จิวโมไป๋มองอาจารย์สาว แต่ไม่ถามต่อ เขาถอนหายใจออกมา ข้อมูลที่ได้รับ มันเหมือนก้อนหินยักษ์ที่ถ่วงจิตใจของเขา แม้ว่าเขาจะเชื่อข้อมูลที่อาจารย์สาวมอบให้ก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ได้ยืนยันด้วยตัวเอง เขาจึงไม่เชื่อทั้งหมด เมื่อกลับไปเขาจะต้องถามพ่อของเขาเกี่ยวกับบรรพบุรุษ ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่องจริง เขาก็ต้องเตรียมพร้อม เมื่อบรรพบุรุษตระกูลจิวทรยศประเทศ เขาจะต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและครอบครัว ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศ
เขาไม่กังวลเกี่ยวกับตัวเอง แต่เป็นห่วงครอบครัวที่อาจถูกเพ่งเล็งได้
ตัวตนของเขาในตอนนี้คือสมาชิกหน่วยมังกรซ่อน มันยืนยันตัวตนของเขาไประดับหนึ่ง ผลกระทบคงไม่รุนแรงมากนัก
ลู่หว่านเช็ดนิ้วมือที่จับขนมจนสะอาด ก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เธอปล่อยตัวตามสบาย ไม่มีความระมัดระวังใดๆ เมื่ออยู่ในห้องสองต่อสองกับผู้ชาย
จิวโมไป๋มองอาจารย์สาวด้วยความหวาดระแวง ระวังตัวยิ่งขึ้น เขารู้จักอาจารย์สาวมานาน เขารู้ว่าท่าทางของเธอในตอนนี้ เธอกำลังทำให้เขาผ่อนคลายความระมัดระวัง เพิ่มความเป็นกันเอง ก่อนจะโจมตีทีเผลอ
ลู่หว่านสัมผัสได้ถึงความกังวลของจิวโมไป๋ เธอก็ถอนหายใจอย่างไม่พอใจ เธอรู้ว่าจิวโมไป๋ย้อนเวลากลับมา และเขายังได้เรียนวิชาของเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเธอในอนาคตและจิวโมไป๋ มีความสนิทสนมกันมากขนาดไหน
แต่จากการที่เขาได้เรียนวิชาลับที่เธอสร้างใหม่ ที่เธอไม่คิดจะส่งต่อให้สำนัก และการที่เขาสามารถรู้ถึงลักษณะนิสัยของตัวเธอได้อย่างแม่นยำ ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องไม่ต่ำแน่
ลู่หว่านครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มงดงามออกมา
จิวโมไป๋ที่สังเกตอาจารย์สาวอยู่ ก็หนาวสั่นขึ้นมา รอยยิ้มแบบนี้ของอาจารย์สาว มันบ่งบอกว่าเธอกำลังมีแผนการบางอย่าง
จิวโมไป๋ขยับร่างหนีทันที
แต่ก่อนที่เขาจะขยับ ลู่หว่านก็ขยับขาขวา ยกขาขึ้นมาเยียบเท้าซ้ายของจิวโมไป๋อย่างฉับพลัน พลังกดดันอันละเลียดอ่อนกดที่เท้า ทำให้จิวโมไป๋ไม่สามารถขยับลุกหนีได้
การควบคุมพลังกดดันของลู่หว่าน อยู่ในระดับสูง มันไม่ทำอันตรายใดๆกับร่างกายของจิวโมไป๋ แต่มันล็อคการเคลื่อนไหวของเขาอย่างสมบูรณ์ ถ้าต้องการจะสลัดการจับกุม จะต้องใช้พลังอันแข็งแกร่งเพื่อสลัดหลุด แต่มันต้องใช้พละกำลังอย่างมาก
จิวโมไป๋ไม่ฝืนต้าน เขามองอาจารย์สาวนิ่ง เขามั่นใจว่าอาจารย์สาวจะต้องไม่ทำร้ายเขาแน่ๆ
ลู่หว่านเห็นว่าจิวโมไป๋ไม่ต่อต้าน เธอก็ผิดหวังอีกเล็กน้อย เธอเอนตัวลงพิงที่วางแขน มือขวายกขึ้นมาเท้าคาง หันมามองจิวโมไป๋
“ดูเหมือนว่านายและฉันในอนาคตจะสนิทกันมากใช่ไหม”
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย มองสบตากับอาจารย์สาว เขาอ้าปากจะตอบ ความคิดบางอย่างแล่นขึ้นมาขัดซะก่อน เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแข็ง
“ไม่ เราไม่ได้รู้จักกันมากนัก”
ลู่หว่านมองจิวโมไป๋ ดวงตาคู่งามสั่นไหวแผ่วเบา
“ไม่รู้จักกันอย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นนายได้วิชาปลอมตัว และวิชาอื่นๆของฉันมาได้ยังไง”
จิวโมไป๋รู้สึกอึดอัด เมื่อมองดวงตาของอาจารย์สาว ที่เหมือนกำลังเล่นสนุก เขากัดฟันตอบ
“ในอนาคต สำนักของคุณจะโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทำให้มีการก่อตั้งสำนักสาขามากมาย ผมในอนาคตได้เข้าสำนักสาขา แต่ด้วยพรสวรรค์ที่อ่อนแอ ผมจึงเป็นได้แค่ศิษย์ทั่วไป แต่ผมโชคดีที่มีเพื่อนเป็นแกนหลักของสำนัก ทำให้ผมได้รับวิชาบางอย่างมาฝึก…”
“นายได้ฝึกวิชาของฉัน มาอย่างนี้เอง”ลู่หว่านพยักหน้าฟังคำตอบของจิวโมไป๋อย่างช้าๆ แต่ดวงตาคู่งามไม่เคยออกห่างจากใบหนาของจิวโมไป๋เลย
ทำให้จิวโมไป๋รู้สึกอายที่ต้องพูดโกหก
ลู่หว่านถอนเท้า ออกจากเท้าของจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ลอบถอนหายใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัว ลู่หว่านก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“รู้ไหมว่าสำนักของฉัน รวมตัวฉันด้วย มีแค่ 4 คนเท่านั้น”
จิวโมไป๋ชะงัก นิ่งงันไปครู่หนึ่ง
ลู่หว่านยิ้มและพูดต่อ”สำนักของฉันมีเจ้าสำนักแก่ชราใกล้หมดอายุขัย ศิษย์พี่ใหญ่ฝึกฝนทางด้านวิชาดาบ และฉันเป็นศิษย์คนที่ 2 คนสุดท้ายคือศิษย์น้องเล็กอายุแค่ 8 ขวบ ในอนาคตเขาจะฝึกฝนวิชาดาบเช่นกัน”
ลู่หว่านโน้มตัวเข้าหาจิวโมไป๋”ฉันไม่สนใจที่จะพัฒนาสำนัก ศิษย์พี่ใหญ่เป็นผู้หมกมุ่นดาบ ไม่สนใจสิ่งอื่นนอกจากฝึกดาบ ศิษย์น้องเล็กยังเด็ก ไม่มีทางขยายสำนักในอีกไม่กี่ปีได้ นายบอกว่าในอนาคตสำนักของฉันจะมีสาขามากมาย ฉันขอถามได้ไหมว่าใครเป็นเจ้าสำนัก?”
จิวโมไป๋เงียบ เขาไม่สามารถตอบได้ เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักของอาจารย์สาวเลย แม้แต่ชื่อสำนักอาจารย์สาวก็ไม่เคยบอก เขาต้องคาดเดาชื่อสำนักเอาเองด้วยซ้ำ
ลู่หว่านมองจิวโมไป๋ คิ้วคู่งามขมวดเล็กน้อย เธอได้คำตอบแล้วว่าจิวโมไป๋ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักของเธอเลย แต่เขาก็รู้จักเธอมากจนน่าแปลกใจ
เธอข่มความยากรู้อยากเห็นลง และกล่าวต่อ
“ไม่รู้อย่างนั้นเหรอ น่าแปลกนะทั้งๆที่สำนักของฉันสามารถสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่นายไม่รู้ว่าผู้ที่สามารถขยายสำนักได้คือใคร”ลู่หว่านโน้มตัวมาหยุด ห่างจากจิวโมไป๋เพียง 50 ซ.ม. ก่อนจะกล่าวต่อ”นายสามารถฝึกวิชาของฉันได้ แต่ไม่เกี่ยวกับสำนัก มันแสดงว่าฉันในอนาคตและนาย จะต้องรู้จักกันและสนิทกันมาก ฉันจึงส่งต่อวิชาไปให้”