ในที่สุดเขาก็มั่นใจว่าความสามารถสุดยอดการฟื้นฟู ที่สามารถรักษาบาดแผลอย่างรวดเร็ว มันเป็นความสามารถที่เกิดจากสายเลือดของเขาจริงๆ ไม่ได้เป็นความสามารถฟื้นฟูของสายเลือดมังกร
หลังจากถูกโลหิตมังกรบดบังอยู่นาน ความสามารถสุดยอดการฟื้นฟู ในตอนนี้ดูเหมือนจะพัฒนาและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก มันถึงขั้นสามารถฟื้นฟูความเหนื่อยล้าได้ แต่ก็แลกมาด้วยความหิวอันรุนแรง
เขาอยากจะทดสอบดูว่าความสามารถสุดยอดการฟื้นฟู สามารถรักษาบาดแผลได้เร็วขึ้นแค่ไหน แต่เขาต้องห้ามตัวเองเอาไว้ เพราะในตอนนี้กำลังอยู่ในการประลอง มีสายตามองมาที่เขาอยู่
รอกลับประเทศมังกรก่อน เขาตรวจสอบร่างกายตัวเองอย่างละเอียด
จิวโมไป๋สงบใจลงได้ เขาก็ถอนหายใจด้วยความพอใจ แม้ว่าพละกำลังอันแข็งแกร่งจะหายไป แต่เขาได้รับความสามารถสุดยอดการฟื้นฟูเข้ามาแทน เมื่อรวมเข้ากับกฎแห่งธาตุไม้ ความสามารถในการเอาชีวิตรอดของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
เขาอดคิดไม่ได้ว่า เมื่อเขาพัฒนาความสามารถสายเลือด สุดยอดการฟื้นฟูจนแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่อสายเลือดมังกรถูกปลุกขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น!
ฟู ฟู ฟู เสียงหายใจอย่างหนักดังเรียกสติ จิวโมไป๋หันไปมองทาเคยูชิที่ควรจะหมดแรงแล้ว
ทาเคยูชิหลับตา สูดลมหายใจด้วยจังหวะที่แปลกประหลาด ลมหายใจหนักถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดไอสีขาวพ้นออกมาจากจมูกและปาก เส้นเลือดสีเขียวม่วงปูดขึ้นตามร่างกาย ผิวขาวบางค่อยๆกลายเป็นสีแดงก่ำ
พลังกดดันที่ปั่นป่วนบ้าคลั่งถูกดึงกลับเข้าร่างจนสนามประลองสงบลง
หงหยุนและหงเฟยและคู่ต่อสู้ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ พวกเขาหยุดการต่อสู้และหันมามอง
ทุกสายตามองไปยังร่างของทาเคยูชิพร้อมกัน
พันเอกนาคามูระเผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่มองไปยังร่างของทาเคยูชิฉายแววประหลาดใจอย่างมาก
“หรือว่าเป็นวิชานั้น? เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครสามารถฝึกฝนวิชานั้นได้!”
ฟู ฟู ฟู! ฟู! ฮึม! ทาเคยูชิลืมตาขึ้น นัยน์ตาหรี่เล็กลงแปร่งประกายเจิดจ้า ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ไอน้ำสีขาวปกคลุมทั่วร่างราวกับใส่ผ้าคลุม พลังกดดันอันทรงพลังพุ่งระเบิดออกมาอย่างรุนแรง เกิดเงาลวงตาคล้ายใบดาบสีแดงม่วงยาว 5 เมตร กลิ่นอายแหลมคมแผ่กระจายออก เกิดสายลมพัดออกโดยรอบ สายลมเมื่อกระทบพื้นสนามประลองก็จะเกิดรอยบาดลึกนับไม่ถ้วน
จิวโมไป๋ควงพลองเหล็กต้านสายลม ก่อนจะถอยล้นสลายการโจมตี
หงหยุน หงเฟย และคู่ต้องสู้ของพวกเขา เห็นสายลมพัดเข้ามาก็ออกกระบวนท่าป้องกัน แต่ก็ถูกสายลมฟาดฟันจนเกิดบาดแผลมากมายทั่วร่าง ก่อนจะถูกกระแทกออกจากสนามประลอง
เจ้าอาวาสหงหมิงรีบเข้าไปดูศิษย์ทั้งสองของเขา
ศิษย์สำนักดาบสายฟ้าคำรณที่อยู่บนสนามประลองห่างออกไปอีกด้าน ก็ถูกสายลมดาบฟาดฟันจนต้องยอมกระโดดออกจากสนามประลองอย่างช่วยไม่ได้
ทุกคนต่างมีบาดแผลน้อยใหญ่ตามร่างกาย
คนที่ยังมีแรงมองไปยังบนสนามประลองด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาไม่ละสายตา เพราะการต่อสู้ครั้งต่อไปจะเป็นการต่อสู้ชี้ขาด
พันเอกนาคามูระแผ่พลังกดดันออกมาต้าน แท่นสูงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายก็ต้านเอาไว้ได้ ดวงตาแหลมคมมองไปยังร่างของทาเคยูชิด้วยความตกใจ
“เป็นวิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ(เทพแห่งไฟและฟ้าแลบ)จริงๆ ไม่คิดเลยว่าทาเคยูชิจะสามารถทนรับวิชานี้ได้!”
เคล็ดบ่มเพาะพลังของประเทศเกาะจะเป็นการกำหนดลมหายใจ คล้ายกับการหายใจอัศวินของประเทศตะวันตก แต่จะแตกต่างกัน ตรงที่การกำหนดลมหายใจของประเทศเกาะจะเน้นไปที่การฝึกจิตใจ การหายใจอัศวินจะเน้นไปที่ร่างกาย
ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังของประเทศเกาะมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 แข็งแกร่ง แต่ร่างกายอ่อนแอ เพราะการกำหนดลมหายใจจะฝึกฝนโดยการนั่งสมาธิ เพ่งสติไปที่จิตใจทำให้จิตใจสงบ ปลุกเร้าประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่เน้นร่างกาย
การฝึกฝนร่างกายมีเพียงการฝึกวิชาหลอมกายา หรือวิชาต่อสู้ แต่ผลของมันน้อยมาก เมื่อเทียบกับการผู้บ่มเพาะพลังของประเทศอื่น ฝึกฝนวิชาเดียวกัน
ทำให้ต้องใช้ความพยายามมากกว่าผู้บ่มเพาะพลังประเทศอื่น
ด้วยความยากลำบากที่ไม่จำเป็น ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังประเทศเกาะเลิกที่จะฝึกฝนร่างกายในที่สุด
วิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ เป็นเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังกึ่งวิชาต่อสู้
องประกอบลักในการสร้างมันคือการผสานการกำหนดลมหายใจ(สงบ)เข้ากับวิชาต่อสู้(เคลื่อนไหว) เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถสร้างปลุกเร้าประสาทสัมผัสทั้ง 5 พร้อมกับสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายไปพร้อมกันได้ เพื่อขยัดจุดอ่อนของการกำหนดลมหายใจ
แต่การผสานความสงบและเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!
เมื่อตั้งสมาธิ จิตใจสงบ เมื่อขยับร่างกายจะถูกปลุกให้เคลื่อนไหว ทั้งสองสิ่งเป็นความขัดแย้งไม่สามารถไปพร้อมกันได้
ทำให้ตั้งแต่สร้างวิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ แทบจะไม่มีใครสามารถฝึกฝนได้เลย ถ้าฝืนฝึกฝน จะทำให้สมาธิแตกซ่านกลายเป็นบ้า หรือทำให้อวัยวะภายในเสียหายอย่างรุนแรง
ในช่วงพันปีที่ผ่านมามีแค่ 2 คนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ แต่ฝึกฝนได้เพียงพื้นฐานเท่านั้น ไม่แม้แต่ผ่านขั้นแรกได้
ทั้ง 2 คนมีลักษณะเหมือนกันคือพวกเขาเกิดมามีร่างกายอันแข็งแกร่งทรงพลัง
ทำให้สามารถระบุได้ว่าผู้ฝึกวิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิจะต้องมีพละกำลังอันแข็งแกร่ง หรือมีร่างกายที่เหนือกว่าคนทั่วไป
แต่ถึงแม้จะฝึกฝนได้ แต่ก็แค่พื้นฐาน ไม่สามารถฝึกฝนต่อไปได้อยู่ดี ทั้งสองคนที่สามารถฝึกฝนพื้นฐานได้ สุดท้ายก็ร่างกายแตกตายหลังจากใช้เคล็ดวิชา
จนในที่สุดวิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิก็ถูกจัดให้เป็นวิชาต้องห้าม
พันเอกนาคามูระขยับร่างกายจะเข้าไปหยุด เขาไม่อยากให้ทาเคยูชิฝืนใช้วิชาต้องห้าม จนร่างกายระเบิดตายเหมือนผู้สำเร็จวิชา 2 คน ก่อนหน้า
แต่ก่อนที่เขาจะขยับ
ทาเคยูชิก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าก่อนจะเหยียบลงพื้นอย่างแรง
เปรี้ยง! พื้นแตกร้าวอย่างน่ากลัว ก่อนที่ทาเคยูชิจะชักดาบและฟันลงด้วยความเร็วสูง เงาดาบสีแดงม้วงกระพริบวูบหนึ่งก่อนฟันลงไปยังไหล่ขวาของจิวโมไป๋ทันที
ฉัวะ! แขนขวาของจิวโมไป๋ถูกตัดออก ก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋จะสลายหายไป
ร่างเงาภูติ!
วูบ จิวโมไป๋ปรากฏตัวที่ด้านหลังของทาเคยูชิ เขาไม่รอช้าฟาดพลองเหล็กไปที่หลังอย่างไม่อ้อมแรง พลังกดดันหลอมรวมไปที่พลองเหล็กจนเกิดเงาพลองเหล็กขนาดใหญ่ฟาดลงไป
ทาเคยูชิเหวี่ยงแขนฟันกลับมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายแดงก่ำของเขาเริ่มปริแตกเลือดสีแดงสดไหลดาบทั่วร่างอย่างน่ากลัว
เปรี้ยง! พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นพลังกวาดออกโดยรอบ สนามประลองพังทะลายเป็นชิ้นๆ ฝุ่นพุ้งกระจายปกคลุมไปทั่ว
ร่างของจิวโมไป๋หายวับไปจากสายตา
ทาเคยูชิตกลงไปตามรอยแตก ร่างของเขาซวนเซไม่มั่นคง ร่างกายของเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดของเคล็ดวิชาต้องห้ามแล้ว
ทาเคยูชิกัดฟันแน่ เขาอดทนความเจ็บปวดอย่างดื้อด้านสายตากวาดมองหาจิวโมไป๋ เงาลวงตาใบดาบม่วงแดงเริ่มไม่มั่นคงใกล้จะสลายหายไปได้ทุกเมื่อ
ตึง! เสียงกระทบบางอย่างดังด้านขวาทาเคยูชิ ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเขาไม่ขยับ ก่อนจะฟันไปด้านซ้าย ด้วยคมดาบสุดท้าย
เงาดาบแดงม่วงอันแหลมคมตัดฝุ่นที่พุ้งกระจายเป็นทาง ตัดไปที่เงาดำเลือนลาง
ฉัวะ! เสียงตัดบางสิ่งบางอย่างดังขึ้น
ฝุ่นที่พุ้งกระจายถูกพัดออก ดวงตาของทาเคยูชิหดลง เห็นเพียงพลองเหล็กที่ถูกตัดขึ้นครึ่ง
วูบบบ จิวโมไป๋ปรากฏตัวที่หลังของทาเคยูชิ เขายกหมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังกดดันอันทรงพลังและชกออกมา
ทาเคยูชิไม่เหลือแรงที่จะหันกลับมาป้องกันได้แล้ว
หมัดของจิวโมไป๋พุ่งเข้าไปจนเกือบจะถึงตัว
ตูม! พันเอกนาคามูระเข้ามาป้องกันไว้ก่อนที่หมัดจะถึงร่างของทาเคยูชิ
“จบการท้าทาย บนสนามประลองเหลือผู้เข้าท้าทาย 2 คน ดังนั้น สิทธิ์เข้าโบราณสถาน 2 ตำแหน่งจะถูกมอบให้กับผู้ที่เหลืออยู่”
—
เขียนตอนนี้คงรู้แล้วนะครับว่าจิวโมไป๋จะปล้น เอ้ย…ยืมวิชาไหนไป ฮ่าๆ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนนะครับ