“นี่มัน…”เห็นการเคลื่อนไหวของคามูระ อิโทซะ จิวโมไป๋อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง มันเร็วเกินไปจนเขาไม่สามารถใช้สายตามองตามได้ทัน เขาจึงต้องใช้จิตสัมผัสติดตามการเคลื่อนไหว
วิชาดาบของคามูระ อิโทซะความเร็วเหนือเสียงนั้นน่าชื่มชม แต่เขาก็ไม่ประหลาดใจนัก เพราะในมิติอื่นๆก็มีผู้บ่มเพาะพลังในระดับสร้างฐานที่สามารถโจมตีด้วยความเร็วเหนือเสียงมากมาย แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้บ่มเพาะพลังของสำนักที่แข็งแกร่งก็ตาม
แต่การที่คามูระ อิโทซะสามารถเคลื่อนไหวร่างการพร้อมกับโจมตีด้วยความเร็วเหนือเสียงนั้น เป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงอย่างแท้จริง!
แม้ว่าร่างกายของมนุษย์จะสามารถฝึกฝน เพื่อพัฒนาได้อย่างไร้ขีดเจำกัด แต่มันก็มีขีดจำกัดในแต่ละระดับการบ่มเพาะพลัง ที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้
ความเร็วสูงสุดของผู้บ่มเพาะพลังระดับสร้างฐานที่สามารถควบคุมได้ จะอยู่ที่ความเร็วเสียงเท่านั้น ไม่มีใครสามารถฝ่ากำแพงความเร็วนี้ไปได้ เพราะประสาทสัมผัสจะไม่สามารถติดตามร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ทัน
แม้แต่ผู้ฝึกตนสองเส้นทางที่ฝึกเคล็ดบ่มเพาะวิญญาณ ที่เน้นไปที่การเพิ่มประสาทสัมผัสการรับรู้โดยเฉพาะและบ่มเพาะพลังสายร่างกาย จนมีร่างกายและประสาทสัมผัสที่แข็งแกร่ง ก็ไม่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือเสียงได้
ในระดับสร้างฐาน การเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือเสียงมันึงเป็นเพียงตำนาน!
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบร่างของนาคามูระ อิโทซะ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเขามองเห็นว่าการเคลื่อนไหวของคามูระ อิโทซะนั้นดูแปลก ผิดธรรมชาติ เหมือนกับว่าเขาไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้
แต่ทุกการเคลื่อนไหวและการโจมตีของคามูระ อิโทซะมันผสานกันอย่างลงตัว ทุกการโจมตีต่อเนื่องไม่มีความผิดพลาดราวกับว่าการเคลื่อนไหวที่ดูผิดปกติ มันสมควรเป็นอย่างนั้น!
การเคลื่อนไหวของนาคามูระ อิโทซะ สามารถโจมตีเข้าใส่คาราสุเทนงูทุกครั้ง โดยที่ไม่ผิดพลาดอย่างน่าอัศจรรย์!
จิวโมไป๋ยิ่งคิดยิ่งงุนงง ถ้านาคามูระ อิโทซะ สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียงได้จริงๆ เขาถือว่าเป็นอัจฉริยะระดับปีศาจของมิติทั้งหมด!
นาคามูระ คิโยมิเห็นว่าจิวโมไป๋สามารถมองตามการต่อสู้ได้ทันเธอประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจอธิบายความสามารถของเธอให้จิวโมไป๋ได้รู้
“นั้นคือผลจากความสามารถของฉัน มันคือ โชคดี ทุกคนที่เป็นพันธมิตรจะได้รับพรแห่งโชคดี ผลของมันจะช่วยเหลือในสถานการณ์ที่อันตราย ทำให้รอดจากอันตรายไปได้อย่างคาดไม่ถึง และทำให้การโจมตีแม่นยำขึ้น แม้ว่าจะโจมตีมั่วๆก็ตาม”นาคามูระ คิโยมิอธิบายแค่คร่าวๆไม่อธิบายทั้งหมด เพราะความสามารถของเธอมันคาดเดาอะไรไม่ได้และดูเกินจริง เธอมองไปยังจิวโมไป๋เล็กน้อยก่อนจะอธิบายซ้ำกลัวไม่เข้าใจ”พูดง่ายๆก็คือมันเป็นความสามารถในการสนับสนุน ช่วยให้การต่อสู้ได้ดีขึ้น”
จิวโมไป๋ได้ฟังก็ตกตะลึงไปอีกครั้ง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีพลังที่สามารถใช้พลังของโชคได้ เพราะ โชค เป็นหนึ่งในพลังแห่งนามธรรมอันแข็งแกร่ง มันไม่ได้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งโดยตรง แต่มันจะช่วยสนับสนุนหรืออาจทำให้แย่ขึ้นกว่าเดิมในสถานการณ์ต่างๆ
โชค จึงเป็นพลังที่ไม่สามารถคาดเดาได้
โชค ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ แต่มันมีอยู่ในทุกสิ่ง โชคในบางสิ่งจะมีมากหรือน้อยไม่เท่ากัน ตัวอย่าง เช่นคนมีโชคดี เขาสามารถสุ่มเลขได้เลขตามที่ต้องการทุกๆครั้ง คนที่มีโชคร้าย เขาสุ่มเลขไม่ว่าจะกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยถูก
คนที่โชคดี ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็มักจะสำเร็จ แม้ว่าจะมีอุปสรรคบางอย่างเกิดขึ้น สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ คนที่โชคร้าย เขาจะพบกับความผิดบ่อยๆแม้ว่าจะพยายามแก้ไขก็ตาม
เมื่อเขาได้เดินทางผ่านมิติต่างๆ เขาได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของมิติเหล่านั้น ทำให้เขาได้รู้ว่าในแต่ละมิติมักจะมีบุคคลที่ทีโชคมหาศาล พวกเขาจะเกิดในช่วงเวลาที่มิติของพวกเขาจะต้องพบกับความยากลำบาก คนเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า บุตรแห่งสวรรค์
บุตรแห่งสวรรค์ พวกเขาเกิดมาพร้อมโชคอันแข็งแกร่ง พวกเขามักจะโชคดีอย่างไร้เหตุผล
พวกเขามีโอกาสได้พบกับสิ่งของล้ำค่าได้อย่างง่ายดาย แค่เดินเล่นพวกเขาอาจแตะเข้ากับสมบัติสวรรค์ที่วางอยู่บนพื้น หรือซื้อของสุ่มๆอาจพบมรดกโบราณ หรือแม้แต่ฝึกวิชาไม่สมบูรณ์ วิชาที่ไม่มีใครสนใจ หรือวิชาขยะ วิชาเหล่านั้นอาจกลายเป็นสุดยอดวิชาชั้นเลิศ
เมื่อพบอันตราย พวกเขาก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างไร้ที่มา เช่นกำลังจะถูกฆ่าอยู่ๆก็มียอดฝีมือที่ถูกชะตาจึงคิดรับศิษย์จึงเข้ามาช่วย หรือมียอดฝีมือที่เป็นคนรู้จักของพ่อ แม่ หรือญาติคนใดคนหนึ่งที่พอดีมาพบและเข้าช่วยเหลือ หรือเป็นคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือมาตอบแทนบุญคุณ
ถ้าไม่มีใครช่วยก็สามารถรอดพ้นอันตรายได้อย่างคาดไม่ถึง เช่นบังเอิญพบกับสมบัติหรือทางลับที่ทำให้สามารถหลบหนีไปได้ หรือบริเวณนั้นมีการต่อสู้และบังเอิญพวกเขาต้องไปเกี่ยวข้องด้วย ทำให้มีโอกาสหลบหนี หรือคู่ต่อสู้ปล่อยให้รอดชีวิต เพราะต้องการให้พบกับความเจ็บปวด อาจถูกทำให้พิการ หรือทำลายการบ่มเพาะพลัง
แต่ไม่ว่าจะพบอุปสรรคอะไรบุตรแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถถูกฆ่าได้ พวกเขาจะสามารถรอดพ้นจากอันตราย และฟื้นกลับมาด้วยความแข็งแกร่งที่มากขึ้นเสมอ
พลังแห่งโชคอันมหาศาลของบุตรแห่งสวรรค์นั้นไร้เหตุผล จนน่าอิจฉา
อย่างเช่นจี้อย่างเฟย บุตรแห่งสวรรค์ของมิติโลกนี้ แม้จุดเริ่มต้นของเขาจะน่าเศร้า เขาก็สามารถพัฒนาอย่างรวดเร็ว เขาได้ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ทะยานสู่สวรรค์ และสุดท้ายเขาก็เป็นผู้ช่วยโลกให้พ้นจากอันตราย
นี้จึงเป็นเหตุผลที่เขามักจะเรียก จี้หยางเฟยว่าพระเอก…
เหล่าคนที่มีโชคดี มักจะเป็นที่อิจฉาของผู้คน
แม้ว่าทุกสิ่งจะเกิดมาพร้อมกับโชคที่ผูกมัดไว้ แต่ก็มีวิธีเพิ่มโชคหรือลดโชคอยู่คือการสร้างบุญสะสมกรรมดี จะได้รับโชคที่ดี ถ้าทำความชั่ว ทำสิ่งเลวร้าย จะสะสมกรรมชั่ว โชคดีจะลดลงจนกลายเป็นโชคร้ายได้
การที่เขาทำความดีสังหารคนชั่ว ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขาต้องการสะสมโชค
หลังจากเกิดใหม่เขาได้สะสมกรรมดีมากมาย ทำให้เขามักจะพบสมบัติล้ำค่าอย่างคาดไม่ถึง แตกต่างจากก่อนเกิดใหม่อย่างสิ้นเชิง เขาจึงมั่นใจว่าการสะสมกรรมดี ช่วยเพิ่มโชคจริงๆ
แม้ว่าจะไม่โชคดีอย่างไร้เหตุผลเหมือนบุตรแห่งสวรรค์ แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้เขาไม่ต้องพบกับความยากลำบาก เหมือนก่อนย้อนเวลา แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว
—
ตอนนี้อธิบายเหตุผลว่าทำไมจิวโมไป๋ มักจะเรียกจี้หยางเฟยว่าพระเอก และบอกถึงประโยชน์ในการทำความดีของจิวโมไป๋^^
วันนี้ลง 3 ตอนครับ
มีอะไรก็สามารถติชม แสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ
1 ความคิดเห็นเท่ากับ 1 กำลังใจ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ^ ^