เช้าวันต่อมา
เหตุการต่อสู้ระหว่างสำนักดาบเพลิงทลายฟ้าและดาบสายฟ้าคำรณถูกจัดการอย่างรวดเร็ว
สำนักดาบเพลิงทลายฟ้าถูกปรับเงินจำนวนมหาศาลเพื่อชดใช้ให้กับสำนักดาบสายฟ้าคำรณ
บรรพบุรุษดาบเพลิงทลายฟ้าถูกทำลายการบ่มเพาะพลัง และถูกขังในพื้นที่ลับของรัฐบาลประเทศเกาะ
เจ้าสำนักดาบเพลิงทลายฟ้า ถูกส่งตัวเข้าหน่วยพิเศษ ที่ต้องทำภารกิจเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต จำนวน 5 ภารกิจ
ศิษย์ของสำนักดาบเพลิงทลายฟ้าถูกลงโทษไม่ให้ออกจากสำนัก 2 ปี ส่วนผู้อาวุโสจะถูกลงโทษรุนแรงตามตำแหน่ง
ทุกคนที่ได้ยินบทลงโทษต่างก็ส่ายหัว เพราะการโจมตีสำนักดาบสายฟ้าคำรณกลายเป็นโยนหินโดนเท้าตัวเอง
นอกจากจะไม่สามารถกำจัดศัตรูคู่ปรับได้แล้ว สำนักยังสูญเสียบรรพบุรุษที่มีระดับการบ่มเพาะพลังขั้นที่ 9 กำเนิดปราณ ทำให้ความแข็งแกร่งของสำนักลดลงอย่างมาก อาจหลุดออกจาก 10 อันดับแรกด้วยซ้ำ
จิวโมไป๋ เจ้าอาวาสหงหมิง หงหยุน หงเฟย ออกมานอกบ้านพัก
เจ้าอาวาสหงหมิงยังคงชักชวนให้จิวโมไป๋ออกปวช ดวงตาที่จ้องมองเต็มเปรี่ยมไปด้วยความเมตตา อ่อนโยน เขาอยากจะจับจิวโมไป๋กลับสำนักพุทธธรรม เพื่อบวชให้รู้แล้วรู้รอด แต่ด้วยสถานะ เขาไม่สามารถทำอะไรรุนแรงได้ ทำได้เพียงเอยชักชวนด้วยคำพูดเท่านั้น
พวกเรารอไม่นาน หยุนปิงและจี้หยางเฟยก็เดินเข้ามา
เจ้าอาวาสหงหมิงก้มหัวทักทายหยุนปิงอย่างช้าๆ ด้วยความเคารพ
หยุนปิงพยักหน้ารับอย่างสุภาพ
จี้หยางเฟยเดินมาข้างหน้าและพูดกับทุกคน
“พวกเรารีบกลับกันเถอะ ในตอนนี้ประเทศเกาะกำลังจะเข้าสู้สภาวะล็อกดาวน์ประเทศ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ การเข้าและออกประเทศเกาะจะยากขึ้น แม้ว่าเราจะเป็นตัวแทนของประเทศก็ตาม”จี้หยางเฟยอธิบายให้ทุกคนฟัง ก่อนจะหันมามองเจ้าอาวาสหงหมิงด้วยความเคารพและกล่าวต่อ
“ประเทศของเราก็กำลังเชิญยอดฝีมือ ที่มีความสามารถในการกำจัดสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่อรวบรวมยอดฝีมือมากพอ ประเทศก็จะล็อกดาวน์เช่นกัน แต่ตอนนี้ไม่ใครที่สามารถเป็นหัวหน้าควบคุมคนเหล่านี้ได้”
“อมิตาพุทธ ถ้าอาตมาช่วยได้อาตมาจะช่วยให้ถึงที่สุด”เจ้าอาวาสหงหมิงประสานมือกล่าวสัญญา
จี้หยางเฟยกล่าวขอบคุณ ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปทางด้านหนึ่งของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ
ระหว่างทางพวกเขาเห็นทหารของประเทศเกาะและเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆกำลังเคลียร์พื้นที่ เมื่อพวกเขาเดินผ่านก็ถูกมองเล็กน้อย แต่ไม่มีใครพูดอะไร เมื่อพวกเขาไปถึงลานจอดเครื่องบินก็พบเครื่องบินหลายลำ
จิวโมไป๋และคนอื่นๆตามหลังหยุนปิง ไปที่เครื่องบินลำหนึ่งที่มีขนาดไม่ใหญ่ ด้านข้างติดป้ายประเทศมังกร
ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงเครื่องบิน
พันเอกนาคามูระก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางอิดโรย
“ขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยเหลือพวกเรา”
“ไม่เป็นไร”หยุนปิงตอบอย่างเรียบเฉย
“ทางเราอยากจะขอบคุณ ทุกคนจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกคุณ สำนักของเราจะต้องจบสิ้นแล้ว”พันเอกนาคามูระถอนหายใจก่อนจะยื่นอะไรบางอย่างมาให้พวกเรา
“นี้คือป้ายพิเศษ มีไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติ เมื่อพวกคุณมาที่ประเทศเกาะพวกคุณจะสามารถเข้าใช้บริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รถโดยสาร หรือสามารถซื้อสิ่งของ ด้วยส่วนลด 50%”
ทุกคนที่ได้ยินจะปฏิเสธ แต่พันเอกนาคามูระผลักป้ายให้พวกเขา ไม่ยอมเก็บกลับสุดท้ายพวกเขาก็รับมัน
แต่แผ่นป้ายมีแค่ 4 แผ่น
ใบหน้าของหงหยุนและหงเฟยแดงก่ำ พวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย พวกเขาจึงไม่กล้ารับ
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะรับมาอย่างสุภาพ แต่ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่คิดเลยว่าพันเอกนาคามูระจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งระหว่างเขากลับหงหยุนและหงเฟย เขาได้ช่วยเหลืออีกฝ่ายในการต่อสู้ แต่ตอนนี้กับลอบทำลายเขาอย่างนี้ เขาซ่อนความโกรธ ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจ
คนของประเทศเกาะเห็นถึงพรสวรรค์ของเขา พวกเขาคิดว่าในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นยอดฝีมือของประเทศมังกรได้อย่างแน่นอน
พวกเขาไม่ต้องการทำร้ายจิวโมไป๋ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้จิวโมไป่ก้าวหน้าปราศจากความกังวลได้
การหว่านเมล็ดแห่งความขัดแย้งครั้งนี้ แทบจะไม่มีประโยชน์ ถ้าจิวโมไป๋และหงหยุนและหงเฟยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ และยังมีอคติบางอย่าง เพราะหลายครั้งแล้วที่หงดฟยและหงหยุน หนีเอาตัวรอดโดยทิ้งให้คนอื่นต่อสู้
ในอนาคตเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความรู้สึกไม่ลงรอยจะเกิดขึ้น แม้จะไม่ต่อสู้กัน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถร่วมมือกันได้
นี้เรียกว่ายิงปืนไม่หวังผล แต่ก็สามารถทำให้นกตกใจได้
ทุกคนบอกลาพันเอกนาคามูระและขึ้นเครื่องบิน
ในห้องโดยสารไม่มีใครพูดอะไรกัน ทุกคนต่างทำสมาธิ ทุกคนไม่ใช้คนโง่ พวกเขารู้ถึงเจตนาของพันเอกนาคามูระ แต่พวกเขาไม่เอ่ยเตือน บ่อยให้ทั้งสาม คิด ตัดสินใจด้วยตัวเอง
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงประเทศมังกรอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมันมากกว่าตอนขาไปถึง 2 เท่า
เครื่องบินตรงมาที่เขตเพาะพันธุ์หมายเลข 2 ลงจอดที่สำนักงานหลักหน่วยลับเขตใต้
ทุกคนลงจากเครื่องบิน เจ้าอาวาสหงหมิงมองจิวโมไป๋และกล่าว
“อมิตราพุทธ โยมจิวโมไป๋ ถ้าโยมต้องการออกบวช โยมมาหาอาตมาที่สำนักพุทธธรรมได้ทุกเมื่อ อาตมาจะรับโยมเป็นศิษย์สายตรง”
จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบาไม่ตอบ
ใบหน้าของหงหยุนและหงเฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เจ้าอาวาสหงหมิงส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะบอกลาและเดินไปทิศทางหนึ่ง
เหลือเพียงจิวโมไป๋ จี้หยางเฟยและหยุนปิง ทั้งสามมองกันไปมาบรรยากาศกลายเป็นอึดอัด
หยุนปิงมองจิวโมไป๋และกล่าว
“นายตามจี้หยางเฟยไปที่รายงานภารกิจก่อน หลังจากนั้นนายตามจี้หยางเฟยไปรับภารกิจใหม่”
หยุนปิงไม่พูดอะไรมากความ เธอพูดจบก็เดินจากไปทันที