ด้านนอกโรงแรมเทียนถัง
การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่และขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ห่างจากโรงแรมเทียนถังเล็กน้อย บนถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมระหว่าง เส้นทางออกนอกเมืองทางตะวันออกและทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ถังอี้และหยวนเซียยังต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร คลื่นพลังทำลายพื้นที่โดยรอบจนย่อยยัย
รถยนต์จำนวนมากที่ถูกจอดเอาไว้ ส่วนคนขับหลบหนีออกไปแล้ว รถยนต์เหล่ากลายเป็นเศษซาก ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก บางคันถูกทุบจนยุบลงไปทั้งคันอย่างน่ากลัว บางคันพลิกกลับด้าน บางคันกระเด็นขึ้นไปชั้นสองของอาคารด้านข้าง
ถนนและอาคารรอบด้าน ล้วนถูกลูกหลงจากพลังทำลายอันมหาศาล ยังดีที่อาคารบริเวณนี้ส่วนมากเป็นของตระกูลถัง อาคารทุกหลังถูกสร้างด้วยเทคโนโลยี่เหมือนกับโรงแรมเทียนถัง
ทำให้อาคารไม่พังทลายลงมา แต่ตัวอาคารก็อยู่ในสภาพแตกร้าว ราวกับจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ส่วนถนนที่เป็นของเมือง มันไม่ได้สร้างด้วยเทคโนโลยี่ของตระกูลถัง ในตอนนี้พื้นถนนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่หลายสิบจุด
ผู้คนแถวนั้นรีบหลบหนีออกจากตัวอาคาร ทำให้ไม่มีใครโดนลูกหลง
ร่างของถังอี้ลุกไหม้ไปด้วยเพลิงสีแดง หัวไหล่ซ้ายมีรอยถูกกัดลึกลงไป เรื่อยสีแดงไหลอาบเสื้อจนแดงกล่ำ
“หยวนเซี่ย ออกมาต่อสู้ตรงๆ อย่ามั่วแต่หลบเป็นเต่าขี้ขลาด!”ถังอี้ฟาดค้อนทองแดงปะทะเข้ากับกรงเล็บหมาป่าน้ำตาล
ร่างของหมาป่าน้ำตาลกระเด็นออกไปชนกับเสาไฟฟ้าที่ตั้งอยู่จนหัก หมาป่าสีน้ำตาลคำรามเสียงดัง ร่างกายของมันสร้างจากดินแข็ง ในตอนนี้ร่างของมันแตกร้าวไปทั่วร่าง นิ้วเท้าหน้าซ้ายหักไป 2 นิ้ว มันไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
“หึหึ ถังอี้ แกใกล้แพ้แล้วยังปากกล้าอยู่อีก ยอมรับความพ่ายแพ้ซะดีๆ ก่อนที่ฉันจะทำให้แกบาดเจ็บมากกว่านี้”หยวนเซี่ยโผล่ออกมาจากหลังรถบัสที่พลิกคว่ำ ร่าฃกายของเขายังคงไร้บาดแผล แต่ใบหน้าของเขาซีดเผือก เพราะใช้พลังปราณใกล้จะถีงขีดจำกัด
เมื่อเห็นร่างของหยวนเซี่ย ถังอี้ก็พุ่งไปที่รถมินิคาร์สีเหลืองที่จอดอยู่
ตูม! ค้อนทองแดงหวดรถมินิคาร์สีเหลืองที่จอดอยู่พุ่งเข้าใส่ร่างของหยวนเซี่ย ในขณะที่ตัวเขาใช้กำลังทั้งหมดที่เหลือ พุ่งเข้าหาหมาป่าสีน้ำตาลเพลิงสีแดงลุกไหม้ค้อนทองแดงอย่างน่าหวาดกลัว
หยวนเซี่ยเห็นรถมินิคาร์พุ่งมา เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไหม้ เขารีบพุ่งหลบทันที
ตูม! รถมินิคาร์สีเหลืองระเบิดอย่างแรง มันกระแทกร่างของหยวนเซี่ยกระเด็นไปชนอาคารด้านข้างอย่างแรง
ในเวลาเดียวกันถังอี้หมุนค้อนเป็นพายุเพลิงสีแดงเข้ม โหมกระหน่ำทุบร่างหมาป่าสีน้ำตาลช เกิดเป็นภาพลวงตาเหมือนค้อนดาวตกที่ลุกไหม้ ช
เปี้ยง เปี้ยง เปี้ยง!
ร่างหมาป่าน้ำตาลแตกกระจายเป็นชิ้นๆ หยวนเซี่ยที่พยุงตัวลุกขึ้นกระอีกเลือดกองใหญ่ เขาขบฟันแน่นด้วยความโกรธ คลื่นพลังสีน้ำตาลดูดเศษซากอาคารลอยขึ้นอย่างช้าๆ เขาเตรียมพร้อมที่จะลงมือสุดกำลัง
“แก! ถังอี้ ฉันไม่มีทางแพ้แก…”
ในตอนนั้นเอง คลื่นพลังงานบางอย่าง ผ่านร่างของพวกเขาไปจนถึงการต่อสู้อีกฝั่งของโรมแรม
พื้นที่ทั้งหมดอยู่ๆ ก็หยุดนิ่ง
ทุกคนที่กำลังต่อสู้ ถูกหยุดในท่าทางที่กำลังทำ แม้แต่นกที่บินอยู่ก็ชะงักค้างบนท้องฟ้า ทั้งๆที่ไม่ได้กระพือปีกบิน เหมือนถูกหยุดเวลา ขยับไปไหนไม่ได้ แม้แต่ดวงตา แต่พวกเขายังสามารถมองเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้าได้อยู่
ในเวลาเดียวกันชายในชุดคลุม 12 ปรากฏตัวขึ้น
“เข้าไปในโรมแรม และไปตรวจสอบว่าวีดีโอทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง จับกุมตัวถังฉีหลงไปที่สำนักงานสาขา เพื่อตรวจสอบ”ชายชุดคลุมสีดำด้านหน้าพูดสั่ง
“ครับ”คนในชุดคลุม 4 คน แยกจากไปทันที
ชายชุดคลุมสีดำกวาดตามอง ถังอี้และหยวนเซี่ย ก่อนจะยกมือขึ้นโบกออกไป พื้นที่รอบข้างกลายเป็นโซ่ดินเหนียวนับไม่ถ้วนมัดร่างของทั้งสอง
“ไปพาตัวคนที่สู้กันทางตะวันตกมาที่นี่”
“ครับ”คนในชุดคลุมอีก 2 คนจากไปทันที
“พาตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ไปที่สำนักงานสาขา”ชายชุดคลุมสีดำออกคำสั่งอีกครั้ง
“ครับ”คนในชุดคลุมทั้งหมดที่เหลือแยกกันไปจับกุมตัวคนที่ต่อสู้กัน
เวลาผ่านไปเพียงพริบตาเดียว คนในชุดคลุมก็พาตัวคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกลับการต่อสู้กลับมา ยกเว้นคนที่ถูกส่งไปในโรมแรม
ชายชุดคลุมสีดำยกมืออีกข้างขึ้นมา นาฬิกาทรายแตกออกเป็นชิ้นๆ ก่อนจะสลายหายไป ไม่เหลือเศษซาก
ทุกคนที่อยู่แถวนั้นกลับมาขยับตัวได้
“พวกแกคนของหน่วยลับมายจับพวกเราได้ยังไง”ถังเป๋ยที่ถูกจับส่วนโซ่สีดำ ทำให้ขยับร่างกายหรือใช้พลังไม่ได้ เขาร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น เขาไม่เคยได้รับความอับอายแบบนี้มาก่อน
คนที่เหลือเริ่มพูดโวยวายเสียงดัง
คนในชุดคลุมหยิบผ้าบิดปากที่มีรูปลักษณ์แปลกประหลาดออกมา วางที่ปากถังอี้ แสงไฟสีเขียวส่องสว่างตรงมุมผ้าปิดปาก ก็ไม่มีเสียงดังออกมาอีก
ชายชุดคลุมสีดำยืนเงียบไม่สนใจสิ่งรอบตัว ร่างของเขาสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขายังฝืนซ่อนความเหนื่อยล้าของตัวเอง การใช้เคล็ดบ่มเพาะพลังของเขา ทำให้ใช้พลังปราณในร่างทั้งหมด และดึงบางส่วนมาใช้ด้วย ไม่แปลกที่ร่างกายจะได้รับภาระหนัก
ชายในชุดคลุมสีขาวเดินขึ้นมาแทน ตำแหน่งชายชุดคลุมสีดำ เขาออกคำสั่งกับคนอื่น ไม่นานคนในชุดคลุม 2 คนที่เขาไปกลับมาพร้อมกับร่างของถังฉีหลงที่หมดสติ
“ด้านลางมีคนถูกทรมาน อยู่หลายคน ผมขอกำลังเสริมไปช่วย…”คนในชุดคลุมรายงาน
ชายในชุดคลุมสีขาวพยักหน้าก่อนที่จะ กดกำไลข้อมือเรียกตำรวจเข้ามา
ไม่นานผู้บัญชาการตำรวจก็มาพร้อมกับตำรวจอีก 10 นาย
ชายในชุดคลุมสีขาวสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือผู้ที่ถูกทรมาน ก่อนที่จะสั่งให้คนในชุดคลุมพาถังฉีหลงและผู้ที่ต่อสู้กันไปที่สาขาย่อย
คนในชุดคลุมสีขาวกำลังขึ้นเครื่องบินล่องหน เขาเปิดกำไลข้อมือขึ้นมา แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่จะแจ้งคนในชุดคลุมสีดำ ที่ฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว ก่อนที่จะแยกไปอีกทาง
ทางด้านจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ใช้ย่างก้าวประกายภูตสุดกำลัง ไปตามตรอกซอกซอยต่างๆเพื่อหลบหนี แต่หม่าคุนสามารถตามมาได้อย่างรวดเร็ว
คมมีดแหลมคมฟันเข้ามา จิวโมไป๋ใช้กระบี่เลือนเร้นปัดออก พร้อมแทงตรงไปที่ร่างหม่าคุน
แต่หม่าคุนใช่ความเร็ว หลบกระบี่ที่แทงมาได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะหายไปโผล่ที่ด้านหลังของจิวโมไป๋
มีดทั้งสองฟันลงมาทิ้งบาดแผลลึกลงไปในเกร็ดมังกรทอง เลือดสีแดงเข้มค่อยๆไหลออกมาช้าๆ
จิวโมไป๋ส่งพลังกระตุ้นไปที่ผิวหนังตรงส่วนนั้น เลือดไหลย้อนกลับเข้าไปในร่างกาย ก่อนที่บาดแผลจะสมานตัวอย่างรวดเร็วกลับมาเป็นเกร็ดมังกรทอง แต่ยังคงมีรอยฟันลึกอยู่ ต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย
จิวโมไป๋ฟันกระบี่ปัดป้องมีดสั้นที่ฟันลงมา ก่อนที่จะไต่อาคารสูงขึ้นไปชั้นดาดฟ้า
หม่าคุนตามมาไม่ห่าง
บนดาดฟ้าอาคารถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เพราะไม่ได้ทำการกำจัด
จิ้วโมไป๋ขึ้นมาบนดาดฟ้า ก่อนจะหันกลับไปและพุ่งเข้าไปหาหม่าคุนตรงๆ
หม่าคุนยังไม่ทันได้ไต่อาคารขึ้นมา คมกระบี่แหลมคมก็แทงดักหน้า เขาเร่งความเร็วโยกหลบไปด้านข้าง ก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนอาคาร
จิวโมไป๋คาดเอาไว้แล้ว ในเวลานั้นเองจิวโมไป๋หมุนตัวเตะใส่ร่างของหม่าคุนอย่างรุนแรง
แต่หม่าคุนเหมือนกับภูตผี เท้าของจิวโมไป๋เตะผ่านร่างของหม่าคุนไป โดยที่ไม่ได้สัมผัสอะไรเลย
พริบตาต่อมาหม่าคุนก็มาโผล่ที่ด้านหลัง สัมผัสมรณะร้องเตือน จิวโมไป๋โยกหลบได้ทันก่อนที่มีดจะแทงลงมา
หม่าคุนเลิกคิ้วแปลกใจ เพราะการใช้วิชาเคลื่อนไหวเมื่อครู่เขาผลาญพลังของตัวเองไปเป็นจำนวนมาก เขาไม่คิดว่าจิวโมไป๋จะหลบได้ ใบหน้าของหม่าคุนปรากฏรอยยิ้มกระหายต่อสู้
ไม่มีใครหลบวิชาเคลื่อนไหวของเขาได้มาก่อน
หม่าคุนพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋อีกครั้ง แต่จิวโมไป๋หมุนกระบี่แทงสวนกลับ หม่าคุนเปลี่ยนท่าร่างเพื่อหลบกระบี่และพุ่งไปต่อ แต่ในตอนนั้นเองกระบี่ในมือจิวโมไป๋พลันเพิ่มความเร็วขึ้นและแยกออกเป็น 7 กระบี่ทุกจุดเป็นจุดตายไร้ทางหลบหนี
กระบี่ล้างบาป 7 สังหาร
ดวงตาหม่าคุนเป็นประกายเจิดจ้า เท้าของเขาปรากฏสายลมสีเขียวห่อหุ้ม เขาเหยียบลงไป และเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว เขาหายตัวไปจากจุดเดิมคมกระบี่แทงผ่านร่างของเขาไปอย่างฉิวเฉียด
จิวโมไป๋ไม่แปลกใจที่หม่าคุนหลบได้ เขาพลิกข้อมือฟันออกไปทางหม่าคุนอย่างรวดเร็วฉับพลัน
หม่าคุนยกมีดสั้นทั้งสองขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาถูกแรงปะทะกระแทกถอยหลังไป 2 ก้าว ก่อนที่เขาจะใช้ท่าร่างหลบออกไปเล็กน้อย
หม่าคุนกระตุกยิ้มเล็กน้อย เป็นผู้ใช้กระบี่แท้ๆ แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายเหนือกว่าคนทั่วไป ไม่สามารถประมาทได้จริงๆ
จิวโมไป๋ยืนพักสูดลมหายใจเฮือก เขาเสียเปรียบอย่างมากในด้านความเร็ว และระดับการบ่มเพาะที่หม่าคุนเหนือกว่า
ตอนที่เขาต่อสู้กับถังฉีหลง เขาลอบทำลายแขนข้างที่ถนัด และใช้อาณาเขตห้วงมรณะ ทำให้ถังถีหลงฟุ้งซ่าน ตั้งสมาธิไม่ได้
ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของถังฉีหลงลดลงอย่างมาก
แต่เขาก็ยังไม่สามารถจบการต่อสู้กับถังฉีหลงด้วยได้เร็ว ถ้าไม่มี พลังมังกร เขาก็ยังคงต่อสู้ต่อ
สำหรับหม่าคุน ที่ร่างกายและจิตใจพร้อมเต็มที่ แม้เขาจะใช้อาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะ ก็ไม่ได้ผล เพราะจิตใจของหม่าคุนยังมั่นคง
เขาได้แต่ใช้กำลังของตัวเองในการต่อสู้
หม่าคุนหมุนมีดสั้นทั้งสอง ท่าทางจริงจังขึ้นหลายสวน ไม่ประมาทอีกต่อไป การโจมตีเมื่อครู่ถ้าถูกตัว เขาต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
จิวโมไป๋สูดหายใจช้าๆ บรรยากาศรอบร่างกายของเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นแหลมคม
ฉวัะ ร่างของจิวโมไป๋ขยับเพียงแค่ 1 เซนติเมตร เหมือนไม่ได้ขยับไปไหน กระบี่เลือนเร้นถูกฟันออกไปตอนไหนไม่มีใครสังเกตเห็น
หม่าคุนสัมผัสได้ถึงอันตราย ม้วนตัวหลบอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง! แท๊งค์น้ําขนาดใหญ่ทำจากเหล็กถูกตัดขาดครึ่ง น้ำจากในแท๊งค์น้ําไหลทะลักออกมาจนท้วมดาดฟ้า บางส่วนไหลตกลงไปด้านล่าง ทำให้ผู้คนที่ถูกน้ำตกใส่ กรีดร้องด้วยความตกใจ
สมาธิทั้งหมดของจิวโมไป๋พุ่งไปที่หม่าคุน เขาไม่สนน้ำที่ไหลมากระทบที่ข้อเท้า กระบี่ในมือฟันออกไปอีก 3 ครั้ง เกิดคลื่นกระบี่แหวกอาการออกไป
หม่าคุนมองเห็นคมกระบี่พุ่งเข้ามา เขาเร่งความเร็วหลบหลีกไปได้
แววตาของหม่าคุนหรี่ลงเล้กน้อย เขาสัมผัสไม่ได้ถึงพลังธาตุ ในการโจมตีแม้แต่น้อย
แล้วสร้างคลื่นกระบี่ทำได้ยังไง
หม่าคุนสงสัย แต่เขาไม่วอกแวก หลบไปอีกครั้ง จนเขาเห็นว่ากระบี่ดูช้าลง เขาตัดสินใจเข้าประชิด พลังสีเขี้ยวอ่อนห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดรวมทั้งใบมีดทั้งสอง ร่างของหม่าคุนพลันกายตัวไปอย่างรวดเร็ว
ระบำสายลม
ร่างของหม่าคุนแยกเป็น 8 ร่างฟันจากทุกทางใส่จิวโมไป๋ แต่จิวโมไป๋ใช้กระบี่ตอบโต้ ไม่หลบหนี เขาเลือกที่จะต้านรับคมมีดด้วยร่างกาย เกล็ดมังกรทั่วร่างส่องประกายสีทองเจิดจ้า คมมีดฟันบาดลึกเข้าไปแต่ไม่ลึกมากนัก เพราะครั้งนี้เขาเตรียมพร้อมไว้ก่อน เกล็ดมังกรทองค่อยผสานตัวอย่างช้าๆ แข่งกับการโจมตีของหม่าคุน
จิวโมไป๋ปัดป้องคมมีดที่ฟันเข้ามา และฟันกระบี่ในมือด้วยความเร็วเหนือธรรมดาและแม่นยำ ทุกกระบี่แทงใกล้เคียงกับจุดตาย
หม่าคุนหลบหลีกไปมา ถ้าหลบไม่ได้เขาใช้มีดสั้นคู่ปัดการโจมตีระยะใกล้ ถ้าจิวโมไป๋ใช้กระบี่คลื่นพลัง เขาก็หลบ
เขารู้ดีว่าความเร็วของเขาเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม แต่ร่างกายของอีกฝ่ายมีพลังของสายเลือดที่ทรงพลัง สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด
จิวโมไป๋ใช้วิชากระบี่ปราบต่อสู้กับวิชาระบำสายลม อย่างไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ ความเร็วของจิวโมไป๋สู้ไม่ได้ เขาอาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งเหนือกว่าใคร รับการโจมตีตรงๆโดยไม่หลบหนี
ร่างกายของเขาบอบช้ำอย่างหนัก แต่ไม่นานก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถยืนหยัดอยู่ได้อีก
การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือด ชิ้นส่วนของอาคารเริ่มพังทล่าย เพราะมันเป็นอาคารธรรมดา ไม่ได้สร้างอย่างดีเหมือนโรมแรมเทียนถังและอาคารโดยรอบ
จิวโมไป๋เริ่มหอบเหนื่อย การใช้วิชากระบี่ปราบมาร กินพลังร่างกายและพลังวิญญาณอย่างมหาศาล เขาไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อต่อไปได้แล้ว
หม่าคุนก็สังเกตเห็นจุดนี้เช่นกัน เขาพยายามถ่วงเวลา ไม่ลงมือเต็มกำลัง ปล่อยให้อีกฝ่ายหมดแรง
เมื่อเป็นการต่อสู้บืดเยื้อ การต่อสู้ดูเบาลงเล็กน้อยไม่ดุดันรุนแรงเท่าเดิม ผ่านไปอีก 100 กระบวนท่า พวกเขาเริ่มจับจังหวะกระบวนท่าของกันและกันได้
สมาธิของจิวโมไป๋ถูกปลุกเร้าอย่างเงียบเชียบ เขารอโอกาสที่หม่าคุนประมาท และเวลาที่เขารอก็มาถึง เพียงเสี้ยวพริบตาที่หม่าคุนเผยเห็นจุดอ่อน จิวโมไป๋พลันเปลี่ยนจังหวะ เท้าของเขาเตะออกอย่างรุนแรง หม่าคุนตกใจที่อยู่ๆจิวโมไป๋ใช้เท้า เขาถอยหลังหลบเท้าที่เตะเข้ามา
ในเวลาเดียวกัน จิวโมไป๋ก็หมุนตัวแทงกระบี่ออกไป คลื่นกระบี่แทงตรงเข้าไปที่กลางอกของหม่าคุน กระบี่นี่เร็วและแหลมคมกว่าปกติ
สัมผัสได้ถึงอันตรายหม่าคุน ยกมีดสั้นทั้งสองขึ้นมาป้องกัน
เปรี้ยง! แรงปะทะกันรุนแรงทำให้มือของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง หม่าคุนเงยหน้ามองด้วยความตกใจ
ในเวลาที่หม่าคุนอึ้งอยู่ หมัดอันทรงพลังก็ชกเข้ามาอย่างรุนแรง หม่าคุนสัมผัสได้ถึงอันตรายที่รุงแรงกว่าเมื่อครู่ เขาใช้ท่าเท้าถอยหลังพร้อมยกมีดสั้นทั้งสองขึ้นมาป้องกันอีกครั้ง
แต่มันช้าไปเล็กน้อย
ปัง! มีดทั้งสองเล่มถูกชกจนบิดงอ กระแทกตรงเข้าสู่ร่างของหม่าคุนอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของหม่าคุนกระเด็นออกไป 10 เมตร ก่อนที่เขาจะประคองตัวร่างไว้ได้ มุมปากมีเลือดสีแดงไหลออกมาเล็กน้อย
ซ่อนการบ่มเพาะพลัง?
หม่าคุนมองใบมีดที่เสียรูปไปแล้ว เขาเงยหน้ามองจิวโมไป๋ด้วยความระแวงสงสัย
หัวสมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว พลังโจมตีเมื่อครู่เหนือกว่าขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลายไปมาก เขาสงสัยว่าทำไมอีกฝ่าย ถึงต้องซ่อนการบ่มเพาะพลัง เมื่อต่อสู้กับเขา
ในช่วงเวลาที่หม่าคุนกำลังยืนนิ่งอยู่
จิวโมไป๋หยิบแผ่นยันต์ออกมา โยนไปทางหม่าคุน
แผ่นยันต์ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว หม่าคุนเห็นดังนั้นรีบถอยหลังไปไกลกว่าเดิม
ตูม! เบิดดังสนั่น หม่าคุนหลบออกมาได้ทัน
แต่จิวโมไป๋กระโดดไปที่อาคารอื่น ก่อนจะพุ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
หม่าคุนเห็นดังนั้น พลังงานสีเขียวอ่อนรวมกันที่เท้าทั้งสองข้าง เขาพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงรีบติดตาม
แต่เมื่อเขาเหยียบไปที่ตัวอาคารอีกหลัง
ก็มีวงแหวนสีทองปรากฏขึ้น ก่อนจะกลายเป็นเชือกสีทองรัดร่างกายของเขา
“นี้มันอะไร!”หม่าคุนพยายามดิ้นรนออกจากข่ายอาคม
จิวโมไป๋หลอกล่อหม่าคุนได้สำเร็จ เขาอาศัยจังหวะนี้หลบหนีอย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ดีว่าข่ายอาคมแค่นี้ หยุดผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกกลางไม่ได้นาน
และก็เป็นอย่างที่จิวโมไป๋คิด เพียงแค่ 10 วินาที หม่าคุนก็ทำลายข่ายอาคมได้ และทำท่าจะตามต่อ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะขยับ เบื้องหน้าของเขา ก็มีคนในชุดคลุมสีขาวปรากฏตัวขึ้นขวางทางเอาไว้
จิวโมไป๋จากไปไกลแล้ว เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและปลอมตัวหลายครั้ง เสียเวลาอยู่นาน เขาก็ไปถึงอีกฝั่งของเมืองฉางอัน เมื่อแน่ในว่าไม่มีใครตามมา เขาก็เบาใจลง เขาไปซ่อนที่อาคารร้าง ก่อนทานโอสถรักษา 2 เม็ด และโอสถฟื้นฟูพลัง 1 เม็ด เพื่อฟื้นพลัง
ฟื้นพลังอยู่ครู่หนึ่ง จิวโมไป๋ก็ชะงักด้วยความแปลกใจ เพราะเขารู้สึกว่า บาดแผลบนร่างกายของเขา ดูเหมือนจะฟื้นฟูได้เร็วกว่าปกติ
—