บทที่ 171 มันต้องเป็นนายแน่นอน!
แรงเหวี่ยงของชายหนุ่มทำให้ชายร่างสันทัดลอยกระเด็นออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“บ้าเอ๊ย!”
ชายร่างสันทัดสบถด้วยความเกรี้ยวกราด
เขาไม่ประหลาดใจ แต่กำลังตื่นตระหนก
ประเด็นแรกคือชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้มีความแปลกประหลาดพิสดารมากเกินไป ระดับพลังที่พวกเขาตรวจสอบได้ อีกฝ่ายไม่น่าจะมีพลังเกินผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง แต่เมื่อต่อสู้กันจริง ๆ ชายหนุ่มกลับมีฝีมือแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาสามคนรวมกันเสียอีก!
และสิ่งที่ทำให้ชายร่างสันทัดตื่นตระหนกมากขึ้นก็คือ ตอนที่ตนเองถูกเหวี่ยงออกมานั้น เขาพบว่าคมมีดสับกระดูกได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าแล้ว
มีดสับกระดูกที่อยู่ในมือพ่อครัวร่างอ้วน!
พ่อครัวร่างอ้วนไม่เข้าใจอีกแล้วว่าเหตุไฉนตนเองถึงได้จู่โจมเพื่อนร่วมขบวนการทั้งสองคนไปเสียได้
เมื่อสักครู่นี้ เขาแอบย่องเข้าไปด้านหลังซูเย่ด้วยมั่นใจว่าชายหนุ่มกำลังรับมือการโจมตีจากชายร่างสันทัด คงไม่มีทางระวังหลังแน่นอน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มแปลกหน้ากลับกระชากตัวชายร่างสันทัดและเหวี่ยงเข้ามาหามีดของเขาอย่างกะทันหันเช่นนี้
“ไม่นะ!”
พ่อครัวร่างอ้วนรีบรั้งกำลังของตนเองกลับคืน ก่อนจะเหวี่ยงมีดไปอีกทางหนึ่ง
“ปึก!”
มีดสับกระดูกบรรจุพลังลมปราณพุ่งไปฝังตัวบนกำแพงของหลุมหลบภัย เกิดเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่บนกำแพง
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ยกมือขึ้นกระแทกหมัดใส่ลำตัวของชายร่างสันทัดอย่างหนักหน่วง
“บัดซบเอ้ย ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อเห็นหัวหน้ากลุ่มของตนเองถูกต่อยล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นดิน พ่อครัวร่างอ้วนก็ระเบิดเสียงคำราม และวิ่งเข้ามาหาซูเย่ไม่ต่างจากหมูป่าบ้าคลั่ง
แต่ซูเย่ไม่เสียเวลาอีกแล้ว
ที่เขายอมปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อมาถึงขนาดนี้ ก็เพราะอยากจะรู้ว่าชายฉกรรจ์ทั้งสามคนมีระดับพลังอยู่ในขั้นไหนกันแน่
ขณะนี้เขาทราบคำตอบแล้ว
“ผลั่ก!”
ซูเย่กระทืบเท้าลงไปที่หน้าอกของชายร่างสันทัด ผู้ถูกกระทืบใช้มือของตนเองกอดขาของซูเย่เอาไว้แน่น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มสะใจ แม้จะมีเลือดไหลออกมาจากปากก็ตาม
“ฆ่าแม่งซะ!”
ชายร่างสันทัดตะโกนบอกพ่อครัวร่างอ้วนคล้ายกับตัดสินใจแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะยอมตายด้วยกันทั้งหมด
จวบจนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่อยากเชื่อในความแข็งแกร่งของชายหนุ่มหน้าขาวคนนี้ เพราะขนาดตำรวจที่สังกัดหน่วยสืบสวนพิเศษซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่านี้เลยด้วยซ้ำ!
พ่อครัวร่างอ้วนชักมีดทำครัวออกมาอีกเล่มและพยายามจะฟันใส่ศีรษะของซูเย่
“ความดีสร้างกำแพงคุ้มกันเภทภัย!”
ซูเย่ร่ายคาถาพร้อมกับหัวเราะเยาะ
เกิดพลังลมหมุนพุ่งลงมาจากเพดาน ครอบคลุมร่างกายของซูเย่เป็นม่านพลังหนาแน่น
“เคล้ง!”
คมมีดปะทะเข้ากับม่านพลัง
พ่อครัวร่างอ้วนรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังฟันเหล็กที่มีความยืดหยุ่นสูง มิหนำซ้ำ มีดในมือเขากลับเกิดแรงดีดสะท้อนที่ทำให้ต้องเซถอยหลังล้มลงก้นจ้ำเบ้า
ซูเย่เพิ่มน้ำหนักลงไปที่ปลายเท้าซึ่งเหยียบอยู่บนหน้าอกของชายร่างสันทัด เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ชายร่างสันทัดก็หมดสติไป
เห็นดังนั้น พ่อครัวร่างอ้วนก็พลอยหมดสติไปอีกคนด้วยความตกใจสุดขีด
“เดี๋ยวนี้พวกผู้ฝึกยุทธ์มีทักษะการต่อสู้อ่อนด้อยลง หรือว่าเป็นเพราะเหตุผลอื่นกันแน่นะ?”
ซูเย่มองชายฉกรรจ์ทั้งสามคนที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นดินด้วยความสับสน
ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสอง ทักษะการต่อสู้ควรแข็งแกร่งมากกว่านี้ ถ้านำไปเทียบกับบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองในโลกยุคโบราณ ฝีมือของชายฉกรรจ์ทั้งสามคนนี้ ก็คงเป็นได้เพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งชั้นปลายแถวเท่านั้น
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองในโลกยุคอดีต หากมาอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน ก็คงเทียบเท่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับสาม!
“หมายความว่าวงการผู้ฝึกยุทธ์ในปัจจุบันเสื่อมถอยลงไปมากแล้วสินะ”
ซูเย่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมตัวโทรไปหาหวังห่าว แต่แล้วชายหนุ่มก็นึกได้ว่าเขาไม่ควรเปิดเผยตัวตน
ดังนั้น ซูเย่จึงจัดการค้นตามตัวของชายฉกรรจ์ทั้งสามและพบว่าพวกเขาไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มือถือ
ที่นี่เป็นหลุมหลบภัยอยู่ในเขตภูเขาใหญ่ รอบข้างมีแต่ป่าไม้ ระยะห่างจากตัวเมืองหลายสิบกิโลเมตร แน่นอนว่าคงไม่มีโทรศัพท์สาธารณะอยู่แถวนี้
ซูเย่หันหน้ากลับไปมองที่หีบเหล็ก
“คงเป็นพวกหมวก VR นั่นแหละนะ”
ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปเปิดฝาหีบและเห็นว่าด้านในบรรจุอยู่ด้วยหมวก VR จำนวนนับไม่ถ้วนจริง ๆ
“หรือว่านี่จะเป็นหมวกชุดใหม่ที่เอาไว้ให้ผู้เล่นใช้เข้าสู่โลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง?”
ตอนแรกซูเย่ก็นึกอยากจะขอยืมมาอีกสักใบ แต่เมื่อเขาเห็นหมายเลขที่กำกับอยู่บนตัวหมวก ชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก
หมวก VR ที่เขาขโมยมาใบนั้นไม่มีหมายเลขเหล่านี้อยู่บนหมวก พวกมันคือหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ น่าจะลงทะเบียนไว้ร่วมกับผู้เป็นเจ้าของ ต่อให้ขโมยมาเก็บไว้ไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ถูกตามตัวได้ง่ายมากเกินไป
“ที่นี่ไม่มีโทรศัพท์มือถือก็จริง แต่ให้พวกเขาตามแกะรอยสัญญาณหมวกพวกนี้มาก็แล้วกัน น่าจะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับพวกของหวังห่าว”
ซูเย่หยิบหมวก VR ใบหนึ่งขึ้นมาจากด้านในหีบเหล็กและกดปุ่มเปิดการทำงาน
หลังจากนั้น เขาก็เอาหมวกใบนี้มาแขวนไว้ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ข้างปากทางเข้าหลุมหลบภัย
เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย
ร่างของซูเย่เคลื่อนไหววูบวาบ กระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ ห่างออกไปเพียงไม่กี่ครั้ง ชายหนุ่มก็ไปซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้สูงลิบนับสิบเมตรเป็นที่เรียบร้อย
…
ในเวลาเดียวกันนี้
หลังจากที่ได้รับภารกิจ หวังห่าวก็รีบรวบรวมกำลังพลติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของรถบรรทุก จนกระทั่งเข้าสู่เขตภูเขาที่อยู่ห่างจากตัวเมืองร่วมสิบกิโลเมตร
ระหว่างที่เดินหาบรรดาหมวกที่หายไปอยู่นั้นเอง
ทันใดนั้น นาฬิกาข้อมือของเขาก็ตรวจจับสัญญาณของหมวกใบใหม่ได้ ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ถูกส่งมาแบบเรียลไทม์
หมายความว่ามีคนเปิดใช้งานหมวกแล้ว!
“แค่นี้ก็เรียบร้อย!”
หวังห่าวใจชื้นขึ้นเป็นกอง รีบรายงานไปที่ศูนย์บัญชาการ และนำกำลังพลมุ่งตรงไปยังแหล่งที่มาของสัญญาณ
เพียงไม่นาน ทีมค้นหาก็มาถึงหลุมหลบภัย
พวกเขาพบหมวก VR ใบหนึ่งแขวนอยู่บนกิ่งไม้ข้างทางเข้าหลุมหลบภัย
ทุกคนกวาดตามองรอบข้างด้วยความระมัดระวัง
สัญญาณถูกส่งออกมาจากที่นี่!
มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจมีหมวกใบอื่นอยู่ในหลุมหลบภัย
“ของที่พวกนายต้องการอยู่ในหลุมหลบภัยแห่งนี้” เสียงที่พร่ามัวไม่ชัดเจนพลันดังขึ้นจากที่ห่างไกล “ไม่ว่าจะเป็นหมวก VR ที่หายไป หรือคนที่ขโมยมันมาก็อยู่ในนั้นทั้งหมด ก่อนหน้านี้ ฉันแค่ขอยืมหมวกของนายมาใบเดียว แต่ตอนนี้ฉันคืนให้พวกนายตั้ง 100 ใบ ถือว่าพวกเราเลิกแล้วต่อกัน ห้ามตามหาฉันอีกเด็ดขาด”
นี่มันไอ้เจ้า X !
หวังห่าวเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง
เขาจำเสียงนี้ได้ดี!
กลุ่มนายตำรวจหันมองหน้ากันขณะเห็นหวังห่าวลอยตัวขึ้นไปบนยอดไม้สูง พยายามจะมองหาคนพูด
แต่อย่างไรก็ตาม
พวกเขายังไม่ทันได้ลงมือทำสิ่งใดทั้งสิ้น
“วูบ!
ซูเย่ซึ่งยืนอยู่บนยอดไม้ห่างไกลพลันสะกิดปลายเท้าเล็กน้อย ตัวของเขาพุ่งออกไปข้างหน้า ชายหนุ่มทิ้งตัวลงไปบนต้นไม้อีกต้นหนึ่ง ก่อนใช้มันเป็นแรงส่งในการกระโดดพุ่งตัวออกไปอีกยาวไกล
ทำเช่นนี้เพียงไม่กี่ครั้ง ตัวคนก็หายลับไปในป่าลึกเรียบร้อย
ครั้งสุดท้ายตอนที่เจอกันในเกม หวังห่าวได้ยินแต่เสียงของเทพ X ยังไม่เคยได้เห็นใบหน้าสักครั้ง!
หวังห่าวทิ้งตัวลงไปบนยอดไม้สูง ตะโกนไล่หลังไปว่า “ซูเย่ ฉันรู้นะว่าเป็นนาย! เพราะทุกคนในมหาวิทยาลัยมีแค่นายคนเดียวเท่านั้นไม่ได้ออนไลน์ตอนที่เทพ X ปรากฏตัวในเกม ไม่เคยมีสักครั้งที่นายกับเทพ X จะเข้าเล่นเกมพร้อมกัน! ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายปิดบังพลังของตัวเองได้ยังไง แต่มันต้องเป็นนายแน่นอน!”
ถึงนายตำรวจหนุ่มจะตะโกนไล่หลังไปเสียงดังกังวาน แต่ชายหนุ่มปริศนาก็ยังมุ่งหน้าตรงเข้าไปในป่าลึกโดยไม่หยุดยั้ง
หวังห่าวจ้องมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายหายตัวไปด้วยความเจ็บใจ
ตอนนี้ผลการสืบสวนของพวกเขาออกมาแล้ว จากข้อมูลของนักศึกษาทุกคนที่มีหมวก VR อยู่ในการครอบครอง มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยปรากฏตัวในเกมเลยตอนที่เทพ X กำลังออนไลน์ และคนคนนั้นก็คือซูเย่!
ชายหนุ่มผู้สามารถเอาชนะคนเป็นพันคนและโค่นล้มผู้คุ้มกันสังเวียนได้อย่างง่ายดาย
ตัวตนที่แท้จริงของเทพ X จะต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน!
หวังห่าวเสียใจไม่น้อยที่ตนเองรู้คำตอบช้าเกินไป!
เขาน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว!
ก่อนหน้านี้ หวังห่าวเคยมีความมั่นใจว่าซูเย่คงไม่หลบหนีอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่าเขาคิดผิด
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะเป็นคนเปิดโปงความลับของนายเอง!”
“แต่ตอนนี้เรารีบกลับไปเก็บหมวกในหลุมหลบภัยก่อนดีกว่า”
หวังห่าวพึมพำกับตัวเองและออกคำสั่งผ่านทางนาฬิกาสื่อสาร
พวกของเสี่ยวจุนรีบบุกเข้าไปตรวจค้นในหลุมหลบภัย
หวังห่าวก็รีบติดตามทุกคนเข้าไปในหลุมหลบภัยเช่นกัน
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าสู่ด้านใน
นายตำรวจหนุ่มก็พบเข้ากับชายฉกรรจ์สามคนที่นอนแผ่หลาหมดสภาพอยู่บนพื้นดิน
“ผู้กองครับ หมอนี่มันกำลังจะตื่นแล้วครับ”
เสี่ยวจุนที่ยืนอยู่ข้างพ่อครัวร่างอ้วนหันมาบอก
“ทำให้หลับต่อไปก่อน”
หวังห่าวตอบกลับไปเสียงราบเรียบ
“เข้าใจแล้วครับ”
เสี่ยวจุนยิ้มร่า หันกลับไปรอคอยให้พ่อครัวร่างอ้วนตื่นขึ้นมา
เมื่อพ่อครัวร่างอ้วนค่อย ๆ ลืมตาลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“ผลั่ก!”
เสี่ยวจุนก็ใช้สันมือทุบไปที่ท้ายทอยของพ่อครัวร่างอ้วน
พ่อครัวร่างอ้วนฟื้นสติขึ้นมาได้เพียงไม่กี่วินาที
ก็ต้องกลับไปสลบเหมือดอีกครั้ง
เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งสองคน
“รายงานศูนย์บัญชาการ รายงานศูนย์บัญชาการ พวกเราพบหมวกที่หายไปทุกใบแล้ว รวมถึงสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนได้แล้วเช่นกัน!”
หวังห่าวรีบรายงานกลับไปยังศูนย์บัญชาการทันที