“ถอยไป”เนี่ยฟูหานกล่าวเสียงดัง พร้อมชกหมัดสายฟ้าเข้าใส่อย่างไม่รั้งรอให้เสียเวลา เกราะสายฟ้าบนร่างของเขาลดขนาดลงมาเล็กน้อย
หวังคงลั่วกระโดดถอยออกไปไกล ปล่อยให้ฉินเซี่ยหนานเข้าต่อสู้ ฉินเซี่ยหนานคำรามเสียงดัง ก่อนที่ร่างกายจะขยายตัวเล็กน้อยพลังงานสีทองปกคลุมทั่วร่างราวเกราะทองคำ หมัดสายฟ้าของเนี่ยฟูหานที่ชกเข้าใส่ร่างของฉินเซี่ยหนานเหมือนชกใส่กำแพงเหล็ก ร่างของฉินเซี่ยหนานไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เนี่ยฟูหานถอยหลังกลับมา ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย เพราะเขาใช้พลังในการต่อสู้ติดต่อกันนานเกินไป แม้เข้าจะดึงพลังสายฟ้ามาช่วยเสริมพลัง แต่ก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก ตอนนั้นเองสายฝนโดยรอบ กลายเป็นใบมีดแหลมคมนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าใส่ร่างของเนี่ยฟูหานจากทุกทิศทาง แต่เพราะเกราะสายฟ้าสลายมีดน้ำไปได้ แต่ขนาดของเกราะสายฟ้าลดลงอย่างช้าๆ
ฉินเซี่ยหนาน สังเกตอยู่แล้วไม่พลาดโอกาส เขากระโดดเข้าใส่ก่อนชกหมัดสีทองขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตร อากาศโดยรอบเกิดเสียงฉีกขาด พุ่งเข้าหาร่างของเนี่ยฟูหานอย่างแข็งกร้าวราวค้อนเหล็ก
เนี่ยฟูหานบีบอัดสายฟ้าเป็นสำแสงที่หนาแน่น ปล่อยเข้าใส่หวังคงลั่วที่ลอบโจมตีอยู่วงนอก ก่อนที่ตัวเข้าเองจะกลายร่างเป็นสายฟ้าหลบออกมา แต่โชคร้ายหมัดทองดุร้ายกว่าที่เขาคิด มันบดขยี้ทุกสิ่งที่ผ่านมัน มันทำลายลำแสงสายฟ้าและทำลายพื้นดินจนแผ่นดินแตกราวไปกว่า 50 เมตร
แผ่นดินที่เนี่ยฟูหานหลบหนีแตกออก ทำให้จังหวะของเขาช้าลงเล็กน้อย มันเปิดโอกาศให้หวังคงลั่วลอบเข้าประชิด ฝ่ามือคลื่นน้ำวนฟาดเข้าใส่แผ่นหลังของเนี่ยฟูหาน ผ่านเกราะสายฟ้าไปอย่างน่าอัศจรรย์ เข้าทำลายอวัยวะภายในอย่างรุนแรง จนเนี่ยฟูหานกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เนี่ยฟูหานกัดฟันข่มความเจ็บปวดชกหมัดกิเลนสายฟ้าม่วงออกไปตอบโต้หวังคงลั่ว
หวังคงลั่วเห็นกิเลนม่วงยักษ์พุ่งเข้าใส่ในระยะประชิด ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยกมือกินม่วงก็ขย้ำร่างของเขาแล้ว เคล็ดบ่มเพาะพลังของเขาไม่ได้เป็นประเภทเสริมร่างกาย และยิ่งกฏแห่งธาตุน้ำของเขาอ่อนแอในเรื่องป้องกันอยู่แล้ว เมื่อโดนกิเลนม่วงกระแทกเข้าใส่เขาก็หมดสติทันที ร่างกายแตกหักเป็นชิ้นๆ ยังดีที่เขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 ทำให้เขายังยื้อชีวิตเอาไว้ได้
ฉินเซี่ยหนานอดไม่ได้ที่จะตื่นตะหนก เมื่อเห็นหวังคงลั่วถูกกิเลนม่วงทำร้ายจนกลายเป็นตอตะโก ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ในใจที่เคยดูถูกผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูก เปลี่ยนไปในพริบตา เขาเร่งเคล็ดบ่มเพาะพลังเกราะทองคำผสานพลังธาตุทองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เนี่ยฟูหานที่กำลังบาดเจ็บอยู่ โดยไม่สนใจคำว่าศักดิ์ศรีใดๆทั้งสิ้น หมัดทองคำถูกชกออกไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้พลังเพิ่มขึ้นจนมันมีขนาดใหญ่เท่าตัวคน
เสียงกังวาลของโลหะดังกึกก้อง เนี่ยฟูหานสูดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหลบออกมาไม่กล้าเสี่ยงปะทะ ในตอนนี้ร่างกายของเขาแทบไร้พลังพร้อมจะหมดสติได้ทุกเมื่อ
ฉินเซี่ยหนานที่สังเกตเห็นอาการของเนี่ยฟูหาน เขาก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้พัก บุกโจมตีไม่ยั่ง กลายเป็นการโจมตีฝ่ายเดียว
ร่างกายของเนี่ยฟูหานทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั้งเขาก้าวพลาดเสียหลักเปิดช่องโหว่ออกมา
ฉินเซี่ยหนานก็ไม่ปล่อยช่องโหว่ให้เสียเปล่า หมัดยักษ์ทรงพลังชกออกมาอย่างเต็มแรง ราวกับจะบดขยี้ร่างของเนี่ยฟูหานให้เป็นชิ้นๆ
ชนะที่หมัดกำลังจะเข้าถึงร่างของเนี่ยฟูหาน ก็มีธนูจากทิศไหนไม่ทราบ พุ่งเข้ามากระแทกร่างของเนี่ยฟูหาน หลบหมัดได้อย่างหวุดหวิด
“ใคร!”ฉินเซี่ยหนานร้องคำรามอย่างหวาดระแวงกวาดตามองโดยรอบแต่ก็ไม่พบใคร ใบหน้าของเขาก็มืดลงเล็กน้อย เขาตัดสินใจฆ่าคนตรงหน้าก่อนค่อยไปหาคนที่ยิงธนูเมื่อครู่ เขากระโดดสูงพร้อมชกหมัดใส่ร่างของเนี่ยฟูหานที่กำลังยืนโซเซเล็กน้อย
ในชั่วเวลาเป็นตาย สายเลือดกิเลนม่วงในร่างกายของเนี่ยฟูหานพลันเดือดพลาน เกราะสายฟ้าอยู่ๆก็ขยายใหญ่ขึ้นจนซับซ้อนและงดงาม ความเร็วของเนี่ยฟูหานเพิ่มขึ้นหลบหมัดทองอย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงประกายสายฟ้า
จิวโมไป๋ที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา พลังของตัวละครเอกจริงๆ
เหมือนจะรู้ว่ามีคนกำลังพูดให้ร้ายตัวเองอยู่ สายเลือดกิเลนม่วงเหมือนสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรง เกราะสายฟ้าสีม่วงแปรเปลี่ยนเป็นกิเลนม่วง ที่ดูเหมือนมีชีวิตดวงตาของมันเป็นสีม่วงเข้มไม่มีร้องรอยสายฟ้าประกายสายฟ้า ราวดวงตาของสิ่งมีชีวิตจริงๆ
อยู่ๆร่างของฉินเซี่ยหนาน และผู้ใช้เวทธ์ที่อยู่ห่างออกไปพลันสั่นเทาอย่างไม่อาจห้ามได้ และในตอนนั้นเองกิเลนม่วงยกเท้าตบร่างของฉินเซี่ยหนานกระเด็นออกไปราวลูกบอล จากนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงหายไปในพริบตา ทิ้งร่างของเนี่ยฟูหานที่ไม่มีพลังสายฟ้ายืนอยู่ที่เดิม
อยู่ๆผู้ใช้เวทธ์ก็เหมือนสัมผัสความตายได้ ปีกสีน้ำตาลแดงของเขาพลันลุกไหม้ ปีกกระพือออกด้วยความเร็ว ร่างของเขาพลันพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงราวประกายแสง ทิ้งคู่ต่อสู้ไปทันที แต่เหมือนช้าเกินไป
กิเลนม่วงเหมือนฉีกอากาศ ออกมาจากความว่างเปล่าดักหน้าผู้ใช้เวทย์
ใบหน้าของผู้ใช้เวทย์ซีดขาวจนน่ากลัว ราวกับยมทูตกำลังกวักมือเรียก และในตอนนั้นเองเขาก็บ้าคลั้งขึ้นมา ไม้เท้าเวทย์โบกสะบัดอย่างรวดเร็ว เกิดวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่เบื้องหน้า
“สังเวยสายโลหิตนกแสงอรุณ ขออัญเชิญคาถา วิหกเพลิงโลกันต์แห่งการทำลายล้าง“
จบคำปีกด้านหลังผู้ใช้เวทย์พลันกลายเป็นสีน้ำตาลด้าน ดวงตาสีเพลิงสดใสกลายเป็นแดงทึบ วงแหวนเพลิงขยายใหญ่หลายสิบเมตรครอบคุมผืนฟ้า คลื่นความร้อนเผาไหม้เมฆด้านบน จนลำแสงจากดวงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านลงมา ในวงแหวนเวทย์เสียงร้องราวเสียงเพลงที่บรรเลงจากขุมนรกรอดออกมา บรรยากาศมืดมนสะกดผู้คนให้ดำดิ่งสู่ความมืดมิด ในวินาทีต่อมา จะงอยปากแหลมคมสีแดงราวโลหิต ค่อยๆโผล่ออกมา
ในเวลานี้เอง ปังงงง!!!!!! สายฟ้าสีม่วงขนาดยักษ์ฟาดผ่าลงทำลายวงแหวนเวทธ์เป็นชิ้นๆ จะงอยปากที่ยื่นออกมาถูกดันกลับไปในมิติเวลาของตนเอง พร้อมเสียงกรีดร้องเจ็บปวดรอดออกมา ก่อนที่วงแหวนเวทย์จะสลายไป
ใบหน้าของกิเลนม่วงในเวลานี่ทอประกายเหยียดหยามดูแคลน
ผู้ใช้เวทย์ตัวสั่นสะท้าน ก่อนที่ปีกด้านหลังจะถูกสายฟ้าผ่าทำลาย ทำให้ร่างของผู้ใช้เวทย์ตกลงสู่พื้นอย่างน่าสมเพช
ขณะที่ผู้ใช้เวทธ์กำลังดิ้นรนพยุงตัวลุกขึ้น กิเลนม่วงก็หายตัววับเข้ามา เหยียบลงบนหลังของผู้ใช้เวทธ์กระแทกลงพื้นอย่างแรงจนกระดูกทั่วร่างราว
“แกต้องการอะไร”ผู้ใช้เวทธ์กระอักเลือดกองใหญ่ ส่งเสียงถามกิเลนม่วงอย่างอ่อนแรงไร้พลัง
กิเลนม่วงไม่ตอบแต่จ้องไปที่แหวนสีเงินที่มือขวาของผู้ใช้เวทธ์
ใบหน้าของผู้ใช้เวทธ์หน้าเขียวคล้ำด้วยความเจ็บปวด แหวนมิติเก็บของอันนี้เขาบังเอิญค้นพบที่ซากโบราณสถาน มันเป็นความลับที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อน เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะรู้
“อ๊ากกก”ฝ่าเท้าของกิเลนม่วงกดลงมา ทำให้ผู้ใช้เวทธ์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด สุดท้ายเขาก็ถอดแหวนมิติเก็บของให้กิเลนม่วง แต่ในตอนนั้นเองมันก็กดฝ่าเท้าลงมาอีก
“อ๊ากกก รู้แล้ว ฉันจะถอนคาถาผู้มัด แต่แกต้องสัญญาว่าแกจะไม่ฆ่าฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ถอนคาถาผู้มัด ถึงฉันตายแหวนวงนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ นอกจากแกจะไปหาผู้ใช้เวทธ์คนอื่น หึๆฉันขอบอกแกไว้ก่อนคาถาผู้มัดที่ฉันใช้เป็นรูปแบบคาถาพิเศษ กว่าจะมีคนหาวิธีแก้คาถานี้ได้ ก็คงใช้เวลาหลายสิบปี แกคงรอไม่ได้แน่”ผู้ใช้เวทธ์ร้องขู่ทั้งๆบาดเจ็บอยู่
กิเลนม่วงคำรามออกมาอย่างไม่พอใจ ก่อนที่มันจะยกเท้าออก ผู้ใช้เวทธ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะท่องคาถาใส่แหวนมิติเก็บของด้วยความเจ็บปวด ใช้เวลาไม่นานก็เกิดรอยร้าวทั่วแหวนสีเงิน ก่อนที่ขอบนอกใสจะแตกกระจายราวเศษแก้วเหลือแหวนสีเงินเปล่งประกาย
กิเลนม่วงยกเท้าผลักร่างของผู้ใช้เวทธ์กระเด็นออกไป แต่มันยั้งแรงไว้ไม่ให้ตายก่อน ที่มันจะใช้เล็บเกี่ยวแหวนแล้วหายตัวไป
ทางด้านเนี่ยฟูหาน เขาเดินไปตรวจดูอาอี้ เห็นว่าไม่มีการบาดเจ็บมากนักเขาก็เบาใจ ก่อนที่จะเดินไปดูฮั่นอู่หยาง ที่ตอนนี้นอนไม่ได้สติ เขาก็ก้มลงกดกำไลข้อมือของอีกฝ่าย พร้อมกับกดกำไลข้อมือของตัวเอง ส่งภาพเคลื่อนไหวที่เขาบันทึกเห็นเหตุการทั้งหมดตั้งแต่เขามาที่นี่ โดยตัดตอนที่เขาช่วยฉินอี้เฟยออก เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ปลดกำไลข้อมือของเขาออกและโยนลงพื้นก่อนที่จะเหยียบทำลายจนเป็นชิ้นๆ
“นายน้อยพวกเรา”อาอี๋พูดถาม แต่เนี่ยฟูหานยกมือห้าม ในตอนนั้นเองกิเลนม่วงก็แหวกอากาศโผล่ออกมา โยนแหวนสีเงินให้ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปในร่างของเนี่ยฟูหาน เพื่อหลอมรวมสายเลือดเหมือนเดิม
ร่างกายของเนี่ยฟูหานสั่นสะท้านเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมองแหวนสีเงิน เขาไม่รอช้าใส่แหวนที่นิ้วมือขวา จากนั้นก็มีกล่องโลหะแข็งแรงโผล่ออกมา เนี่ยฟูหานมองแผงแสกนลายผ่ามือ เขาก็พุ่งร่างไปทางร่างของฉินเซี่ยหนาน ที่ถูกกิเลนม่วงเตะจนบาดเจ็บสาหัสหมดสติอยู่ เขานำผ่ามือของอีกฝ่ายมาแสกน ไม่นานกล่องโลหะก็เปิดออก
เผยให้เห็นก้อนแร่เหมือนคริสตัล แต่มันมีประกายสามสีแยกออกจากกันอย่างสวยงาม
“สมบัติสวรรค์ระดับ 7 แร่สามสี!”จิวโมไป๋ที่ใช้จิตสัมผัสดูอยู่กรีดร้องอย่างตกใจ ยิ่งเขาตรวจสอบเท่าไหร่ก็ยิ่งตกใจเพราะแร่สามสีในมือเนี่ยฟูหาน เป็นแร่สามสีที่มีคุณสมบัติธาตุสายฟ้า ไฟ และ ไม้ ซึ่งถือว่าเป็นแร่สามสีที่หายาก ทรงพลังและมีค่าที่สุดในหมู่แร่สามสี คุณสมบัติของมันเทียบเท่ากับสมบัติสวรรค์ระดับ 8!
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง ไม่แปลกที่จะเกิดเหตุการณ์ล่าสังหาร ไม่แปลกที่เกิดความวุ่นวายทั้งหมด
ยังไม่ทันให้จิวโมไป๋หายตกใจ เนี่ยฟูหานนั่งสมาธิบนพื้น อาอี้หยิบกล่องใส่ของจากที่ไหนไม่รู้ออกมาจากร่างกาย เมื่อเปิดออกมามีแร่ธาตุและเหล็กหายากหลายชนิด เนี่ยฟูหานเอาพวกมามาเรียงลงบนพื้น โดยมีแร่สามสีอยู่ตรงกลาง จากนั้นเขาก็เปิดแหวนสีเงินเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างจากนั้นเขาก็ดึงเอาก้อนแร่จำนวนมากออกมา
จิวโมไป๋ที่ดูอยู่ชะงักเล็กน้อย”นี่…คงไม่คิดจะเลื่อนระดับขั้นใช่ไหม”
ไม่รอให้จิวโมไป๋ได้คิดนาน ในตอนนั้นเองพลังสายฟ้าพุ่งผ่านร่างเนี่ยฟูหานขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อเกิดคลื่นสายฟ้าน่าสะพรึงกลัวบนท้องฟ้า จากนั้นเบื้องหน้าของเนี่ยฟูหานตำนักยุทธ์ขนาดเล็กลอยออกมา ใจกลางของตำหนักยุทธ์มีวงแหวนสีทองเลือนลาง สลักด้วยลวดลายโบราณอันงดงาม ราววงแหวนของเทพพระเจ้า ตามความเชื่อของประเทศเกาะ ที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศมังกรมากนัก
ใบหน้าของเนี่ยฟูหานกลายเป็นจริงจัง วงแหวนเทพเจ้าเลือนลางลอยออกจากตำหนักยุทธ์อยู่เหนือกองแร่ จากนั้นแร่ต่างๆที่วางเรียงอยู่พลันลอยขึ้นอย่างช้าๆ ในตอนนั้นเองสายฟ้าก็ผ่าลงมาใส่กองแร่ที่ลอยอยู่อย่างรุนแรง ใบหน้าของเนี่ยฟูหานเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังฝืนทนหลอมแร่ที่ถูกฟ้าผ่าให้ค่อยๆผสานเข้ากัน
จิวโมไป๋ที่ดูอยู่แปลกใจเล็กน้อย เทคนิคที่เนี่ยฟูหานใช้คล้ายกับการใช้จิตวิญญาณ แต่มันแตกต่างกันตรงที่เนี่ยฟูหานใช้พลังธาตุสายฟ้าหลอมรวมแทน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่ง
แร่และเหล็กหลายชนิด ค่อยๆหลอมรวมกันกลายเป็นวงแหวนสีทอง ยกเว้นแร่สามสีที่ยากแก่การหลอมละลาย แม้ว่าสายฟ้าจะผ่าลงมายังไงมันก็ไม่เปลี่ยนรูปร่างง่ายๆ ฟ้าผ่าลงมาต่อเนื้องติดต่อกัน 5 นาที แร่และเหล็กอื่นๆกลายเป็นวงแหวนเรียบร้อย เหลือเพียงแร่สามสีที่เปลี่ยนเป็นกลมทรงกลม มันกลายเป็นการกลั่นให้แร่สามสีบริสุทธิ์ แทนที่จะหลอมรวมกับแร่อื่นๆ
ในขณะที่เนี่ยฟูหานกำลังลำบากอยู่นั้นเอง กิเลนม่วงก็ออกมาจากร่างของเนี่ยฟูหาน แล้วตวัดกรงเล็บทำลายแร่สามสีเป็นสามส่วน แยกสามสี ม่วง แดง และเขียวเข้ม จากนั้นกิเลยม่วงก็เรียกสายฟ้าอันทรงพลังกลั่นแร่สามสีทั้งสามกลายเป็นทรงกลมงดงาม จากนั้นมันตบแร่ทั้งสามส่งเข้าใส่วงแหวนเทพเจ้าสามมุม เป็นสามเหลียมด้านเท่า
กิเลนม่วงคำรามอย่างอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของมันดูพล่ามัวไร้พลัง ก่อนที่มันจะกลับเข้าไปในร่างเนี่ยฟูหาน
เนี่ยฟูหานเม้มปากแน่นจนเลือดไหลออกมา แววตาแสดงความเสียใจ แต่เขาก็ยังฝืนหลอมรวมวงแหวนเทพเจ้าต่อไป เวลาผ่านไปอีกไม่กี่นาที
อาอี๋ที่กำลังเฝ้าระวังดูอยู่รอบนอกใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบเข้ามาด้านข้างของเนี่ยฟูหานก่อนรายงาน
“นายน้อย คนของรัฐบาลสังเกตเห็นความผิดปกติแล้วครับ ตอนนี้พวกเขากำลังออกจากหมู่บ้านใบไม้ร่วง ประมาณ 14 นาที จะถึงที่นี่”
เนี่ยฟูหานพยักหน้าเข้าใจ อาอี๋จึงถอยห่างออกไปไกล
จากนั้นสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ผ่าลงมาใส่วงแหวนอย่างรุนแรง วงแหวนเทพเจ้าสีทองที่มีผลึกคล้ายคริสตัลสามสีตรงสามมุม ค่อยๆเปร่งประกายงดงามขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งสายฟ้าสุดท้ายผ่าลงมา วงแหวนเทพเจ้าก็แผ่ขยายบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ออกมา
“สำเร็จ”เนี่ยฟูหานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่เสียเวลาอีก เขาใส่วงแหวนเทพเข้าตำหนักยุทธิ์ทันที ก่อนที่จะดึงตำหนักยุทธ์กลับเข้าไปในร่างในตอนนั้นเอง พลังทั่วร่างกายของเขาก็ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว…
จิวโมไป๋ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพุ่งตัวจากไป ถ้าเขาไม่จากไปตอนนี้คงไม่มีโอกาศออกไปได้อีก สำหรับเนี่ยฟูหาน เขาสามารถหลบหนีไปได้อยู่แล้ว
—
จบเหตุการณ์นี้สักที่^^