ในห้องพิเศษหมายเลข 10
เมื่อเข้ามาในห้อง ถังหมิงหยุนเหมือนได้สติ เขายืนมึนงงอยู่หน้าประตู เขาไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงทำอะไรหุนหันไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนั้น
“หมิงหยุน หลานทำอะไรลงไป รู้ตัวหรือเปล่า”ผู้อาวุโสกู่ไม่พอใจ เขาพูดเสียงเข้มแฝงไปด้วยโทสะ การผิดใจกับสองตระกูลใหญ่และสำนักดั้งเดิมในเวลานี้ มันส่งผลเสียต่อพวกเขา อาจทำให้แผนการที่พวกเขาวางเอาไว้ผิดพลาดได้
“ท่านลุง ท่านอย่าคิดมากเกินไป”ถังหมิงหยุนตั้งสติ ก่อนจะยิ้มไม่จริงจัง เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้า เขาหยิบเหยือกชาที่วางบนโต๊ะช้า ขึ้นมารินใส่ถ้วยชา และ ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบเบาๆ ชาชั้นเลิศทำให้สมองของเขาปลอดโปร่ง จิตใจสงบลงทันที
“พวกเราได้รวมมือกับ ถังฉีหลง ผู้นำรุ่นใหม่ของตระกูลถังราชวงศ์ ทำให้กลุ่มของเราแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ในตอนนี้ตระกูลฉินกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แค่ช่วยตัวเองให้รอดยังยาก พวกเขาคงไม่หาเรื่องเพิ่มศัตรูให้กับตัวเองแน่
ส่วน…ตระกูลมู่ พวกเขาไม่สนใจคุณชายใหญ่ ที่ไร้ความสามารถหรอก”
ถังหมิงหยุนวงถ้วยชาลงบนโต๊ะก่อนจะยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง
“สำนักหมีหิมะ หึ…ถ้าพวกเขามาหาเรื่อง พวกเราก็คงจะลำบากไม่น้อย แต่…อีกไม่นาน ผมก็จะได้เข้าสำนักผีเสื้อดาราแล้ว ถึงตอนนั้น พวกเขายังกล้าทำอะไรอีก?”
ผู้อาวุโสกู่มองท่าทางเย่อหยิ่งของถังหมิงหยุนเขาก็ถอนหายใจ เขาได้รับการเลี้ยงดูสนับสนุนจากพ่อของถังหมิงหยุน เขาไม่สามารถถอนตัวได้ ได้แต่สนับสนุนถังหมิงหยุนอย่างสุดความสามารถเท่านั้น
“ท่านลุง”ถังหมิงหยุนพูดเสียงเบา
ผู้อาวุโสกู่ชะงักเล็กน้อย หันมามอง
“คนของเราส่งข่าวมาแล้วหรือยัง?”ถังหมิงหยุนถาม
“ที่ตระกูลยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น”ผู้อาวุโสตอบ
“อะไรกัน! นี้ก็หลายวันแล้ว สำนักใจทมิฬยังไม่ลงมืออีกเหรอ? หรือว่าท่านพ่อทำอะไรผิดพลาด”ถังหมิงหยุนหันมามองผู้อาวุโสกู่ ท่าทางของเขากลายเป็นเคร่งเครียด
“นายท่านได้ส่งข่าวไปแล้ว ข่าวถึงมือของสำนักใจทมิฬ ไม่มีอะไรผิดพลาด ต้องเป็นทางสำนักใจทมิฬที่ยังไม่ลงมือเองเสียมากกว่า”ผู่อาวุโสกู่กล่าว ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด ไม่น้อยไปกว่าถังหมิงหยุน
ถังหมิงหยุนลุกขึ้นมาเดินไปมารอบห้องอย่างกังวล
“พรุ่งนี้จะต้องกลับแล้ว ถ้าวันนี้สำนักใจทมิฬยังไม่โจมตีอีก เมื่อพวกเรากลับไป พวกเราจะต้องโดนร่างแหไปด้วย แต่ถ้าไม่กลับพวกเขาจะต้องสงสัยพวกเรา”
ผู้อาวุโสกู่เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไร ถึงนายน้อยจะหยิ่งยะโส ทำอะไรก้าวร้าวรุนแรง แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะอ่านสถานการณ์ แม้ความคิดผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ผลที่ได้มันคุ้มค่าที่จะทำ
“หึ…ผมรู้แล้วว่าจะทำอะไร”ถังหมิงหยุนหยุดเดิน เขามองไปยังห้องพิเศษห้องหนึ่ง แววตาเป็นประกายเย็นยะเยือก
ทางเดินชั้นห้องพิเศษ เพราะเป็นห้องที่ให้แต่ลูกค้าระดับสูงเท่านั้น ทำให้ไม่มีคนเดินผ่านไปมา
จิวโมไป๋และคนอื่นๆยืนรออยู่ห่างออกไปไกล พวกเขาไม่ลอบดักฟัง เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของอูเหวินและเด็กสาว
ไม่รู้ว่าอูเหวินพูดอะไรกับเซเรีย เมื่อครบ 30 วินาที ที่ดยุกเซราสให้โอกาสทั้งสองได้พูดกัน ประตูห้องพิเศษหมายเลข 20 ก็เปิดออก ผู้คุ้มกันร่างกำยำก็เดินออกมา
เซเรียลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็แยกจากอูเหวิน ไปที่ห้องหมายเลข 20
อูเหวินมองตามหลังเซเรีย จนเธอเข้าห้องเขาก็หันหลัง เดินมาหาจิวโมไป๋ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน
จิวโมไป๋ หวังเสี่ยวเปา เฉินหู ตบไหล่อูเหวินเบาๆ พวกเขาไม่ซักไซ้ถามอะไร พวกเขาพากันกลับห้องพิเศษหมายเลข 4
อูเหวินยิ้มขอบคุณทุกคนที่ไม่ถาม มือของเขาจับกำไลข้อมือเบาๆ
ฉินซื่อหลันที่รออยู่ในห้องเห็น ทั้งห้าเข้ามาในห้อง เธอก็เบาใจ เธอไม่พูดถามอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด มันอาจทำให้ตัวเองเดือดร้อนได้ เธอเห็นว่าทั้งห้ามีท่าทางปกติดี ไม่ได้บาดเจ็บอะไร
เธอเสียใจที่ไม่ตามไป แต่เธอเป็นคนของตระกูลฉิน ตอนนี้ตระกูลฉินไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดี เธอไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจ มันจะส่งผลไปยังตระกูลของเธอ
จิวโมไป๋กลับมานั่งบนโซฟาตัวยาว คนอื่นๆก็นั่งตาม เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยยังคงนอนหลับไม่กระดุกดระดิก
มู่คังหันไปพูดกับฉินซื่อหลัน เขาคุยโม้ไปเรื่ีอย เรื่องจริงจังบ้างเรื่องไร้สาระบ้างสลับกันไปมา มันทำให้ฉินซื่อหลันมีรอยยิ้มและหัวเราะได้ บรรยากาศในห้องดีขึ้นไม่น้อย
ผู้อาวุโส 3 ลืมตาเล็กน้อยมองดูพวกเขา เขาครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะหลับตาลง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เมื่อถึงเวลาประมูล
อี้ยงถานเดินมาที่กลางเวทีประมูล เขามองไปที่ห้องพิเศษที่ 20 ด้วยแววตาไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดเปิดประมูล
“ฉันอี้ยงถาน จะเป็นพิธีกรการประมูล ก่อนเริ่มการประมูล ฉันขอแจ้งให้ทุกๆท่านได้ทราบ ว่าในวันนี้เราได้เชิญยอดฝีมือของสำนัก มาดูแลรักษาความปลอดภัย ทุกๆท่านสามารถมั่นใจได้ ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน”อี้ยงถานหยุดพูดผายมือไปยังผู้บ่มเพาะพลังที่คุ้มกันรอบเวทีประมูล
ผู้เข้าประมูลชั้นธรรมดา เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไร พวกเขาได้เห็นว่าดยุกเซราสเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วย ถ้าพวกเขาพูดอะไรผิดไปอาจเดือดร้อนได้
อี้ยงถานไม่พอใจที่ไม่มีใครพูดอะไร เขาตบมือเบาๆ พนักงานชายวัยกลางคน ที่ใส่ชุดเหมือนอี้ยงถาน ผลักรถเข็นมาที่กลางเวที พลังกดดันจากร่างของเขาแผ่กระจายออกไปรอบๆ ระดับการบ่มเพาะพลังอยู่ขั้นที่ 8 ต้น ผู้เข้าร่วมประมูลสูดหายใจด้วยความกลัว หลังจากวางรถเข็นแล้วพนักงานชายวัยกลางคนไม่ไปใน เขาเฝ้าระวังอยู่ด้านข้าง
อี้ยงถานยิ้มทักทายพนักงานชายวัยกลางคน และเปิดผ้าที่คลุมด้านบนรถเข็นออก ปรากฏ ดาบยาวสีเงิน มีไอเย็นสีขาวหมุนวนรอบๆตัวดาบ อี้ยงถานหยิบดาบขึ้นมาฟันเบาๆ เสียงลมแหวกทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเย็น
“นี่คือ ดาบที่ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อ เพราะยังไม่มีเจ้าของ ตอนนี้ขอเรียกดาบเล่มนี้ว่า ดาบเหล็กเย็นหมื่นปี ตามชื่อวัตถุดิบหลักในการสร้าง ใบดาบสร้างจากเหล็กเย็นหมื่นปีจากภูเขาปิงหลง ผู้สร้างคือยอดปรมาจารย์ตีดาบชื่อดังแห่งยุค ท่านชาง
คมดาบสามารถตัดเหล็กกล้าหนา 1 เมตร ได้ง่ายๆโดยไม่ต้องใช้กำลังใดๆ ตัวดาบมีน้ำหนักเบา แต่มีความเหนียวทนทาน เราได้ทดสอบทุบด้านข้างใบดาบ ด้วยค้อนเหล็ก 10 ตัน รูปร่างของดาบก็ไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนั้นดาบเหล็กเย็นหมื่นปี ยังมีกลิ่นอายธาตุน้ำแข็ง ผู้ฝึกตนที่ตระหนักกฏแห่งธาตุน้ำแข็ง เมื่อใช้ดาบเหล็กเย็นหมื่นปี ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น 2 ส่วน”
จบคำ ผู้คนที่เข้าประมูลก็พูดกันเสียงดัง
“ท่านชางไม่ได้สร้างดาบมานานแล้วนะ”
“นายไม่รู้อะไร ฉันได้ยินมาว่าสุขภาพของท่านไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก การจะตีดาบแต่ละเล่มได้ ต้องใช้กำลังมหาศาล”
“ไม่คิดเลยว่าจะมีดาบเล่มใหม่ของท่าชางประมูลที่นี่ ดาบทุกเล่มที่ท่านสร้าง ล้วนมีชื่อเสียงโดงดังไปทั่ว”
“เฮ้อน่าเสียดายที่ ดาบมีกลิ่นอายธาตุน้ำแข็ง อัจฉริยะที่ตระหนักกฏแห่งธาตุน้ำแข็งมีน้อยเสียยิงกว่าน้อย”
“ราคาเริ่มต้น 100 ล้านเครดิต ไม่มีขึ้นต่ำ เริ่มการประมูลได้”อี้ยงถานเริ่มการประมูลทันที
“5,000 ล้านเครดิต”เสียงราบเรียบแต่เย็นยะเยือกราวกับอยู่ในหุบเขาน้ำแข็งดังขึ้น ที่ห้องพิเศษ
คนที่อยู่ชั้นล่างกลืนน้ำลาย เงยหน้ามองไปยังห้องพิเศษหมายเลข 7
อี้ยงถานยิ้มออกมาอย่างแผวเบา
“ห้องหมายเลข 7 ให้ราคา 5,000 ล้านเครดิตมีใครให้ราคาอีกไหม ถ้าๆไม่มีจะเริ่มนับ”
เงียบ ไม่มีใครพูดอะไร แค่สัมผัสพลังที่ออกมาจากห้องพวกเขาก็รู้แล้วว่า ภายในห้องต้องเป็นตัวตน ที่พวกเขาไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้
“5,000 ล้าน 1 เครดิต”เสียงกวนอารมณ์ดังมาจากห้องที่ 2 ทำให้ทุกคนหันไปมอง
กระจกปิดทึบ กลายเป็นกระจกใส ทำให้สามารถมองเห็นภายใน บนโซฟาตัวยาวมีชายหนุ่มอายุ 24 ปี ใส่เสื้อคลุมตัวยาวสีเหลืองอ่อน กำลังทิ้งตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน ด้านข้างมีสองสาวสวยทรงเสน่ห์ คนหนึ่งกำลังนวดให้เขาอย่างเบามือ อีกคนกำลังนอนเอาตัวอิงแอบกับอกของเขา มือซ้ายของเขาถือแก้วที่มีน้ำสีทองอำพัน
“เฮ้! นายน้อยหมีหิมะ ทำไมไม่โผล่ออกมาหน่อยละ ประมูลของบ้านตัวเองแท้ๆ ยังหลบๆซ่อนๆ แล้วนี้อะไร? เสนอราคาแล้วใช้พลังกดดันคนอื่น ทำแบบนี้ มันไม่ดูน่าเกลียดไปหน่อยเหรอ?”
กระจกห้องหมายเลข 7 เปลี่ยนเป็นกระจกใส เห็นชายหนุ่มในชุดขาวนั่งนิ่งเงียบอย่างสงบ แต่พลังกดดันที่แผ่กระจายออกมาทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ปลอดภัย
ชายหนุ่มในชุดขาวลุกขึ้น โค้งคำนับไปยังห้องพิเศษหมายเลข 20 ก่อนจะหันไปยังชายหนุ่มชุดเหลือง แววตาของเป็นประกายเย็นเฉียบ
“หม่าคุน! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ ที่นายจะอ้าปากพูดอะไรไร้สาระได้!”ชายหนุ่มในชุดขาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
—