มึนแล้ว!
ทุกคนมึนงงกันหมด!
ไม่มีใครคาดคิด เหตุการณ์เปลี่ยนฉับพลัน
เย่เทียนที่จะโดนฟันไม่เป็นไรสักนิด ส่วนไอ้ผมเหลืองที่ถือมีดกลับโดนต่อยลอยไปตรงๆ!
ตอนที่มองทางเย่เทียน ก็เห็นเย่เทียนเก็บมือกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ราวกับเมื่อสักครู่เป็นเพียงการทำเรื่องเล็กน้อยที่ไม่หนักหนาอะไรแล้วเท่านั้น
เป็นเหลียงเยว่หรูที่ในลูกตาประกายแวววาวขึ้น ในใจเกิดความหวังนิดๆ เพิ่ม
“แม่งเอ๊ย……”
พี่เบียวได้สติกลับมา หลุดปากสบถอย่างหน้าแดงคอแข็ง
แต่เขายังไม่ทันพูดจบ เย่เทียนขยับก่อนแล้ว
ร่างกายวาร์ปหาย เหมือนเป็นปีศาจ ชั่วพริบตาเดียวโฉบมาถึงด้านหน้าพี่เบียว
หมัดที่ไม่ได้พลิกแพลงมากมาย ผสมกับเสียงลมแหวกอากาศ ต่อยบนคอของพี่เบียวอย่างรุนแรง
พี่เบียวเหมือนรู้สึกว่าตัวเองถูกรถบรรทุกชนเข้าให้ ร่างกายเหมือนว่าวที่สายขาดลอยออกไปแล้ว กระแทกบนต้นไม้ด้านหลังอย่างหนัก
ต้นไม้เสียงดังแกรก คาดไม่ถึงถูกแรงนี้ทำเอวหัก!
“นี่……นี่เป็นแรงของคนอยู่เหรอ?”
“น่าสยองขวัญเกินไปแล้ว!”
ทุกคนตาค้างกันอีกครั้ง
โจรที่เหลืออีกสามสี่คนเห็นแบบนี้ ล้วนกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ลังเลว่าจะพุ่งเข้าไปดีหรือเปล่า
เอาคนมากเข้าสู้ ไม่แน่อาจสามารถสู้ชนะคู่แข่งได้
เย่เทียนกลับกวาดสายตาหนาวเย็นมองพวกเขา ชั่วขณะนั้นแต่ละคนตกใจจนสีหน้าซีดเซียว สั่นเทาทั้งตัว
สายตานี้ กำลังทำลายล้าง!
เวลานี้ พี่เบียวปีนขึ้นยืน มองทางเย่เทียนด้วยความตกใจกลัวอย่างยิ่ง
คนมีฝีมือพอลงมือ ก็รู้ว่ามีไม่มี!
หมัดเมื่อสักครู่นั้น เกือบต่อยคอเขาทะลุ ตอนนี้อวัยวะภายในโคลงเคลงไปพักหนึ่ง
เขารู้ว่าเจอปัญหายากเข้าแล้ว แม้แต่พูดจารุนแรงยังไม่กล้า หมุนตัวสาวเท้าวิ่งหนีไปข้างนอก
ลูกน้องอีกไม่กี่คนเห็นลูกพี่หนีไปแล้ว รวมถึงสาวนักต้มตุ๋นคนนั้นไม่มีใครกล้าอยู่ในนี้นาน ต่างทิ้งมีดหัวตัดลง วิ่งสุดชีวิตจนไม่เห็นเงา
เรื่องวุ่นวายมาไว ไปไวยิ่งกว่า!
ชั่วพริบตาเดียวถูกเย่เทียนแก้ไขอย่างง่ายดาย
“พ่อหนุ่ม ทำได้ดี!”
“เชี้ย พวกมันวิ่งเร็วมาก ไม่อย่างนั้นฉันเอาพวกมันตาย!”
“พ่อหนุ่ม ขอบใจนายที่ช่วยพวกเรา……”
ทุกคนมึนงงกันพักหนึ่ง ไม่นานก็ตอบสนองเข้ามา แต่ละคนรู้สึกซาบซึ้งใจต่อเย่เทียนจนน้ำตาไหลพราก
ภายใต้เสียงไชโยของทุกคน เย่เทียนสีหน้าปกติ หันหน้ากลับมา ชนเข้ากับดวงตาที่งดงามพิเศษคู่นั้นของเหลียงเยว่หรูพอดี
“เรียบร้อย เธอปลอดภัยแล้ว”
เย่เทียนหัวเราะอย่างสดใส รีบเก็บสายตากลับทันที ไม่อยากอยู่ต่อไปอีก หมุนตัวจะไป
เหลียงเยว่หรูกำลังอยู่ในสถานะฮึกเหิม
ทั้งที่เป็นเพียงชายหนุ่มที่อายุพอกันกับเธอคนหนึ่ง หน้าตาขาวนวล กลับสามารถเปิดโปงแผนหลอกลวงได้อย่างถูกต้องน่าเกรงขาม
ยังเป็นยอดฝีมือวงการต่อสู้คนหนึ่ง สองสามทีก็จัดการโจรหลายคนลงได้ ยังยอดเยี่ยมกว่าดูภาพยนตร์เสียอีก
กำลังอยากกล่าวขอบคุณ กลับเห็นเย่เทียนหมุนตัวเดินไป แอบร้อนใจ รีบตามเข้าไปโดยเร็ว
“คือว่า ฉันยังอยากขอบคุณนายด้วยล่ะ นายเดินเร็วขนาดนี้ทำไม?”
เหลียงเยว่หรูวิ่งเหยาะๆ ก่อนจะเดินเคียงไหล่กับเย่เทียน
ใช้หางตาจ้องมองพินิจพิเคราะห์หน้าด้านข้างของเย่เทียน เวลานี้เธอสงสัยต่อหนุ่มหล่อคนนี้ถึงขั้นสุด
“คำขอบคุณไม่ต้องหรอก เพียงแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้นเอง”
เย่เทียนหัวเราะแบบเรียบเฉย ท่าทางไม่สนใจ
เหลียงเยว่หรูขมวดคิ้ว แม้กระทั่งสงสัยตนเองขึ้นมาว่าไม่มีเสน่ห์แล้วหรือเปล่า
ไม่อย่างนั้น ในอดีตเธอที่ข้างกายล้วนมีผู้ชายมาตาม ทำไมถึงดึงดูดเจ้าหมอนี่ไม่ได้ล่ะ?
ไม่ง่ายถึงสงบอารมณ์ลงมา เหลียงเยว่หรูพูดขึ้นเอง “สวัสดี ฉันชื่อเหลียงเยว่หรู นายชื่ออะไรล่ะ?”
เย่เทียนหันหน้ามองเธอ นึกไม่ถึงสาวงามแบบเหลียงเยว่หรูนี้ จะมาทำความรู้จักกับเขาเอง
แต่ว่า เย่เทียนไม่ได้คิดมาก ยิงฟันยิ้มตอบว่า “ฉันชื่อเย่เทียน ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อของเธอเพราะจริง”
เห็นว่าในที่สุดเย่เทียนไม่เหมือนตอไม้แบบนั้นอีก ทั้งยังชมเชยตนเองก่อนด้วย ในใจเหลียงเยว่หรูแอบดีใจอยู่หน่อย
เธอยิ้มดีใจพูดว่า “ชื่อเป็นแค่ชื่อรหัสเท่านั้นเอง ใช่แล้ว กำลังของนายทำไมถึงได้มากขนาดนี้ ตบไปทีเดียว ก็ทำคนลอยหลายเมตรได้”
ระหว่างที่พูด เธอยังทำท่าทางเหวี่ยงหมัดแบบน่ารักไปด้วย
เย่เทียนหัวเราะนิดหน่อย ไม่คิดจะอธิบาย เป็นฝ่ายเปลี่ยนหัวข้อเอง
“เธออยากไปที่ไหน? สถานที่นี้ยุ่งเหยิงมาก กลับไปให้เร็วหน่อยดีกว่า สถานที่นี้ไม่เหมาะที่คนแบบเธอมาปรากฏตัว”
“ที่บ้านจัดเตรียมงานแต่งไว้ให้ฉัน แต่อีกฝ่ายเป็นใครฉันไม่เคยเจอมาก่อน จะให้ฉันแต่งกับคนแปลกหน้า ฉันไม่ยินยอม เลยหนีออกมาแล้ว ตอนนี้ฉันไม่อยากกลับไป”
เหลียงเยว่หรูไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดเรื่องพวกนี้กับเย่เทียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองคนเพิ่งรู้จักกันไม่นาน
แต่ว่าเธอในเวลานี้ไม่อยากคิดมาก กลอกวนลูกตารอบหนึ่ง พูดว่า “เอาแบบนี้ ฉันพานายไปที่ที่หนึ่ง เลี้ยงข้าวนาย ถือว่าเป็นการขอบคุณความช่วยเหลือของนาย ถือโอกาสนายก็คุ้มครองฉันด้วยเป็นยังไง?”
“นายคงไม่อยากเห็นฉันที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้ เดินมั่วอยู่ในชุมชนแออัดล่ะมั้ง ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น……”
เธอทำลักษณะท่าทางน่าสงสารออกมา ในดวงตามีน้ำตาคลอ เหมือนว่าเย่เทียนไม่ตอบตกลงจะร้องไห่ให้เขาดู ทำให้คนปฏิเสธไม่ลง
เย่เทียนอดหัวเราะไม่ได้ คิดในใจว่าตนเองไม่มีที่ไหนให้ไปจริง ถือโอกาสพยักหน้ารับปากไป
“งั้นก็ได้ คืนนี้ฉันแล้วแต่เธอเลย!”
เหลียงเยว่หรูได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าอดแดงระเรื่อไม่ได้ คิดในใจคำพูดนี้ทำไมแปลกอยู่หน่อย
มองการแสดงออกที่ทำหน้ายิ้มเหมือนไม่ยิ้มของเย่เทียนอีกที ไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองถูกเขาหยอกล้อแล้ว
“นายน่ารำคาญชะมัด!”
เหลียงเยว่หรูบ่นประโยคหนึ่ง ยื่นมือตีบนไหล่แข็งแรงนั้นของเย่เทียนสักหน่อย
ปากบอกว่ารำคาญ ความจริงในใจกลับไม่มีอารมณ์ไม่พอใจสักนิด แต่ยังเกิดอารมณ์แปลกประหลาดอยู่บ้าง
จากนั้น ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ต่อนาน เดินอ้อมไปยังสถานที่อื่น
แต่พอมาถึงจุดมุ่งหมายแล้ว เย่เทียนอดหัวเราะอย่างขมขื่นไม่ได้ บอกว่าที่ดีแห่งหนึ่ง ความจริงคือมาที่ผับ!
ผับที่ชื่อว่า“ดรุณียั่วรัก” เป็นสถานบันเทิงที่ค่อนข้างมีระดับในเมืองเจียงหนัน กลุ่มผู้ใช้บริการเป็นบุคคลมีอำนาจของเมืองเจียงหนัน
ถึงแม้ว่าเย่เทียนในชาติก่อนจะเป็นลูกคนรวย แต่ที่นี่อย่างน้อยต้องใช้หลายหมื่น เดิมทีไม่เคยมาสักกี่ครั้ง
เหลียงเยว่หรูกลับคุ้นชินต่อที่นี่เป็นพิเศษ พอเข้าประตูมาก็มีคนต้อนรับเข้ามาทักทาย
“คุณเหลียง ขอโทษนะครับ วันนี้แขกค่อนข้างเยอะ ไม่มีห้องว่างเลย ไม่อย่างนั้นท่านขึ้นไปหาพี่ซูข้างบน?”
“ไม่ต้องหรอก พวกฉันสนุกอยู่ในโถงใหญ่ก็ได้”
เหลียงเยว่หรูตอนนี้ไม่ค่อยอยากโดนคนรบกวน ปัดมือแล้วมองทางเย่เทียน ถามว่า “เย่เทียน ต้อนรับนายในโถงใหญ่ นายคงไม่เสียใจหรอกมั้ง?”
“ที่ไหนก็เหมือนกัน”
เย่เทียนหัวเราะแบบไม่เป็นไร
เหลียงเยว่หรูถึงวางใจลงมา ควงแขนของเย่เทียนอย่างยิ้มกริ่ม เดินเข้าข้างใน
คนต้อนรับเห็นแบบนี้ ในดวงตามีแววตาแปลกไปแวบผ่าน พินิจพิเคราะห์เย่เทียนโดยจิตใต้สำนึกครู่หนึ่ง
เจ้าหมอนี่ใครกัน? ทำไมถึงใกล้ชิดคุณเหลียงขนาดนี้ หรือว่าเป็นเด็กเลี้ยงเหรอ?
เย่เทียนไม่รู้ความคิดของเขา ไม่นานก็นั่งลงไปโต๊ะหนึ่งภายในผับ
จากนั้น เหลียงเยว่หรูสั่งเครื่องดื่มมา และสั่งอาหารระดับสูงอย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม ปูอลาสก้ามาไม่น้อย มาต้อนรับเย่เทียน
เย่เทียนไม่เกรงใจสักนิด เริ่มกินทันที!
ทั้งรักษาโรคทั้งชกต่อยมา เขาที่ยุ่งวุ่นวายมาทั้งวันหิวตั้งนานแล้ว
“เยว่หรู เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ในเวลานี้เอง เสียงพูดที่ไม่เข้าพวกประโยคหนึ่งค่อยๆ ลอยมา