ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ – ตอนที่ 25

“สุดยอดเลยที่นี้มันเปลี่ยนไปจริงๆด้วย”

       ผมกำลังมองรอบๆตัว ที่นี้เต็มไปด้วยสิ่งปลูก สร้างมากมายจนไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาเพียง5เดือนในการสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ที่นี้มีทั้งบ้านร้านค้าต่างๆและสิ่งประดิษต่างๆ ครั้งล่าสุดที่มาที่นี้มีเพียงบ้านไม่กี่หลังและประชากรไม่ถึง50กว่าคน แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนและสาวงามผิวแทนที่เรียกตัวเองว่าภูติดำ ตอนนี้จากหมู่บ้านได้กลายเป็นเมืองขนาดย่อมๆเลยก็ว่าได้

“ตาบ้า!! มัวเหม่ออะไรอยู่ยะ!! รีบเดินไปได้แล้วยะ!”

    เด็กสาวเรียกผมที่กำลังตื่นตะลึงอยู่พร้อมกับดันหลังผมให้เดินหน้าต่อไป

“เข้าใจแล้วน่า ดาดาไม่เห็นต้องดันกันเลยนี้น่า”

“ก็หากไม่ดันเมื่อไหร่นายจะเดินกันละ!! นายยืนบื้อมา10นาทีแล้วนะยะ!!”

“ก็ช่วยไม่ได้นี้น่า ก็ที่นี้มันเปลี่ยนไปมากเลยนะ ผมเองก็ต้องใช้เวลาสำรวจสิ่งรอบๆหน่อยสิ”

“สำรวจเขาให้เดินหายะ!! ไม่ใช่มัวแต่ยืนบื้อแบบนี้!!”

“อ๊ะ จริงด้วย!! ลืมนึกไปเลยเนอะ”

“ไม่ต้องมา’เนอะ’เลย!! อย่าลืมสิวันนี้เรามาหาแขนให้นายนะ!!”

    เธอพูดพร้อมกับมองไปที่แขนข้างซ้ายของผม ที่ตอนนี้เหลือเพียงครึ่งเดียว เมื่อประมาณ10ปีก่อน เกิดอุบัติเหตุนึดหน่อยทำให้ผมสูญเสียแขนตั้งแต่ข้อต่อลงมา และได้ยินข่าวว่าที่นี้สามารถทำแขนกลให้ใหม่ได้ในใหม่ได้ในราคาที่ถูกกว่าพวกของคนแคระ ผมจึงมาที่นี้เพื่อพิสูจข่าวลือนั้น

“ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวผมถามคนแถวนี้เอาก็ได้ ขอโทษทีนะครับ!! คุณภูติดำตรงนั้นนะ!!”

   ผมเรียกผู้หญิงผิวแทนที่เดินผ่านมาตรงหน้าผมพอดี เธอใส่ชุดเกราะเบาเหมือนพวกทหารในเมือง โดยที่หลังนั้นสะพายดาบเล่มใหญ่กว่าตัวเธอเอาไว้และที่เอวข้างซ้ายก็มีดาบขนาดปกติอยู่ ส่วนด้านขวานั้นก็หิ้วกระบองไว้ หัวเองก็ใส่หมวกเหล็กแบบครอบหัวแต่เปิดหน้าไว้ ช่างเป็นการแต่งตัวที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยทีเดียว

“มีอะไรเหรอ? แม่สาวน้อย”

“เอ่อ ผมจะถามทางไปหาร้านที่ทำแขนกลนะครับและอีกอย่างผมเป็นผู้ชายนะครับ ถึงจะเห็นแบบนี้ก็เถอะ”

    ก็ไม่แปลกที่เธอจะเข้าใจผิด หน้าตาของผมคล้ายกับคุณแม่สมัยยังสาวอยู่ แม้จะอายุ27ปีแล้วหนวดก็ไม่เคยงอกสักที ทำให้มีบางคนสับสนบ้าง แต่ผมเองก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ

“แขนแบบนั้น…เข้าใจแล้วละ จะมาหาคาลที่เป็นช่างทำอวัยวะเทียมสินะ เดี๋ยวจะนำทางให้เองตอนนี้กำลังว่างอยู่พอดี”

“ขอบคุณครับ!!”

   ผมกล่าวขอบคุณพร้อมกับก้มหัวขอบคุณเธอ ผู้หญิงที่เมืองนี้ใจดีจังน้า~ ต่างจากที่ได้ยินมาในข่าวลือลิบลับเลย

“จะว่าไปคุณหนูตรงนั้นจะมาด้วยไหม? เห็นขู่ฉันฟ่อๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”

“เอ๋?”

    เมื่อผมหันไปดาดานั้น มองค้อนใส่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับหูและหางที่ตั้งขึ้นมา เธอจะมองผู้หญิงทุกคนที่พึ่งเจอเป็นศัตรูไม่ได้นะ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เธอเป็นอย่างงี้ทุกครั้งตอนที่ผมคุยกับผู้หญิงคนอื่นที่เธอไม่รู้จัก คงเรียกได้ว่าอาการหวงพ่อของลูกสาวก็ว่าได้ครับ”

“ฉันไม่ใช่ลูกสาวนายนะยะ!!”

    เธอพูดแบบนั้นอีกแล้ว ผมเป็นคนดูแลเธอมาตั้ง12ปีเชียวนะ เธอก็เหมือนลูกสาวผมนั้นแหละ

“เข้าใจเหตุผลแล้วละ ไม่ต้องห่วงไปหรอกพวกเราภูติไม่ได้สนใจผู้ชายเป็นพิเศษอยู่แล้ว กลับกันคุณหนูตรงนั้นควรระวังตัวมากกว่านะ ทีนี้มันอันตรายมากโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอ”

“ทำไมละครับ? เท่าที่เห็นก็มีแต่ภูติดำก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเลยไม่ใช่เหรอครับ”

“ก็ภูติดำอย่างฉันนี้แหละตัวอันตราย!! นี้นายไม่รู้เรื่องข่าวลือเลยรึไง!!”

“ข่าวลือที่ว่าภูติดำเกลียดผู้ชายนะเหรอครับ?”

“ว่าแล้วเชียว…นายนี้มันบื้อจริงๆ ฟังนะ!! ภูติดำส่วนทั้งหมดเป็นพวกหญิงรักหญิงโดยกำเนิด ยิ่งสาวน้อยรูปงามอกโตที่เป็นเผ่าแมวอย่างคุณหนูคนนั้นเป็นหนึ่งในสุดยอดเป้าหมายหลักเลยเชียวนะ!!”

“ยะ..อย่างงั้นเหรอครับ แต่ถึงอย่างงั้นก็เป็นผู้หญิงด้วยกันเพราะงั้นไม่น่าจะ–“

“อ่อนหัดเกินไปแล้ว!!!”

ผมพูดยังไม่ทันจบก็ถูกเธอตัดบทซะก่อน

“ฟังนะ!! ภูติดำนะอันตราย มีทั้งเวทมนต์และกำลังมหาศาลแถมส่วนใหญ่มีแต่ตัวปัญหาทั้งนั้นแหละ!! ถ้าประมาทเพราะเห็นเป็นแค่ผู้หญิงนายจะเจ็บตัวเอาได้นะ!!”

“เอ่อ แต่คุณเองก็เป็นภูติดำไม่ใช่เหรอครับ?”

“ก็เพราะว่าเป็นภูติดำนี้แหละ!! ถึงได้รู้ว่าพวกนั้นมันอันตราย ถ้าคุณหนูโดนฉุดกลางเมืองก็ใช่เรื่องแปลกสำหรับที่นี้เลยนะ!!”

“ก็คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ใช่มั้ยดา-“

   เมื่อผมหันไปดาดาก็ไม่อยู่แล้ว เอ๋…เอาจริงดิ? โดนฉุดไปแล้วจริงๆดิ? เอ๋? เอ๋?

“ช่วยด้วยเฟ!!!!!”

   เสียงดาดาร้องขอความช่วยเหลือในฝูงชนที่แน่หนา บ้าจริง!! แบบนี้มองไม่เห็นเลย จะวิ่งฝ่าไปก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรด้วย….เอายังไงดี หรือจะวิ่งไปดักทางที่คิดว่าเป็นไปได้ดี ช่างมันไม่มีเวลา!! ต้องวิ่งฝ่าไปแล้วละ

“ไม่เป็นหรอก..รอนี้แปปนะ”

ในพริบตาเธอได้หายไปต่อหน้าต่อตาผม นี้มันอะไรกัน!! เธอเคลื่อนไหวไปตอนไหน? ทำไมผมมองไม่ทันเลย

“ได้ตัวคืนมาแล้ว”

“ปล่อยน้า~!!! ยัยพวกโรคจิต!!”

    เมื่อหันกลับไปด้านหลังก็พบผู้หญิงคนนั้นกำลังหิ้วดาดาที่กำลังโวยวายอยู่ในอ้อมแขน กลับมาตอนไหน แถมยังมาอยู่ข้างหลังผมอีก

“ดาดาปลอคภัคดีรึเปล่า?”

“เอ๋!!! เฟนี้น่า!! เฟ!!”

    ดาดาดิ้นออกมาจากอ้อมแขนของเธอและมากอดผม เด็กคนนี้ขี้อ้อนจังนะ แม้จะตัวโตขึ้นแต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดีนั้นแหละ

“จะว่าไปคุณเคลื่อนไหวเร็วมากๆเลยนะครับ ขนาดผมเองที่มั่นใจในความเร็วของตัวเองยังมองไม่ทันเลย”

“นายจะมองไม่ออกก็ไม่แปลกหรอกก็เมื่อกี้มันเป็นการ[Bring]ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้านายมองออกฉันก็แย่ซี่ นั้นมันหนึ่งในไม้ตายที่เป็นจุดขายของฉันเชียวนะ ฮ่าๆ”

    เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง จะว่ายังไงดีละ..เป็นผู้หญิงที่ดูเท่ดีนะ

“อ่า ใช่ๆ ตอนที่ล่าตัวตะกี้ก็พูดว่า’ไม่น่ามาเมืองนี้จริงๆด้วย!!’ ดูเหมือนคุณหนูรู้ข่าวลืออยู่แล้วสินะ ทำไมถึงไม่บอกหมอนั้นละ?”

“แหงะ!”

    ดาดาส่งเสียงร้องแปลกๆพร้อมกับสะดุ้ง เห~ได้ยินอะไรน่าสนใจแล้วสิ

“ทำไมดาดาถึงไม่บอกผมเรื่องนี้ละ?”

“พูดเรื่องอะไรอะ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลยเมี้ยว~”

“ต่อให้ทำเฉไฉไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ คิดว่าผมอยู่กับเธอมากี่ปีกัน?”

    ผมพูดพร้องจ้องไปที่ตาของเธอ ผมรู้นะว่าเวลาเธอโกหกหรือโดนกดดันหูกับหางเธอจะตกนะ

“ก็ช่วยไม่ได้นี้น่า!!! ท่าบอกนายไป นายก็จะทิ้งฉันไว้ที่เมืองนี้!!!”

“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ ผมไม่อยากให้เด็กอย่างเธอมาเจอเรื่องอันตรายหรอกนะ”

“ฉันเองก็อายุ17แล้วนะ ไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้วซักหน่อย!!”

“มันไม่ใช่เรื่องของอายุซักหน่อย เพราะเธอทำตัวเป็นเด็กๆต่างหาก”

“อะไรกันละ!! ก็แค่ไม่บอกเรื่องที่พวกนั้นชอบลักพาตัวผู้หญิงอกโตเท่านั้นแหละ!! ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี้น่า!!”

“ท่าเป็นเรื่องอันตรายที่อาจจะถึงชีวิตของเธอละก็ เธอจะให้เหตุผลแบบนี้รึเปล่า? นี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ”

“ก็ฉันอยากอยู่กับนายนี้… อีกอย่างท่าฉันหายไปนานต้องตามหาฉันเจออยู่แล้วละ!!”

“ไม่หรอก ท่าเมื่อกี้เธอหายไปจริงๆ ผมอาจจะหาเธอไม่เจอก็ได้ ภูติดำพวกนั้นเข้ามาใกล้ๆผมโดยที่ไม่รู้ตัวได้แถมยังเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็วอีก หากไม่ได้เธอช่วยคุณเธอคนนี้ช่วย อาจจะไม่ได้กลับมาแล้วด้วยซ้ำไป รู้รึเปล่า?”

“อุก”

     รอบนี้ผมโกรธจริงๆนะ ท่าผมหาเธอไม่เจอละก็.. ผมคงต้องรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิตแน่นอน ผมสัญญากับเธอคนนั้นไว้แล้ว

“น่าๆ ใจเย็นสิ คุณหนูก็รู้สึกผิดแล้วด้วย งั้นมาเปลี่ยนบรรยากาศกันดีกว่า ฉันชื่อ มินาโตะ เป็นหัวหน้าการ์ดของที่นี้นะ”

     เธอพยามทำให้ผมใจเย็นสินะ… รอบนี้คงต้องเว้นไว้ก่อนละกัน จะมาสั้งสอนกลางเมืองเองมันก็ดูน่าอายเกินไปสำหรับเธอด้วย

“เข้าใจแล้วคร้บ…ผมเฟนักผจญภัคแร๊งAครับ ส่วนเด็กคนนี้ชื่อ ดาดา ชื่อดาดาเป็นนักผจญภัคเช่นเดียวกับผมครับ”

“เห~ นายเป็นนักผจญภัคแถมยังแร๊งAอีก เห็นหน้าหวานๆแบบนี้ก็ไม่เลวนี้น่า”

“สำหรับคนที่มีดีแต่ดาบและสูญเสียแขนไปข้างก็มีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทางหรอกครับ ทางนี้เองก็อยากทำงานปกติเหมือนกัน พอเด็กคนนี้แต่งงานไปแล้วจะได้เลิกห่วงผมด้วย”

    สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างผมเอง ก็มีความต้องการแค่นี้แหละ หากดาดาแต่งงานกับผู้ชายดีๆ มีลูกหลานให้ผมได้อุ้ม ถึงตอนนั้นผมเองก็มีความสุขและตายตาหลับแล้วละ

“ฉันไม่คิดจะแต่งงานกับใครหรอกยะ!! ฉันจะเป็นนักผจญภัคแบบนี้อยู่กับนายไปเรื่อยๆเลย!! ไม่ยอมให้นายอยู่คนเดียวหรอก!!!”

“พูดแบบนี้อีกแล้ว อีก1ปีเธอเองก็อายุ18แล้วนะ รีบๆแต่งงานแล้วให้ผมอุ้มหลานทีเถอะ”

“ฉันจะอยู่กับนาย!! จะไม่ไปไหนหรอก!! จะอยู่จนนายแก่เลยคอยดู!!”

    เธอนี้ติดผมจังนะ ทางผมก็ลำบากใจน่าดูท่าอยู่กับผมยันแก่เลยนี้ก็ไม่ไหวนะ ช่วงนี้มันร่างกายจะเริ่มฝืดๆแล้วสิ ถ้าแก่แล้วจริงๆ จะดูแลเธอไหวไหมนะ

“นายนี้มันร้ายจริงๆด้วย…เลี้ยงต้อยไว้รอสอยสินะ แต่แบบนี้มันจะบื้อเกินไปหน่อยละมั้ง ไม่สิ..อาจจะเพราะเป็นพวกประเภทพระเอกจ๋าเลยบื้อสินะ(พึมพำ)”

“หืม? พูดอะไรรึเปล่าครับ คุณมินาโตะ”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ท่างั้นไปกันเถอะ พยามให้คุณหนูเดินข้างๆ ฉันไว้นะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

.

.

.

.

“นายอายุ 27 ปีแล้วเหรอเนี้ย ไม่เห็นจะเหมือนเลย ฉันนึกว่านายอายุพอๆกับคุณหนูซะอีก”

“หลายๆคนก็พูดแบบนั้นแหละครับ ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจหรอก ออกจะดีใจด้วยซ้ำไปที่มีคนชมว่าหน้าเด็ก แล้วคุณมินาโตะ อายุเท่าไหร่เหรอครับ ดูจากท่าทางแล้วน่าจะรุ่นเดียวกันผมเลย”

“ไม่หรอกๆ ทางนี้อายุประมาณ5เดือนกว่าๆ เกือบ6เดือนเอง เห็นมะ? อ่อนกว่านายตั้งเยอะ”

“พูดอะไรตลกจังเลยนะครับ เด็ก5เดือนไม่ทีทางเดินแบกดาบขนาดใหญ่และเดินแบบสบายๆได้หรอกครับ”

     ดูเหมือนเธอจะเป็นคนตลกจริงนะ แม้มันจะไม่ค่อยขำก็เถอะ แต่การเล่นมุขด้วยท่าทีจริงจังแบบนั้นของเธอก็ไม่เลวนะ

“ไม่ๆ ฉันอายุ5เดือนกว่าจริงๆ ภูติดำที่นี้ไม่มีใครอายุเกิน5เดือนหรอกนะ”

“เธอนี้พูดอะไรไร้สาระซะจริง ท่าไม่อยากบอกอายุจริงๆก็บอกมาเถอะ เฟเองก็เสียมารยาทเหมือนกันที่ไปถามอายุมินาโตะนะ”

“อ่า นั้นสินะครับขอโทษด้วยจริงๆ”

     ผมนี้เสียมารยาทซะจริงดันเผลอไปถามอายุผู้หญิงจนได้ สกสัยเราอยู่กับดาดามากเกินไปละมั้ง ถึงลืมมารยาทพื้นฐานเช่นนี้ สกสัยต้องพยามคุยกับคนอื่นให้บ่อยขึ้นแล้วสิ

“ไม่จำเป็นต้องขอโทษ!! ฉันอายุ5เดือนจริงๆนะ”

“เลิกไร้สาระซะเถอะ ท่าเธออายุ5เดือนจริงฉันก็พึ่งเกิดแล้วละ”

“แต่สำหรับดาดาเธอก็เหมือนเด็กแรกเกิดสำหรับผมเสมอนั้นแหละ”

“อย่ามาล้อเล่นนะย!!! เลิกมองฉันเป็นเด็กได้แล้ว!!! ช่วยมองฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งด้วยเถอะ!!”

     ดาดาโวยวายใส่ผม วัยต่อต้านนี้น่ากลัวจังเลยนะ ในตอนหนุ่มๆผมเองก็เคยทำตัวแบบนี้รึเปล่านะ?

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันอายุ5–“

“อ๊ะ!! ท่านแม่มินาโตนี้น่า!! โอยยยย~”

    ก่อนที่คุณมินาโตะจะพูดจบ ก็ถูกขัดด้วยเสียงเรียกของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อมองไปตามเสียงก็จะพบภูติดำอีกคนยืนอยู่หลังถังไม้ขนาดใหญ่และมีผู้หญิงผมสีดำที่ใส่ชุดดูแปลกๆและมีหน้าอกโตสุดๆ คอยยืนเรียกลูกค้าให้อยู่ ว่าแต่เธอเป็นเผ่าอะไรกันนะ? ผมเองก็ไม่เคยเห็นด้วยสิ มิโนทอรัสเองก็ไม่ใช่ด้วย

“หอมจัง…นั้นมันอะไรเหยอ~”

    ดาดาสนใจสิ่งที่อยู่ในถังไม้มาก ปฏิกิริยาแบบนี้..ท่าทางในนั้นจะเป็นของกินที่เป็นของหวานสินะ แต่ไปมองแบบนั้นแถมยังน้ำลายไหลอีก ไม่เสียมารยาทไปหน่อยรึไง เธอเป็นผู้หญิงอายุ17แล้วนะ

“ไอ้นี้คือไอติมไงละ!! ทั้งหวานทั้งอร่อยเลยละ ขายอันละ1เหรียญเงินกับอีก50เหรียญทองแดงเท่านั้น!!”

“ท่าทางอร่อยจัง… เฟๆขอเงินหน่อย”

ดาดาแบมือขอเงินพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนมาทางผม.. ช่วยไม่ได้สินะ แม้จะแพงไปหน่อยสำหรับอาหารแต่สำหรับของหวานแล้วแค่1เหรียญเงินกว่าๆก็นับว่าถูกแล้วละ

“ถ้างั้นขอ3อันด้วยนะครับ”

“รับทราบ!!”

    เธอล้วงเข้าไปในถังด้วยเครื่องมือแปลกๆที่ทำมาจากน้ำแข็ง และใส่ไปในภาชนะรูปทรงกรวยสีขาว นั้นมันอะไรกัน เป็นขนมแบบใหม่ที่ถูกคิดค้นโดยพวกภูติดำงั้นเหรอ?

“ได้แล้วจ้า~”

    เธอยื่นของกินรูปร่างแปลกๆที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจึงวางเงินไว้ที่ถาดที่วางไว้บนถังเพราะมือของเธอไม่ว่าง จากนั้นผมจึงรับมันมาทั้งหมดและยื่นไปทางดาดาหนึ่งอัน

“เย็นจริงด้วย!! แถมยังอร่อยอีก!!”

    เธอเลียมันด้วยลิ้นของเธอแบบรัวๆ จนเปื้อนตั้งแต่ปากยันจมูก บางทีก็ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้นะ

“คุณมินาโตะจะเอาด้วยไหมครับ? ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยดาดาไว้ครับ”

“แน่นอน!! ฉันเองก็อยากกินไอศครีมฮานะมาตั้งนานแล้วละ”

    เธอรับมันพร้อมกับเลียมันอย่างช้าๆและละเลงลิ้นของเธอไปทั้ว ….ของกินแบบนี้ก็ดูลามกขึ้นอยู่กับคนกินสินะ ต่างจากดาดาของผมสิ้นเชิง เอาละผมเองก็กินด้วยรึดีกว่า..ผมยาวนี้เกะกะจังนะ ต้องเอามือข้างหนึ่งเสยผมไว้สินะ ไม่งั้นคงเปื้อนผมแน่ อืมเย็นๆหวานๆดีแหะ ชักชอบแล้วสิท่าได้กินช่วงหน้าร้อนคงจะดีน่าดู

“อ๊ะ!! จริงด้วยลืมไปเลย ทำไมคุณแม่มินาโตะถึงเดินพาผู้หญิงควบ2มาแบบนี้ละ นี้คิดจะนอกใจคุณแม่ย้าย้าแล้วเหรอ?”

“ไม่เคยคิดยะ!!! ย้าย้าของฉันน่ารักสุดแล้ว!! และอีกอย่างคนๆนี้นะ เป็นผู้ชายนะถึงจะเลียไอติมได้ลามกขนาดนั้นก็เถอะ”

“เอ๋!! ไม่จริงน่า คนน่ารักๆแบบนี้นะเหรอผู้ชาย!! เธอเป็นคนที่เลียได้ลามกที่สุดเท่าที่หนูเคยเห็นมาเลยนะ”

เอ๋? นี้ผมเลียได้ลามกขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมก็กินตามปกตินี้น่า

“จะว่าไปนี้มันทำอะไรมาจากอะไรอะ อร่อยสุดๆเลย”

“ก็หลักๆ ก็นมและน้ำตาลนะแหละ ที่เหลือก็เป็นความลับบอกไม่ได้หรอก”

“แล้วนี้มันทำมาจากนมตัวอะไรเหรอ? วัวหรือแพะ รสชาติแบบนี้ไม่เคยกินมาก่อนเลย”

“ท่าถามว่านมตัวอะไรก็โน้นไง”

    ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่ผู้หญิงที่ยืนเงียบมาตลอด หากมันทำมาจากนมและหน้าอกของเธอก็ใหญ่…. อ๋ออย่างงี้นี้เอง ทำมาจากน้ำนมของเธอสินะ เธอคงเป็นเผ่าอะไรสักอย่างที่สามารถผลิตน้ำนมได้เหมือนพวกมิโนทอรัสสินะ

“นี้มัน…น้ำนมของผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ!!!”

“ก็ใช่นะสิ ถามแปลกๆ”

   ดาดารีบคว้าไอศครีมในมือผมไปกินอย่างรวดเร็วรวมทั้งภาชนะด้วย

“เดี๋ยวสิดาดา ผมยังกินไม่หมดเลย”

“ไม่รู้ไม่ชี้!!”

“อะไรกัน..นั้นมันอร่อยมากๆเลยนะ นานๆ ทีผมก็อยากกินของหวานอร่อยๆให้เต็มที่บ้างนะ ถ้ามีอะไรไม่พอใจก็บอกผมมาสิ”

“หึ!!!”

“น่าๆ ใจเย็นเถอะเจ้าคะ เคยได้ยินคำว่าไม่พูดคือดอกไม้ไหมเจ้าคะ”

   ผู้หญิงที่ยืนเงียบมาตลอดก็เข้ามาพูดกับผม ว่าแต่หมายความว่ายังไงกันนะ ไม่พูดคือดอกไม้ เนี้ย สำนวนแบบใหม่เหรอ?

“ไม่เคยได้ยินมาก่อนสินะเจ้าคะ ความหมายของมันคือ การไม่พูดในสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาที่อาจจะทำให้ตัวเองดูไม่ดี เพราะงั้นการไม่พูดเลยก็เปรียบเสมือนดอกไม้ที่ดูดีและสง่างามเจ้าะ”

“ครับ?”

    เธอพูดอะไรกัน ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่นั้นคงหมายถึงอะไรสักอย่างที่พูดแล้วเกิดปัญหาสินะ ทางผมเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องสำนวนมาด้วยสิ แค่อ่านเขียนและคิดเลขพื้นฐานได้ก็เต็มที่ของผมแล้ว

“เดี๋ยวเถอะ!! คิดจะจ้องหน้าอกของเธอไปถึงเมื่อกันห๊า!!”

“ผมไม่ได้จ้องซักหน่อย อีกอย่างเธอหงุดหงิดเรื่องอะไรละ?”

“หึ!!”

    วันนี้เธอเป็นอะไรเนี่ยหงุดหงิดอะไรกันนะ หรือจะเป็นช่วงนั้นของเดือนกันนะ

“ท่านเฟสินะเจ้าคะ”

“ใช่ครับนั้นชื่อเอง มีอะไรรึเปล่าครับ?”

“ดิฉันชื่อฮานะเจ้าคะ แม้จะเสียมารยาทไปบ้างแต่ขอถามความสัมพันธ์ของทั้ง2ท่านได้ไหมเจ้าคะ”

“ความสัมพันธ์ก็คงเป็นความสัมพันธ์แบบพ่อลูกก็ว่าได้ ผมเองก็ดูแลดาดามาตั้ง12ปีแล้วตั้งแต่เธอยังตัวเล็กอยู่เลย ให้เรียกว่าผมเป็นพ่อของดาดาก็คงไม่ผิดนัก แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็เถอะ”

“พอจะเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองท่านแล้วเจ้าคะ ขอคุยกับหนูแมวตรงนั้นสักครู่นะเจ้าคะ”

“เอ๋!! อะไรๆ!! นี้เธอจะลากฉันไปไหน!!”

    คุณฮานะจูงมือฮานะเข้าไปในหลังร้าน แถมยังดูเหมือนจะกระซิบคุยเรื่องอะไรสักอย่างกันอย่างสนุกสนาด มีเรื่องอะไรกันนะ ท่าทางน่าสนุกจังนะ

“เอ๋!! ไม่ไหวหรอก…แบบนั้นนะ..มันน่าอายนี้น่า(กระซิบ)”

“ท่าคิดจะเด็ดดอกไม้บนยอดเขา ก็ต้องลงแรงหนักหน่อยนะเจ้าคะ ท่านดาดาเองก็ทำตั้งหลายวิธีแล้วขนาดพูดตรงๆ เขายังไม่รู้สึกตัวเลยไม่ใช่เหรอคะ(กระซิบ)”

“เขาไม่สนใจเด็กแบบฉันหรอกน่า…(กระซิบ)”

“มั่นใจหน่อยเจ้าคะ!! ท่านดาดาเองก็มีของดีติดตัวตั้งขนาดนี้เลยนะเจ้าคะ แถมทั้งสองยังพักอยู่ด้วยกันอีก เรื่องดีไม่ควรปล่อยโอกาสนะเจ้าคะ!! เพราะงั้นต้องเผด็จศึกตอนนี้เลยเจ้าคะ(กระซิบ)”

“ก็ได้…จะลองดู”

    สักพักพวกเธอเดินกล้บมาพร้อมๆกัน โดยที่ทางดาดาหน้าแดงนึดหน่อย ดีจังนะ ในที่สุดดาดาก็หาเพื่อนที่นี้ได้แล้วสินะ น่ายินดีๆ

“คุณหนูกับฮานะคุยเรื่องอะไรกันเหรอ? ชักสกสัยแล้วสิ”

“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าคะ คุณมินาโตะ ก็แค่ให้คำแนะนำกับท่านดาดานึดหน่อยเท่านั้นแหละเจ้าคะ”

“หืม~ คำแนะนำงั้นเหรอ มันเป็นคำแนะนำแบบไหนกันน้า~ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมละคุณหนู?”

“มะๆๆๆๆ….ไม่มีอะไรอะไรทั้งนั้นแหละ!!!”

    ทำท่าสะดุ้งแบบนี้มีเรื่องอะไรกันแหงๆ แต่ช่างเถอะ ยังไงก็เป็นเรื่องของผู้หญิง ผู้ชายอย่างเราไม่ควรเสียมารยาทเข้าไปสอดรู้สอดเห็นหรอก

“นี่ๆ พี่ชายมาทำอะไรที่เมืองนี้เหรอ? คงไม่ได้มาเที่ยวใช่มั้ยละ”

“ใช่ครับ เผอิญผมได้ข่าวที่นี้มีภูติดำคนหนึ่งสามารถทำแขนกลได้ พวกผมเลยมาลองดูราคากันว่าจะพอไหวรึเปล่า”

“อย่างงี้นี้เอง เข้าใจแล้วละ!! พี่ชายจะมาหาคาลสินะ!! แล้วทำไมถึงมาอยู่กับท่านแม่มินาโตะได้ละ?”

“คุณมินาโตะอาสามานำทางให้พวกเรานะครับ”

“ก็สมกับเป็นท่านแม่มินาโตะดีนะ สมแล้วที่เป็นคนที่มีสามัญสำนึกในหมู่เราจริงๆ!!”

“เอ่อ..ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมถึงเรียกคุณมินาโตะว่าท่านแม่ละครับ?”

“ก็ท่านแม่เป็นรุ่นที่4 ส่วนฉันก็รุ่นที่58ไง!! เพราะงั้นท่านแม่ก็คือท่านแม่ไง!!”

เอ่อ…ไม่เข้าใจเลยสักนึด.. อะไรคือรุ่นที่4กับ58หว่า?

“ไม่ต้องไปใส่ใจที่ยัยหัวสมองกลวงนั้นพูดหรอก เอาเป็นว่าเผ่าเราใครแก่กว่าก็จะถูกเรียกจากคนที่อ่อนกว่า ว่าท่านแม่เท่านั้นแหละ คล้ายๆกับถูกเรียกว่ารุ่นพี่ของพวกมนุษย์นะ”

“อย่างงี่นี้เองเหรอครับ พอจะเข้าใจหน่อยๆแล้วครับ แล้วทำไมถึงต้องเรียกว่าท่านแม่ด้วยละครับ เรียกแบบนั้นมันมันจะไม่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเหรอครับ”

“ช่ายๆ ก็พวกเราเกิดมาจากท่านแม่มี–อุ๊บ!!!!”

    เหมือนผู้หญิงคนนั้นพยามจะพูดอะไรบ้างอย่างแต่ก็ถูกคุณฮานะมาปิดปากไว้ซะก่อน ว่าแต่หมายความว่าพวกเราเกิดมาจากนะ? พวกเธอมีแม่คนเดียวกันงั้นเหรอ?

“เรื่องนั้นนะเป็นความลับของเรานะ คงจะบอกไม่ได้หรอกและไม่แนะนำให้ไปถามภูติดำคนอื่นด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้ก็กินหมดแล้วพวกเราจะไปกันทันทีแล้วละกัน”

 คุณมินาโตะทำสีหน้าจริงจังต่างจากบรรยากาศบรรยากาศสบายๆเมื่อกี้ จะบอกอ้อมๆว่า ท่าไม่อยากจะเป็นศัตรูกับพวกเธอก็อย่ามายุ่งเรื่องนี้สินเ

“เข้าใจแล้วครับ ไปกันเถอะดาดา”

“อะ..อืม”

    ผมและดาดาเดินตามคุณมินาโตะไปเรื่อยๆ ระหว่างทางพวกเราก็ถูกลวนลามจากภูติดำที่ผ่านไปมาเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง แม้แต่ดาดาเองก็โดนหนักเลยละ มีพวกที่แอบมากระตุกหางเธอเล่นด้วย แม้จะถูกไล่โดยผมกับคุณมินาโตะก็เถอะ แต่ก็ยังมีพวกนี้มาเรื่อยๆ เมืองนี้ท่าทางจะอันตรายสำหรับผู้หญิงจริงๆด้วยสินะ

“ถึงแล้วละ”

“ที่นี้งั้นเหรอครับ?”

    ผมเราเดินออกมาห่างจากตัวเมืองพอสมควรจนมาถึงบ้านที่สร้างมาจากวัตดุที่เป็นหินและทาสีขาวทับไป มันเป็นบ้านที่ดูค่อนข้างแปลกมากเลยละ มันดูเหมือนที่อยู่อาศัยมากกว่าพวกร้านค้านะ

“ท่างั้นก็เข้าไปกันเถอะ”

“เอ่อ ไม่เคาะประตูเรียกก่อนจะดีเหรอครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกถึงเคาะไปก็ไม่ตอบหรอก”

    คุณมินาโตะเปิดประตูเข้าไปทันทีพวกเราก็เดินตามเธอไปอย่างใกล้ชิด ที่นี้ค่อนข้างสว่างมากเพราะมีแสงไฟจากแท่งที่เรืองแสงได้ น่าแปลกใจจริงๆ นั้นมันหินเรืองแสงแบบใหม่งั้นเหรอ?

    พวกเราเดินไปมาเรื่อยๆ จนเจอสาวน้อยคนหนึ่งที่มีผมสีทองผิวแทนกำลังนอนอย่างสบายใจอยู่บนพื้น เรื่องแต่งกายของเธอนั้นหลุดหลุ่ยไปหมด แต่ยังโชคดีที่เธอยังเป็นแค่เด็กไม่งั้นผมคงไม่รู้ว่าควรเอาตาไปวางไว้ตรงเหมือนกัน

“ตื่นได้แล้วคาล ฉันพาลูกค้ามาหานะ”

“อุกเนี้ยว…”

    คุณมินาโตะพยามปลุกเธอที่นอนอยู่บนพื้น เด็กสาวคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นมาขยี้ตาอย่างสะลึมสะลือ

“ท่านแม่มินาโตะนั้นเอง มีอะไรให้ผู้น้อยรุ่นซุปเปอร์รับใช้เหรอคะ?”

“ก็บอกว่าพาลูกค้ามาไง นี้เธอไม่ได้ฟังเลยเหรอรึไง?”

“ลูกค้า?”

    เธอมองมาที่พวกผมด้วยตาที่เหมือนจะปิด จะไหวไหมนะเด็กคนนี้นะ

“น้องแมวนี้น่า…งืมๆ….เมี้ยวๆๆๆ มานี้เร็วคาลมีอาหารกระป๋องให้กินด้วยนะ”

“เอ๋?”

     เธอพยามเรียกดาดาโดยที่ยื่นมือมาแล้วถูนิ้วโป้งและนิ้วกลางพร้อมกับร้องเมี้ยวๆ บางทีเธออาจจะสับสนระหว่างเผ่าแมวกับแมวบ้านทั้วไปรึเปล่านะ

“คาลอย่าเสียมารยาทกับแขกสิ และอีกอย่างลูกค้าของเธอคนนั้นต่างหาก”

“รู้อยู่แล้วละค่า~ ก็แค่อยากเล่นกับน้องแมวเท่านั้นเอง จริงมั้ยละน้องเมี้ยว~”

“ฉันว่าเธอเข้าใจอะไรผิดนะ แม้ฉันจะเป็นเผ่าแมวก็จริงแต่ไม่ใช่แมวนะยะ!!! ต่อให้เรียกแบบนั้นไปสัก10รอบฉันก็ไม่เดินไปหาหรอกนะ!!”

“เมี้ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“โอ๊ย~ ยัยเด็กนี้กวนชะมัดยาด!!!”

“ใจเย็นหน่อยเถอะ บางทีเธออาจจะอยากเล่นกับดาดาก็ได้นะ แบบนี้ไง”

“อะ..อย่า..มาเกา..คางนะ”

    ผมเกาคางของดาดาเบาๆ อย่างน้อยเธอก็มีจุดเหมือนแมวบ้างละนะ สมัยเด็กๆเองก็ชอบมานอนขดที่ตักผมและชอบให้ผมลูบหัว น่าคิดถึงสมัยนั้นจังนะ ไม่คิดเลยว่าผมจะสามารถเลี้ยงเธอจนโตได้ขนาดนี้

“พี่สาวขี้โกง!!! คาลก็อยากเล่นกับน้องแมวด้วย”

“เอ่อ ผมเป็นผู้ชายนะ ถึงจะเห็นแบบนี้ก็เถอะ”

“ไม่รู้!!! ไม่สน!!! เอาน้องแมวมานี้นะ!!”

“เจ็บๆๆๆๆๆ อย่ามาดึงหางกันสิยะ!!”

    เด็กคนนั้นดึงหางดาดา สำหรับเธอแล้วมันถือว่าเป็นจุดอ่อนของเธอเลยนะ

“เลิกบ้าสักที!!!”

พลั้กกกกก!!!!

    คุณมินาโตะชักกระบองที่หอยไว้ ตีหัวของเด็กคนนั้นจนหน้าทิ่มลงไปกองกับพื้นในทันที

“ดะ..เดี๋ยวสิครับ แบบนั้นไม่รุนแรงไปหน่อยเหรอครับ!!!!

“ใช่แล้ว!! แม้ฉันจะโมโหที่ยัยเด็กนี้มาดึงหางก็เถอะ!! แต่ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนะ!!”

“อ๋อ ไม่ต้องห่วงหรอกโดนแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ภูติดำอย่างเราโดนแค่นี้ไม่ตายหรอก ถึงจะดูไม่เหมือนเพราะผมเธอสีทองก็เถอะ”

“ใช่แล้วละค่า~ แม้จะตัวเล็กสุดแต่โดนแค่นี้ก็ สบม. สบายมากค่า~”

“”!!!!?””

    เด็กคนนั้นลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉย เด็กคนนี้อึดจังเลยนะ ท่าผมโดนดอกตะกี้ไปคงนอนไปวันเต็มๆแน่นอน

“คุณพี่ชายยังขยับตรงข้อต่อได้รึเปล่าคะ?”

   เธอมาจดๆจ่อๆกับแขนข้างที่ขาดไปของผม นี้เธอไม่เป็นไรเลยจริงๆเหรอเนี้ย? เมื่อกี้ยังลงไปนอนแน่นิ่งอยู่เลยนะ

“พี่ชายคะ?”

“อ๊ะ!!..ใช่แล้วครับ ตรงข้อต่อยังพอขยับได้อยู่กับแม้มันจะดูแปลกๆก็เถอะ”

    ผมขยับข้อต่อข้างที่ขาด แม้มันจะดูแปลกๆเหมือนก้อนอะไรขยับก็เถอะ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่กลัวเลยแหะ

“อย่างงี้นี้เองๆ คงต้องใช้แบบเบาเป็นพิเศษเพื่อไม่สร้างภาระให้ข้อต่อมากเกินไปสินะ พี่ชายมีงบเท่าไหร่เหรอ?”

“เอ่อ…ประมาณ50เหรียญทองครับ?”

    จริงๆมี60เหรียญทอง แต่ก็คงต้องเก็บไว้กินไว้ใช้บ้างละนะ

“แย่จัง~ ถ้าเป็นแบบเบาพิเศษขั้นต่ำมันราคา70หรียญทอง ขาดไปอีกแค่นึดเดียวเท่านั้นเอง”

“จะ..จะ..70เหรียญทอง!!”

     ราคานี้มันระดับซื้อบ้านเล็กๆในเมืองได้1หลังได้เลยนะ!!! นี้มันไม่แพงไปหน่อยเหรอ!!

“เดี๋ยวสิ!!! ทำไมมันแพงแบบนั้นละยะ!!”

“ก็แหมๆ ของที่ต้องใช้มันนำเข้ามาจากพวกคนแคระนี้น่า ต้องมานั้งแปรวัตถุดิบให้มันได้สเปกที่ต้องการ ไหนจะต้องหล่อแบบพิมพ์เฉพาะตัวอีก ประกอบชิ้นส่วนเล็กๆให้มันทำงานได้ลื่นไหลที่สุดต้องมานั้งจ้องมันทั้งวันเพื่อต่อเลยนะ ไหนจะผ่าตัดให้มันเข้ากับเส้นประสาทให้พอดีและเชื่อมต่อมันไม่ให้ติดขัดภายหลังอีก และต้องหาแหล่งพลังงานที่พอใช้ได้ตลอดชีวิตอีกเพราะงั้นต้องทำวงจรหมุนเวียนซึ่งต้องไปจ้างคุณแม่คนอื่นอีก และฯลฯ”

“พอแล้วยะ!!! เข้าใจแล้วเพราะงั้นหยุดพูดเถอะ!!”

    ดาดาโวยวายใส่เด็กสาวที่พูดไม่หยุด ว่าแต่70เหรียญทองเลยเหรอ? ถูกกว่าแขนกลที่พวกคนแคระทำก็จริงแต่สำหรับเราก็นับว่าแพงมากอยู่ดี หรือจะไปลองหาตามดันเจี้ยนดูอาจจะพอมีหวังกว่าก็ได้มั้ง

“แขนกลที่คาลทำมันต้องสมบูรณ์ที่สุด เพราะงั้นเลยแพง แม้ตอนนี้ยังไม่มีเครดิตเหมือนพวกคนแคระก็เถอะ แต่ของที่คาลทำดีกว่าของพวกคนแคระหรือแขนกลโบราณอีกนะ เรื่องนั้นรับประกันได้เลย แต่พี่ชายมีงบแค่50เหรียญทองจริงๆแล้วจ่ายไม่ไหว ก็มาทำงานง่ายๆให้คาลหน่อยละกัน เดี๋ยวจะลดราคาให้20เหรียญทองเลย”

“ลดราคาให้ขนาดนั้นจะดีเหรอ? ไม่ใช่ว่าขั้นตอนมันวุ่นวายมากเลยไม่ใช่รึไง”

    แม้ผมจะไม่เข้าใจที่เธอพูดเยอะมากหนัก แต่เหมือนเธอจะต้องทำทุกเกือบทั้งหมด ทั้งเลือกวัตถุดิบ แปรธาตุ หลอม และอีกฯลฯ หากราคามันจะแพงขนาดนี้มันก็สมเหตุผล

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

Status: Ongoing
อ่านผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับชาย2คนที่เป่ายิ้งฉุบแย่งตัวละนักบุญหญิงเพราะอยากเล่นตัวละครผู้หญิงกัน แต่เมื่อเขาสามารถเอาชนะเพื่อนของตัวเองได้ ก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ต่างโลกในฐานะของนักบุญจริงๆ เสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset