อาคารสูงสองหลัง ตั้งอยู่ด้านซ้ายและขวาของสนามประลอง เป็นอาคารสำหรับชมการประลอง อาคารสูงฝั่งซ้ายสำหรับผู้อาวุโสหรือบุคคลสำคัญของสำหนัก อาคารสูงฝั่งขวามีไว้สำหรับแขกชั้นสูงที่เข้ามาชมการประลอง
อาคารฝั่งซ้ายมีทั้งหมด 3 ชั้น
ทุกชั้นด้านหน้าเป็นกระจกด้านเดียวบานใหญ่ สามารถมองจากภายในออกไป ฝั่งด้านนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้
ชั้น 2 ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่มีนั่งเบาะนุ่มนับร้อยเรียงลำดับไล่ขึ้นไป ทำให้ทุกที่นั่งสามารถมองการประลองได้
ภายในห้องมีคนนั่งอยู่เพียง 6 คน แต่ละคนแบ่งกลุ่มแยกกันนั่งคนละด้าน ทำให้ห้องที่กว้างใหญ่ดูเงียบเหงาวังเวง
ด้านหลังสุดทางซ้ายนาคามูระ อิโทซะนั่งแยกออกจากผู้คนไม่สุงสิงกับใคร บนตักของเขามีแมวสีดำสนิทนอนหลับตาพริ้ม ยอมรับการลูบเบาๆที่คางอย่างสบายใจ
ด้านหลังสุดทางขวาซากายะ อิซาชินั่งหลับตาอย่างเงียบสงบ ตัดขาดจากทุกสิ่งในห้อง
ทั้งสองต่างก็ปลีกตัวออกห่างจากคนอื่นๆ ไม่ยุ่งกับใคร
ด้านหน้าตรงกลาง กลุ่มที่นำโดยหญิงสาวร่างสูงโปร่งใบหน้างดงามยั่วยวน ราวสุนัขจิ้งจอกจ้าวเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนหลงใหลมัวเมา
ที่นั่งด้านข้างของหญิงสาวทั้งสองด้านมีชายหนุ่มฝาแฝดที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกันไม่มีผิด พวกเขานั่งประกบคอยคุ้มกัน ดูแล เอาใจใส่หญิงสาว ราวคนรับใช้ เมื่อหญิงสาวต้องการอะไร ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ขนม หรือเครื่องสำอาง พวกเขาสามารถหยิบออกมาได้ทันที ราวกับมีกระเป๋าวิเศษ
หญิงสาวมองไปที่สนามประลองด้วยความเบื่อหน่าย จนถึงตอนที่ทาเคยูชิเดินเข้าไปหาจิวโมไป๋และท้าสู้ เธอก็ยกยิ้มอย่างงดงามและหันไปทางขวา ดวงตาเป็นประกายแวววาว และกล่าวขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง น้ำเสียงหวานใสเย้ายวน
“ทาคาฮิโระ ดูเหมือนว่าพี่ชายของนายจะพบคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดานะ”
ที่นั่งห่างออกไปสิบที่นั่ง ถูกนั่งโดยชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา ใบหน้าของเขามีความคล้ายคลึงกับอิชิดะ ทาเคยูชิที่กำลังต่อสู้กับจิวโมไป๋อยู่ 7 ใน 8 ส่วน
ชายหนุ่มไม่สนใจน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยพลังลึกลับของหญิงสาวแม้แต่น้อย จิตใจของเขาแข็งแกร่งดุจหินผา พลังลึบลับไม่สามารถสั่นคลอนจิตใจของเขาได้
“ผู้บ่มเพาะพลังประเทศมังกร มีดีเพียงแค่ร่างกายที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาอ่อนแอจนน่าตลก เทียบได้กับเด็กที่เริ่มหัดต่อสู้เท่านั้น แม้ว่าทาเคยูชิจะเป็นแค่ขยะ ความสามารถในวิถีดาบของเขาก็พอที่จะใช้ประโยชน์ เช่นผ่าฟืน ตัดหญ้า แค่นี้คงพอที่จะเอาชนะได้ ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะได้ เขาควรจะพิจารณาตัวเองว่าสมควรที่จะใช้นามสกุลอิชิดะหรือไม่”ทาคาฮิโระมองลงไปยังพี่ชายของตัวเองและจิวโมไป๋ด้วยสายตาดูแคลน นอกจากคิยูมิ ผู้บ่มเพาะพลังรุ่นเดียวกันในสายตาของเขาเป็นแค่พวกไก่ ที่อ่อนแอ
แม้แต่อัจฉริยะของสำนักอื่นๆก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา ที่เขามีความคิดอย่างนี้ก็เพราะ ในตอนนี้เขามีอายุเพียง 19 ปี เขาอายุน้อยกว่าอัจฉริยะรุ่นใหม่ของประเทศเกาะถึง 1-3 ปี ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่อันดับ 4 ของสำนัก
ด้วยพรสวรรค์อันแข็งแกร่งของเขา ไม่นานเขาก็สามารถเอาชนะผู้ที่ถูกยกย่องว่าอัจฉริยะคนอื่นๆและสามารถนำหน้าแย่งชิงตำแหน่งผู้แข็งแกร่งที่สุดมาครองได้ เขาแค่ต้องสะสมพลังและรอเวลาเท่านั้น แววตาของอิชิดะ ทาคาฮิโระเป็นประกายวาวโรจน์
หญิงสาวสามารถอ่านความคิดของทาคาฮิโระได้อย่างง่ายดาย เธอยิ้มเยาะในใจ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหวานใส
“ทาคาฮิโระนายไม่สงสัยเหรอว่าทำไมคิยูมิถึงไม่มา ถ้าเธอไม่มาสิทธิ์เข้าโบราณสถานจะว่าง 1 ตำแหน่ง แต่น่าแปลกที่ผู้อาวุโสนอกนาคามูระ ไม่พูดถึงตำแหน่งที่ว่างเลย หรือว่า…”หญิงสาวลากเสียงช้าๆก่อนจะยิ้มยั่วยวน
“เธอตายแล้ว”
ทาคาฮิโระนิ่งเล็กน้อย หันไปมองอิโทซะที่เล่นกับแมวไม่สนใจโลก เขาย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองหญิงสาวด้วยแววตาดูแคลน
“มิซากิ ริกะ ฉันจะพูดอีกครั้ง คิยูมิ เป็นของฉัน ห้ามคิดร้ายใดๆกับเธอ ถ้าไม่ฟังละก็…”
ยังไม่ทันทีทาคาฮิโระจะพูดจบ ชายหนุ่มฝาแฝดที่นั่งอยู่ก็ชักดาบคาตานะออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ประกายแสงสีเงินสองเส้นส่องประกายวาบพุ่งไปที่ทาคาฮิโระด้วยความเร็ว
ทาคาฮิโระนั่งนิ่งไม่ขยับ คมดาบสองเล่มหยุดกึก ห่างจากใบหน้าของเขาเพียง 2 นิ้ว ทาคาฮิโระมองผ่านใบดาบคาตานะทั้งสองเล่ม ไปยังชายหนุ่มฝาแฝดสองคน ที่ยืนบังร่างของริกะเอาไว้
“อากิฮิโกะ อากิฮิโระ พวกนายต้องการที่จะเป็นศัตรูกับฉัน?”จบคำ ร่างของทาคาฮิโระก็ระเบิดพลังกดดันอันทรงพลังออกมา
ใบหน้าของชายหนุ่มฝาแฝดทั้งสองยังคงเรียบเฉย พวกเขามองทาคาฮิโระอย่างไม่กลัวเกรง พลังกดดันของพวกเขาทั้งสองระเบิดออก ปะทะเข้ากับพลังกดดันของทาคาฮิโระ
อากาศที่ว่างเปล่าระหว่างทั้งสามคน เกิดการบิดเบี้ยว
อิโทซะที่กำลังลูบแมวดำอยู่หยุดมือลง เขามีประสาทสัมผัสที่แข็งแกร่ง แม้จะนั่งอยู่ไกล เขาก็ได้ยินคำพูดของทาคาฮิโระอย่างชัดเจน พลังกดดันอันทรงพลันพลังระเบิดออกมาจากร่างของเขา ทำลายพลังกดดันของทั้งสามคนจนแตกกระจายอย่างง่ายดาย!
ใบหน้าของทาคาฮิโระและชายหนุ่มฝาแฝดเปลี่ยนไปทันที
พลังของผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตต้น เป็นพลังที่พวกเขาในตอนนี้ไม่สามารถต่อสู้ได้เลย
“น้องสาวของฉันไม่ใช่ของใครทั้งนั้น อย่าคิดและพูดถึงน้องสาวของฉันอีก ไม่อย่างนั้นละก็”อิโทซะกล่าวอย่างช้าๆด้วยนำเสียงราบเรียบ แต่พลังกดดันที่แผ่ออกมาทำให้ทุกคนไม่กล้าพูด
ริกะที่ชมการแสดงอยู่ข้างสนาม หัวเราะเยาะในใจ เธอยกมือขึ้น พลังกดดันของอิโทซะเบาลง อากิฮิโกะ อากิฮิโระพ้นลมหายใจออกมา พวกเขามองอิโทซะ ก่อนจะถอยไปยืนข้างๆริกะ
อิโทซะไม่สนใจทั้งสอง เขามองไปยังทาคาฮิโระไม่ยอมปล่อย
ทาคาฮิโระยิ้มขมขื่นสองมือกำแน่น ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เขาทำอะไรไม่ได้ความแข็งแกร่งของเขาน้อยกว่าอีกฝ่าย เขาได้แต่เก็บงำความแค้นเอาไว้ เมื่อระดับการบ่มเพาะพลังของเขาสูงกว่าอีกฝ่าย เขาจะทำให้อิโทซะร้องขอชีวิต
—-