เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 32 วันธรรมดาๆแบบใหม่ (1)

“ ย่าาาาาาาาาา! ”

 

เสียงร้องของผม—–ครอส อาราเกาท์——ดังก้องกังวานอยู่ในสวนที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล

และสิ่งที่พลันดังสนั่นขึ้นต่อเนื่องในฉับพลันเดียวกันนั้น ก็คือเสียงฟาดฟันคมดาบอันแสนรุนแรง

 

“ โอเช เพิ่งหายเจ็บมาได้หมาดๆแท้ๆแต่ทำได้ไม่เลวเลยนี่นา! เอาแบบนั้นแหละฟาดเข้ามาอย่างที่ชอบให้ถึงใจได้เลย! ”

 

สาวงามล่มเมืองที่กล่าวเช่นนั้นพลางช่วยฝึกสอนวิชาดาบให้กับผม ก็คือหนึ่งในนักผจญภัยระดับ S ที่มีเพียง 9 คนเท่านั้นในโลกนี้….คุณลีโอเน่ เบิร์นเอดจ์

คุณลีโอเน่ที่เป็นดราโกเนีย อาชีพ <<ดิสทรัคชั่น วอร์ลอร์ด>> (นักรบชำนาญสิบทิศจ้าวแห่งการบ่อนทำลายล้าง) ซึ่งเชี่ยวชาญเด่นในด้านศึกระยะประชิด เค้าแย้มยิ้มอย่างดุดันไปพลางรับการโจมตีของผมเอาไว้ได้อย่างสบายๆ

และในระหว่างที่ผมกับคุณลีโอเน่ทำการประลองฝีมือกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็มีสาวอีกสองคนที่งดงามไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าคุณลีโอเน่เลย คอยเฝ้ามองท่าทีการฝึกอยู่ด้วย

 

“ ฮื่ม ดูเหมือนว่าสุขภาพของครอสจะแข็งแรงดีไม่มีปัญหาสินะ ฝืนตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอก แต่เห็นว่าอาการฟื้นกลับขึ้นมาเช่นนี้แล้วก็พออุ่นใจ ”

“ เอะเฮะเฮ้~ ก็แหมได้รับสกิลฟื้นฟูเต็มกำลังของฉันเข้าไปเลยนี่นามันต้องหายดีแน่แหงอยู่แล้วละจ้าา ”

 

ไฮเอลฟ์ อาชีพ <<อาร์ควิซาร์ด ดิแซสเตอร์>> (จอมขมังเวทแห่งภัยพิบัติ) —–คุณลูด์มิร่า เฮลสตรอม

โนไลฟ์คิง อาชีพ <<ดาร์คพรีส ไฮเอนด์>> (ผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สายมารขั้นวันสิ้นโลกา) —–คุณเทโลเมียร์ เคลย์บลัด

ทั้งสองที่เป็นนักผจญภัยระดับ S เช่นเดียวกับคุณลีโอเน่ พลันพยักหน้าหงึกๆอย่างพึงพอใจไปพลางส่งแววตาอันอบอุ่นอ่อนโยนตรงดิ่งเข้ามาหาผมไปด้วย

จนถึงตอนนี้ก็ยังปักใจเชื่อไม่ลงเลย ตัวผมในตอนนี้นอกจากจะได้มาอยู่อาศัยร่วมกันกับพวกเค้าแล้ว ยังได้กลายมาเป็นลูกศิษย์ของทั้งสามซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักผจญภัยระดับสุดแกร่งของโลก หนำซ้ำยังได้รับการฝึกจากพวกเค้าอยู่ทุกๆวันเลยอีกต่างหาก

ทว่า แม้จะเรียกว่าการฝึก แต่มันก็ช่างเป็นอะไรที่แสนห่างไกลจากการฝึกสุดโหดและทรหดอย่างที่ทุกคนคิดภาพเอาไว้ซะเหลือเกิน

ถูกชื่นชมซะมากจนชวนให้รู้สึกอายนิดๆเลยด้วยซ้ำมั่งล่ะ พอเหนื่อยเข้าหน่อยก็ใช้สกิลฟื้นฟูเยียวยาให้โดยพลันจนสามารถลุกกลับมาสู้ประลองฝีมือต่อได้โดยไม่มีขาดช่วงมั่งล่ะ

เพราะได้รับการโอนถ่ายพลังเวทที่มีไร้ขีดจำกัดมาให้ ก็เลยฝึกฝนใช้สกิลซ้ำๆต่อเนื่องได้จนกว่าจะพอใจเลยทีเดียว

ข้าวปลาอาหารก็เรียงรายเต็มเปี่ยมไปด้วยของที่ทำจากวัตถุดิบชั้นสูงทุกมื้อไป แถมยังปิดท้ายการฝึกทุกๆวันด้วยการนวดที่สุดแสนจะน่าอายกับการดื่มยาสูตรลับสุดโกงอีก

คฤหาสน์อันแสนกว้างใหญ่ที่แม้จะอยู่กลางเมือง แต่ก็สามารถใช้ฝึกฝนได้เต็มที่โดยไม่ต้องพะวงว่าจะสร้างความรำคาญให้กับผู้คนโดยรอบนี่เป็นทรัพย์สินของพวกอาจารย์ แถมพวกเค้ายังมอบห้องพักสุดจะฟุ่มเฟือยสำหรับตัวผมแค่เพียงคนเดียวมาให้อีกต่างหาก

สภาพแวดล้อมการฝึกนี้จะเรียกว่าเป็นอะไรที่ฟุ่มเฟือยที่หนึ่งของโลกก็ไม่ถือว่าเกินจริงไปแต่อย่างใดเลย

แต่ก็แน่นอน ผมก็ไม่ได้มีบุญตกถังข้าวสารแบบนี้มาตั้งแต่แรกหรอก

จะพูดย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนครึ่งก่อนหน้านี้นะ

ในวันงานเทศกาลเก็บเกี่ยว ที่เหล่าเด็กๆซึ่งมีอายุครบ 14 ในปีนั้นจะได้รับ <<คลาส>> อย่างพร้อมเพรียงกันในทีเดียวนั่น

ตัวผมที่ได้รับคลาสสุดกากสุดกระจอกอย่าง <<ไร้อาชีพ>> ซึ่งนอกจากจะฝึกให้ได้สกิลยากมากแล้วไม่พอ ยังไม่สามารถจะยกระดับเลเวลได้เลยซักนิดเดียวอีก ได้ถูกตีตราว่าเป็นไอ้คนไม่ได้ความไร้แววแล้วโดนขับไล่ไสส่งออกจากโรงเรียนนักผจญภัย

แต่ในตอนที่เกิดเหตุร้ายครั้งใหญ่ที่มอนสเตอร์ริสก์ 9 ขนาดยักษ์ถล่มเข้ามาโจมตีเมือง ตั้งแต่ที่ถูกเหล่าอาจารย์ซึ่งพูดให้กำลังใจผมที่สุดจะกระจอกงอกง่อยคนนี้ว่า [มีแวว] แล้วช่วยเก็บมาเลี้ยงดู โลกของผมมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวงเลย

 

 

<<เสริมกำลัง Lv8  (+64)>>      <<เสริมป้องกัน Lv8 (+66)>>       <<เสริมความว่องไว Lv8  (+67)>>

<<เสริมพลังเวทโจมตี Lv5  (+40)>>      <<เสริมพลังเวทพิเศษ Lv5  (+41)>>

<<ฟันแหวก Lv9>>      <<หลบหลีกฉุกเฉิน Lv9>>

<<เคลือบแข็งร่างกาย (เล็ก) Lv7>>      <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย (เล็ก) Lv6>>

<<วินด์ชู๊ต Lv5>>      <<การ์ดเอาท์ Lv6>>

<<ควบคุมพลังเวทในร่าง Lv5>>       <<ตรวจจับพลังเวทในร่าง Lv5>>

<<ควบคุมพลังเวทนอกร่าง Lv3>>       <<ตรวจจับพลังเวทนอกร่าง Lv3>>

<<ครอสเคาน์เตอร์ Lv8>>       <<อีจิสช็อต Lv1>>

 

 

<<ไร้อาชีพ>> นั้นมีลักษณะพิเศษตรงที่การเติบโตเชื่องช้าจัดๆขนาดที่ทำให้บางคนถึงกับพูดว่า ‘ต่อให้ผลาญเวลาไปทั้งชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะเก่งแบบเป็ดได้รึเปล่าด้วยซ้ำ’ เลยทีเดียว——-แต่การเติบโตของสกิลที่ขึ้นรวดเดียวอย่างพุ่งพรวดนี่กลับเมินเฉยต่อลักษณะพิเศษดังกล่าวนั่นโดยสมบูรณ์

เหล่าสกิลที่ผมได้รับสืบทอดมาจากคำสั่งสอนของพวกอาจารย์ สกิลที่สามารถมาอยู่ร่วมกันได้เนื่องด้วยลักษณะพิเศษที่ทำให้เรียนสกิลพื้นฐานของ <<คลาส>> ทั้งหมดได้ ซึ่งมีเพียง <<ไร้อาชีพ>> เท่านั้นจึงจะครอบครอง

เป็นเพราะเจ้าพวกนี้เองที่ทำให้ผมสามารถเอาชนะจิเซลที่เป็นเด็กรุ่นเดียวกันในสถานกำพร้า แล้วหวนกลับมาศึกษาในโรงเรียนนักผจญภัยได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ยังรวมพลังด้วยกันกับจิเซลจนปราบริสก์ 4 ที่เจอในป่าลงได้ เอาชีวิตรอดมายืนอยู่ได้ในตอนนี้ ทั้งๆที่ตัวยังเป็นเลเวล 0 และมีสเตตัสเป็น 0 หมดทุกช่อง

ทั้งหมดเป็นเพราะได้เหล่าอาจารย์ที่เก็บคนอย่างผมมาเลี้ยงดู แล้วยังช่วยฝึกฝนผมด้วยการฝึกอันแสนจะโกงโดยแท้เลย

ด้วยเหตุดังนี้แหละ วันนี้ผมก็เลยได้ทุ่มเทกายใจไปกับการฝึกภายใต้การสั่งสอนของเหล่าอาจารย์หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวตนระดับแกร่งสุดของโลกดังเช่นเคย

เพื่อที่จะขึ้นไปเป็นนักผจญภัยอย่างคุณเอลิเซีย——ผู้สืบสายเลือดของผู้กล้าที่เคยช่วยผมเอาไว้ในอดีต

ในยามที่คนซึ่งคอยต่อสู้เพื่อปกป้องผู้อื่นอยู่เสมอๆกำลังตกที่นั่งลำบาก ก็อยากจะเป็นคนที่เข้าไปช่วยเหลือเกื้อหนุนและปกป้องเค้าคนนั้นได้อีกที อยากจะเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งมากพอจะทำเช่นนั้นได้

 

——แกร๊ง!

 

ดาบของผมที่ถูกฟาดฟันไปมาอย่างต่อเนื่องในศึกประลองฝีมือ พลันกระแทกเข้าไปกลางแขนของคุณลีโอเน่เต็มๆ

แต่ก็แน่นอนว่าที่ฟันโดนได้นี่ไม่ใช่เพราะด้วยความสามารถของผมหรอก

คุณลีโอเน่เค้าจงใจสร้างช่องโหว่ในระหว่างต่อสู้ เพื่อเปิดช่องให้ผมฟันเข้าไปได้ต่างหาก

ฟันเข้าไปด้วยคมดาบสีดำที่ดูพิลึกพิลั่นสุดกู่ ซึ่งปรากฎขึ้นมาอย่างกะทันหันท่ามกลางการต่อสู้กับริสก์ 4 นั่น

 

“ อึน งี้นี่เองนะ ”

 

คุณลีโอเน่เพ่งสายตาจริงจังไปยังจุดที่รับการโจมตีเข้าไป พลางอ้าปากกล่าวขึ้นว่า

 

“ <<อีจิสช็อต>> …….มีอานุภาพรุนแรงระดับคิดไม่ถึงเลยว่าเป็นเอ็กตร้าสกิลระดับล่างจริงๆนั่นแหละ เห็นงี้แล้วก็เข้าใจละว่าทำไมถึงพิชิตริสก์ 4 ที่เก่งในด้านป้องกันได้ ”

 

จริงๆแล้วศึกประลองฝีมือครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบสกิลลึกลับ <<อีจิสช็อต>> ที่ปรากฎขึ้นมาในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้านี้แหละ

 

<<ครอสเคาน์เตอร์>>

<<วินด์ชู๊ต>>

<<การ์ดเอาท์>>

 

เหล่าสกิลที่ตามเดิมแล้วไม่น่าจะเรียนได้พร้อมกันเนื่องจากข้อจำกัดของ <<คลาส>> มันผสมผสานรวมตัวกัน และสกิลนี้ที่กำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุนั้นก็ถูกจำแนกระบุว่าเป็น [เอเรอร์สกิล] อยู่บนสเตตัสเพลท

เหมือนว่าขนาดพวกคุณลีโอเน่ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีสกิลประเภทนี้อยู่ด้วยเลย จึงต้องขอดูพลังของสกิลแบบจะๆ เพื่อนำไปคิดหาวิธีการยกระดับและวิธีการใช้ในภายหลังจากนี้แหละ

แต่ว่าก็ว่าเถอะ…….ยืนรับ <<อีจิสช็อต>> ที่แหวกผิวของร็อกลิซาร์ด วอริเออร์ได้อย่างง่ายดายเข้าไปด้วยกายเนื้อเพียวๆแต่กลับไร้แผลเนี่ยนะ พลังป้องกันของคุณลีโอเน่มันสูงมากขนาดไหนเลยเชียวน่ะ

เอ้อแต่เค้าก็เป็นคนหลุดสามัญสำนึกที่ขนาดโดนเวทศิลาระดับสูงเข้าไปเต็มๆกลางหน้าก็ยังนิ่งเฉยสบายดีเลยนี่นะ จะมาสงสัยเอาตอนนี้มันก็ไม่ได้อะไรหรอกมั้ง

 

“ ใช้อำนาจของเวทลมบีบอัดหมอกลดพลังป้องกันให้ย่อส่วนลงถึงขีดสุด เพื่อสร้างจุดอ่อนขั้นร้ายแรงขึ้นเหนือจุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียวบนร่างของอีกฝั่ง แล้วจากนั้นจึงใช้เคาน์เตอร์ที่เป็นจุดขายทะลวงเข้าไปงั้นหรือ ดึงเอาสกิลของนักรบ เวทมนตร์ และสายมารมาผสมผสานรวมกันเป็นหนึ่งจริงๆเสียด้วย….ช่างเป็นปรากฎการณ์อันสุดจะเชื่อโดยแท้ ”

 

คุณลูด์มิร่าทำการวิเคราะห์ <<อีจิสช็อต>> ไปพลางเอามือแตะคางส่งเสียงราวกับประทับใจ

 

“ อานุภาพก็เอาเรื่องใช่เล่นเลยด้วยอะนะ ให้ตาย มีสกิลเจ๋งๆโผล่ขึ้นมาเข้าแล้วไงล่ะแก สมกับที่เป็นลูกศิษย์ ของฉัน จริงๆเลยนะเนี่ย! ”

“ นั่นสิเน้ออ สมกับเป็นลูกศิษย์ ของฉัน จริงๆนั่นล่าา ”

“ วะ หวาหวา!? ”

 

คุณลีโอเน่เอามือลูบไล้เล่นหัวผมอย่างอารมณ์ดี

และในนาทีเดียวกันนั้น คุณเทโลเมียร์เค้าก็ยังเข้ามาบีบลูบแก้มผมเหมือนกับจะไม่ยอมน้อยหน้าอีกต่างหาก เล่นทำเอาผมถึงกับเผลอหน้าแดงขึ้นมาเลย

ได้รับคำชื่นชมแสนอ่อนโยนจากเหล่าอาจารย์ที่ยินดีกับการเติบโตของผมราวกับเป็นเรื่องของพวกตนแล้วแบบนี้ มันก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจเลย

แต่ถึงแม้ว่า <<อีจิสช็อต>> ที่เหล่าอาจารย์พากันยกยอนี่จะทรงอำนาจจริง มันก็ยังมีข้อเสียอยู่พอตัวเลยด้วยเหมือนกัน

 

“ เอ้อแต่ว่า ก็เป็นสกิลที่ใช้ยากพอตัวเลยเหมือนกันนะ ถึงจะแค่สั้นๆแปปเดียวแต่ก็เหมือนว่าต้องกล่าวคำร่ายก่อนถึงจะใช้ได้ด้วยนี่ แถมต่อให้ยังเป็น Lv1 ระดับความเชี่ยวชาญต่ำยังไง แต่โอกาสที่จะใช้สำเร็จมันก็ยังต่ำอยู่ดีอะนะ ”

 

ใช่แล้ว

เป็นเรื่องที่เพิ่งจะรู้สดๆร้อนๆในการประลองฝีมือนี่เลย แท้จริงแล้วเจ้า <<อีจิสช็อต>> นี่น่ะ มันเปิดใช้สกิลได้ยากมากๆเลยทีเดียว เปรียบแล้วก็ประมาณ ในหลายสิบครั้งที่ลองพยายามเปิดใช้ดู สามารถใช้ได้สำเร็จจริงๆแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง แถมที่ใช้ฟาดโดนจริงๆก็มีแค่ครั้งก่อนหน้านี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นอีก ยังไม่ใช่สกิลที่จะใช้ในศึกจริงได้อย่างเสถียรมั่นคงเลยซักนิดเดียว

สกิลสุดเจ๋งอุตส่าห์ปรากฎขึ้นมาทั้งที แต่เจอะเข้ากับข้อเสียจังๆแบบนี้เข้าแล้ว ว่าตามตรงก็คือผมถึงกับหงอยไปนิดๆเลย……..แต่เท่าที่ฟังจากที่เหล่าอาจารย์พูด ดูเหมือนว่าสกิลแกร่งๆเนี่ยแค่มีอยู่ในครอบครองเท่านั้นก็ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่งใหญ่แล้ว

 

“ ฮื่ม เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ในการใช้ให้สำเร็จนี่เอาเป็นว่าให้ถือเป็นจุดที่ต้องปรับปรุงหลังจากนี้ แต่สกิลที่ใช้พิชิตเผด็จศึกได้ในดาบเดียวนี่นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวนะ หากรู้ว่ามีไพ่ตายไว้ให้ใช้ในยามจำเป็นเพียงเท่านั้น ก็จะช่วยให้สามารถรักษาความเยือกเย็นในระหว่างต่อสู้ได้แล้ว ”

“ แถมต่อให้ใช้พลาดในศึกจริง แต่ก็จะกลายเป็น [สกิลหลอกตา] ได้ด้วยน้าา ก็ถ้าแอพพีลให้เห็นว่าเรามีสกิลประหลาดที่ไม่รู้ว่าทำอะไรได้แน่อยู่ในครอบครอง แบบนั้นอีกฝั่งก็จะเกร็งประหม่า ทำให้คุมการเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นด้วยล่าาา ”

 

คุณลูด์มิร่ากล่าวอย่างเยือกเย็น ส่วนคุณเทโลเมียร์ก็พูดโดยยิ้มอย่างมีเลศนัยไปพลาง

และสุดท้ายคุณลีโอเน่ก็เอ่ยต่อออกมาราวกับเป็นการสรุป

 

“ จะยังไงก็ถือเป็นสกิลที่ใช้ประโยชน์ได้ไม่ผิดแน่นั่นแหละ เอ้อแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสกิลใช้ยากที่ไม่เหมาะต่อการเอาชนะให้ได้อย่างมั่นคงละนะ ขัดเกลาทีละนิดให้กลายเป็นไพ่ตายใช้ในยามจวนตัวไว้ด้วยก็ดี แต่ตามหลักการ เน้นยกระดับสกิลอื่นๆที่มีอยู่แล้วให้กลายเป็นอาวุธที่ไว้วางใจได้เป็นหลักจะดีกว่า แนวทางการฝึกหลังจากนี้ก็อารมณ์ราวๆนั้นละมั้งนะ ”

“ ขะ ครับ! ขอฝากตัวด้วยนะครับ! ”

 

ชี้แจงให้เห็นข้อดีของสกิลที่มีประสิทธิภาพสุดขั้วไปในด้านใดด้านเดียวพลางกำหนดแนวทางการฝึกอันชัดเจน ให้ว่าแล้วก็เหมือนกับที่ช่วยอบรมฝึกวิชาให้ผมโดยคำนึงถึงข้อดีของอาชีพสุดกากอย่าง <<ไร้อาชีพ>> เอาไว้ด้วยเลย

ได้รับการสั่งสอนอันชัดเจนของเหล่าอาจารย์ที่แสนอ่อนโยนและเจนสนามมากประสบการณ์เช่นนี้แล้ว ตัวผมที่อดซาบซึ้งจากก้นบึ้งของจิตใจไม่ไหวก็ทำการตั้งมั่นเพ่งเน้นสมาธิไปกับการฝึกอีกครั้ง 

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset