“เย่เทียน วันตายของแกมาถึงแล้ว!”
เรือสำราญที่สภาพเสียหายหนักลำหนึ่งจอดอยู่บนท้องทะเลที่มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา
ดาดฟ้าของเรือสำราญมีคนยืนเต็มทั่วทุกด้าน
มีทั้งแก่ทั้งเด็ก มีผู้ชายผู้หญิง ลักษณะแตกต่าง สีผิวไม่เหมือนกัน
เพียงสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ บนตัวพวกเขาล้วนมีพลังอำนาจเรียบง่ายทว่าเข้มแข็งดุจภูเขาใหญ่
“กองทหารฟ้าสั่ง แก๊งหมาป่าโลภ แก๊งงูหางกระดิ่ง แก๊งมังกรดำ……”
“พวกแกเป็นกลุ่มมีอิทธิพลชั้นนำบนโลก นึกไม่ถึงว่าเพื่อล้อมฆ่าฉันถึงขั้นต้องมารวมตัวกันเลย ชีวิตของฉันเย่เทียนมีค่าขนาดนี้?”
ผู้ชายที่ชื่อเย่เทียนมองไปรอบด้านอย่างเย้ยหยัน
ได้ยินคำพูดนี้ หัวหน้าของแต่ละกลุ่มอิทธิพลใหญ่รู้สึกอาย
แต่พอนึกถึงว่าล้อมฆ่าเย่เทียนแลกด้วยชีวิตคนเป็นร้อย ชั่วขณะนั้นสีหน้าทุกคนก็ดูเด็ดเดี่ยว
“เทพนักฆ่าเย่เทียน โทษพวกฉันไม่ได้นะ แกยิ่งใหญ่เกรียงไกรเหลือเกินจริงๆ”
“แกไม่ควรฆ่าหัวหน้าน้อยของกองทหารฟ้าสั่งของฉัน!”
“แกพังที่ผลิตยาในอเมริกาใต้ของฉันแล้ว ทำให้ฉันสูญเสียกำไรหลายหมื่นล้านแต่ละปีไป ไม่ฆ่าแกจะให้ฆ่าใคร!”
เสียงโวยวายลอยมาจากรอบด้าน ดังก้องจนหูแทบหนวก!
เย่เทียนนึกไม่ถึงว่าระหว่างที่ตนเองบุกโจมตี จะพบเจอกลุ่มอิทธิพลมากขนาดนี้ล้อมปราบเข้า จนต้องหลั่งเลือดหาทางหนีรอดมาจากวงล้อม กลับมาถึงขั้นที่หมดแรงจนเกือบจะตาย!
แต่ว่า เขาไม่หวาดกลัวสักนิด สีหน้าค่อยๆ เย็นยะเยือกลงไป ราวกับมีน้ำค้างแข็งปกคลุมชั้นหนึ่ง
แรงอาฆาตแค้นส่วนหนึ่งเผยออกมาจากบนตัวเขาอย่างน่าเกรงขาม พุ่งตรงขึ้นท้องฟ้า!
“อยากจะฆ่าฉัน พวกแกหนีไม่รอดหรอก!”
ทุกคนรู้สึกตกใจยกใหญ่
“แย่แล้ว เขาอยากระเบิดฆ่าตัวตาย!”
“พลังงานที่ออกมาเมื่อยอดฝีมือระดับฟ้าระเบิดฆ่าตัวตาย เทียบเท่ากับระเบิดTNTสิบตันเลย เพียงพอที่จะครอบคลุมรอบด้านหลายกิโลเมตร พวกเราล้วนหนีไม่ทันแน่!”
“รีบฆ่าเขาทิ้งซะ!”
ทุกคนลงมือในเวลาเดียวกัน ทหารรับจ้างลั่นไกปืนอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ก่อนที่เย่เทียนจะระเบิดฆ่าตัวตาย พยายามประหารชีวิตเขาในที่เกิดเหตุ
น่าเสียดายที่สายไปเสียแล้ว!
ตู้ม!
บนพื้นผิวระดับน้ำทะเลเกิดเมฆเห็ดขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง
ผู้มีอิทธิพลระดับใหญ่เกินกว่าครึ่งหนึ่งในโลกทหารรับจ้าง หลังจากเย่เทียนระเบิดฆ่าตัวตาย ร่างก็ถูกฝังอยู่ในท้องทะเลกว้างใหญ่ไปด้วย
……
“เย่เทียน สรุปนายยังอยากทำเรื่องเหลวไหลอีกมากแค่ไหนกัน”
“นึกไม่ถึงจะหนีไปหาโสเภณีถึงข้างนอกจนโดนจับได้ตอนกวาดล้างการค้าประเวณี ถ้าไม่ใช่ฉันไปประกันตัวนาย นายรู้ไหมว่าผลสุดท้ายคืออะไร!”
“นายต้องทำให้ตระกูลเฉินของฉันอับอายขายขี้หน้าให้ได้จริงๆ ใช่ไหมถึงจะยอมเลิก!”
เสียงต่อว่าติดต่อกันไม่หยุดลอยมา
ถึงแม้ว่าในน้ำเสียงจะเป็นความโกรธเคืองอย่างมาก แต่จากในเสียงพูดที่นุ่มนวลนั้น ฟังออกได้ไม่ยาก ผู้หญิงที่ครอบครองเสียงอันไพเราะคนนี้ รูปร่างหน้าตาย่อมไม่เลวโดยเด็ดขาด
เย่เทียนตายแล้ว กลับคืนชีพแล้ว
พูดให้ถูกต้องยิ่งกว่า คือย้อนกลับไปช่วงที่เขาอายุยี่สิบสามปีแล้ว
จนกระทั่งเสียงดุด่าดังอยู่ข้างหูแบบชัดแจ๋ว เย่เทียนถึงได้สติกลับมาในที่สุด แน่ใจว่านี่ไม่ใช่กำลังฝัน
เขาย้ายสายตาหันไปด้านหน้า ที่สะท้อนเข้าม่านตาคือผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่ง
บนตัวหญิงสาวสวมชุดสูท ถึงแม้จะเป็นชุดทำงาน แต่ยังคงยากจะบดบังรูปร่างที่โค้งเว้าสวยงามนั้นของเธอ
ผมยาวประบ่าเป็นลอนเล็กน้อยสีดำขลับ หน้าตามีเสน่ห์ ใบหน้าประณีตงดงาม สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า งามจนทำให้คนรู้สึกทอดถอนใจ!
หญิงสาวหน้าตางดงามเช่นนี้ คือภรรยาในนามของเย่เทียน ชื่อเฉินหวั่นชิง
สรุปที่เฉินหวั่นชิงพูดมาทั้งหมด เย่เทียนค่อยๆ นึกถึงเรื่องในอดีตบางส่วน ในสายตามีแสงเย็นเฉียบที่คลุมเครือแวบผ่าน
“นายนิ่งอยู่ทำไม สรุปว่าฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า!”
เฉินหวั่นชิงเห็นเขาทำหน้าอึ้งทึ่ง โมโหจนแทบจะเป็นบ้า
ถ้าไม่ใช่กลัวปู่ตนเองจะโรคหัวใจกำเริบ เธอคงหย่าร้างกับเจ้าสวะคนนี้ไปตั้งนานแล้ว!
กำลังอยากจะระเบิดอารมณ์ ทันใดนั้นเย่เทียนก็หันหน้ามา มองเธอตาไม่กะพริบ หน้าตาเต็มไปด้วยท่าทางรู้สึกผิดในใจ
“เรื่องนี้เป็นฉันทำไม่ถูกเอง ฉันขอโทษเธอแล้วกัน และขอรับรองว่าต่อไปจะไม่ทำผิดอีก!”
“นายยังคิดจะมีครั้งต่อไปอีก?”
เฉินหวั่นชิงขึ้นเสียงสูงแปดหลอดไม่หยุด ในดวงตาที่เต็มไปด้วยความฉลาดหลักแหลมมีความโมโหสุดๆ ถลึงตาใส่เย่เทียนอย่างแรง
สำหรับเย่เทียนที่ยอมรับผิด เธอกลับรู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อย
เย่เทียนเมื่อก่อนนี้ แต่ไหนแต่ไรทำตามใจตัวเองไม่สนว่าใครจะคิดอย่างไร เรียกเอากับเธอไม่หยุด โดยเฉพาะทำหมดทุกเรื่องนอกเสียจากเรื่องดี ไม่เคยยอมรับผิดสักครั้ง
ก็เหมือนในพจนานุกรมของเขา เดิมทีไม่มี“ขอโทษ”คำนี้อยู่เลย
ตอนนี้เย่เทียนพูดขอโทษขึ้นกะทันหัน เฉินหวั่นชิงรู้สึกว่าแปลกๆ สำหรับแปลกตรงไหน ยังพูดออกมาไม่ได้ในช่วงสั้นๆ
สายตาของเธอที่จ้องเย่เทียนอยู่ดูซับซ้อน เหมือนกำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญมากบางอย่าง ทันใดนั้นนั่งลงด้านข้างเย่เทียน
กลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ กระโจนเตะจมูกมา ในใจเย่เทียนคาดไม่ถึง เหมือนว่าเป็นครั้งแรกที่เฉินหวั่นชิงเข้าใกล้เขาขนาดนี้ หรือว่าเป็นเพราะสาเหตุที่เขากล่าวขอโทษ?
“ลูบสิ!”
เฉินหวั่นชิงกลับไม่มองเย่เทียน พูดจาแบบเย็นชา
เย่เทียนตะลึงแล้ว “อะไรนะ?”
“ฉันให้นายลูบไง! นายไปหาโสเภณีอยู่ข้างนอก ไม่ใช่คิดเรื่องอย่างว่าพวกนั้นหรือไง?”
“ในเมื่อพวกเราแต่งงานกันแล้ว ฉันจะคิดเสียว่าโดนหมากัดทีหนึ่งแล้วกัน นายรีบทำซะ อย่าให้เสียเวลาของฉัน!”
ท่วงทำนองการพูดของเฉินหวั่นชิงไวมาก ไม่หวั่นไหวสักนิด ราวกับเป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยเรื่องหนึ่ง
เวลานี้เย่เทียนอยู่ห่างจากเฉินหวั่นชิงไม่เกินสิบเซนติเมตร หายใจเบาๆ ก็ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์นั้นบนตัวเฉินหวั่นชิงได้
ตามร่องของเสื้อสูท พอจะมองเห็นผิวพรรณภายในที่ขาวเนียนดุจหิมะนั้น
สายตาเคลื่อนลงนิดหน่อย ใต้กระโปรงยาวเท่าหัวเข่าสีดำคือขาเรียวงามสองข้าง เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน
ทันใดนั้น เย่เทียนรู้สึกลำคอแห้งผาก จึงกลืนน้ำลายแล้ว
เฉินหวั่นชิงได้ยินชัดเจน เมื่อไม่เห็นเย่เทียนจะทำอะไรสักนิดเดียว ในใจก็ดูหมิ่นเอามากๆ
“ในใจคิดลามกแต่ไม่กล้าทำ คนขี้ขลาด!”
เธอแอบตำหนิอยู่ในใจ ยิ่งดูถูกเย่เทียนเพิ่มขึ้นอีก
เวลานี้เย่เทียนหวนนึกถึงภาพที่ไม่ดีบางอย่างในชาติก่อน ในสายตามีความเจ็บปวดแวบผ่าน
“ชาติก่อนเป็นฉันทรยศเธอแล้ว ทำร้ายจนเธอบ้านแตกสาแหรกขาด ถึงแม้ฉันจะเที่ยวไประเหเร่ร่อนในโลกทหารรับจ้าง ก็หาคนร้ายที่ทำร้ายเธอไม่เจอ!”
“ชาตินี้ ฉันจะไม่ให้โศกนาฏกรรมพวกนั้นเกิดขึ้นอีก ฉันจะพยายามสุดกำลังปกป้องเธออย่างดี!”
คิดเรื่องพวกนี้อยู่ เย่เทียนก็ไม่ลังเลอีก ยื่นมือวางไว้บนเอวที่อ่อนนุ่มนั้นของเฉินหวั่นชิงเบาๆ
อากาศตอนนี้ไม่หนาวไม่ร้อน เฉินหวั่นชิงสวมเสื้อเชิ้ตไว้ข้างใน ด้านนอกสวมเสื้อสูท
หลังจากมือของเย่เทียนวางลง เธอรู้สึกได้ทันที
นี่ทำให้เธออดเบิกตากลมโตไม่ได้ จ้องเย่เทียนแบบไม่อยากเชื่อ
“นายกล้าลูบจริง?”
เย่เทียนมองเธอแวบหนึ่ง ยิ้มชั่วร้ายพลางพูดว่า “ไม่ใช่ว่าเธอให้ฉันลูบเองเหรอ?”
เฉินหวั่นชิงกัดฟันแน่น ไม่พูดอะไรอีกแล้ว หลับตาลงเหมือนยอมรับชะตากรรม
เย่เทียนเห็นแบบนี้ ในใจยิ่งฮึกเหิมขึ้น ท่าทางที่ไม่ปฏิเสธนี้ของเฉินหวั่นชิง คงไม่ใช่ให้เขาทำตามสบายหรอกเหรอ?
ลูบไปสักพัก เย่เทียนยังไม่พอใจอีก รีบยื่นมือโอบกอดเอว ภายใต้เสียงร้องตกใจของเฉินหวั่นชิง หลุดเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยตรง
เฉินหวั่นชิงสะอิดสะเอียนเย่เทียนอย่างยิ่ง ในอดีตขี้เกียจจะมองเขาสักแวบ เวลานี้คาดไม่ถึงว่าจะถูกเย่เทียนกอดไว้ แค่คิดก็จินตนาการได้ถึงความรู้สึกไม่เป็นธรรมในใจ
แต่ว่า เธอยังอดทนเอาไว้ต่อ เพียงแค่ถลึงตาใส่เย่เทียนแบบเกลียดชัง
“ต่อไปถ้านายกล้าหนีไปทำตัวมั่วซั่วข้างนอกอีก อย่าโทษว่าฉันลงมืออย่างไร้ความปรานีก็แล้วกัน!”
ระหว่างที่พูด ดวงตาเต็มไปด้วยความดุร้าย กวาดสายตาไปยังท่อนล่างของเย่เทียน
เย่เทียนไม่สนใจคำขู่ของเธอ บนหน้ามีรอยยิ้มที่เอ้อระเหยลอยชาย ตอบว่า “มีเมียที่สวยขนาดนี้อย่างเธอ คนโง่เท่านั้นแหละถึงจะไปทำตัวมั่วซั่วอยู่ข้างนอก”