“ตัวทดลอง08สภาพร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่มีปัญหาหากทำการทด……”
ที่นี้ที่ไหน ทำไมรู้สึกเบลอๆจังเลย ท่าจำไม่ผิดฉันกำลังสู้กับยัยภูติดำนี้น่า
“หมายเลข08ตื่นแล้วเหรอครับ?”
ผู้ชายที่อยู่ในกราวสีขาวเอ่ยทักขึ้นมา เขามีผิวสีแทนเหมือนพวกภูติดำ ตาของเขามีสีแดงและมีผมสีดำ เขาเป็นใคร…ไม่ใช่พวกเรานี้น่า ทำไมรู้สึกหนาวๆจัง
“!!!!”
เธอเริ่มรู้สึกตัวขึ้นตอนนี้ปากของเธอถูกปิดโดยอะไรสักอย่าง และในปากของเธอก็ท่ออะไรสักอย่างเสียบเข้ามา เธอถูกจับแก้ผ้าและมัดไว้บนเตียง
“อยากจะพูดเหรอครับ รอสักครู่นะครับ”
เขาถอดสิ่งที่ปิดปากของเธอไว้ ตอนนี้เธอสามารถกลับมาพูดได้อีกครั้งแล้ว
“นะ..นายเป็นใคร!!”
“อ๋อ อยากจะแนะนำตัวสินะครับผมชื่อไทเอลรุ่นที่68ครับ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อยที่ฉันต้องการนะคือ–อุก!!”
ไทเอลต่อยไปที่ท้องเธอของเธอทันที
“ไม่ได้นะครับ ผมอุส่าแนะนำตัวไปแล้วเธอก็ต้องแนะนำต้วด้วยสิ นะ?”
ไทเอลพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอ
“อะ..แอนนี่..นั้นชื่อของฉัน”
“งั้นเหรอๆ ตัวทดลอง08ชื่อแอนนี่นี้เองต้องจดแล้วสิ”
ไทเอลจดใส่กระดาษที่เขาเตรียมไว้ด้วยดินสออย่างใจเย็น แอนนี่รู้สึกกลัวเขาจนไม่กล้าขัดขืน
“ไม่ทราบว่าอายุเท่าไหร่เหรอครับ?”
“24”
“ดูสาวจังเลยนะครับ แล้วเคยมีเซ็กมาก่อนรึเปล่าครับ?”
“ห๊า?”
“เคยมีเซ็กรึเปล่าครับ?”
“คะ..เคย!!!”
แอนนี่รีบตอบเขาทันทีที่เห็นเขากำหมัดเตรียมพร้อมที่จะต่อยเธออีกครั้ง
“งั้นเหรอครับ อย่างงี้นี้เอง ไม่ทราบว่าผ่านผู้ชายมากี่คนแล้วครับ”
“ฉันจำไม่ได้…”
“ฟังดูสำส่อนจำเลยนะครับ”
“ไม่ใช่สักหน่อย!! ฉันตอนเด็กๆถูกครอบครัวขายให้ซ่อง ใช่ว่าฉันจะชอบทำมันซักหน่อย!!”
“อย่างงี้นี้เองเคยเป็นโสเภนีเพราะถูกครอบครัวขายสินะ อย่างงี้นี้เองน่าสกสารจังเลยนะครับ”
“อย่ามาสกสารฉันนะ!!!”
แอนนี่ไม่ชอบให้ใครมาสงสารสำหรับมันดูเหมือนเหยียดหยามเธอ
“มีลูกรึเปล่าครับ?”
“คิดว่าฉันจะตอบนายรึไง!!”
“นั้นสินะครับ ผมลืมไปคุณเองก็เคยมีโสเภนีก็น่าจะมีลูกสัก2-3คน ที่น่าจะหลุดจากเวทมนต์คุมกำเนิดมาได้ คุณก็คงทิ้งเด็กพวกนั้นไปอย่างไม่สนใจใยดีเลยสินะ”
“อย่ามาดูถูกกันนะ!!! ฉันไม่เหมือนยัยพวกนั้นซักหน่อย!!”
“โห~ จะบอกว่าคุณเลี้ยงเด็กพวกนั้นทั้งๆที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กเหรอครับ?”
“แล้วไงละ!! เด็กพวกนั้นมีฉันแค่คนเดียว!! ฉันไม่อยากให้พวกเธอโตมาเหมือนฉันหรอกนะ!!”
“อย่างงี้นี้เองๆ มีลูกสาวสินะครับ น่าสนใจๆ ถ้าบอกแบบนั้นว่ แสดงว่ามีมากกว่า1สินะครับ”
“!!!!”
เธอพลาดพลั้งบอกสิ่งที่เขาต้องการไปเสียแล้ว… ฉันนี้มันโง่จริงๆ ที่หลงกลเขาง่ายๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่คิดจะทำอะไรพวกเธอหรอก ทางผมเองก็มีลูกสาวที่น่ารักเหมือนกัน เพราะงั้นตอบมาตามตรงเถอะครับ”
“…….”
แอนนี่เลือกที่จะไม่พูด เธอจะไม่คายข้อมูลสำคัญอะไรให้เขารู้อีกแล้ว
“เป็นคนที่รักลูกจังเลยนะครับ ท่างั้นมาเดาอายุลูกสาวคุณกันดีกว่า”
“…….”
“ผู้หญิงเผ่ามนุษย์จะเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุ10-13ปี ท่ามีเพศสัมพันธ์ในวัยเด็กก็อาจจะยิ่งเร่งกระบวนการนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าคุณถูกขายเมื่อไหร่ด้วยสิ งั้นเอาเป็นว่าคุณท้องตอนอายุ11 ซึ่งคุณอาจจะคลอดเด็กคนแรกตอนอายุ12 คุณเองก็อายุ24ปี เพราะงั้นอย่างน้อยก็น่าจะลูกหนึ่งในนั้นมีอายุประมาณ12ขวบ เป็นวัยกำลังน่ารักเลยนะครับ เพราะงั้นท่าให้ผมเดาลูกๆของคุณน่าจะมีอายุประมาณ8-12ปีสินะครับ”
“รู้แค่นั้นแล้วยังไงละ?”
“ก็ผมบอกแล้วนี้ครับว่าผมจะไม่ทำอะไรกับลูกสาวของคุณ เพราะลูกสาวของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทดลองของผมนี้น่า นี้นะก็แค่การคุยเล่นฆ่าเวลาเท่านั้นครับ”
“เหอะ!! อย่ามาโกหกกันดีกว่า ฉันไม่ได้โง่นะ!!”
“คุณนี้ไม่เชื่อใจผมเลยนะ.. แต่ช่างเถอะก็ปกติดีนี้นะ ผมก็แค่คิดเฉยๆ ว่าถ้าคุณไม่กลับไปลูกๆคุณจะถูกขายเข้าซ่องเหมือนคุณรึเปล่านะ?”
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!”
คนที่แอนนี่นำไปฝากไว้เป็นคนที่รักเด็กค่อนข้างมาก และเธอก็ไว้ใจเธอพอสมควร
“ก็ครอบครัวคุณยังขายคุณได้ง่ายๆเลยนี้น่า คนที่คุณไปฝากเลี้ยงเอาไว้ก็เป็นแค่คนแปลกหน้า สำหรับเธอลูกๆ ของคุณก็เหมือนภาระนะแหละ การที่ต้องมาเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่แม้แต่ลูกมัน จะได้ประโยชน์อะไรละครับ แถมยังเป็นผู้หญิงอีก สู้ขายทิ้งไปเลยไม่ดีกว่าเหรอครับ?”
“ไม่มีทาง!! เธอไม่เหมือนพวกนั้น!!”
“คุณเองก็น่าจะรู้นิสัยของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปได้ง่ายเพื่อตัวเองดีนี้ครับ”
“…..”
น้ำตาของเธอไหลออกมาพร้อมกับสั่นกลัว นั้นคือเรื่องที่เธอกลัวที่สุด เธอรู้ดีที่นั้นมันโหดร้ายขนดไหนสำหรับเด็กผู้หญิง เธอไม่อยากให้ลูกของเธอต้องเจอแบบนั้นอีกแล้ว เธอต้องกลับไปให้ได้!!!
“นายบอกว่าจะไม่ทำอะไรลูกของฉันใช่มั้ย?”
“แน่นอนครับ”
“ถ้าฉันบอกสิ่งที่นายต้องการ…นายจะยอมปล่อยฉันกลับไปไหม”
“ก็คงต้องตอบว่าไม่ได้ครับ คุณเองคือตัวอย่างทดลองของผมเพราะงั้นผมปล่อยคุณไปไม่ได้หรอก”
“งั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะต้องบอกนายเลยสักนึด”
“ก็ไม่รู้สินะครับ… นี้ก็แค่การคุยเล่นเท่านั้น บางทีท่าคุณยอมเป็นตัวอย่างทดลองดีๆ ผมคิดว่าจะรับลูกๆของคุณมาอยู่ในความดูแลของผมครับ”
“ทำไมละ? นายไม่เห็นได้ประโยชน์สักหน่อยที่ทำแบบนี้นะ”
“ก็ใช่แหละครับ แต่ว่าอย่างน้อยผมเองก็เป็นแม่เหมือนกับคุณเพราะงั้นจึงเข้าใจความรู้สึกของคุณนึดหน่อยครับ”
“นาย..เป็นผู้หญิงหรอกเหรอ”
แอนนี่ตกใจมากที่รู้เพศของคู่สนทนาของตัวเองที่คิดว่าเป็นผู้ชายมาตลอด
“ใช่แล้วละครับ ผมเองก็เป็นคนคลอดลูกสาวเองด้วยนะครับ น่ารักสุดๆเลยละ”
ไทเอลยังคงยิ้มให้กับแอนนี่ที่กำลังทำหน้าตะลึงอยู่
“ต่อจากนักดาบหน้าสวยก็ตามด้วยสาวหน้าหล่อเหรอ…โลกนี้มันจะน่าตลก..ใช่แล้วละตลกจริงนะ ฮ่าๆๆๆ”
แอนนี่หัวเราะออกมาทั้งน้ำตา โลกนี้มันน่าตลกจริงๆ ให้ตายเถอะ
“ก็ได้…ฉันจะบอกเธอ.. ฉันมีลูกสาว3คน จริงๆเคยมี4คนแต่ตายเพราะถูกผู้ชายที่นั้นทำร้าย”
“แสดงความเสียใจด้วยจริงๆครับ ถ้าทางผมเสียลูกสาวไปคงเศร้าน่าดู”
“ไม่ต้องแสดงความเสียใจหรอก… ลูกสาวคนแรกชื่อ เรย์ ท่าเธอมีชีวิตอยู่เธอก็น่าจะอายุคงจะอายุ15แล้วละมั้ง”
“ท้องตั้งแต่9ขวบเลยเหรอครับ เร็วกว่าที่คาดอีกนะครับ”
“ก็อย่างที่เธอบอกฉันนะแหละ ถ้ามีเพศสัมพันธ์เร็วประจำเดือนก็จะมาเร็วเหมือนกัน ฉันถูกพ่อและพี่ชายข่มขื่นมาตั้งแต่5-6ขวบแล้วละ พอ8ขวบฉันก็ถูกขายให้ซ่องทันที ช่วงนั้นเองฉันก็เริ่มมีประจำเดือนแล้วด้วย พอรับแขกครั้งแรกก็ตั้งท้องทันทีเลยละ พอคลอดมาได้แค่3เดือน ก็ถูกผู้ชายพวกนั้นรังแกซะได้…ฉันนี้มันเป็นแม่ที่เฮงซวยจริงๆ ที่มัวแต่มองเพราะกลัวตัวเองจะถูกทำร้ายแทนเด็กคนนั้น….”
แอนนี่พูดมาทั้งน้ำตาเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงเล่าเรื่องแบบนี้ให้ผู้หญิงตรงหน้าฟังกันนะ
“เรื่องนั้นคงช่วยไม่ได้หรอกครับ คุณเองก็ยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจนี้ครับ”
“ไม่หรอก ตัวฉันในตอนนั้นเข้าใจเรื่องนั้นดีเลยละ พอเด็กคนนั้นตายเลยร้องไห้แทบบ้าเลยละ แค่ร่างเด็กคนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าโดนทิ้งไว้ที่ไหนเลย”
“……”
ไทเอลเลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าจังหวะไหนควรพูดหรือไม่ควรพูด
“ตอนนี้ฉันเองก็ยังจำความรู้สึกนั้นได้เลยนะ ตอนที่ให้นมเธอครั้งแรกนะ”
“นั้นสินะครับ มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆนะครับ”
“ใช่แล้วละ…มันดีจริงๆ…อย่างที่เธอว่านั้นแหละ…. หล้งจากที่ลูกฉันตาย ชายคนนั้นก็ถูกเจ้าของซ่องไล่ออกไปเพราะทำให้สินค้าสูญเปล่า ส่วนลูกสาวคนที่สองเธอชื่อเรย์ เหมือนกับคนแรก อายุ13 ปี เธอถูกคนพวกนั้นข่มขืนตอนอายุ5ขวบเหมือนกับฉัน ทำให้ตอนนี้เธอเป็นโรคกลัวผู้ชายอย่างหนักจนแค่เห็นหน้าก็กลัวแล้ว คนที่สองชื่อ เทล อายุ11 แม้เธอจะผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายเหมือนกันแต่เธอก็เป็นที่เข้มแข็งไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ถือว่าเป็นเด็กร่าเริ่งคนหนึ่งเลยละ ส่วนคนสุดท้ายชื่อ ฟรี อายุ6ขวบ เธอเกิดหลังจากที่ซ่องโดยทลายไปแล้วทำให้เธอเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในบรรดาทั้ง4คนละ”
“คุณเองก็เก่งเหมือนกันนะครับ ที่เอาตัวรอดมาได้ทั้งที่มีลูกตั้ง3คนได้นะครับ”
“ทางแกรนเทลเองก็ให้เงินเหยียวยามา2เหรียญทองนะ ก็เลยรอดมาได้ แต่ถึงอย่างงั้น ทางฉันเองก็ต้องออกไปขายตัวเพราะว่าทำอย่างอื่นไม่เป็นละนะ แถมยังต้องเลี้ยงเด็กตั้ง3คนอีก งานธรรมดามันไม่พอหรอก”
“แล้วทำไมถึงไปอยู่กับแก๊งล่าทาสได้ละครับ”
“ฉันเคยไปเป็นผู้หญิงให้กับสมาชิกชั้นสูงของพวกนั้นนะ เขาสอนฉันต่อสู้และก็เรื่องอื่นๆ สุดท้ายเขาก็มาชวนฉันเข้าเป็นพวกด้วย ฉันจึงตกลงเพราะฉันเองก็อยากเก็บเงินไว้เยอะๆ เพื่อให้เด็กพวกนั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นแหละ สุดท้ายความทะนงก็พาฉันมาจบที่นี้นั้นแหละ”
“งั้นเหรอครับ…ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ”
“มาถึงขั้นนี้อยากถามอะไรก็ถามมาเถอะ”
“ทำไมถึงต้องพยามจับภูติดำมากขนาดนั้นด้วยละครับ แค่สัตว์มายาเองก็น่าจะมีค่ามากพวกเรานี้ครับ”
“เธอเองก็เป็นภูติดำสินะ…”
“แน่นอนครับ แม้จะดูแตกต่างจากคนอื่นๆก็เถอะ แต่ผมก็ยังถือว่าเป็นภูติดำครับ”
“เข้าใจแล้วละ จะตอบให้เอง เหมือนจะมีออเดอร์ด่วนว่าต้องการภูติดำนะ ทางระดับสูงเองก็เร่งรัดพวกระดับล่างอย่างฉันเนี้ยแหละ ส่วนใครสั้งมาหรือรายละเอียดนั้น ฉันไม่รู้หรอก”
“เข้าใจแล้วครับ ทางนี้จะสืบต่อเองแล้วก็…”
ไทเอลปลดพันธนาการที่เตียงออกให้กับแอนนี่
“ทำแบบนี้ไม่กลัวฉันหนีรึไง?”
“คุณหนีไปจากที่นี้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณยังอยู่ที่นี้เวทมนต์ก็ไม่สามารถใช่ได้ ต่อให้คุณคิดจะสู้ด้วยมือเปล่าคุณก็ไม่สามารถทำได้หรอก คุณเองก็สัมผัสมาแล้วนี้ครับความแข็งแกร่งของภูติดำนะ”
เธอจำได้ดี แม้เธอจะมั้นใจในฝีมือตัวเองแต่กลับไม่สามารถสู้ผู้หญิงคนนั้นได้เลย เธอคนนั้นพกอาวุธมามากมายแต่กลับใช้มือเปล่ากับเธอที่มีอาวุษและชนะเธอได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าเธอนั้นแทบไม่ได้ต่อสู้เลยสักนึด
“ฉันอาจจะโกหกเรื่องลูกก็ได้นะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมตรวจช่องคลอดและรูทวาทของคุณเรียบร้อย มันมีร่องรอยของการฉีกขาดชัดเจนทั้งสองอย่างเลย แถมยังมีร่องรอยการคลอดลูกอีกด้วยนะครับ ท่าให้พูดตรงๆละก็ของๆคุณนี้ยับเยินที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแล้วละครับ”
“เธอมันโรคจิตที่สุด!!!”
แอนนี่พูดต่อว่าไทเอลที่พูดเรื่องน่าอายของเธอออกมา เธอรู้ดีมันมีรูปร่างที่ไม่ดีเมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่น แต่ที่เธอใช้หากินมาตลอดมันคือลีลาที่ได้มาจากการอยู่ที่ซ่อง
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดี๋ยววันหลังผมจะช่วยซ่อมมันให้เองครับ รับรองกลับมาฟิตยิ่งกว่าสาวบริสุทธิ์อีกนะครับ”
“ไม่ต้องการยะ!!! ฉันไม่คิดจะกลับไปทำอาชีพนั้นอีกแล้ว!!”
“ก็เผื่อคุณอยากจะลองหาผู้ชายดีๆไงครับ ถ้าคืนแรกที่เริ่มทำกันของๆคุณดันใหญ่กว่าของเขา เขาคงขาดความมั่นใจไปตลอดชีวิตเลยนะครับ ฮ่าๆ”
“คิดว่าตลกรึไง!! ถึงมาล้อบ่มด้อยคนอื่นแบบนี้นะ ห๊า!! ฉันละอยากเห็นหน้าของสามีหล่อนจริงๆว่าทำไมถึงเลือกผู้หญิงแปลกๆอย่างเธอจริงๆ”
“สามี? ของแบบนั้นผมไม่มีหรอกครับ พวกผมเกิดมาจากพลังเวทบริสุทธิ์ของคู่ขาเพื่อใช้ในการตั้งครรภ์นะครับ แถมพวกเรายังเป็นพวกหญิงรักหญิงโดยตามธรรมชาติ ก็เลยไม่จำเป็นต้องมีเพศชายหรอกครับ”
“เป็นเผ่าพันธ์ที่แปลกจังเลยนะ…”
“ก็นั้นสินะครับ ขนาดผมก็ยังว่าแปลกเลย… จะว่าไปลูกๆของคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ ผมคิดว่าจะไปรับเธอเร็วๆนี้นะครับ”
“หมู่บ้านทางใต้ในแกรนเทลที่ชื่อว่าคาซาระ ผู้หญิงที่ชื่อมีเรียดูแลเธออยู่ ถ้าเจอแล้วบอกเธอได้เลยว่าแอนนี่ส่งเธอมารับลูก เดี๋ยวเธอก็เข้าใจเองแหละ”
“ช่างบังเอิญจริงๆนะครับ ที่ผู้หญิงคนนั้นมีชื่อเหมือนแม่ของพวกเราเลยนะครับ”
“งั้นเหรอ? ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่หรอก ก็ชื่อนั้นมันโหล่จะตาย”
แอนนี่ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ในชีวิตของเธอนั้นเธอรู้จักผู้หญิงที่ชื่อมีเรียมามากกว่า10คนแล้ว
“เรื่องลูกคุณผมจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยครับ ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับ เห็นอย่างงี้ผมก็เป็นคนรักเด็กมากๆนะครับ”
“งั้นเหรอ..น่าแปลกใจจริงๆ ที่ฉันดันคิดว่า ถ้าเป็นเธอฉันอาจจะวางใจให้ดูแลลูกฉันก็ได้”
“แน่นอนครับ ผมจะสอนหนังสือและความรู้ของเราให้เองครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะกลายเป็นโสเภณีที่ไร้การศึกษาแบบคุณแน่นอนครับ”
“พอโดนพูดตรงๆแล้วมันรู้สึกเจ็บใจ ตะหงึดๆแหะ แต่ก็จริงของเธอนั้นแหละ”
ในวัยเด็กนั้นเธอไม่ได้รับการศึกษาเลยแม้แต่น้อย ที่สามารถอ่านหนังสือได้ก็เพราะมีโสเภณีคนอื่นในซ่องสอนให้ เธอเองก็พึ่งรู้วิธีคำนวณพื้นฐานตอนที่ออกมาจากที่นั้นด้วยซ้ำ ท่าลูกสาวทั้ง3คนได้รับความรู้จากพวกภูติดำที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความลูกแปลกๆละก็ อนาคตพวกลูกของเธอต้องสดใสแน่นอน
“น่าเสียดายจังนะ แม้จะรู้สึกเหงาหน่อยที่ไม่ได้เจอเด็กๆแล้วก็เถอะ แต่กลับโล่งใจอย่างประหลาดเลยละ”
“พูดอะไรของคุณนะครับ? ผมเองไม่ได้ห้ามเด็กๆมาเจอคุณหรอกนะ ภ้าเด็กๆพวกนั้นอยากเจอคุณผมก็ยินดีพาพวกนั้นมาพบคุณนะ”
“ห๊า? ไม่ใช่ว่าพวกเธอกำลังทดลองอะไรที่เป็นความลับอยู่ไม่ใช่รึไง”
“ก็เป็นความลับไงครับ ผมถึงไม่ให้คุณออกไปไง แต่ท่าเด็กพวกนั้นมาอยู่ในความดูแลของผมก็ถือว่าเป็นครอบครัวของผมแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับกับพวกเธอนี้น่า”
“ตรรกะอะไรของเธอเนี้ย!! พิลึกชะมัดยาด!!”
“ก็พวกเราพิลึกมาตั้งนานแล้วนี้ครับ คุยกับมาขนาดนี้คุณพึ่งรู้รึไง?”
“นั้นสินะพิลึกชะมัดเลยนะเธอเนี้ย อุ๊บ..ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!”
แอนนี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงหัวเราะ แต่ตอนนี้เธอโล่งอกแบบแปลกๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“แฮ่กๆๆ…โอ็ย!!..หัวเราะจนเหนื่อยเลยนะฉันเนี้ย”
“งั้นก็ดีแล้วละครับ”
“แล้ว? พวกเธอจะเอาฉันไปทดลองอะไรละ? ทดลองยาแปลกๆที่กินแล้วกลายเป็นมอนสเตอร์หรือเอาฉันไปทำคิเมร่าละ”
“ตอนแรกก็กะจะทำแบบนั้นแหละครับ แต่เผอิญพอรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ก็ทำไม่ลงแล้วละครับ”
“ผู้หญิงที่ดี? ฉันเนี้ยนะ? เธอเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?”
“ไม่หรอกครับ คุณถือว่าเป็นผู้หญิงในอุดมคติของท่านแม่ของผมเลยละครับ”
“แม่ของเธอเหรอ? ชักอยากเห็นหน้าแม่ของเธอแล้วสิ คิดยังไงถึงเอาผู้หญิงแบบฉันมาเป็นอุดมคติของเธอเนี้ย”
“แม่ของผมไม่ได้อยู่ในเมืองนี้แล้วละครับ”
“น่าเสียดายจังนะ…สรุปจะเอาฉันไปทำอะไร? รีบๆบอกมาเถอะ ฉันเตรียมใจไว้แล้วละ”
“ก็แค่งานง่ายๆครับ ก็แค่ทดลองการอุ้มท้องลูกของผมไงครับ”
“พะ..พูดอะไรของเธอ!! เธอเองก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอไง!!!”
“ก็บอกแล้วไงครับ ว่าพวกเราเป็นหญิงรักหญิงเพราะงั้นพวกเราจึงสามารถมีลูกกันเองได้ แต่สำหรับคนต่างเผ่านั้นท่าไม่ใช่คนที่มีพลังเวทบริสุทธิ์จริงๆก็ไม่สามารถทำได้ครับ เพราะงั้นเลยมีภูติดำบางส่วนที่มีคู่รักต่างเผ่าที่อยากมีลูกด้วยกัน ผมเองก็รับผิดชอบหน้าที่ส่วนนั้นด้วยสิ”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยละยะ!!”
“ก็คุณเคยมีลูกมาก่อนนี้ครับ แถมยังลูกดกซะด้วย เพราะงั้นคุณนี้แหละเหมาะสมที่สุดแล้วครับ”
“เธอคิดว่าการเลี้ยงเด็กมันง่ายนักรึไง!! ที่สำคัญเด็กที่เกิดมาจะรู้สึกยังไงกันที่รู้ว่าตัวเองเกิดขึ้นเพราะเหตุผลงี่เง่าแบบนี้นะ!!”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงภูติดำมีความสามารถในการถ่ายทอดความทรงจำได้ครับ เพราะงั้นตอนเกิดมาเธอก็รู้เรื่องแล้วละครับ”
“แล้วไงละยะ!! คิดจะให้เด็กที่เกิดมาอยู่กับความทรงจำร้ายๆของฉ้นไปจนโตรึไง!!”
“ภูติดำจะเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากที่ดื่มนมของแม่ครั้งแรกภายใน8ชม.ครับ ขนาดทางผมเองก็อายุแค่3เดือนเท่านั้นเอง”
“นี้เธออ่อนกว่าลูกฉันอีกเหรอ!!!”
“ครับผม ภูติดำที่นี้มีอายุไม่เกิน6เดือนทั้งนั้นแหละครับ”
“ฮ่าๆ…นี้มันจะพิลึกเกินไปแล้ว”
แอนนี่หัวเราะออกมาแห้งๆ พร้อมกับจับไปที่หัว ตอนนี้เธอรู้สึกปวดหัวมาก ทุกอย่างมันเกินสามัญสำนึกของเธอเกินไปแล้ว นี้ฉันเล่าอะไรให้กับคนที่มีอายุแค่6เดือนฟังกันเนี้ย!! ฉันมันบ้าชัดๆที่เผลอไปไว้ใจยัยนี้นะ!!
“อ๋อ อีกอย่าง ถ้าคุณคลอดลูกของผมแล้วคุณจะกลายเป็นเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผมนะครับ ท่าให้พูดก็คล้ายๆกลายเป็นเมียน้อยผมนั้นแหละครับ”
“พูดอะไรของเธอกันเนี้ย!!! พวกเราเป็นผู้หญิงนะยะ ฉันจะกลายเป็นเมียน้อยเธอได้ยังไง!!! ที่สำคัญไม่ใช่ว่าเธอมีลูกแล้วไม่ใช่รึไง!!”
“ท่าหมายถึงลูกของผมเธอเองก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ทางคู่ผมเองน่าจะชอบคุณด้วยเหมือนกันด้วย เพราะฉะนั้นสบายมากครับ”
“บ้าไปแล้ว..นี้มันบ้าไปแล้วชัดๆ พวกเธอมันบ้า..สุดๆ”
“ใครๆก็บอกแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ เดี๋ยวคุณก็ชินไปเองแหละครับ”
“เดี๋ยวสิ!! นี้เธอจะปล่อนให้ฉันโป๊แบบนี้เลยเหรอยะ!!! อย่าน้อยก็ทิ้งผ้าไว้หน่อยก็ยังดี!!”
ไทเอลหันกลับมาและมองไปที่ร่างของแอนนี่ที่กำลังเปลือยเปล่าไร้เสื่อผ้าสักชิ้น ในห้องนี้ก็มีแค่เตียงกับเครื่องมือที่เอาไว้ใช้ทดลอง แถมสำหรับตัวทดลองเองก็ไม่จำเป็นต้องมีเสื้อผ้าเพื่อสังเกตุการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
“นั้นสินะครับ ท่างั้นรอสักครู่นะครับ”
ไทเอลยื่นมือเอามาหลังจากนั้นก็ปรากฏข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น อย่างห้องน้ำ โถส้วม โต๊ะกินข้าว โต๊ะเครื่องแป้ง อ่างอาบน้ำ และตู้เสื้อผ้า
“นะ..นี้มันอะไรกันเนี้ย!!!!”
แอนนี่ร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นเวทมนต์แบบนี้มาก่อนเลย
“เวทมนต์เฉพาะตัวของผมเอง ผมเรียกมันว่าเวทมนต์แห่งการสร้าง หลักการมันก็ง่ายๆก็แค่สร้างของที่ต้องการขึ้นมาก็แค่นั้นแหละ”
“นี้มันเลยระดับของเวทมนต์แล้ว!! นี้มันดียิ่งกว่าการแปรธาตุซะอีก!!”
“มันไม่ใช่ของดีอะไรขนาดนั้นหรอกครับ สุดท้ายของพวกนี้ก็จะหายไปเองภายใน1เดือนอยู่ดี แค่สร้างของพวกนี้ก็เล่นพลังเวทผมเกือบหมดแล้วละครับ”
“แค่นี้ก็ดีแล้วละ แค่นี้ฉันก็มีชุดใส่ซัก—“
แอนนี่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก็พบกับความว่างเปล่า เธอลองเปิดลิ้นชักเองก็ไม่มีอะไรเลย….. เมื่อเธอหันกลับไปก็พบว่าไทเอลยืนอยู่ตรงประตูห้องรีบร้อยแล้ว
“นั้นก็คือคำตอบของผมครับ พอดีผมชอบคุณตอนเปลือยมากกว่า ส่วนอาหารและของใช้อื่นๆเดี๋ยวจะมีคนเอามาให้ แน่นอนว่ายกเว้นเสื้อผ้า ไว้เจอกันใหม่นะครับ”
“ดะ เดี๋ยว–“
แอนนี่พยามโวยวายอะไรสักอย่าแต่ไทเรลไม่สนใจปิดประตูอัดเธอทันที เธอเดินไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ฝั้งตรงข้ามกับห้องของแอนนี่ ในนั้นมีภูติดำคนหนึ่งที่มีผมดำยาวกำลังจดอะไรบางอย่างอยู่
“เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก็ล้มเหลวเหมือนเดิมแหละคะ น่าเสียดายเหมือนกันที่อุส่าหวังไว้กับตัวอย่างหมายเลข 7 ที่เป็นเผ่าหมาป่าที่ร่างกายแข็งแกร่ง เยอะพอสมควร แต่ก็คงช่วยไม่ได้ยานี้มันคงจะแรงเกินไปละมั้งคะ”
เธอพูดพร้อมมองเศษเนื้อที่อยู่บนพื้นที่ค่อยๆละลาย และก็ยังคงจดอะไรบ้างอย่างอยู่เหมือนเดิม
“แล้วฝั้งคุณละคะ? เห็นว่ากำลังทดลองยาตัวนี้เหมือนกันกับหมาย8ที่เป็นเผ่ามนุษย์ผู้หญิงเหมือนกันนี้คะ”
“น่าเสียเหมือนกัน ผมเปลี่ยนใจเอาเธอไปอยู่ในหมวดการทดสอบการตั้งครรภ์ข้ามสายพันธ์ของภูติดำแล้วละครับ”
“ทำไมละคะ? ไม่ใช่เธอเป็นนังร่านที่พวกเราเกลียดไม่ใช่เหรอ สู้เอาเธอไปทดลองยาหรือเอาไปให้คาลศึกษาเรื่องอวัยวะของมนุษย์ ยังจะมีประโยชน์กว่าซะอีก”
บริดพูดด้วยน้ำเสียงฟังดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยังคงจดผลการทดลองลงในกระดาษต่ออยู่เี
“ฮ่าๆๆ บริดนี้พูดจาอะไรโหดร้ายจังเลยนะครับ เห็นอย่างงั้นเธอเองก็เป็นผู้หญิงที่ดีเกินคาดเลยนะ ผมคิดว่าจะเอาเธอมาเป็นหนึ่งในคู่ของผมหลังจากเธอคลอดลูกผมได้แล้วนะครับ”
“อยากโดนคุณเจมินี่ฆ่าหมกถุงผ้าเหรอคะ?”
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก เธอ..ไม่สิ แอนนี่นะเป็นผู้หญิงในอุดมคติของท่านแม่เลยนะครับ สำหรับเจมินี่ผมคิดว่าเธอต้องชอบเธอแน่ๆครับ”
เมื่อไทเอลพูดดั้งนั้นทางบริดเองก็ทำหน้าเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง
“งั้นเหรอคะ สรุปการทดลองหมายเลข2กับ4ได้ผลยังไงบ้างละคะ”
“ถ้าให้พูดตรงๆ ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกับของคุณหรอกครับ ส่วนรายละเอียดต่างๆช่วยไปอ่านในรายงานอีกทีละกันครับ แต่คิดว่าเร็วๆนี้จะมีการปรับสูตรของตัวยาใหม่อีกครั้ง คงต้องรบกวนให้คุณและคนอื่นอยู่ที่นี้สักพักครับ”
“อีกแล้วเหรอคะ? ทางนี้เองก็อยากกลับไปเจอที่รักที่บ้านเหมือนกันนะคะ คิดจะให้ทำงานไม่หยุดเลยรึไง คุณหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา ไทเอล”
บริดพูดด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ นี้ก็ผ่านมาเดือนกว่าๆแล้วที่เธออยู่ที่นี้เพื่อทำงานให้เสร็จ โดยที่ไม่ได้กลับบ้านเลยสักครั้ง
“ฮ่าๆ ก็นะ เดี๋ยวพอจบเรื่องนี้ผมจะหาวันลาหยุดให้ทุกคนเองครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“รอบที่แล้วก็พูดแบบนี้สุดท้ายฉันก็ต้องอยู่ที่นี้มา1เดือนนะคะ!! รู้ไหมคะ!! ตั้ง 1เดือนเลยนะ!!!”
บริดพูดพร้อมเอาปากกาไปจี้ที่อกหัวหน้าของเธอ จนเขาถอยหลังไปเรื่อยๆ จนติดกับกำแพง
“ใจเย็นๆหน่อยเถอะครับ ขอแค่ยาตัวนี้เสร็จก็พอ เพราะทางซุปเปอร์โพชั่นก็สมบูรณ์ไปแล้ว ถ้าตัวนี้เสร็จแผนกยาบำรุงของคุณก็ได้พักกันยาวๆแล้วละครับ”
“รอบนี้หวังว่าคุณจะช่วยรักษาคำพูดนะคะ คุณหัวหน้าไทเอล”
“แน่นอนครับแล้วก็ผมจะไม่อยู่ซัก3-4วัน ฝากดูแลที่นี้แทนผมด้วยนะครับ”
ไทเอลโบกมือลาบริดและกำลังเดินออกจากห้องไป
“ไม่ทราบว่าคุณจะไปไหนกันคะ? คุณหัวหน้า”
บริดรั้งเธอไว้ด้วยมือของเธอ ตอนนี้เธอกำไหล่ของไทเอลแน่นด้วยแรงทั้งหมดของเธอ
“ก็ผมสัญญากับแอนนี่ไว้แล้วนี้ครับ ว่าจะไปรับลูกๆของพวกเธอมาอยู่ในความดูแลของผม ก็เลยถือโอกาศนี้พาครอบครัวไปเที่ยวด้วยเลยไงครับ”
“อย่ามาล้อเล่นกันนะคะ!!! คิดว่าพวกเราอดหลับอดนอนกันขนาดไหนเพื่องานของคุณนะ!!! แล้วจู่ๆคุณจะมาโยนงานให้ฉันแล้วหนีไปพักผ่อนเนี้ยนะ!! พวกฉัน..ไม่สิ ฉันเองก็อยากพักบ้างนะคะ!! ไม่ยุติธรรมเลยที่คุณได้พักอยู่คนเดียว!!!”
“งั้นเหรอครับ…ถ้างั้นก็..”
ไคเอลเปิดไอเท็มบ็อคของตัวเองและหยิบขวดสีขาวที่มีจุกไม้ปิดไว้อยู่
“นี้มันอะไรกันคะ?”
“มันเป็นเหล้าชั้นเยี่ยมที่สุดจากลิลลี่และโรสครับ นี้ถือว่าเป็นของตอบแทนให้คุณ ท่าคุณช่วยงานผมนะ”
“ห๊า? คิดว่าตลกรึเปล่าคะ? ใครมันจะยอมเหนื่อยตั้ง3-4วันเพื่อเหล้าขวดเดียวกันคะ!! ที่สำคัญฉันนะไม่ดื่มเหล้าคะ!!”
“ใจเย็นๆและลองสูดกลิ่นมันดูครับ”
“อย่าเอาเข้าใกล้นะ!! รู้ไหมว่ามัน–“
บริดพยามจะผลักเหล้าที่ไคเอลเปิดออกมาให้เธอดม แต่เธอก็ต้องหยุดเพราะกลิ่นของมันนั้นเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยมาก
“นี้มันกลิ่นของท่านแม่มีเรีย? แถมยังแรงมากด้วย..ได้ยังไงกัน?”
“เห็นว่าก่อนที่ท่านแม่จะออกจากเมืองลิลลี่และโรสจับทำแม่เอามาทำหน้าที่แทนถังหมักไวน์นะครับ ส่วนจะหมักไว้ตรงไหนคุณเองก็น่าจะพอเดาได้นะครับ”
“ไปเที่ยวให้สนุกเถอะคะ ท่านไทเอล!! เดี๋ยวทางนี้จะทำงานทุกอย่างแทนคุณเองคะ!!”
ท่าทีของบริดเปลี่ยนไปเป็นนอบน้อมทันที ในอ้อมกอดของเธอกอดขวดเหล้าไว้แน่นราวกับของรักของหวง
“ผมนี้เป็นหัวหน้าที่โชคดีจริงๆ ที่มีลูกน้องพึ่งพาได้ขนาดนี้”
“พึ่งพาได้อะไรกันคะ นี้คือเรื่องปกติที่ควรทำคะ ท่านไคเอลเองก็ทำงานมาหนักแล้วเชิญไปพักผ่อนให้เต็มที่ได้เลยคะ”
“ฮ่าๆๆ ขอบคุณมากเลยครับ ถ้างั้นฝากเรื่องงานของผมให้คุณจัดการด้วยนะครับ”
“ขอให้เดินทางปลอคภัคนะค่า~”
ไคเอลเดินออกมาจากห้องโดยมีบริดยืนโบกมือด้วยรอยยิ้มอยู่ เขาเดินไปเรื่อยๆในทางเดินสีขาวยาวจนมาถึงที่เคาร์เตอร์ที่มีภูติดำผมสีชมพูยืนหลับอยู่
“คุณจอเจียร์ครับ ตื่นได้ได้แล้วนะครับ”
“หะ…หืม~..อ่า~..คุณหัวหน้านี้เองอรุณสวัสค่า~”
จอเจียร์กล่าวอรุณสวัสกับไทเอลในสภาพสลิ่มสลือ แม้จะ2ทุ่มกว่าๆแล้วก็ตาม
“อรุณสวัสครับ คุณจอเจียร์ ไม่ทราบว่าช่วยส่งผมกลับไปที่เมืองหน่อยได้ไหมครับ”
“งืมๆ กรุณารอสักครู่นะคะ..”
เธอยื่นมือออกมาสักพักก็มีประตูมิติสีฟ้าขนาด2เมตรปรากฏขึ้น ตรงพื้นที่ว่างเปล่า
“กรุณากรองแบบฟอร์มตรงนี้ด้วยนะคะ”
“ครับผม”
จอเจียร์ยื่นกระดาษแบบฟอร์มมา ซึ่งไทเอลก็เขียนมันอย่างรวดเร็วด้วยปากกาคู่ใจของเขาด้วยความเคยชิน
“ผมจะไม่อยู่สัก3-4วัน ท่าใครจะมาติดต่อผม ให้ไปติดต่อที่คุณบริดแทนนะครับ”
“รับทราบค่า~ เดินทางปลอคภัคนะคะ คุณหัวหน้า คร่อก..”
หลังจากพูดจบเธอก็หลับต่อทันที ทางไทเอลเองก็เดินเข้าประตูมิติสีฟ้าไปในทันที
ตอนนี้เขาโผล่มาในบ้านหลังหนึ่ง ที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ที่นี้มีภูติดำผมสีชมพูที่หน้าเหมือนจอเจียร์ยืนรออยู่ ตรงหน้าเธอ
“ยินดีต้อนรับกลับคะ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและการศึกษา”
“สวัสดีครับ คุณซีเรีย”
“สวัสดีคะ คุณไทเอล ทางนี้ได้รับแบบฟอร์มคำร้องกลับของคุณเรียบร้อยแล้ว กรุณากลับมาทำงานให้ตรงกำหนดการด้วยนะคะ”
ซีเรียพูดด้วยคำเสียงและหน้าตาเฉยเมยไร้อารม ต่างจากแฝดของเธออีกคนที่ดูมีอารมมากกว่า ทุกครั้งที่คุยกับเธอตัวไทเอลเองก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในหัว
“ขอบคุณที่เตือนนะครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
ไทเอลเดินออกไปทางประตูหน้าก็พบกับบรรยากาศเมืองที่วุ่นวายในช่วงค่ำ เมื่อตอนที่เธอเกิดมาที่นี้เต็มไปด้วยภูติดำ แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจากที่อื่นเพราะต้องการสินค้าที่พวกเราผลิต และก็มีพวกที่มาชมความงามของภูติดำที่มีชื่อเสียงอยู่เยอะพอสมควร
“วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหล้ามีเรียสุดยอดดดด!!!”
“หัวหน้าคะ!! ช่วยหยุดถอดเสื้อผ้าซักทีเถอะคะ พวกผู้ชายมองใหญ่แล้วนะคะ!! ท่านแม่ย้าย้าเองก็เลิกกัดก้นฉันแล้วมาช่วยกันห้ามหน่อยสิคะ!!!”
ผู้คนมุงดูมินาโตะที่ถอดเสื้อผ้าขอตัวเองจนเหลือแต่ชุดชั้นใน และกำลังหมุนเสื้อผ้าของตัวเองไปมา โดยมีบเรนพยามห้ามไว้อยู่ และมีย้าย้ากำลังเอาไปซุกที่ก้นของเธออยู่ มันเป็นภาพที่ดูวุ่นวายสุดๆ ที่เห็นได้ประจำหากมินาโตะได้ดื่มเหล้า
“วันนี้พวกการ์ดก็ร่าเริงเหมือนเคยสินะครับ”
ไทเรลบ่นพึมพำก่อนที่จะตรงกลับบ้าน ระหว่างทางเองก็มีผู้หญิงคนอื่นเดินมาทักเธอบ้างแต่ก็เธอก็เลือกที่จะเมินมันไป
เธอเดินมาเรื่อยๆจนเดินมาถึงบ้านของเธอที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของภูติดำโดยเฉพาะ เธอเปิดประตูบ้านไปและเดินไปที่ห้องของคาล ที่ตอนนี้เธอกำลังทำงานของเธออยู่
“ขยันจังเลยนะครับ คาล”
“หม่าม๊า!!!”
เมื่อคาลได้ยินเสียงของไทเอลก็รีบทิ้งงานและวิ่งมากอดเธอทันที
“ทำไมหม่าม๊าถึงกลับมาเร็วจัง ไม่ใช่ว่าช่วงนี้ยุ่งๆไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่อยากพาครอบครัวไปเที่ยวที่แกรนเทลเท่านั้นเอง”
“ที่แกรนเทลมันมีอะไรเหรอคะ? ม่าม๊า”
“มีเด็กผู้หญิง3คน ที่จะมากลายเป็นพี่น้องของคาลไงครับ”
“พี่น้อง…ม่าม๊าจะนอกใจคุณแม่แล้วเหรอ”
“จะเรียกอย่างงั้นก็ได้ละมั้งครับ ก็ผมจะรับผู้หญิงอีกคนมาเป็นคู่นี้นะ”
“โห~ พูดอะไรได้น่าสนใจดีนี้”
บรรยากาศในห้องเยือกเย็นลงจนเธอรู้สึกได้ เมื่อหันไปก็พบเจมินี่ในชุดนอนกำลังยืนกอดอกอยู่พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ ให้ไทเรล
“เอ่อ..เรื่องนี้ผมอธิบายได้นะ”
“ไม่ต้องมาพูดเลย!!”
“!!!”
ไทเอลยกมือขึ้นมาปัดป้องทันทีตามสัญชาตญาณเพราะคิดว่าจะถูกตี แต่กลับกลายเป็นว่าเจมินี่เข้ามาสวมกอดเธอด้วยความคิดถึง
“กลับมาช้าจังเลยนะ รู้ไหมฉันคิดถึงเธอแค่ไหนนะ”
“ช่วยไม่ได้นี้ครับ งานของผมมันเกี่ยวกับอนาคตของพวกเราเลยนี้ครับ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หรอกครับ”
“ฉันรู้อยู่แล้วยะ!! แต่ว่า..ฉันก็ยังคิดถึงเธออยู่ดีนั้นแหละ หัดเข้าใจคนที่รออยู่ที่บ้านหน่อยสิ!!”
เจมินี่ตะโกนใส่หน้าเธอทั้งน้ำตา นี้เป็นรอบแรกใน1เดือนกับอีก15วันที่เธอได้กลับมาบ้าน งานของเธอนั้นยุ่งซะจนไม่อาจะแวะกลับมาที่บ้านได้ คาลเองก็สามารถมาแวะเยี่ยมเธอพักๆ ในฐานะนักประดิษ ต่างจากเจมินี่ที่เป็นส่วนงานทั้วไปที่ทำงานยุ่งในแต่ละวันมาก ทำให้เธอไม่ได้เจอหน้าของไทเอลเป็นเวลานาน
“เจมินี่…. ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกันครับ… แต่ว่า..ไม่คิดว่าคุณจะกอดผม…แรงไปหน่อย…อุก…เหรอครับ?”
“ช่วยไม่ได้นี้น่าก็ฉันนะ คิดถึงเธอมากม๊ากกเลยนี้น่า”
เจมินี่กัดฟันพูดด้วยความโกรธ เธอยังไม่ลืมเรื่องที่ไทเอลพูดตอนแรก เธอค่อยๆเพิ่มแรงกอดมากขึ้นเรื่อยๆ จนไทเอลเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว
“เอ่อ.. คุณแม่คะ หม่าม๊าเขาตาเหลือกแล้วนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอดคาล มะม๊าเขาแค่เหนื่อยเท่านั้นแหละจ๊ะ”
กร๊อบบบบ!!!
“คุณแม่!! หม่าม๊ากระดูกแตกแล้วนะ!! หนูรู้ว่าคุณแม่โกรธแต่ช่วยปล่อยมะม๊าไปเถอะคะ!!”
“แม่ไม่ได้โกรธหม่าม๊าสักหน่อย ที่สำคัญนี้ก็แค่กอดธรรมดาเองนะ จะกระดูกแตกได้ไงละ”
“แต่หนูได้ยินเสียงดัง กร๊อบ!! เลยนะ”
“ก็ไอ้นั้นไงจ๊ะ เวลาที่คาลนั้งทำงานนานๆก็เป็นใช่มั้ยละ เวลาไม่ได้ขยับนานๆเมื่อขยับก็จะมีเสียงดังกร๊อบไงจ๊ะ หม่าม๊าเองก็ทำงานมาตั้ง1เดือนกว่าๆ ก็น่าจะเป็นเหมือนกันแหละจ๊ะ ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ปล่อบให้คุณแม่เป็นห่วงทุกวัน แม้แต่จดหมายก็ไม่คิดจะส่งมา คุณแม่ก็รอวันแล้ววันเล่า แต่กลับนอกใจคุณแม่ได้หน้าตาเฉย ไม่คิดว่าทำเกินไปหน่อยเหรอ? เนอะ มะม๊า”
ตุบ!!!
เจมินี่ปล่อยไทเรลลงร่วงลงกับพื้นไปเหมือนกับตุ๊กตาราคาถูก คาลที่เห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งไปหาไทเอลทันที
“มะม๊า!!! ทำใจดีๆไว้นะ มะม๊า!!!”
“พ..โพชั่น…”
“หนูพึ่งให้คนอื่นไปแล้วอะ!! หนูขอโทษนะคะ หม่าม๊า”
คาลจับมือของไทเอลเอาไว้ เธอไม่เคยรู้เลยว่าเวลาฉุกเฉินที่หม่าม๊าของเธอพูดถึงจะเป็นเวลานี้
“ตายแล้ว!! ใช้ไม่ได้เลยนะมะม๊าเนี้ย ถ้าจะนอนก็กลับไปนอนที่ห้องของเราสิ มานอนบนพื้นห้องของลูกไม่ได้นะ”
เคร้ง!!
“คุณแม่ผิดด้านแล้วคะ!! อีกด้าน!! อีกด้าน!!!”
เจมินี่ช้อนไทเอลด้วยมือข้างเดียวสภาพเธอตอนนี้กำลังงอเป็นรูปVเพราะกระดูกสันหลังได้หักไปแล้ว
“จริงด้วย แม่นี้ซุ่มซ่ามจังน้า~”
ตุบ เกร้งงง!!!
“หม่าม๊า!!!!!!”
คาลแทบจะกรีดร้องออกมา ตอนนี้มะม๊าของเธอถูกห้อยไว้บนบ่าของคุณแม่เหมือนกับหนังสัตว์ แถมมะม๊าของเธอเองก็ไม่ได้สติและมีเลือดไหลออกมาจากปากและจมูกออกมาจนท้วมพื้นห้อง วันนี้ครอบครัวของคาลก็จบไปอีกวันด้วยความวุ่นวายของหม่าม่าและแม่ของเธอ