บทที่ 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว
วินาทีสุดท้ายก่อนที่เทพ X จะลับสายตาไป หวังเหาพยายามสแกนข้อมูลของอีกฝ่าย แต่กลับมีเพียงเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นมาเท่านั้น
ชัดเจนแล้วว่าเทพ X ไม่ใช่ผู้เล่นที่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในเกมนี้
“นี่เราโดนหลอกเหรอวะเนี่ย!”
หวังเหาคำรามออกมาด้วยความเดือดดาล
เขาโดนหลอก!
เขาไม่ควรเชื่อใจไอ้ตัวแสบที่พาคนนับพันไปให้สัตว์ประหลาดฆ่าตายเลยจริง ๆ!
ขนาดคนหลายพันคนเทพ X ยังหลอกได้หน้าตาเฉย แล้วหวังเหาคนเดียวจะไปเหลืออะไร!
…
“คิดจะมาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉันงั้นเหรอ? ยังอ่อนหัดไปนะ สหาย”
ซูเย่หัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ขณะนี้ เขามีแต้มศีลธรรม 77 แต้ม
อีก 23 แต้มก็จะครบ 100 แต้มแล้ว
ซูเย่บ่นออกมาเล็กน้อย
“รัฐบาลมีเงินเยอะเหมือนกันนี่นา สงสัยต่อจากนี้ เราคงต้องหาทางร่วมมือกับหวังเหาสักหน่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขายข้อมูลจุดอ่อนของพวกตัวบอสประจำด่านต่าง ๆ หรือทำภารกิจลับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แต่น่าเสียดายที่คราวหน้า เราคงหลอกเขาไม่ได้ง่าย ๆ แบบนี้อีกแล้วสิ เฮ้อ!”
“แต่ว่า…รัฐบาลจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรกันนะ?”
ซูเย่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
เพราะ Fantasy Dream มีสถานะเป็นเกมออนไลน์
เกมออนไลน์ที่รัฐบาลเป็นผู้พัฒนาขึ้นมา
มันต้องมีเหตุผลบ้างสิ
สัตว์ประหลาดทุกตัวที่อยู่ในเกมนี้ แม้ว่าจะเป็นพวกระดับบอสประจำด่าน รัฐบาลก็ควรจะรู้ข้อมูลของพวกมันตั้งแต่แรก
แล้วเพราะอะไรรัฐบาลถึงต้องยอมจ่ายเงินซื้อข้อมูลเรื่องจุดอ่อนของพวกมันจากผู้เล่นในเกมด้วยนะ?
“ดูเหมือนในเกมนี้จะยังมีความลับอยู่อีกมากมายเลยแฮะ!”
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนเก็บไอเท็มเพื่ออัปเลเวลอีกครั้ง
ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกเขาว่ายิ่งสามารถอัปเลเวลได้สูงเท่าไหร่ โอกาสที่จะไขปริศนาได้ก็ยิ่งมีเยอะเท่านั้น
ชายหนุ่มขี่เจ้ากวางยักษ์คู่ใจเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 38
สัตว์ประหลาดที่ประจำการอยู่ในเขตแผนที่ระดับ 38 คือจระเข้กลายพันธุ์ที่มีผิวหนังเป็นเกราะเหล็ก
ซูเย่วิ่งเข้าไปใช้ดาบตวัดฟาดฟัน ไม่มีคำว่าเมตตาปรานี
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“วูบ!”
เส้นวงกลมสีขาวก็ลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของซูเย่
…
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 38 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ในเขตแผนที่ระดับ 33 บรรดาผู้เล่นที่ถูกเทพ X หลอกให้ไปโดนสัตว์ประหลาดน้ำแข็งฆ่าตาย ยิ่งส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลมากกว่าเดิมเมื่อเห็นข้อความนั้น
“เชี่ยแม่งหน้าไม่อาย หลอกพวกเราไปตายแล้วยังอัปเลเวลหน้าตาเฉย!”
“หลอกให้พวกเราเป็นหน่วยพลีชีพ เพื่อให้ตัวเองอัปเลเวล คนแบบนี้ใช้ไม่ได้ ฉันจะขอเป็นศัตรูกับนายไปชั่วชีวิต!”
“เทพ X นายมันเป็นพวกทำนาบนหลังคน แบบนี้ไม่มีวันเจริญหรอก!”
กลุ่มคนที่เกลียดชังเทพ X พร้อมใจกันตะโกนออกมาด้วยความเคียดแค้น
ถ้าไม่โดนเทพ X หลอก
อันดับของพวกเขาก็คงไม่หล่นลงมาแบบนี้แน่!
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังคงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
“ให้ตายสิ ท่านเทพ X ขึ้นไปถึงเลเวล 38 แล้วเหรอเนี่ย? ทำไมเขาไม่มาชวนฉันไปอัปเลเวลบ้างนะ? ฉันนี่แหละจะเต็มใจให้เขาหลอกใช้อย่างเต็มที่ ฉันอยากจะเข้าร่วมกับเขา อยากช่วยเขาฆ่าสัตว์ประหลาดและเก็บผลึกวิญญาณบ้างจังเลยนะ!”
“ฉันก็รอโอกาสนั้นอยู่เหมือนกัน เทพ X ครับ ช่วยพาพวกเราไปอัปเลเวลหน่อยสิ!”
ข้าง ๆ กันนั้น
กลุ่มผู้เล่นที่เกลียดชังเทพ X เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ก็ยิ่งโกรธแค้นมากกว่าเดิม
เทพ X กลับกลายเป็นผู้ได้รับคำสรรเสริญไปได้อย่างไร?
ที่เทพ X สามารถอัปเลเวลได้ในครั้งนี้ ก็เพราะหลอกพวกเขาให้ไปตายแทนทั้งนั้น
หน้าไม่อายสิ้นดี!
ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏข้อความแจ้งเตือนอีกครั้ง
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 39 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”
เพียงพริบตาเดียวก็ขึ้นไปถึงเลเวล 39 แล้ว
เมื่อเห็นข้อความชุดใหม่ กลุ่มคนที่ชื่นชมเทพ X ก็ยิ่งชื่นชมมากกว่าเดิม
ส่วนกลุ่มคนที่เกลียดชัง ก็ได้แต่ลอบต่อว่าด่าทออยู่ในใจ
แต่มีอีกหนึ่งความรู้สึกที่ปรากฏขึ้นในหัวใจของพวกเขา
การที่…ได้อัปเลเวลขึ้นมาสามเลเวล แม้สุดท้ายต้องตกลงมาหนึ่งเลเวล มันก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่นา
ถ้าคราวหน้าเทพ X ต้องการลูกมือในการฆ่าสัตว์ประหลาดอีก
พวกเขาก็คงต้องขอเข้าร่วมด้วยอีกครั้งแน่นอน
“พวกนายว่าคืนนี้เทพ X จะอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 ได้ไหม?”
ใครคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
“เรื่องนั้นมันต้องแน่นอนอยู่แล้ว!”
“ฉันอยากให้เขาพาเราไปอัปเลเวลด้วยจัง”
ทุกคนพูดประสานเสียง
ส่วนฝ่ายที่เกลียดชังเทพ X ก็ได้แต่ลอบสบถก่นด่าอยู่ในใจ
ทันใดนั้นเอง
ข้อความแจ้งเตือนอีกหนึ่งประโยคก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 40 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”
นั่นไง ขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้วจริง ๆ ด้วย!
ผู้เล่นทุกคนถึงกับหยุดชะงัก
ก่อนที่จะรวมตัวไปตั้งกระทู้ในบอร์ดข้อความเพื่อติดตามสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
…
ในโหมดสังเวียนผู้กล้า
ผู้เล่นบางคนที่พักจากการฝึกซ้อมก็เปิดบอร์ดข้อความประจำเกมเพื่อติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนอื่น ๆ ทันใดนั้น พวกเขาก็ต้องปากอ้าตาค้างด้วยความตกตะลึง
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนรู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก
พวกเขายังไม่มีใครได้ออกไปจากโหมดสังเวียนผู้กล้าสักคน
แต่เจ้าเทพ X กลับสามารถอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้ว!
นั่นมันเลเวล 40 เชียวนะ!
หมายความว่าไอ้หมอนั่นใช้เวลาเพียงไม่เท่าไหร่ก็อัปได้ถึง 10 เลเวลรวด!
เทพ X ทำได้ยังไงกันนะ?
แต่สิ่งที่น่ารำคาญใจมากไปกว่านั้นก็คือกลุ่มคนที่ติดตามเทพ X ก็สามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้เช่นกัน แม้จะเป็นผู้ติดตามชั้นปลายแถว แต่ทุกคนก็อัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 32 และ 33 กันเกือบหมดแล้ว
ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในโหมดสังเวียนผู้กล้าได้ออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่ พวกเขาก็จะพบว่าตนเองกลายเป็นผู้เล่นอันดับรั้งท้ายทันที
การมีอันดับรั้งท้ายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว เพราะอาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมไต่อันดับขึ้นไปได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือผู้เล่นธรรมดาสามารถแลกเปลี่ยนผลึกวิญญาณเป็นอาวุธวิเศษใหม่ ๆ รวมถึงสามารถเพิ่มค่าประสบการณ์และค่าวรยุทธ์จากการฆ่าสัตว์ประหลาด นั่นจึงหมายความว่านับจากนี้ไป กลุ่มผู้เล่นที่เป็นคนธรรมดาก็คงมีความเร็วในการทำคะแนนไล่หลังผู้เล่นที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ชนิดหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว
เทพ X นายเป็นพวกเดียวกับเราไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำกับพวกเราแบบนี้ล่ะ!
“เอาล่ะ พวกเรามาตั้งใจฝึกซ้อมกันต่อดีกว่า!”
เมื่ออ่านกระทู้จบแล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนและฝึกซ้อมต่อไปด้วยความมุ่งมั่น
พวกเขาพยายามบอกตัวเองไม่ให้ท้อถอย
…
ณ เขตแผนที่ระดับ 40
บนภูเขาลูกหนึ่ง
ที่นี่มีสภาพแวดล้อมเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา
ซูเย่ยืนอยู่ตรงหน้าซากศพของสัตว์ประหลาดเหยี่ยวยักษ์ ซึ่งเป็นตัวบอสประจำแผนที่เขตนี้ สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไร้อารมณ์ดังเดิม
เขาเพิ่งจะสังหารมันได้สด ๆ ร้อน ๆ
นับตั้งแต่ยุคโบราณ นกไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็มักจะถูกยกย่องให้เป็นสัตว์วิเศษมาโดยตลอด แต่นอกจากผลึกวิญญาณที่ตกลงมาให้ดูดซับพลังเพียงก้อนเดียวแล้ว ก็ไม่มีอาวุธวิเศษใด ๆ ร่วงหล่นลงมาอีกเลย
ซูเย่จึงอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
แต่เขาเดินออกมาได้ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น ชายหนุ่มกลับพบว่าตนเองไม่สามารถเดินต่อได้อีกแล้ว
“เขตแผนที่ระดับ 41 ยังไม่เปิดให้เข้าเล่นในขณะนี้”
เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือน ซูเย่ก็ชะงักไปเล็กน้อย
เขานึกว่าเมื่อได้เข้าสู่โลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง การเปิดแผนที่ใหม่ครั้งละ 10 ระดับจะไม่มีอีกแล้ว แต่ที่ไหนได้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม
ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนว่าหมดเวลาเล่นเกมประจำวันก็เด้งขึ้นมา
ซูเย่ออกจากระบบโดยไม่ลังเล และนำหมวก VR ที่ขโมยมา ขึ้นไปเก็บไว้ในห้องเก็บของบนดาดฟ้าหอพัก ก่อนที่ซูชือกับจินฟานจะตื่น
ตอนที่เขากำลังปิดประตูห้องเก็บของ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
ผู้โทรมาคือหลี่เคอหมิง
“สวัสดีครับอาจารย์หลี่”
ซูเย่กดรับสายขณะที่ยังยืนอยู่บนดาดฟ้า
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันงานยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้พาเธอไปเรียนพิเศษ อาทิตย์นี้ฉันก็ยังหาเวลาปลีกตัวไปไม่ได้เหมือนเดิม แต่พอดีฉันนึกขึ้นมาได้ว่ามีศาสตร์การรักษาแบบโบราณบางอย่างที่มันอาจจะมีประโยชน์ต่อการแข่งขันก็ได้ เมื่อลองคิดทบทวนดูแล้ว ฉันว่าเธอลองศึกษาดูหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร”
เสียงของหลี่เคอหมิงพูดออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “ฉันกำลังพูดถึงวิธีการรักษาด้วยการแช่น้ำสมุนไพร โดยนำสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาละลายน้ำให้ผู้ป่วยลงไปนอนแช่ตามระยะเวลาที่กำหนด”
“สำหรับคนที่มีความเข้าใจเรื่องสมุนไพรจีนขั้นพื้นฐานดีอยู่แล้ว การเรียนรู้เรื่องการแช่น้ำสมุนไพรก็ไม่ใช่เรื่องยาก…”
หลี่เคอหมิงกำลังจะเริ่มอธิบาย
“ผมรู้ครับว่าการแช่น้ำสมุนไพรคืออะไร”
ซูเย่ตอบกลับมาทันที “ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยแช่น้ำสมุนไพรมาหลายครั้ง ผมรู้ด้วยครับว่าจะต้องใช้สมุนไพรชนิดไหนบ้าง”
“หา?”
หลี่เคอหมิงได้ยินดังนั้นก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “เธอเคยแช่น้ำสมุนไพรด้วยเหรอ? ตอนนั้นเธอเป็นอะไร ทำไมต้องลงไปแช่?”
“ตอนผมยังเด็ก โดนที่บ้านจับแช่เพื่อขัดผิวน่ะครับ” ซูเย่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
แน่นอนว่ามันคือคำโกหก
เพราะในความเป็นจริง เขาต้องนอนแช่น้ำสมุนไพรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังลมปราณต่างหาก
หลี่เคอหมิงคุ้นเคยดีกับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อของชายหนุ่ม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ซักไซ้ไล่เลียงอะไรอีก นอกจากกล่าวว่า “ฉันมีสถานที่เหมาะ ๆ ให้เธอเรียนรู้อยู่ที่หนึ่ง ที่นั่นมีสมุนไพรเกือบทุกชนิดให้เลือกสรร คนความจำดีอย่างเธอต้องจำชื่อสมุนไพรพวกนั้นได้แน่ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวสอบไปเลยก็แล้วกันนะ ฉันติดต่อเจ้าของสถานที่ทางนั้นให้แล้ว วันนี้ถ้าเธอว่างก็แวะไปได้เลย”
“เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นไปให้”
“รับทราบครับอาจารย์”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ซูเย่ก็ได้รับตำแหน่งซึ่งเป็นสถานที่ปลายทางสำหรับการเรียนพิเศษในวันนี้จากหลี่เคอหมิง
ปรากฏว่ามันเป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตลาดสมุนไพรประจำเมืองสักเท่าไหร่
“วันนี้ฉันไปด้วยไม่ได้ เธอไปคนเดียวก่อนแล้วกัน”
หลี่เคอหมิงส่งข้อความปิดท้าย
“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ขอบคุณมากนะครับ”
ซูเย่พิมพ์ข้อความตอบกลับไป หลังจากนั้นก็เดินลงมากลับเข้าห้องพัก จัดการล้างหน้าล้างตา กดค้นหาบริการรถเช่า และขับรถออกจากมหาวิทยาลัยเข้าไปในตัวเมือง