“พี่เรย์กับพี่เทลกลับมาแล้ว!!!”
เด็กน้อยคนหนึ่งรีบวิ่งมากอดพี่ๆ ของพวกเธอ
“วันนี้กลับมาช้าจังเลยนะ ไปเถลไถลที่ไหนกัน–“
ผู้หญิงคนหนึ่งที่พอดูมีอายุเดินออกมาพร้อมพับพีไม้ในมือ แต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้ชายแปลกหน้าที่ท่าทางน่าสกสัยโผล่มาในบ้านของเธอพร้อมกับเด็กที่เธอถูกฝากเลี้ยงไว้
“สวัสดียามเย็นครับ คุณมีเรีย”
“คุณเป็นใครคะ”
มีเรียระวังตัวสุดถฤชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นดูน่าสกสัยมาก เธอไม่เคยเจอใครดูท่าทางไม่เป็นมิตรขนาดนี้มาก่อน
“เรย์!! เทล!! ดรีม!! มาอยู่ข้างหลังป้าซะ!!”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเป็นคนรู้จักของคุณแอนนี่เพราะงั้น–“
ตูม!!!!!
มีเรียพุ่งมาเตะไทเอลที่พยามอธิบายอย่างรวดเร็วและหนักแน่นจนกระแรงกระแทกจนเด็กๆปลิวไปตาแรงลม
“ทำไมถึงได้ใจร้อนแบบนี้ละครับ ผมก็แค่อยากมาคุยกับคุณเท่านั้นเองนะครับ”
ไทเอลพูดพร้อมกับยิ้มในขณะที่จับขาของมีเรียไว้อยู่
“แกนะ!! เป็นคนขององค์กรที่มาล่าตัวแอนนี่สินะ!!”
“องค์กร? พูดเรื่องอะไรของคุณละครับ ผมก็แค่คนธรรมดาที่หากินปกติเท่านั้นเองนะครับ”
“อย่ามาทำไขสือไปหน่อยเลย!! คิดว่าคนธรรมดาสามารถรับลูกเตะฉันได้รึไง!!”
“ฮ่าๆ อย่าโกรธนักสิครับ ผมก็แค่มารับตัวเด็กๆ ไปดูแลเท่านั้นแหละ”
“คิดว่าฉันจะยอมรึไง!!!”
มีเรียใช้ขาอีกข้างพุ่งตัวและงอเข่าขาข้างที่ถูกจับไว้ โดยหวังจะใช้เข่าทั้ง2ข้างโจมตีเขาให้ล้มลงไปนอน
“เก่งจังเลยนะครับ แต่ท่าคิดจะสู้แรงกับภูติดำละก็ลองพยามอีกหน่อยละกันครับ”
“!!!!”
ไทเอลรับเข่าทั้ง2ข้างและดันกลับไปแบบง่ายๆ มีเรียที่เสียหลักจนล้มลงหลังกระแทกไปกับพื้น เธอรีบลุกทันทีแต่ก็ถูกเขากดแขนทั้งสองข้างไว้ ไม่ว่าเธอจะพยามดิ้นยังไงก็ไม่หลุด
“จะว่าไปคุณนี้ก็สวยเหมือนกันนะครับ แม้อายุเยอะแล้วก็เถอะ”
ไทเรลพูดพร้อมสำรวจร่างกายของมีเรียในขณะที่กำลังจับเธอกดไว้อยู่
“คิดจะข่มขืนฉันรึไง ไอ้โรคจิต!!”
“ฮ่าๆ ขืนทำแบบนั้นผมก็โดนเจมินี่ฆ่าพอดีสิครับ”
“ป้ามีเรียใจเย็นๆหน่อยเถอะคะ!!”
“ถอยไปเรย์!! พาเทลกับดรีมหนีไป!!! เดี๋ยวป้าจะถ่วงมันไว้เอง!!”
มีเรียตะโกนใส่เรย์ที่พยามเข้ามาห้าม
“ป้ามีเรียหม่าม๊านะไม่ใช่ตัวอันตรายหรอกนะคะ!! แม้เธอจะดูน่าสกสัยสุดๆก็เถอะ..”
“หม่า..ม๊า? นี้มันหมายความว่ายังไงกัน!!”
“เรื่องนั้นถ้าคุณลองใจเย็นสัก5นาทีและมาคุยกันแบบสบายๆ สักหน่อยดีไหมครับ?”
.
.
.
“น้องแมวกระโดดแง้วววว~”
“ฮ่าๆๆๆๆ จั้กจี้อ่า~ ฮ่าๆๆๆๆ”
คาลโดดใส่ดรีมพร้อมกับจี้ไปที่เอวของเธอ
“คาล!! ท่าเธอจี้ไม่ยุดแบบนี้ เดี๋ยวดรีมก็ฉี่แตกกันพอดีสิ!!”
“แง้วววววว~”
“ดะ..เดี๋ยวสิ อย่ามาจี้เอวฉันสิ”
“หนูเล่นด้วยเย้~”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ตะ..ตรงนั้นไม่ได้นะ…ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เสียงเอะอะโวยวายดังไปทั้งบ้าน ส่วนมีเรียเองก็กำลังอายหน้าแดงอยู่อีกห้องหนึ่งที่เป็นห้องรับแขกของบ้านที่กันด้วยกแพงบางๆ
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ ที่บ้านมีเสียงเอะอะโวยวายแบบนี้คะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แบบนี้ก็ดูสนุกสนานดีนะครับ”
“คาล!! ดรีม!! พวกเธอเล่นหนักไปแล้วนะ!! เห็นไหมพวกเธอจั้กจี้จนเทลฉี่แตกแล้วนะ!!!”
“มะ..ไม่ได้ฉี่แตกซะหน่อย!!”
“ว้ายๆ พี่สาวฉี่แตกละ!!”
“ว้ายๆ”
“พวกเธออย่ามาล้อฉันนะ!! ยัยพวกเด็กแสบ!!”
มีเรียอายหน้าแดงก่ำหนักกว่าเก่า ปกติเด็กๆที่บ้านเธอก็ชอบเอะอะโวยวายกันอยู่แล้ว ตอนนี้มีเด็กอีกคนยิ่งมีเสียงดังเข้าไปใหญ่ ทำให้เสียงนั้นดังเข้ามาในห้องรับแขกที่พวกเธอกำลังคุยธุระกันอยู่
“ไม่เป็นไรหรอกคะ ทางนี้ก็ชอบเสียงเอะอะโวยวายเหมือนกันนะคะ”
“ต้องขออภัคด้วยจริงๆคะ”
“เรื่องเสียงช่างมันเถอะครับ พวกเราไม่ได้ใส่ใจตรงนั้นกันอยู่แล้ว ว่าแต่ลูกเตะของคุณนี้หนักแน่นจังเลยนะครับ ไม่ทราบว่าเคยไปฝึกที่ไหนมาก่อนรึเปล่าครับ”
“เมื่อก่อนฉันเคยฝึกวิชาต่อสู้กับคุณพ่อที่เป็นนักสู้คะ สมัยสาวๆก็เลยไปขัดเกลาวิชาด้วยการเป็นนักผจญภัคมาก่อน แต่ตอนนี้ก็เลิกมาได้10กว่าปีแล้วละคะ”
“อย่างงี้นี้ ถึงว่าทำไมเธอเตะได้แรงขนาดนั้น ขนาดผมยังตกใจเลยนะครับฮ่าๆๆๆๆ”
“ขะ..ขอโทษด้วยจริงๆคะ..”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วทำไมคุณถึงเลิกฝึกละครับ”
“พอฉันแต่งงานกับสามีก็เลยเลิกทุกอย่างที่เกี่ยวกับการต่อสู้ แล้วหันมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวเพื่อดูแลสามีนะคะ”
“นะ..นี้คุณแต่งงานแล้วเหรอคะ!!!”
เจมินี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เอ่อ..คะ ฉันแต่งงานแล้วละคะ ถึงจะน่าเสียดายที่สามีจากไปก่อนตอนที่ใช้ชีวิตร่วมกันเมื่อ10ปีที่แล้ว ตอนนี้จึงเพียงแค่แม่หม่ายแก่ๆคนหนึ่งเท่านั้นแหละคะ..”
“ไม่ทราบว่าคุณมีลูกหรือเปล่าคะ!! มีลูกรึเปล่าคะ!! แฮ่กๆๆๆ”
เจมินี่เพิ่มหายใจหนักขึ้นถี่ขึ้นมากๆ ส่วนมีเรียเองก็เริ่มรู้สึกกลัวเธอนึดหน่อย
“ถะ….ถ้าเรื่องลูกทางฉันไม่มีหรอกคะ…น่าเสียดายเหมือนกันที่ฉันแต่งงานตอนอายุมากแล้วก็เลยมีลูกยาก ถึงสามีกับฉันจะพยามแค่ไหนก็ตามก็ไม่อาจมีลูกด้วยกันแม้แต่คนเดียว ก็เลยยอมแพ้ไปแล้วละคะ”
“แม่บ้านขี้เหงาของแท้ละ…”
“จะเรียกแบบนั้นก็ได้ค่ะ ทางฉันเองก็เหงามากเหมือนกันตอนที่แอนนี่ยังไม่เอาเด็กพวกนี้มาฝากฉันเลี้ยงให้ ตั้งแต่ตอนนั้นก็–“
“งั้นคุณอยากไปคลายเหงาบนเตียงกับฉันไหมคะ?”
“เอ่อ.. หมายถึงอะไรกันคะ”
มีเรียงุนงงกับคำพูดแปลกๆ ของเจมินี่ ที่จู่ๆมาบอกให้ไปคลายเหงาบนเตียงกับเธอ ทั้งๆที่สามีของเธอนั้นก็นั้งอยู่ข้างๆเธอแท้ๆ บางทีเธออาจจะเข้าใจอะไรผิดสักอย่างก็เป็นได้ จึงลองถามเพื่อความแน่ใจ
“คุณคงเหงาน่าดูสินะคะที่ต้องนอนช่วยตัวเอง คนเดียวมาตั้ง10ปี”
“ดะ..เดี๋ยวนะ!! ฉันไม่ได้เหงาแบบนั้นซักหน่อย!!!”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจดีคะ แม้ฉันไม่อาจจะสู้สามีของคุณได้ แต่ท่าแค่คลายเหงาให้คุณละก็… สบายมากคะ!!”
“เดี๋ยวสิ!! จับตรงไหนของคุณกัน!!! คุณก็ช่วยมาห้ามภรรยาของคุณหน่อยสิคะ!!”
มีเรียพยามร้องขอความช่วยเหลือจากไทเอลที่นั้งมองอยู่เงียบๆ ก่อนที่เขาจะเริ้มถอนหายใจและลุกมาหาเจมินี่ที่กำลังลวนลาทมีเรียอยู่ แม้ทางมีเรียจะพยามสุดแรงของเธอแล้วก็ไม่อาจต้านแรงของเจมินี่ที่เข้ามาขย้ำหน้าอกเธอด้วยใบหน้าที่หื่นกระหายราวกับสัตว์ป่า
“ใจเย็นหน่อยสิครับ ผมเข้าใจว่ารุ่นแรกๆ ชอบสาวใหญ่แนวแม่บ้านสาวเป็นพิเศษแต่แบบนี้มันจะทำให้เธอกลัวเอานะครับ”
“อ๊ะ..จริงด้วย..ลืมตัวซะได้ ขอโทษจริงๆนะคะ คุณมีเรีย”
เธอหยุดขย้ำหน้าอกของมีเรียและก้มหัวขอโทษ ทางมีเรียที่เห็นทางเจมินี่สำนึกผิดและทำหน้าซึ่มๆ เองก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอมากมาย
“มะ..ไม่เป็นไรหรอกคะ เงยหน้าขึ้นมาเถอะ ฉันไม่โกรธหรอกนะคะ นี้ไง”
เมื่อมีเรียพูดจบก็ยิ้มให้กับเจมินี่เพื่อปลอบใจเธอ
“จะว่าไปคุณตกลงจะให้ผมรับพวกเด็กๆไปดูแลรึเปล่าครับ?”
“ถ้าเป็นความต้องการของแอนนี่ที่เป็นแม่ของเธอ ฉันก็ห้ามไม่ได้หรอกคะ…แต่ว่า…”
“ต้องการจะตามไปด้วยสินะครับ..”
“ค่ะ..สำหรับฉันที่ใช้ชีวิตอยู่มาคนเดียวตลอด ตอนนี้ขาดเด็กพวกนี้ไปไม่ได้แล้วละคะ”
“จริงๆ ผมก็ไม่ได้ห้ามหรอกนะครับ…แต่ว่าเมืองของเรามีพวกที่ชอบสาวใหญ่ที่มีสเน่ห์ที่ดูร้อนแรงแบบคุณ ถือว่ามีเยอะมากเลยนะครับ”
“แหม~ พูดอะไรกันคะ ทางนี้ก็เป็นคุณป้าอายุ43แล้วนะคะ จะไปว่ามีสเน่ห์ขนาดนั้นได้ยังไงกัน แต่พอโดนหนุ่มหล่อแบบคุณพูดยอแบบนี้ฉันเองก็เขินแย่เลยสิคะ”
มีเรียเองในสมัยสาวๆเองก็มีผู้ชายเข้าหามากมายจะเรียกได้ว่านั้นเป็นยุคเนื้อหอมของเธอเลยก็ไม่ผิด แต่ว่าตอนนี้เธอเป็นคุณป้าที่มีอายุ43ปีเท่านั้น
“ผมก็ไม่อยากจะทำให้คุณกลัวหรอกนะครับ แต่คู่ของผมดูเหมือนเธอจะมีความต้องการจะกินคุณหนักมากเลยละครับ แถมเธอยังแข็งแกร่งพอสมควรด้วยสิ”
“!!!!!!!”
มีเรียหันไปทางเจมินี่ที่ตอนนี้กำลังจ้องมีเรียแบบไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย ราวกับมองเธอเป็นอาหารอันโอชะ ที่เธออยากกินมาตลอด
“มะ..ไม่เป็นไรหรอกคะ!! ถึงจะเป็นแค่คุณป้าก็เถอะ แต่ฉันก็แข็งแกร่งพอสมควรเลยนะคะ เพราะงั้นให้ฉันตามไปด้วยเถอะคะ”
มีเรียพูดด้วยเสียงสั่นๆพร้อมตั้งโชว์แขนที่มีกล้ามเนื้อนึดๆ ของตัวเองให้กับไทเอลดูเพื่อโชวความแข็งแรง
“งั้นเหรอครับ…คุณเจมินี่เองก็ไม่มีปัญหาอะไรสินะครับ ที่จะมีคนมาอยู่ที่บ้านของเราด้วยอีกคน”
“แน่นอนสิม่าม๊า ไม่ว่าจะชุดสเวตเตอร์คอเต่าแบบเปิดหลังที่เผยให้เห็นช่วงหลังถึงหน้าอกของสาวแม่หม่ายขี้เหงา หรือผ้ากันเปื้อนแบบพริ้วๆจีบซ้อนกันเยอะๆ ที่ปักตัวอักษรคำว่าLoveไว้กลางอกที่เวลาสาวแม่บ้านชอบใส่ไว้เพียงตัวเดียวเพื่อปกปิดร่างกายอันเปลือยเปล่าอันเร่าร้อนของตัวเอง หรือชุดซีทรูที่ใส่แล้วเพิ่มความเซ็กซี่และความร้อนแรงของสาวแม่บ่นยามค่ำคืนเป็นเท่าตัว แม่เองก็สามารถทำได้หมดแหละ ไม่ว่าดีเทลมันจะเยอะจนน่าปวดหัวหรือหาวัตถุดิบมาผลิตเป็นผ้ายากแค่ไหนก็ตาม ขอให้มันดึงเสน่ห์ขอสาวแม่บ้านมาได้ก็พอ!! เรื่องเงินกับเวลาไม่ใช่ปัญหา!!”
“”…..””
คาลและมีเรียต่างพูดอะไรไม่ออกกับคำพูดของเจมินี่ที่พรั้งพลูออกมาจากปากของเธอ ที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่ไทเอลถามเลยสักนึดเดียว
“…….. เอาเป็นว่าระวัง คุณเจมินี่ไว้ให้ดีละกันครับ”
“เข้าใจแล้วคะ..”
“งั้นผมขอตัวไปสูดอากาศด้านนอกหน่อยไดไหมครับ?”
“อ๋อ.. ได้สิคะ.. แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ช่วยกลับมาเร็วๆด้วยนะคะ…”
มีเรียพูดพร้อมมองไปที่เจมินี่ที่เริ่มลงมือวาดแบบชุดใหม่ของเธอด้วยความหวั่นๆ ทางไทเอลเองก็เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของมีเรียขึ้นมาหน่อยๆ
“ได้ครับไว้ผมจะรีบกลับมานะครับ”
.
.
.
.
“เอ็งแน่ใจเหรอวะ? ว่านั้นภูติดำไม่ใช่พวกดาร์คเอลฟ์นะ”
“ก็เออสิวะ!! เมียกับลูกสาวของไอ้หนุ่มนั้นเป็นภูติดำไม่ผิดแน่!!”
เหล่าชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มประมาณ15คน ในมือทุกคนเองต่างถือเสียยหรือจอบเป็นอาวุษบางคนก็ถือคบเพลิงเอาไว้เพื่อส่องสว่าง
“ทำแบบนี้มันจะดีเหรอวะ ท่าโดนจับขึ้นมานี้งานเข้าเลยนะ”
“คิดอะไรมากวะ!! คนพวกนั้นรับซื้อภูติดำตั้งตัวละ300เหรียญทองเชียวนะเว้ย!! 2ตัวก็600ถ้าได้พวกมันมาก็สบายไปชาติแล้วนะโว้ย!!”
“พวกภูติดำนี้ขายได้ราคาดีจังนะครับ..”
“ก็ใช่สิวะ!! แม้ไม่รู้ว่าทำไมพวกนั้นถึงจ่ายหนักขนาดนั้นก็เถอะ!!…เดี๋ยวดิเอ็งเป็นใครวะ!!!”
เหล่าชาวบ้านตกใจที่จู่ๆ่ ไทเอลก็ปรากฏตัวขึ้นมากลางกลุ่มของตนโดยทีไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
“สวัสดีครับผมชื่อ ไทเอล ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ”
ไทเอลแนะนำตัวอย่างสุขภาพให้แก่เหล่าชาวบ้านที่กำลังงุนงงอยู่
“จริงๆผมมีเรื่องจะถามคุณนึดหน่อย ช่วยวางอาวุธลงและพูดกันอย่างสันติได้ไหมครับ?”
ไทเอลยกมือยอมแพ้เพื่อแสดงท่าทางเป็นมิตร
“ย้ากกกกก!!”
ชาวบ้านคนหนึ่งใช้ส้อมโกยหญ้าแทงไปที่ไทเอลทันที แต่เขาก็จับมันไว้ได้อยู่ดี
“แหม.. ทางผมไม่ได้ต้องการจะสู้กับพวกคุณสักหน่อย ทำไมคนที่นี้ถึงมีแต่คนใจร้อนไม่ยอมฟังที่ผมพูดเลยสักนึด ผมชักกังวลเกี่ยวทักษะการสื่อสารของผมแล้วสิ”
ชาวบ้านที่ถูกจับส้อมโกยถอยหลังหนีโดยทิ้งส้อมโกยไว้ไว้ในมือไทเอล
“จะว่าไปคืนนี้อากาศดีเหมือนกันนะครับ เหมาะแก่การพูดเรื่อยเปื่อยดีนะครับ ไม่สนใจมานั้งจิบชากันกลางแจ้งนั้งชมพระจันทร์ด้วยกันและคุยกันแบบสบายๆบางเหรอครับ”
“ฆ่ามัน!!!”
เราชาวบ้านรุมล้อมไทเอลอยู่ก็เริ่มเข้ามาโจมตีเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ไทเอลก็หลบแบบสบายๆ อย่างไม่ลนลาน
“ผมไม่ได้รับอนุญาติให้ทำร้ายคนนอกพื้นที่ด้วยสิ เพราะงั้นช่วยพักกันไปก่อนละกันครับ”
เขาหยิบขวดแก้วที่บรรจุของเหลวสีแดงออกมาจากอากาศหลังจากนั้นก็ปามันลงพื้นทันที
“อึก!!”
“นี้มันอะไรกันวะ!!”
คว้นสีแดงตลบอบอวนเต็มพื้นที่ ชาวบ้านต่างตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
“เฮ้ย! บิล..เปน..อา..ราย”
ชาวบ้านที่สูดคว้นนี้เข้าไปต่างค่อยๆหมดสติไปทีละคน สองคน จนหมด
“เอาละครับ คุณคือหัวหน้าสินะครับ?”
“อึก!!”
ก่อนที่คว้นจะกระจายตัวไทเรลได้จับตัวชายที่น่าจะเป็นตัวหัวหน้านำชาวบ้านมา เธอจับคอของชายคนนั้นและยกขึ้นไปเหนือพื้น ก่อนจะทุ่มเขาลงไปกับพื้นและเหยียบอกของเขาไว้
“เอาละ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงต้องการจับภูติดำขนาดนั้นด้วยเหรอครับ? คุณลุงชาวไร่”
เธอจำเขาได้ เขาคือเจ้าของไร่ที่เขาเจอเมื่อตอนบ่าย
“ขะ..ข้าไม่รู้!! มีคนๆบอกว่าท่าจับภูติดำได้จะให้ตัวละ300เหรียญทองเท่านั้นแหละ!!”
“พอจะบอกลักษณะภายนอกของคนๆนั้นได้ไหมครับ”
“ไม่รู้ข้าไม่ คะ..อ๊อกกก!!”
ไทเอลใส่แรงเพิ่มไปที่เท้าจนชายคนนั้นรู้สึกแน่นอกหายใจไม่ออกและพยามร้องออกมาแต่ก็ไม่อาจเปร่งเสียงออกมาได้
“ผมบอกให้บอกลักษณะภายนอกมาไงครับ? ไม่ต้องกลัวหรอกว่ามันจะถูกหรือผิดหรอก บอกมาเถอะผมรอฟังอยู่”
“แค่กๆๆๆๆๆ”
ไทเอลผ่อนแรงลงเพื่อให้โอกาสชายคนนั้นพูด
“ข้าไม่รู้หน้าเขา!! เขาใส่ผ้าคลุมและปกปิดใบหน้าไว้!! ที่เหลือข้าก็ไม่รู้!!”
“งั้นเหรอครับ..เสียดายจัง งั้นช่วยหลับไปสักพักละกันครับ”
“เหวออออ!!”
ไทเอลโยนเขาเข้าไปในหมอดคว้นสีแดงเพื่อทำให้เขาหมดสติไปเอง
“ส่วนคุณจะเข้ามาสู้ไหมครับ?
ไทเอลหันไปถามทางที่ว่างเปล่าที่เป็นเพียงพื้นโล่งๆไม่มีอะไร สักพักก็ปรากฏร่างชายในชุดผ้าคลุมสีดำออกมา
“ไม่น่าเชื่อว่านายจะมองสกิลพรางตัวของฉันออกนะ”
“ก็แค่รู้สึกได้ถึงสายตาที่น่ารังเกียจที่มองอยู่นะครับ ก็เหมือนพวกแมลงที่จ้องกินอาหารหรูๆบนโต๊ะนั้นแหละ”
“โฮะๆ ปากดีนี้หว่า ถเานายเป็นผู้หญิงฉันว่าจะเก็บนายไว้อยู่นะ เพราะฉะนั้นไม่คิดจะแลกลูกเมียนายกับชีวิตของนายบ้างเหรอ? นี้เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวสำหรับนายในตอนนี้แล้วนะ ฉันเองก็รู้สึกว่าน่าจะคบหากับนายได้ดีมาก ทางฉันเองก็ยินดีจ่ายหนักให้เป็นพิเศษเลย”
“คนที่มาให้คนอื่นขายครอบครัวตัวเองมันไม่น่าคบหรอกครับ รู้รึเปล่า?”
“ก็คิดไว้งั้นเหมือนแหละเพราะงั้นตายไปซะ!!”
“!!!!”
มีคนอีกคนโผล่มาจากใต้ดินพร้อมและฟันไทเอลอย่างรวดเร็ว ไทเอลเองก็หลบเกือบไม่พ้นจนโดนฟันเสื้อขาดไปเล็กน้อย
“เก่งดีนี้หว่า ถ้างั้นแบบนี้ละ”
คนๆเดิมโพล่มาจากใต้ดินอีกครั้งโดยที่เปลี่ยนตำแหน่งเพียงเล็กน้อย แต่รอบนี้ไทเอลสามารถหลบได้อย่างสบายๆ และเตะสวนกลับไปจนชายคนนั้นปลิวกระเด็นไปไกล
“คิดว่าแผนเดิมจะใช้ได้ผลเหรอครับ?”
“แล้วใครบอกว่ามันจะเป็นแบบเดิมละ”
ฉัวะ!!!
“อึก!!’
ไทเอลถูกลอบเข้าข้างหลังและถูกฟันจนเลือดกระฉู ไคเอลรีบหันหลังเตะสวนชายอีกคนที่ฟันหลังของเธอทันที
“ที่แท้ก็เป็นตัวเมียเองหรอกเหรอเนี้ย? แสดงว่าแกเองก็เป็นภูติดำด้วยสินะ”
“….”
ตอนนี้เสื้อซ่อนรูปของเขาได้พังไปแล้วทำให้หน้าอกที่แบนราบขยายใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัด ทางชายคนนั้นก็จ้องหน้าอกของเธอด้วยสายตาอันน่ารังเกียจ จนเธอที่บาดเจ็บอยู่ยังสัมผัสได้
“ใหญ่ๆแบบนี้หายากด้วยสิ ไม่สนใจยอมแพ้จริงๆเหรอ เดี๋ยวทางนี้จะจัดฮิลเลอร์ดีๆให้เอง ไม่ต้องกลัวว่าจะเหลือแผลเป็นไว้บนผิวสวยๆของเธอหรอก”
“แผลแค่นี้สำหรับผมแปปๆ เดี๋ยวก็หายแล้ว เก็บไว้รักษาตัวเองตอนกระดูกทั้งร่างแหลกเถอะครับ”
“ปากดีจริงแหะ เอาเถอะยังไงซะเดี๋ยวยามันก็ออกถฤแล้วละ ก็เธอแพ้ฉันแล้วนี้นะ”
“!!!!!”
ไทเอลซุดลงไปกับพื้นทันทีที่เขาพูดจบ ดาบที่ฟันไปที่หลังของเธอนั้นถูกเคลือบยาพิษเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเธอค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนไม่อาจขยับตัวได้แล้วตอนนี้
“ละ..เล่นสกปรกจังเลยนะครับ”
“ก็ช่วยไม่ได้ก็พวกแกมันแข็งแกร่งนี้หว่า ทางฉันก็ต้องทำแบบนี้แหละ”
พลั้ก!!!
ชายคนนั้นเดินเข้ามาเตะเสยคางของไทเอลจนล้มลงอย่างสมบูรณ์ เธอนอนแผ่ร่างกายบนพื้นดินไม่ว่าจะพยามขยับแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถขยับได้ ตอนนี้ไทเอลได้หมดทางสู้ไปเรียบร้อย
“ขอเช็คของหน่อยละกัน”
เขาฉีกเสื้อของไทเอลออกเผยให้เห็นหน้าอกอันเปลือยเปล่าของเธอ
“ใหญ่โคตรๆเลยวะ นี้เธอเก็บมันจนเนียบกริบขนาดนั้นได้ยังไงกันนะ ชักสกสัยแล้วสิ”
“บางที…อาจจะใช้..เวทมนต์ก็ได้..ใครจะไปรู้ละครับ”
“ยังจะติดตลกอีกนะแก!! ทั้งๆที่ครอบครัวของแกก็กำลังโดนแบบเดียวกับแกแท้ๆ”
“ฮ่าๆ..คุณ..แฮ่กๆ..คิดว่าพวกเธอ…จะพลาดเหรอ..ครับ?”
“เรื่องคนอื่นฉันไม่รู้หรอก แต่ตอนนี้พวกเรามาสนุกกันดีกว่านะ ยาหยี”
เขาค่อยๆบรรจงถอดกางเกงของไคเอลออก หลังจากนั้นเขาก็ถอดส่วนล่างของตัวเองเช่นกัน
“ท่าฉันใส่มันเข้าไปแกจะร้องยังไงกันนะ”
“…..”
“ชิ ไม่พูดอะไรงั้นเหรอ น่าเบื่อชะมัด แต่ช่างเถอะ ใส่ไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละ!!”
“กรื้ดดดดดดดดดด!!!!”
ไทเอลร้องกรื้ดออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โว้วๆ แน่นโคตรๆ นี้เป็นครั้งแรกของแกเหรอเนี้ย”
“หะ..หยุดนะ..ตะ..ตรงนั้นไม่ได้”
“ทำท่าทางน่ารักเป็นเหมือนกันนี้หว่า!!! งั้นจัดหนักไปเลยละกัน”
“อึก..อะ..อึก”
เขาโยกเอวไม่หยุดไทเอลเองก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรเขาได้เพราะถฤของยา เธอทำได้เพียงร้องออกมาด้วยควาทเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตาเท่านั้น
“อืมๆ การทดลองการแพ้ของเคสที่1 จบลงด้วยผมถูกข่มขืนเหมือนเคสอื่นๆสินะ น่าแปลกใจจริงๆ ที่พวกคุณสามารถมีอารมทางเพศในสถานการณ์แบบนี้ได้ เป็นเพราะหน้าอกรึเปล่านะ?”
“!!!!!”
ไคเอลพูดพร้อมจดลงไปในสมุดพกติดตัวอย่างอารมดี ชายคนนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่เธอมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อย
“ว่าแต่หากไม่พอแค่นั้นคุณลุงชาวไร่จะรับไม่ไหวเอานะครับ แม้จะเป็นฝีมือผมก็เถอะ แต่ผมเองก็สกสารเขานะครับ”
“แก!!!”
ไทเอลทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ชายคนนั้นเมื่อหันกลับไปมองคู่ขาของเขา จากสาวสวยอกใหญ่กลายเป็นชายชราวัย60ปี เขารีบถอดของเขาออกและกลับไปถือดาบทันที
“จบการทดลองของเคสที่1 ทำการจับกุมเป้าหมายเพื่อทำการสอบสวนต่อไป”
“โอ้กกกก!!”
ไคเอลปิดสมุดบันทึกและสวนกลับเขาที่พุ่งเข้ามาทันที จนชายคนนั้นล้มลงไปนอนกองกับพื้น
“จากเคสอื่นๆ ไม่มีใครมีอำนาจสั้งการเลยนอกจากคุณ คุณคงเป็นระดับหัวหน้าสินะครับ”
“แค่กๆๆๆ…คิดว่ามันจะจบแค่นี้รึไง!! ยังไงพวกแกก็ต้องโดนพวกเราล่าอยู่ดี!!”
“ถ้าเป็นตอนนี้ก็ไม่รู้สินะครับ การคำนวณผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก็เป็นหน้าที่ของผมในฐานะผู้ที่ทำการทดลอง แต่นี้เป็นการทดลองภาพสนามครั้งแรกของผม คงต้องใช้เวลาซักหน่อยในการให้คำตอบคุณครับ ช่วยอดทนรอได้ไหม?”
“ฉันจะตัดแขนกับขาของแก!!! และทำให้แกกลายเป็นทาสกามตลอดชีวิต!!”
“หนวกหูวะครับ”
ไคเอลเตะเสยคางชายคนนั้นอย่างรุนแรงจนตัวของเขาลอยกระเด็นไปไกล ตอนนี้ชายคนนั้นได้หมดสภาพไปเรียบร้อย
“ผมชื่อไทเอล ภูติดำรุ่นที่68 สิ่งที่ชอบคือการทดลองและการศึกษาครับ เพราะฉะนั้นคนที่จะสืบสวนคุณไม่ใช่ผมแต่เป็นคุณบเรนและเจ้าหน้าที่คนอื่นต่างหาก”
ไทเอลเอากระดาษแปะไปที่ตัวเขา จากนั้นร่างกายของเขาก็หายไปในทันที ไทเอลถอดหานใจอย่างหน่ายๆ และหยิบขวดที่บรรจุน้ำยามาอีดหลายขวด
“คงต้องมานั้งลบความทรงจำของชาวบ้านและลูกน้องอีกสินะ เปลืองน้ำยาชะมัด”
ไทเอลบ่นอุบอิบออกมาด้วยความเสียดายก่อนที่เขาจะโยนขวดๆหนึ่งทิ้งไว้ และวิ่งไปโยนขวดใส่คนอื่นๆ คว้นสีแดงตลบ อบอวนไปหมดเต็มพื้นที่และไทเอลก็หายตัวไปจากพื้นที่แห่งนี้ อย่างเงียบๆโดยทิ้งคว้นสีแดงเอาไว้