ใบหน้าของเนี่ยฟูหานกลายเป็นตึงเครียด ผู้พิทักษ์หงฟื้นตัวเร็วกว่าที่เขาคิด
เหตุผลที่เขาเรียกสายฝนให้ตกลงมา ก็เพื่อใช้สายฝนลดการรวบรวมกฎแห่งธาตุไฟ ทำให้การฟื้นตัวของผู้พิทักษ์ฟงช้าลง การโจมตีเป็นวงกว้างของอีกฝ่ายทำให้เขาเสียเปรียบอย่างมาก เขาจึงพยายามชะลอการฟื้นฟูของอีกฝ่ายให้ได้นานที่สุด
แม้ว่าฝนที่ตกลงมาจะช่วยให้ผู้พิทักษ์หลันใช้กฎแห่งธาตุน้ำได้ดีขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจนัก เพราะเขาสามารถหลบการโจมตีของเธอได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่ที่ทำให้ทุกอย่างผิดพลาดไปคือ ผู้พิทักษ์เฉินเป็นผู้ใช้กฎแห่งธาตุลมที่แข็งแกร่ง อีกฝ่ายคอยขัดขวางจนเขาไม่สามารถหลบหนีได้
ผู้พิทักษ์หงโบกแขนกวาดน้ำฝนที่ตกลงมากลายเป็นไอร้อนกระจายออกไป สายตาของเขากลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยังแผงไปด้วยความโกรธแค้นจ้องมายังเนี่ยฟูหาน ก่อนที่ร่างของเขาจะระเบิดออกด้วยเปลวเพลิงอย่างรุนแรง เท้าของเขาเหยียบน้ำฝนที่เอ่อล้นอยู่ที่พื้นจนกระแตกกระจายและถูกความร้อนเผาไหม้กลายเป็นไอ ร่างของเขาพุ่งแหวกไอร้อนด้วยความเร็วสูง ฝนที่ตกลงมาถูกความร้อนเผาไหม้ ทิ้งเป็นไอร้อนระหว่างทาง พริบตาเดียวผู้พิทักษ์หงก็เข้าถึงร่างของเนี่ยฟูหาน
หมัดที่ห่อหุ้มด้วยกฎแห่งธาตุไฟชกออกไป เปลวไฟก่อตัวเป็นเงาระฆังเพลิงขนาดใหญ่กระแทกเข้าใส่ร่างของเนี่ยฟูหานอย่างรุนแรง
เนี่ยฟูหานตัดสินใจในชั่วพริบตา ร่างของเขาระเบิกพลังสายฟ้าสามสีอาบทั่วร่าง เกาะสามสีส่องแสงเจิดจ้า ก่อนที่เขาจะพุ่งปะทะด้วยความเร็วสูง กรงเล็บสายฟ้าสีม่วงแดงและเขียวเข้มหลอมรวมกันเป็นเงากรงเล็บสัตว์ร้าย พุ่งแหวกอากาศจนเกิดเสียงฟ้าร้องดังสะนั่น กรงเล็บสัตว์ร้ายฉีกทะลุทะลวงระฆังเพลิงเข้าใส่ร่างของผู้พิทักษ์หง
ฉึก! เลือดสีแดงสาดกระจายก่อนที่ร่างของผู้พิทักษ์หงจะกระเด็นออกไป พร้อมกับคลื่นพลังจะระเบิดออกอย่างรุนแรง
ร่างของเนี่ยฟูหานกระเด็นไปหลายสิบก้าว เสื้อคลุมสีขาวถูกทำลายไม่เป็นชิ้นดี
“อัก!”เนี่ยฟูหานกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะสูดลมหายใจช้าๆเพื่อระงับพลังที่ปั่นป่วนในร่าง
เขายังใช้พลังระดับนี้ไม่ได้จริงๆ
เนี่ยฟูหานข่มพลังที่พลุ่งพล่านในร่างให้สงบลง ตั้งแต่ที่เขาหลอมรวมหินประหลาดเข้ากับเคล็ดบ่มเพาะพลัง กฎแห่งธาตุสายฟ้าของเขาก็กลายพันธ์ กลายเป็นสายฟ้าที่แฝงไปด้วยกฎแห่งธาตุถึง 3 ชนิด
การควบคุมพลังของเขาลดลงอย่างมาก ถ้าเขาไม่สามารถควบคุมวิชาได้ดี พลังจะตีกลับ ทำให้ร่างกายของเขาเสียหายอย่างหนัก ตั้งแต่นั้นมา เขาจึงใช้ได้แต่วิชาธรรมดาไม่สามารถใช้วิชาที่มีพลังรุนแรง
วิชาที่มีพลังรุนแรง นอกจะเสี่ยงในถูกพลังตีกลับแล้ว มันยังกินพลังงานภายในร่างกายอย่างมาก
กระบวนท่าเมื่อครู่กินพลังของเขาไปเกือบ 1 ใน 5 ของทั้งหมด เมื่อรวมกับที่เขาใช้พลังในการต่อสู้ไปก่อนหน้า ในตอนนี้เขาเหลือพลังไม่ถึง 1 ใน 4 ทำให้ตอนนี้เขากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบผู้พิทักษ์อีกสองคนที่เหลืออยู่
เนี่ยฟูหานรีบใช้สายฟ้าสีเขียวเข้มรักษาร่างกาย พลางโทษตัวเองที่ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อนานขนาดนี้
ผู้พิทักษ์หลันและผู้พิทักษ์เฉินหยุดชะงักการโจมตีลง พวกเขามองไปยังผู้พิทักษ์หงที่นอนจมลงไปในน้ำโคลน ไม่ขยับเขยื้อน ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามีชีวิตอยู่หรือไม่
พวกเขาก็หันกลับมามองเนี่ยฟูหานด้วยความระมักระวัง เห็นว่าเนี่ยฟูหานไม่โจมตีต่อ พวกเขาก็หันมามองสบตากัน
โดยไม่ต้องมีคำพูดพวกเขาก็ระเบิดพลังออกมา
ผู้พิทักษ์หลันหมุนควงกฎแห่งธาตุน้ำผสานกับสายฝน ก่อนที่เธอจะแทงมีดคู่ออกไป คมมีดหมุนควงกลายเป็นอสรพิษน้ำคู่ยาว 3 เมตร พุ่งเข้าหาร่างของเนี่ยฟูหานอย่างดุร้าย
ผู้พิทักษ์เฉินวาดฝ่ามืออกไปสองด้านกฎแห่งธาตุลมหมุนเป็นวงกลมกลายเป็นกงล้อสายลมสีเขียวอ่อนอันคมกริบ เขาสะบัดมือปากงล้อทั้งสองพุ่งออกไป กงล้อทั้งสองแยกตัวออกจากกันไปดักหน้าหลังของเนี่ยฟูหาน
นกอินทรีพายุที่อยู่ด้านบนก็กรีดร้อง ก่อนจะพุ่งลงมาด้วยความเร็วเหนือเสียงจนเกิดเสียงแหวกอากาสดังกระหึ่ม
เนี่ยฟูหานเห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามา เขาก็กัดฟันสายฟ้าทั่วร่างระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะพุ่งทะลวงเข้าไปหาผู้พิทักษ์หลัน กฎแห่งธาตุสายฟ้าสามสีกลายเป็นเงากิเลนสายฟ้าอ้าปากพุ่งเข้าหาผู้พิทักษ์หลันอย่างดุร้าย
อสรพิษน้ำทั้งสองเลื่อยแหวกว่ายไปมากลางสายฝน ก่อนจะฉกไปที่หัวกิเลนสายฟ้า แต่มันก็ถูกพลังอันแข็งแกร่งฉีกทำลายจนแตกกระจาย คลื่นพลังปะทะเขาหาร่างร่างของเนี่ยฟูหานจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่เขาก็พุ่งตรงไปต่อ
ใบหน้าของผู้พิทักษ์หลันเปลี่ยนสี มีดคู่ของเธอสร้างคมมีดสายน้ำเข้าโจมตี แต่ก็ไม่ได้ผล หัวกิเลนสายฟ้าพุ่งทะยานต่อไปเรื่อยๆ พลังกดดันอันรุนแรงโหมเข้ามาอย่างดุร้าย
แต่ก่อนที่จะไปถึง กงล้อสายลมทั้งสองก็ม้วนเข้าหาร่างของเนี่ยฟูหานจากด้านซ้ายและด้านหลัง ด้านบนนกอินทรีพายุก็พุ่งลงมา
เนี่ยฟูหานอ่านสถานการณ์ในชั่วพริบตา เขาต้องกัดฟันหมุนตัวกลับ หัวกิเลนสายฟ้าสามสีทำลายกงล้อสายลมทั้งสอง สายลมที่แตกออก เฉือนร่างของเนี่ยฟูหานจนเกิดบาดแผลมากมาย แต่เขายังข่มความเจ็บปวดม้วนหัวกิเลนสายฟ้าขึ้น พอดีกับที่อินทรีพายุพุ่งลงมา
เปรี้ยง!!!
คลื่นพลังแตกกระจายกวาดออกโดยรอบ เท้าของเนี่ยฟูหานจมลงไปครึ่งเข่า ก่อนที่เขาจะใช้ฝ่ามือกระแทกอินทรีพายุกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของมันกลิ้งไปตามพื้นก่อนที่จะกลายเป็นโปร่งใสเล็กน้อยและพุ่งกลับไปยังร่างของผู้พิทักษ์เฉิน
หัวกิเลนสายฟ้าก็คอยๆหายไป
ใบหน้าของเนี่ยฟูหานซีดขาว เขาหอบหายใจอย่างหนัก มุมปากมีเลือดไหลออก เลือดจากบาดแผลไหลรวมกับน้ำฝนลงไปเบื้องล่าง จนน้ำโคลนเปลี่ยนเป็นสีแดงคล่ำ เขาสูดหายใจฝืนใช้พลังสายฟ้าสีเขียวเข้มฟื้นฟูพลัง เขาไม่ดึงเท้าออกจากพื้นโคลน
ผู้พิทักษ์หลันและผู้พิทักษ์เฉินค่อยๆเดินเข้ามาหาเนี่ยฟูหานอย่างช้าๆ การปะทะเมื่อครู่ผู้พิทักษ์หลันสามารถรอดจากการโจมตีมาได้ เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่พลังธาตุของเธอเหลือเพียงเล็กน้อย ทำให้เธอในตอนนี้แทบจะไม่มีแรงจะเคลื่อนไหว ทางด้านผู้พิทักษ์เฉิน เพราะอวตารของเขาบาดเจ็บหนัก แม้ภายนอกจะไม่เป็นอะไร แต่ภายในร่างของเขาบาดเจ็บสาหัส
พูดได้ว่าทั้งสามคน ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีไปกว่ากัน
ในระหว่างนั้นเอง คนขององค์กรที่ได้รับคำสั่งเสริมกำลัง ก็เริ่มมารวมตัวกันรอบๆสถานที่ต่อสู้ พวกเขาเห็นรัศมีการต่อสู้อันรุนแรง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ได้แต่รอคำสั่งอยู่ห่างๆ
จำนวนคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกสามคน และผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิต สิบคนมาถึง
ในตอนนี้ สถานนะการณ์ของเนี่ยฟูหานเริ่มแย่ลง
ผู้พิทักษ์หลันและผู้พิทักษ์เฉิน กวาดตามองไปรอบๆเห็นคนขององค์กรมาร่วมตัวกัน พวกเขาก็ไม่เข้าใกล้เนี่ยฟูหานอีก พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเข้าไปใกล้
“เรียกคน ให้เข้าไปรับกุมตัว”ผู้พิทักษ์เฉินกระซิบบอก
ผู้พิทักษ์หลันคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า และกดกำไลข้อมือ
ผู้คนที่ดูการต่อสู้อยู่ได้รับข้อความพร้อมกัน พวกเขาลังเลที่จะเข้าไป แต่สุดท้าย ก็มีคนใจกล้าค่อยๆเดินเข้าไป
เนี่ยฟูหานที่จมอยู่ในโคลนครึ่งเข่า เขาสังเกตเห็นคนขององค์กรที่กำลังใกล้เข้ามา แต่เขาเหนื่อยจนแทบจะไม่สามารถขยับได้ เขาได้แต่เร่งสายฟ้าสีเขียวเข้มให้รักษาเร็วขึ้น
ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกใจกล้า คนหนึ่ง เดินเข้ามาในระยะต่อสู้ เขาก้มหัวเคารพผู้พิทักษ์ทั้งสอง ก่อนจะเดินเข้าหาร่างของเนี่ยฟูหานด้วยท่าทางระมัดระวัง แววตาฉายความตื่นเต้น โอกาสแสดงความสามารถต่อหน้าผู้พิทักษ์มีไม่มากนัก เขาไม่มีทางปล่อยให้โอกาสนี้เสียไป
คนขององค์กรคนอื่น ต่างก็แสดงท่าทางเสียใจ ที่ช้าไปก้าวนึ่ง ปล่อยให้คนอื่นสร้างผลงาน
ขณะที่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก กำลังเข้าใกล้ร่างของเนี่ยฟูหาน ในตอนนั้นเองก้อนหินขนาดใหญ่กว่า 4 เมตรก็พุ่งแหวกอากาศมาจากระยะไกล
ผู้พิทักษ์เฉินเป็นคนแรกที่รู้ตัว เขากระโดดหลบไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว ผู้พิทักษ์หลันเป็นคนที่สอง ที่ได้ยินเสียงแหวกอากาศ แต่เธอรู้ตัวช้าไปและก้อนหินก้อนนี้ก็มีเป้าหมายตรงมาที่เธอโดยเฉพาะ
เธอเรียกกฎแห่งธาตุน้ำออกมาป้องกัน
ตูม!!!
เสียงปะทะดังสนั่น ก้อนหินอันหนักอึ้งผลักร่างของผู้พิทักษ์หลันถอยไปหลายก้าว ก่อนที่เธอจะหยุดมันลงได้
ในตอนนั้นเองก้อนหินอีกหนึ่งก้อนที่มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ก็พุ่งด้วยความเร็วสูงเข้าไปหาผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก ที่อยู่ใกล้ร่างของเนี่ยฟูหาน
เขาหันมารู้ตัวว่าไม่สามารถหลบได้ เขาจึงชกไปที่ก้อนหินจนแตกกระจาย ร่างของเขาถูกก้อนหินกดลงไปกับพื้น แม้ไม่บาดเจ็บแต่ก็ทำให้เขาเสียหน้าอย่างมาก
ในชั่วเวลานั้นเองเนี่ยฟูหานก็อาศัยจังหวะ ที่ทุกคนถูกก้อนหินดึงดูดไป เขาระเบิดพลังออกมา หอกสีม่วงที่มีร่องรอยสายฟ้าสีแดงก็พุ่งด้วยความเร็วเหนือเสียง เสียบเข้าที่ท้องของผู้พิทักษ์หลันอย่างจัง โดยที่เธอไม่แม้แต่จะสามารถตอบสนองได้ทัน หอกสายฟ้าผลักร่างของเธอกระเด็นไปไกลและแทงทะลุออกไปอีกด้านหนึ่ง ก่อนที่หอกสายฟ้าจะระเบิดออกเป็นคลื่นสายฟ้าอย่างรุนแรง
ตูม! คลื่นสายฟ้าระเบิดกลืนร่างของผู้พิทักษ์หลันไปจนหมด
“ใคร!”ผู้พิทักษ์เฉินหน้าซีด เขาหันไปมองไปยังทิศทางที่หินถูกโยนลงมา ด้านบนเหมืองที่ถูกทิ้งร้าง เห็นร่างของชายสูง 2 เมตร ที่มีผิวหนังของเขากลายเป็นสีแดงดำเหมือนสีเลือดหมู ทั่วร่างของเขาส่องประกายสีทองอาบทั่วร่าง
เนี่ยฟูหานจดจำใบหน้าของคนบนนั้นได้ทันที เพราะเขาพิ่งแยกจากอีกฝ่ายไม่กี่นาทีก่อนหน้า
เฉินหู!
เฉินหูไม่สนใจว่าจะมีใครกังเกตเห็นตัวเอง เขายกก้อนหินขนาดเล็ก 1.5 เมตร โยนลงมาอีกก้อน ก่อนที่เขาจะปาอีกก้อนโดยไม่พักจังหวะหายใจ เขาเหมือนเครื่องจักร เขาปาก้อนหินลงมาเรื่อยๆ
ผู้พิทักษ์เฉินเตะเท้าใช้คมมีดสายลม ทำลายก่อนหินที่ถูกโยนลงมา แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร เนี่ยฟูหายก็กลายเป็นลำแสงสายฟ้า กรงเล็บสายฟ้าสีม่วงทะลวงเข้ามาอย่างดุร้าย
ผู้พิทักษ์เฉินกัดฟันด้วยความโกรธ ตะโกนสั่งให้คนขององค์กรที่อยู่รอบๆขึ้นไปจัดการคนด้านบน
“หยุดมันซะ!!!”
คนขององค์กรพากันวิ่งขึ้นเหมือง
เฉินหูเห็นว่าไม่สามารถทำอะไรผู้พิทักษ์เฉินได้ เขาจึงขว้างก้อนหินลงไปใส่กลุ่มคนที่กำลังจะขึ้นมา
กลายเป็นการต่อสู้สองทาง
เนี่ยฟูหานเหลือบมองไปยังเฉินหู ขอบคุณเฉินหูในใจ ก่อนที่จะใช้พลังเต็มที่เพื่อรีบจบการต่อสู้ และไปช่วยเฉินหู
แต่น่าเสียดายที่เขาใช้พลังเยอะเกินไป ทำให้เขาไม่ได้เปรียบผู้พิทักษ์เฉินมากนัก และผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก ที่อยู่ตรงนั้นก็เรียกอวตารดาบสีแดงออกมา เข้าช่วยเหลือผู้พิทักษ์เฉิน ทำให้การต่อสู้ของเจากลายเป็นตึงมือ
ทำให้เขาและเฉินหูต่างก็ตกอยู่ในอันตราย
แต่ในตอนนั้นเอง
แผ่นยันต์หลายสิบใบ ลอยลงมาพร้อมกับสายฝน ก่อนที่มันจะถูกเผาไหม้ด้วยแผ่วไฟสีเขียว โดยที่ไม่มีใครได้ตั้งตัว พื้นที่ทั้งหมดก็เกิดระเบิดเพลิงรุนแรง
ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!! ระเบิดนับไม่ถ้วนคำรามกึกก้อง ดังสนั่นไปหลายสิบกิโลเมตร แม้แต่คนที่อยู่ในเมืองเทียนจิงก็ยังได้ยินเสียงระเบิด
คนที่อยู่บริเวณนั้นถ้าไม่ถูกระเบิด โจมตี ก็ต้องถูกเสียงระเบิด ทำให้หูอื้ออึง ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
ในตอนนั้นเอง จิวโมไป๋ที่ถือกระบี่เลือนเร้น ก็พุ่งทะยานจากอีกด้านเข้าช่วยเหลือ
—-