเขาผิดพลาดไปแล้ว ครั้งนี้เขาจะผิดพลาดอีกไม่ได้แล้ว
เหยียนอวี้เห็นแบบนี้แล้วก็พยักหน้ารับ “การผ่าตัดของเขาอยู่ช่วงบ่าย ผมจะพยายามเลทให้นิดหน่อย”
ไป๋จิ่งพยักหน้ารับ “ขอบคุณนะครับ”
เหยียนอวี้หยุดสักพัก “ทำไมต้องไปเวลานี้ด้วยเหรอครับ”
ไป๋จิ่งยิ้มหัวเราะ “เจียงมู่เฉินจะแต่งงานแล้วครับ”
เหยียนอวี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ไม่หรอกมั้งครับ เร็วขนาดนี้เชียว”
“ซือเหยี่ยนต้องการจะขอแต่งงาน อยากจะให้พวกเรามาทำเซอร์ไพรส์ให้เจียงมู่เฉินครับ” พูดถึงตรงนี้ไป๋จิ่งก็หยุดสักพัก ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะจดทะเบียนสมรสกับมั่วไป๋อย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเหมือนกัน
ไป๋จิ่งถอนหายใจ ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วสักวัน เขาจะต้องคว้ามั่วไป๋มาอยู่ข้างกายเขาให้ได้
ตอนนี้ทำไม่ได้ เขาก็จะพยายามต่อไป
พูดคุยกับเหยียนอวี้อีกไม่กี่ประโยค ไป๋จิ่งก็เตรียมจะออกไป
หลังจากเหยียนอวี้ออกไป ไป๋จิ่งถึงเพิ่งหอบเอากล่องที่มั่วไป๋ส่งให้เขาเดินออกมา
ออกจากร้านกาแฟมาแล้ว ไป๋จิ่งไม่ได้รีบออกไปทันที เขาเอากล่องวางในรถ แล้วกลับเข้ามาในโรงพยาบาลอีกครั้งหลังจากนั้น
เขาไปยังห้องพักผู้ป่วยของมั่วไป๋อีกครั้ง ประตูปิดแน่นสนิท ไป๋จิ่งยืนอยู่หน้าประตูแอบมองเข้าไปดูแวบหนึ่ง
มั่วไป๋กำลังขลุกตัวอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา ไป๋จิ่งมองอย่างลึกซึ้ง อาลัยอาวรณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด สุดท้ายก็ไม่กล้าจะอยู่ต่อ เดินจากไปอย่างเงียบงันไร้เสียงใด
จิตใต้สำนึกสั่งให้มั่วไป๋มองไปทางประตู เพียงแต่ว่าหน้าประตูก็ว่างเปล่า ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับเบนสายตากลับมาอีกครั้ง
……
ใกล้จะถึงสัปดาห์ของการผ่าตัด มั่วไป๋อยู่ที่โรงพยาบาลตลอดเวลา ไม่ได้ออกไปไหน เหยียนอวี้มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาเสมอ
เขาเป็นคนเงียบๆ แต่ก็ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างสบาย
ราวกับไป๋จิ่งสลายหายไปไม่เหลืออย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นมั่วไป๋หรือว่าเหยียนอวี้ ไม่มีใครเอ่ยถึงเขาแม้สักคน
วันนั้นเจียงมู่เฉินขอแต่งงานกันเอิกเกริกใหญ่โต เช้าวันต่อมาเขาถึงเพิ่งเห็นข่าว
มั่วไป๋ถือแท็บเล็ตไว้ เขาอดจะยิ้มหัวเราะไม่ได้
ขอแต่งงานได้เปิดเผยสะเทือนวงการขนาดนี้ คาดว่าคงจะมีเพียงแค่เจียงมู่เฉินคนเดียวแล้ว
ตอนที่ 577 ผ่าตัด
เจียงมู่เฉินในจอยังเย่อหยิ่งทะนงตัวไม่ต่างจากเมื่อก่อน
แต่คิดไม่ถึงว่าเจียงมู่เฉินผู้เย่อหยิ่งจะใช้วิธีประกาศให้โลกรู้แบบนี้ขอซือเหยี่ยนแต่งงาน
‘คงจะเพราะรักมาก รักมากๆ ถึงได้ทำมาถึงขั้นนี้ได้มั้ง’
มั่วไป๋อวยพรให้โดยไร้เสียง ขณะเดียวกันก็อิจฉาอย่างเงียบๆ ไปด้วย
เขาก็เคยคิดเหมือนกัน ว่าตัวเองใกล้จะหาความสุขเจอแล้ว
แต่อีกแค่ก้าวเดียว ก้าวเดียวเท่านั้น…
ครั้งนี้ในที่สุดเขาก็ตื่นแล้วจริงๆ ฝันที่ไม่ควรจะฝัน ต่อไปเขาก็คงจะไม่ฝันแบบนี้ไปอีกชั่วนิรันดร์แล้ว
ข่าวในแท็บเล็ต มั่วไป๋เอาแต่กดเปิดดูซ้ำๆ เปิดเล่นซ้ำๆ นึกถึงประโยคนั้นซ้ำๆ อยู่ในห้องพักผู้ป่วย “ในเมื่อเป็นของหมั้น นายอยากจะถือโอกาสนี้แต่งงานกันเลยไหม”
แล้วก็ประโยคนั้นของซือเหยี่ยน “ได้”
แพรขนตายาวของมั่วไป๋สั่นสะเทือน
ที่จริงตอนนั้น…เขาเองก็มีของหมั้น
เพียงแต่น่าเสียดาย…ไม่มีคนตอบรับเขาว่า ‘ได้’ สักคำ
……
วันนั้นตอนค่ำ ซือเหยี่ยนขอแต่งงาน ไป๋จิ่งยืนอยู่ในมุมมืดมองเห็นทุกกระบวนการกับตาของตัวเอง เขามองดูซือเหยี่ยนและเจียงมู่เฉินภายใต้แสงไฟ
ไป๋จิ่งเห็นซือเหยี่ยนก็อดจะยิ้มหัวเราะไม่ได้
ซือเหยี่ยนคนที่เย็นชาเรียบเฉยมาตลอด แต่ตอนขอแต่งงาน สีหน้าท่าทางกลับดูตื่นตระหนกเป็นพิเศษ
ส่วนคุณชายน้อยผู้เย่อหยิ่งคนนั้นยังคงเย่อหยิ่งเหมือนเดิม แต่กลับเย่อหยิ่งเกินเบอร์ไปมาก
ไป๋จิ่งเห็นซือเหยี่ยนในชุดสีขาวราวหิมะ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าวันหลัง เขาทำแบบนี้กับมั่วไป๋บ้าง จะดีกว่าซือเหยี่ยนไปได้หรือเปล่า
จนกระทั่งหลังจากซือเหยี่ยนสวมแหวนให้เจียงมู่เฉินแล้ว สายตาไป๋จิ่งก็มาจดจ่ออยู่ที่แหวนวงนั้น
นัยน์ตาค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ มีความสับสนอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นเจียงมู่เฉินก็ควักเอามือถือออกมา เดิมไป๋จิ่งยังกำลังสงสัยอยู่ ต่อมาก็ได้ยินเสียงของมั่วไป๋
ไป๋จิ่งแข็งทื่อไปทั้งตัวโดยอัตโนมัติ เขาได้ยินเสียงมั่วไป๋ในมือถือ หัวใจก็ค่อยๆ บีบรัดตัวแน่นอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงมั่วไป๋ถึงได้หยุดลง
เวลานี้ไป๋จิ่งแทบอยากจะพุ่งตัวไปโรงพยาบาล แล้วคว้ามั่วไป๋มากอดไว้จมอกอย่างแน่นสนิท
เขายิ้มหัวเราะ ภายใต้แสงไฟช่างดูขมขื่นเหลือเกิน
……
หลังจากร่วมงานแต่งงานของเจียงมู่เฉินกับซือเหยี่ยนเสร็จแล้ว ไป๋จิ่งไม่ได้อยู่ต่อนาน เขามุ่งหน้าออกจากโบสถ์ไป
ตอนที่จะไป เจียงมู่เฉินเชิดตามองเขา “นายอย่าคิดจะรังแกไป๋ไป๋ของฉันนะ ถ้านายกล้ารังแกเขา ฉันจะเล่นงานนายตายแน่”
“อืม” ไป๋จิ่งขานรับ ต่อให้ส่งตัวไปให้รังแก เขาก็รังแกมั่วไป๋ไม่ลงหรอก
เจียงมู่เฉินมองดูเขาพลางถอนหายใจเงียบๆ เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ทำไมฉันถึงมีความรู้สึกเหมือนแต่งลูกชายออกเรือนนะ”
ดวงตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนจดจ่ออยู่ที่เจียงมู่เฉินในชุดสูทสวมรองเท้าหนังซึ่งยืนอยู่ข้างกาย เอ่ยอย่างไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว “สู้ๆ นะ”
ไป๋จิ่งมุมปากกระตุกแล้ว รู้สึกว่าซือเหยี่ยนเจ้าหมอนี่พอแต่งงานแล้ว ท่าทีที่มีต่อเขาทำแบบขอไปทีเกินไปจริงๆ
หลังจากออกจากพิธีแต่งงานไป ไป๋จิ่งก็มุ่งหน้าไปสนามบิน ขึ้นบินกลับไป
เมื่อเขามาถึง เวลาก็ใกล้จะถึงช่วงผ่าตัดแล้ว ระหว่างทางหลังจากไป๋จิ่งทราบเวลาผ่าตัดที่แน่ชัดกับเหยียนอวี้แล้ว เขาก็รีบตามเข้าไปทันที
เขาพุ่งเข้าไปถึงห้องพักผู้ป่วย เขาก็เห็นมั่วไป๋นอนบนเตียงคนไข้ที่ถูกเข็นออกมา
ไป๋จิ่งหัวใจบีบคั้น รีบเร่งฝีเท้าตามอยู่ข้างหลัง ระมัดระวังกลัวมั่วไป๋จะเห็นเขา
จนกระทั่งมั่วไป๋ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ไป๋จิ่งได้ยืนอย่างเปิดเผยอยู่หน้าประตู
เหยียนอวี้ตามมาอยู่ด้านหลัง มั่วไป๋ถูกผลักเข้าไปแล้ว เหยียนอวี้ถึงเพิ่งจะเตรียมเข้าไป เขาเห็นไป๋จิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู ก็เอื้อมมือไปตบบ่าอีกฝ่าย
“วางใจได้ครับ ไม่มีความเสี่ยงอะไรที่ใหญ่เกินไป”
ไป๋จิ่งพยักหน้ารับ แต่สีหน้ากลับไม่ผ่อนคลายลงอยู่ตลอดเวลา
Related