ทุกคนก็ลุกขึ้นพร้อมกัน ท่าทางของพวกเขากระตือรือร้นพร้อมที่จะไปทันที
จิวโมไป๋และหงหยุนลุกขึ้นอย่างช้าๆ เจ้าอาวาสหงหมิงและหงเฟยนั่งอยู่กับที่ไม่ได้ลุกขึ้นตาม พวกเขาไม่ได้รับสิทธิ์ พวกเขาจึงไม่สามารถตามไปได้
หงเฟยถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แม้เขาจะทำใจได้แล้ว แต่พอถึงเวลาก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจ
จิวโมไป๋และหงหยุนลุกกล่าวลาเจ้าอาวาสหงหมิง ก่อนจะเดินตามพันเอกนาคามูระออกไป
พันเอกนาคามูระก็ พาไปห้องด้านข้าง ด้านในมีอาวุธมากมาย
พันเอกนาคามูระมอบพลองเหล็กให้กับจิวโมไป๋ใช้เป็นอาวุธ
จิวโมไป๋รับพลองเหล็กมาโดยไม่พูดอะไร และทดสอบเหวี่ยงมัน พลองเหล็กมีน้ำหนักกว่าพลองเหล็กที่สนามประลองเล็กน้อยมา เขาสามารถควงมันได้อย่างสบาย
จากนั้นพวกเขาทั้งหมด ก็ออกจากอาคารรับรอง ท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว ดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวลอยขึ้นบนท้องฟ้า ตามทางเดินโคมไฟถูกจุด ทำให้มีแสงสว่างตามทางเดิน
พันเอกนาคามูระพาพวกเขาเดินลึกออกจากเขตสำนัก ทางเดินเงียบเชียบไร้ผู้คน ยกเว้นจิวโมไป๋และหงหยุนที่มองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง ทุกคนเดินตามทาง เหมือนเคยชินกับเส้นทางนี้
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจพบผู้บ่มเพาะพลังในชุดสีดำ เหมือนยามเฝ้าประตู หลายสิบคนซ่อนตัวอยู่ตามทางเดิน ระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขาอยู่ขั้นที่ 6 โลหิตเป็นอย่างน้อย!
พวกเขาเดินลึกไปจนถึงทางขึ้นแคบๆ พันเอกนาคามูระพาเดินขึ้นไป พวกเขาก็ขึ้นไปถึงส่วนบนของภูเขาสำนัก ที่ราบเรียบเหมือนถูกดัด ในตอนนี้ด้านบนยอดเขากลายเป็นป่าไม้ที่สมบูรณ์
พันเอกนาคามูระพาพวกเขาเดินไป ตามทางเล็กๆตรงไปยังใจกลางของภูเขา ด้านบนไม่มีใครเฝ้าระวังอีก พวกเขาเดินไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงพื้นที่โล่งแห่งแล้ง ใจกลางภูเขา
จิตสัมผัสของจิวโมไป๋ตรวจสอบไปก่อน ก็พบว่าใจกลางภูเขาสำนักมีหลุมสีดำไร้ก้น รอบหลุมมีผู้อาวุโสสำนัก 10 คนล้อมหลุมเอาไว้
พันเอกนาคามูระเดินเข้าไปทำความเคารพ
ผู้อาวุโสเหล่านั้นพยักหน้า กวาดตามองพวกเขาด้วยแววตาไม่พอใจ ก่อนที่ทุกคนจะหยิบหินกำเนิดปราณระดับต่ำออกมาคนละ 1 ก้อน
ในตอนนั้นเองกลิ่นอายบางอย่างก็ปะทุขึ้นด้านล่างหลุม จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถส่งจิตสัมผัสเข้าไปได้ แสดงว่าโบราณสถานด้านล่างมีระดับมากกว่า B ขึ้นไป มันจึงมีเขตแดนป้องกันจิตสัมผัส เหมือนกับโบราณสถานใต้ทะเลสาบ ที่เขาเคยเข้าไปในระหว่างทำภารกิจทดสอบเข้าหน่วยลับ
ผู้อาวุโสทั้งสิบโยนหินกำเนิดปราณลงไปพร้อมกัน ในตอนนั้นเองคลื่นพลังก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง กฏแห่งธาตุสายฟ้าสีม่วงก็พุ่งทะลวงออกมา ขึ้นสู่ท้องฟ้า เมฆสีดำปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วจนปกคลุมท้องฟ้า ปิดกั้นแสงจันทร์ที่ส่องลงมา
หลุมดำปรากฏหมอกสีเทาปิดปากหลุม ในหมอกมีกระแสไฟฟ้าแลบไปมา แต่ตรงใจกลางหมอกมีช่องเล็กๆที่คนสามารถผ่านไปได้
“รีบลงไป มีเวลาในนั้นแค่ 4 ชั่วโมง เก็บเกี่ยวได้แค่ไหนเอาแค่นั้นอย่าโลภจนเกินไป และอย่าต่อสู้กันเองเด็ดขาด ด้านในไม่ใช้สถานที่ง่ายๆ ถ้าไม่ร่วมมือกัน ก็อย่าขัดขวางกันเอง”พันเอกนาคามูระพูดเตือน
ทุกคนพยักหน้า ก่อนจะพากันเดินลงไปปากหลุม อิซาชิเป็นคนแรกที่กระโดดลงไปอย่างไม่เกรงกลัว ริกะและพี่น้องไดอิจิ กระโดดตามไป
หงเฟยหันมาหาจิวโมไป๋เล็กน้อย ก่อนจะกระโดดลงไป
จิวโมไป๋ไม่รีบร้อน เขามองหมอกสายฟ้าด้วยความสนใจ เขารู้สึกเหมือนกับว่า กำลังจะพบโชคครั้งใหญ่ มันเป็นความรู้สึกที่ไร้ที่มาที่ไป เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาคาดเดาว่ามันอาจเป็นเพราะผลบุญมหาศาลทำให้เขาสัมผันได้ถึงโอกาส
ปึก! ไหล่ขวาของเขาก็ถูกชนอย่างแรง แต่ร่างกายของเขายังยืนมั่นคงไม่สั่นไหว จิวโมไป๋เหลือบมองคนชน
“ขอโทษที ฉันเดินไม่ระวัง”ทาคาฮิโระกล่าวขอโทษที่เดินชนจิวโมไป๋ แต่ดวงตาฉายแววเย้ยหยันอย่างชัดเจน เขาเดินไปยังหลุมแล้วกระโดดลงไป
จิวโมไป๋มองตามหลังทาคาฮิโระก่อนจะยิ้มออกมา
ลูกไม้เด็กๆ
เขาสัมผัสพลังบางอย่างตรงไหล่ที่ถูกชนได้ แต่เขาไม่คิดที่จะลบมันออก เขาอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร
อิโทซะเดินมาข้างๆจิวโมไป๋ ก่อนจะก้มหน้ากระซิบแผ่วเบา
“ระวังทาคาฮิโระให้ดี เขาไม่ใช่คนง่ายๆอย่างที่เห็น”
จิวโมไป๋หันมามองอิโทซะด้วยความประหวาดใจ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาเตือนเขาให้ระวังศิษย์สำนักเดียวกัน
อิโทซะไม่สนใจสายตาสงสัยของจิวโมไป๋ เขามองไปยังปากหลุมและพูด
“เมื่อผ่านประตูไปแล้ว ทุกคนจะถูกแยกออกจากกัน ทุกคนจะถูกส่งไปสุ่มๆไปหน้าทางเข้าทั้งหมด 12 ทาง ส่วนใหญ่ทุกคนจะถูกแยกกัน แต่ก็มีโอกาสเล็กน้อย ที่ถูกจะสุ่มไปทางเข้าเดียวกัน”อิโทซะพูดยาวเยียดผิดนิสัย
อิโทซะหันมามองจิวโมไป๋ก่อนจะเตือนครั้งสุดท้าย
“เมื่อผ่านเข้าไปในประตู ต้องระวังให้ดี เตรียมรับการโจมตีทุกเมื่อ และฆ่าให้มากที่สุด”พูดจบอิโทซะก็อุ้มแมวดำกระโดดลงไปทันที ไม่รอให้จิวโมไป๋ได้พูด
จิวโมไป๋ที่ได้ยินก็นิ่งคิดเล็กน้อย เขานึกอะไรบางอย่างได้ ดวงตาก็เป็นประกาย เขาไม่รอช้ากระโดดลงหลุมตามไปทันที
—