ตอนที่ 688 : จุติลงมายังเมืองมังกรเงิน
เมืองมังกรเงิน
เย่ฉางยืนตะโกนที่ประตูเมือง “ทุกคน ฉันต้องขอโทษด้วยที่พี่น้องของฉันยังเด็กอยู่ ด้วยเหตุนี้พวกคุณจึงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่นอกประตูแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงขออภัยในนามของ Thorns and Roses”
“ถ้างั้นก็เปิดประตูซะ!”
“แน่นอน!” เย่ฉางยังคงยิ้มต่อไป “ฉันจะเปิดประตูอย่างแน่นอน แต่พวกคุณรู้ไหมว่ากองทัพกบฏของเรามีคนได้รับบาดเจ็บจํานวนมากระหว่างการสู้รบครั้งนั้น และมีหลายคนที่เสียชีวิต ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สายลับเข้ามา และเพื่อการพัฒนาเมือง พวกคุณจะต้องมีบัตรพลเรือนถึงจะสามารถเข้าเมืองมังกรเงินได้! และเพื่อเป็นการสนับสนุนกองทัพกบฏไปในตัวด้วย! แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่การบริจาคทั่วๆไป ซึ่งระดับคะแนนความเป็นพลเมืองของคุณจะเป็นตัวกําหนดว่าคุณจะสามารถเข้าร่วมกองทัพกบฏ และได้รับพรจากเทพธิดาไหม”
“คุณจะหลอกเอาเงินจากเราสินะ!” ในฝูงชนมีคนตะโกนออกมา หลินหลี่โยนดาบยักษ์ใส่คนๆ นั้นทันทีแล้วตะโกน “อ๊ะ! มือของฉันลื่น! ระวังอาวุธลับด้วย!”
ทุกคนอ้าปากค้าง ในขณะที่คนๆนั้นถูกดาบแทงจนตายบนพื้น
“เอาล่ะ เอาล่ะ! เปิดประตูเมืองได้!” เย่ฉางสั่งให้ใครบางคนเปิดประตู และจาลิสผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารของกองทัพกบฏก็เริ่มแจกบัตรพลเรือน
เมื่อมาร์โจเข้ามา เขาเห็นเงื่อนไขสําหรับการได้รับบัตรพลเรือน 1 เหรียญทองสําหรับการเป็นพลเมืองทั่วไป, 5 เหรียญทองสําหรับการเป็นพลเมืองชั้นสูง และ 10 เหรียญทองสําหรับการเป็นพลเมืองของเทพธิดา เขาเป็นคนหน้าเลือดจริงๆ!”
ในระหว่างการแจกบัตรก็มีผู้ประท้วงขึ้น
“ทหารยาม” จาลิสสั่งให้ทหารยามล้อมพวกเขาเอาไว้ “ไม่ว่าคุณจะเอาหรือไม่เอาบัตรพลเรือน ท่านนายกเทศมนตรี Hubby ก็รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยพวกคุณ! แต่พวกคุณกลับไม่เห็นคุณค่าของมัน! นี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สําหรับพวกคุณที่จะแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง นอกจากนี้ความเป็นพลเมืองชั้นสูงยังจะช่วยให้คุณสามารถเข้าร่วมกับเรา และได้รับตําแหน่งในกองทัพกบฏ! เป็นสหายของเรา! นอกจากนี้การเป็นพลเมืองของเทพธิดาไม่เพียงแต่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดของการเป็นพลเมืองชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้คุณกลายเป็นสาวกแทพธิดาจันทร์เสี้ยว! พวกคุณจะได้รับพรจากเทพธิดาอามูส!”
จาลิสนึกถึงสิ่งที่หลินหลี่พูดกับเขา
“ลอร์ด Hubby มีธุระอะไรกับฉัน?”
“น้องเล็กจา นับจากวันนี้เป็นต้นไปกองทัพกบฏของ Hubby จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพกบฏของเทพธิดา”
“เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น เราผู้เป็นพลเมืองของอันซาส มันไม่ดีที่จะใช้เทพองค์อื่นตั้งชื่อกองทัพ!”
“ทหาร! จาริสทรยศพวกเรา! เขาต้องการที่จะสังหารฉัน!”
“……”
“ฉันจะทําตามที่ลอร์ด Hubby สั่ง! ฉันจะทําเดี๋ยวนี้เลย!”
“ดีมาก! ฉันรู้ดีว่าคุณจะเข้าใจ ..”
จาลิสส่ายหัวและถอนหายใจอย่างหนัก “หวังว่าพรของเทพธิดาที่พวกเขาพูดถึงจะเป็นของจริง…”
“แต่มันแพงเกินไป!”
“ใจเย็นๆลงก่อน พี่ชายของท่านนายกเทศมนตรีกล่าวว่า พวกคุณสามารถผ่อนชําระได้ แต่คุณต้องชําระหนี้ทั้งหมดภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกไล่ออกจากเมืองมังกรเงิน และถูกกองทัพกบฏของเทพธิดาหมายหัว” จาลิสทําตัวเหมือนผู้จัดการที่กําลังข่มขู่พนักงาน
“แต่ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าพรของเทพธิดาเป็นของจริงหรือของปลอม! จักรพรรดิขาวอาจกําลังจะหลอกเราอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้เ มันไม่ง่ายเลยที่จะอัญเชิญเทพเจ้ามา!” มาร์โจยิ้มเยาะ
ทันใดนั้นมาร์โจรู้สึกว่ามีมือตบไหล่ของเขา เขาหันกลับมาและเห็นชายผมขาว “เพื่อนคุณสงสัยในคําพูดของฉันงั้นหรอ?”
“อย่างน้อยคุณต้องแจ้งให้เราเข้าใจด้วยว่า เมื่อเราจ่ายเงินไปแล้ว เราจะเชื่อในสิ่งที่คุณสัญญากับเราได้ยังไง” มาร์โจรู้สึกประหม่า เมื่อเย่ฉางกําลังยิ้มให้เขา หัวใจของเขาดิ่งลงครู่หนึ่ง “นี่คือคนที่ทําให้หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเราโดนหัวเราะเยาะไปทั่วยุโรป!”
“คืนนี้เมื่อพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเกิดขึ้น ฉันจะให้คําตอบแก่คุณ…” เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็เดินไปที่จัตุรัส
มาร์โกจ้องมองแผ่นหลังเย่ฉางอย่างสงสัย หรือว่าเขาจะมีความสามารถในการอัญเชิญเทพ เจ้าได้จริงๆ?”
บทสนทนาของพวกเขาทําให้ผู้คนจํานวนมากหยุดจ่ายเงินเพื่อการเป็นพลเมืองชั้นสูง พวกเขาเพียงแค่จ่ายเงินสําหรับการเป็นพลเมืองทั่วไป และตัดสินใจที่จะสังเกตสถานการณ์ดูก่อน
กลางคืน
เย่ฉางยืนอยู่บนเวทีที่จัตุรัสในตลาด เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และตะโกน
“อามูสที่รัก!”
เมื่อแสงจันทร์ส่องแสง ละอองของแสงจันทร์ก็เริ่มก่อตัวเป็นเทพธิดาที่สวยงามแต่เยือกเย็นในกลางอากาศ ฉากนี้มันดูยิ่งใหญ่มาก “ฉันขอตอบรับการเรียกขานที่ยอดเยี่ยมของท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ PaleSnow ฉันได้ยินว่ามีผู้ศรัทธาในตัวตนของฉัน ถึงค่ำคืนนี้จะคงอยู่ไม่นานนัก แต่จันทร์ครึ่งเสี้ยวจะอยู่ข้างๆพวกคุณเสมอ”
“ผู้ที่เต็มใจเชื่อมั่นในเทพธิดาอามุส โปรดยืนด้านขวาของฉัน!” เย่ฉางยกมือขึ้นสูงรับแสงจันทร์ที่ส่องแสงเหนือหัวเขา จากนั้นเขาก็กระซิบกับอามูส “ดึงชุดของคุณขึ้นอีก!”
“ขึ้นมากขนาดไหน?”
“จนกว่าพวกเขาจะเห็นร่องก้นของคุณ!
“มันไม่ดีมั้ง…ฉัน…”
“คุณต้องการให้ฉันบอกให้แมลโลว์และคนอื่นๆเปลื้องผ้าคุณ และแขวนคุณไว้ที่จัตุรัสของเมืองเทพธิดานานสัก 100 ปีไหม?”
ในท้ายที่สุดอามูสก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อฟังเย่ฉาง เมื่อมองกลับไปที่เย่ฉาง ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทําไมแมลโลว์และคนอื่นๆถึงกลัวท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มาก เธอนั่งไขว่ห้างและดึงชุดขึ้น ฉันต้องถูกเขาดุและรังแกตลอดไปแน่ๆ ..
เมื่อเห็นว่าอามูสยอมเชื่อฟัง เย่ฉางพยักหน้าอย่างดีใจ เขาพูดอย่างเฉยเมย “มันต้องแบบนี้สิ! อย่าโทษฉันในเรื่องนี้ ฉันแค่ช่วยให้คุณมีผู้ศรัทธาเยอะๆก็เท่านั้น เฮ้อ! เอาล่ะ! ดึงสูงขึ้นอีกหน่อย! นั่นแหละเกือบจะได้แล้ว! ต้องทําให้ดูเซ็กซี่เข้าไว้ แต่อย่ามากจนเกินไป เอามือกอดอกและดันเต้านมขึ้นอีก! เยี่ยม! จากนั้นแสดงสีหน้าเชิดๆหน่อย! ดีมาก…”
ภายใต้แสงจันทร์ ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังและเซ็กซี่ของอามูส จากนั้นพวกเขาก็เดินไปข้างหลังเย่ฉาง และเห็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด
“เชีย! ไปทางขวาโน้น! พวกคุณเป็นถึงพลเมืองของเทพธิดานะ! ไปให้พ้น! ไสหัวไปทางขวาซะ!” จางเจิ้งเฉียงทําท่าทางตรวจสอบความเรียบร้อย แต่พยายามแอบชําเลืองมองอามูส
“โอ้ เหล่าผู้ศรัทธาของฉัน! เนื่องจากที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์และคริสตัลแสงจันทร์ของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก ตอนนี้ฉันสามารถให้พรแก่คุณได้เท่านั้น สําหรับนักรบที่ต่อสู้เพื่อฉัน นับแต่คืนนี้เป็นต้นไปผู้คนเหล่านี้ไม่ใช่ศัตรูของคุณอีกต่อไป! จงยอมรับแสงนําทางของจันทร์ครึ่งเสี้ยว!” อามูสยิ้มอย่างถ่อมตน และแสงจันทร์ก็สาดส่องกระทบผู้ที่เป็นพลเมืองของเทพธิดา และพวกกบฏจํานวนมาก
“เกิดอะไรขึ้นกับดวงตาของฉัน! ฉันเห็นตอนกลางคืนชัดแจ๋วเลย! มันเหมือนกับตอนกลางวันชัดๆ” หน้าม้า A ตะโกน
“ทําไมมันชัดมากขนาดนี้! ท่านเทพธิดา! ฉันจะต่อสู้เพื่อท่าน!” หน้าม้า B ตะโกน
“อามูส! อามูส! พลเมืองของเทพธิดาทุกคน!” พวกกบฏตะโกน
มาร์โจลอกตา “เขาพูดจริง! พรของเทพธิดาอามูสเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางคืนขึ้นสามเท่าอีกทั้งยังเพิ่มค่า Wisdom อีกเล็กน้อยอย่างถาวร! มันเป็นสิ่งที่ดีมาก! เป็นสกิลที่ยอดเยี่ยมในการสํารวจดินแดนมืด!”
“เขาสามารถอัญเชิญเทพเจ้าได้จริงๆ…” ผู้หญิงสวมฮูดที่ยืนอยู่ข้างๆพึมพําอย่างไม่อยากเชื่อ
“หัวหน้า คุณคิดว่าไง?” มาร์โจกระซิบ
“ตอนนี้เราไม่มีทางเลือก คุณลองมองไปรอบๆสิ เมืองมังกรเงินนั้นแตกต่างอย่างมากหลังจากได้รับพรจากเทพธิดาแล้ว เมื่อพวกกบฎและกลุ่มผู้ศรัทธาเริ่มเชื่อในตัวเธอ และจะเริ่มสร้างกฎเกณฑ์ให้เธอ เมื่อถึงตอนนั้นเมืองมังกรเงินจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเธออย่างสมบูรณ์ รางวัลและชื่อเสียงของเควสจะเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับพรก็รู้ว่านี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น การมองเห็นตอนกลางคืนเป็นสกิลที่ดี และการมองเห็นในเวลากลางคืนในระดับสูงจะช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอันตรายในป่าในช่วงกลางคืน การมองเห็นจะครอบคลุมถึง 50% ของอันตรายทั้งหมด ด้วยพรนี้เพียงอย่างเดียวก็ทําให้ผู้คนบ้าคลั่งแล้ว เฮ้อ!…” เวอร์เลียนน่าอธิบาย จากนั้นมาร์โจก็เห็นเหล่าหน้าม้าทั้งหลายช่วยกันพูดโน้มน้าว จนผู้เล่นสมัครเป็นพลเมืองของเทพธิดากันมากมาย
“โอ้! เหล่าผู้ศรัทธาของฉัน ตอนนี้ฉันสามารถให้พรได้แค่นี้เท่านั้น…” อามูสแสดงสีหน้าที่เหนื่อยล้าของเธอ ทุกคนต่างเห็นอกเห็นใจเธอ จู่ๆสายสะพายไหล่ชุดเดรสของเธอหลุดลง ทุกคนต่างตาค้าง ในท้ายที่สุดเธอก็กลายเป็นละอองแสงและลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
“ฉันก็เหมือนกัน น่าเสียดายมากๆ”
“เกิดอะไรขึ้น?! เทพธิดาอยู่ที่ไหน! ฉันเพิ่งสมัครเป็นพลเมืองของเทพธิดา!”
“ที่นี่ยังไม่มีสถานที่ให้เธอพัก ดังนั้นเทพธิดาอามูสจึงหมดพลังได้ง่ายๆ เฮ้อ! คุณพลาดส่วนที่น่าสนใจที่สุดไปแล้ว ฮี ฮี ฉันแค่อยากรู้ว่าด้วยตําเหน่งที่จักรพรรดิขาวยืนอยู่นั้น เขาจะเห็นอะไรบ้างนะ”
“งั้นเรามาช่วยกันสร้างที่พักให้เธอดีไหม?”
“ความคิดดี! ฉันเอาด้วย! ฉันจะแจ้งกองทัพกบฏว่าพวกเราอยากสร้างที่พักให้เทพธิดาอามูส!”
“…..”
“ฉันมีวิสัยทัศน์ตอนกลางคืน! ผู้ที่ต้องการฉันร่วมทีม จงแสดงความแข็งแกร่งของทีมคุณให้ฉันเห็น! ส่วนทีมที่อ่อนแอไสหัวไปไกลๆเลย!”
“เราคือทีมผจญปากลางคืน! เรากําลังมองหาผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์ตอนกลางคืน! และควรเป็นผู้เล่นโจมตีระยะไกล!”
“สวัสดี! สวัสดีทุกคน! เราคือทีมที่แข็งแกร่ง เราต้องการผู้เล่นที่มีวิสัยทัศน์ตอนกลางคืนหนึ่งคน! ไม่มีข้อกําหนดสําหรับอุปกรณ์หรืออาชีพ! เราจะนําคุณไปสู่ชัยชนะ! บ้าเอ้ย! ทําไมฉันถึงไม่จ่าย 10 เหรียญทองตั้งแต่แรกฟะ! ถ้าฉันรู้ว่าเราจะได้รับการมองเห็นตอนกลางคืน เราทั้งทีมควรจะซื้อมันให้หมด!”