จิวโมไป๋โบกมือเก็บกฎแห่งธาตุไฟกลับเข้าร่าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนถอดเสื้อผ้าที่หมดสภาพเก็บมันไปในแหวนมิติเก็บของ และทำความสะอาดร่างกาย ใส่เสื้อผ้าเหมือนกับชุดที่พึ่งเปลี่ยนไม่มีผิด จากนั้นก็เดินออกจากห้องกลั่นธาตุไฟโดยไม่คิดเสียดายเวลาที่เหลืออยู่
เดินออกจากห้องกลั่นธาตุไฟมาถึงห้องโถง เสียงแหบแห้งเย่อหยิ่งก็ดังเข้าหูแทบจะในทันที
“…ทำไมไม่รับคำท้า หรือว่าไม่กล้าต่อสู้กับคนของฉัน หึ…ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป ชื่อเสียงตระกูลฟง คงกลายเป็นที่หัวเราะจากตระกูลอื่นๆแน่”
จิวโมไป๋หันไปตามเสียงก็เห็นกลุ่มคนห้าคนในชุดคลุมหลากสี กำลังยืนล้อมฟงอี้เฟย ที่ในตอนนี้เขาใส่ชุดคลุมสีเทาธรรมดาสามัญ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉย ดวงตาไร้อารมณ์ แตกต่างจากท่าทางเย่อหยิ่งแต่เดิมอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้เขาเหมือนกับดาบที่ถูกเก็บอยู่ในฝัก ถ้าไม่ชักออกมาก็ไม่มีทางรู้ได้ถึงความแหลมคม
ฝั่งตรงข้ามของฟงอี้เฟย เป็นชายชุดคลุมน้ำเงินอายุ 20 กว่าปี เขากำลังพูดพล่อยเยาะเย้นฟงอี้เฟยอย่างอวดดี ใบหน้าชั่วร้ายแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง แค่มองก็ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
จิวโมไป๋จำชายชุดน้ำเงินได้ทันที ตู่บ่อชา ผู้บ่มเพาะพลังระดับ 7 ไขกระดูกปลาย ที่ถูกเขาจัดการ เมื่อวันที่จ้าวแห่งความมือโจมตีมหาวิทยาลัยเทียนซู
ฟงอี้เฟยที่ทำหูทวนลมไม่สนใจการยั่วยุของตู่บ่อชา หางตาของเขาพลันสังเกตเห็นจิวโมไป๋ที่กำลังเดินออกมาจากห้องกลั่นธาตุไฟ ดวงตาของเขาไหววูบเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่เห็น เขารีบดึงสายตากลับทำเป็นไม่เห็น
เขาไม่อยากให้จิวโมไป๋มีเรื่องผิดใจกับตู่บ่อชา แม้เขาจะไม่เกรงกลัวอิทธิพลเบื้องหลังของตู่บ่อชา แต่ตู่บ่อชาอาจลอบเล่นงานจิวโมไป๋ลับหลังด้วยวิธีชั่วร้ายที่เขาไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นเขาจึงละทิ้งการเฝ้ารอจิวโมไป๋กว่า 2 ชั่วโมงอย่างเด็ดขาด
แต่อาการผิดปกติของฟงอี้เฟย ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของตู่บ่อชาไปได้ แม้ว่าเขาจะใช้โอสถเพื่อเลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ยังเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลาย ความผิดปกติที่ฟงอี้เฟยแสดงออกไม่สามารถหนีรอดจากการจ้องมองเขาไปได้
ตู่บ่อชาหันไปทางที่ฟงอี้เฟยมองไป เขาก็เห็นจิวโมไป๋เข้าพอดี ดวงตาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย เขาได้ข่าวมาว่าฟงอี้เฟยถูกเอาชนะ 3 ครั้งจากคนที่มีระดับการบ่มเพาะพลังน้อยกว่า ซึ้งตามกฎของตระกูลฟง ฟงอี้เฟยจะต้องกลายเป็นคนรับใช้ของผู้ชนะ
เขาที่วางแผนจะเอาฟงอี้เฟยมาเป็นพวกจึงต้องรีบตามฟาฟงอี้เฟยอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะเอาชนะฟงอี้เฟย ก่อนที่ผู้ที่ชนะฟงอี้เฟยจะเข้าไป ทำพิธีสัญญา ที่ตระกูลฟง ถ้าคนของเขาเอาชนะฟงอี้เฟยได้ 3 ครั้งก่อนที่จะไปทำพิธี คนของเขาและผู้ที่สามารถเอาชนะฟงอี้เฟยคนก่อนจะต้องต่อสู้ตัดสินกัน ว่าใครจะได้เป็นเจ้านายของฟงอี้เฟย
แต่ฟงอี้เฟยหายตัว เขาไม่สามารถตามหาได้
วันนี้เขาได้ข่าวจากสายที่วางไว้ ว่าฟงอี้เฟยมายืนอยู่ที่นี่ เขาจึงรีบมา
เขาพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ แต่ที่เขาไม่คิดไม่ถึง ก็คือคนที่ฟงอี้เฟยแพ้คือจิวโมไป๋!
เขาได้รับข้อมูลของจิวโมไป๋มาอล้ว เพื่อที่จะรับอีกฝ่ายเป็นผู้ติดตาม เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้ครอบครัวของจิวโฒไป๋เป็นตัวประกันเสียด้วยซ้ำ แต่เขาก็ค้นพบการเฝ้าระวังระดับสูงคอยคุ้มครองครอบครัวของจิวโมไป๋อยู่ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรครอบครัวของจิวโมไป๋ได้ เขาจึงจะชักชวนอีกฝ่ายตรงๆ แต่เขาก็หาจิวโมไป๋ไม่พบ เขารู้แค่ว่าอีก 2 วันจิวโมไป๋จะไปเมืองเทียนจิน เขาจึงคิดจะไปดักรอที่นั้นหลังจากที่จัดการเรื่องของฟงอี้เฟย แต่เขาไม่คิดเลยว่าจะพบจิวโมไป๋ที่นี่ และจิวโมไป๋ยังเป็นผู้ที่เอาชนะฟงอี้เฟยได้
ตู่บ่อชาครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะแสระยิ้มออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอวดดีเล็กๆ
“นายคือผู้ชนะการประลองที่เมืองเทียนซูใช้ไหม?”
ฟงอี้เฟยที่กำลังคิดจะเดินออกไปชะงักกึก ดวงตาไร้อารมณ์หันมามองอย่างช้าๆ
ตู่บ่อชาไม่สนใจฟงอี้เฟยอีก เขาเดินตรงไปหาจิวโมไป๋ คนที่เดินตามก็เร่งฝีเท้าเดินตามตู่บ่อชา ชายชุดคลุมสีแดงช้าเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินตามตู่บ่อชา
จิวโมไป๋มองตู่บ่อชา คิ้วขมวดเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าอยู่ดีๆตัวปัญหาอันดับต้นๆของหน่วยมังกรซ่อนจะสนใจเขา
ตู่บ่อชาไม่สนใจที่จิวโมไป๋ไม่ตอบ เขาเดินมาหยุดที่หน้าของจิวโมไป๋ห่างไป 2 เมตร เขามองจิวโมไป๋ด้วยสายตาราวกับชนชั้นสูงกำลังมองคนที่ต่ำกว่า ก่อนจะพูด
“ฉันคือตู่บ่อชา รองหัวหน้าของหน่วยที่ 1 หน่วยหลักของหน่วยลับมังกรซ่อน ฉันเห็นการประลองของนายแล้ว สนใจจะมาเป็นผู้ติดตามของฉันไหม? ถ้านายเลือกที่จะติดตามฉัน ฉันจะให้ทรัพยากรในการบ่มเาพะพลังให้กับนายจนกลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตได้ และฉันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครเข้าหน่วยหลัก”