ผู้จัดการคนนั้นถึงกับมือสั่นเมื่อพบยอดเงินในบัญชีของหลิวไห่
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้รับมรดกก้อนใหญ่ใช่หรือเปล่าครับ”
หลิวไห่พยักหน้ารับ
“ใช่ครับผมนำมันไปเล่นหุ้นทั้งในและต่างประเทศมาตลอดสามปีนี้ โชคเข้าข้างครับเลยได้เพิ่มมาอีกไม่น้อยครับ”
ผู้จัดการธนาคารเข้าใจแล้ว เขาแย้งเบา ๆ ออกมาว่า
“หนึ่งพันล้านเหรียญนี่ไม่น้อยเลยครับ”
หลิวไห่ได้ยินก็ตะลึงไปชั่วครู่ เขาฟังไม่ชัดนัก และไม่แน่ใจในตัวเลขเงินที่เขามีอยู่ เขาจึงถามย้ำว่า
“อะไรนะครับ ผมมีเงินฝากเท่าไหร่”
ผู้จัดการธนาคารทำหน้างง แล้วปริ้นเอกสารให้หลิวไห่
“หนึ่งพันล้านเหรียญเพิ่งโอนมาเมื่อวานครับ ก่อนหน้านั้นมีอยู่ประมาณสองร้อยล้านเหรียญ ตอนนี้ในบัญชีของคุณหลิวรวม ๆ แล้วก็ประมาณหนึ่งพันสองร้อยล้านเหรียญครับ ผมดูคนไม่ผิดจริง ๆ คุณหลิวนี่มหาเศรษฐีเลยนะครับ”
หลิวไห่ที่กำลังยกแก้วน้ำดื่มเกือบจะทำน้ำหกแล้ว เขาเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ออกจากคุกโดยไม่รู้สาเหตุและยังได้เงินอีกพันล้านเหรียญมาฟรี ๆ จากใครกัน และเป็นไปได้ยังไง
หลิวไห่เองก็ใจเย็นอยู่ไม่น้อย เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้คือโชค แต่มันยังหมายถึงบางสิ่งที่เขาต้องชดใช้หลังจากได้อิสรภาพและเงินก้อนนี้มา
“ครับ ผมอาจจะลืมไปครับ”
เขาพยักหน้าอย่างใจเย็น ทั้งที่ในใจตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะทะลุออกมาจากอก
ผู้จัดการเห็นหลิวไห่ชะงักไปเพียงเล็กน้อย จากนั้นไม่ได้แสดงท่าทางว่าตื่นเต้นแต่อย่างใด ปกติเขาเป็นคนมองคนเก่ง แต่กับหลิวไห่คนนี้ผู้จัดการมองไม่ออกจริง ๆ
“เอ่อคุณหลิว พร้อมที่จะแสกนลายนิ้วมือหรือยังครับ”
หลิวไห่ยิ้ม เขาถอดหมวกออก อากาศในห้องนี้อุ่นด้วยฮีทเตอร์ซึ่งเป็นอุณหภูมิพอเหมาะ แต่ในตอนนี้หลิวไห่รู้สึกว่าตัวเองร้อนจนเหงื่อชุ่ม
เขาเช็ดเหงื่อที่มือกับขากางเกงของตัวเองแล้วพูดว่า
“พร้อมครับ อ้อผมขอเบิกเพิ่มเป็นร้อยล้านนะครับ”
“เอ๊ะ ร้อยล้านนะครับ”
“ใช่ครับร้อยล้านเหรียญครับ”
หลิวไห่พยักหน้า
“ได้สิครับ ผมขอนิ้วมือด้วยครับ”
หลิวไห่ยื่นมือให้ผู้จัดการ เขาขอให้หลิวไห่สอดมือเข้าไปที่เครื่องแสกนลายนิ้วมือ เครื่องทำงานอย่างรวดเร็วประมวลผลเพียงชั่วครู่ใบหน้าเดิมทั้งลายนิ้วมือของเขาก็ปรากฎอยู่หน้าจอ
ทั้งลายนิ้วมือใหม่และเก่าทาบกันอย่างสนิท ส่วนหน้าตาในตอนนี้เป็นเพราะหลิวไห่ดูกำยำขึ้นจากการออกกำลังกายอย่างหนัก รูปร่างสูงไม่ได้บอบบางเหมือนเมื่อหลายปีก่อน แต่เค้าหน้าเมื่อดูใกล้ ๆ ก็รู้ว่าหล่อเหลา
ผู้จัดการยิ้ม ผู้ชายคนนี้หล่อมาก ยิ่งพิจารณาใกล้ ๆ ในตอนที่เขาถอดหมวกออกยังเห็นเส้นตายาวงอนยิ่งกว่าผู้หญิง ใบหน้าสันเป็นคมถึงจะถูกหนวดเคราบังก็ยังดูหล่อ
หลิวไห่ยิ้มออกมาฟันขาวจนผู้จัดการมองอย่างตะลึง
นี่ขนาดหนาวเคราเฟิ้มขนาดนี้ ยังหล่อขนาดนี้ ถ้าโกนหนวดออกล่ะก็ เขาไม่อยากคิดเลย
พนักงานสาวคนนั้นของเขาพลาดของดีเสียแล้ว
หลังพิจารณาอย่างละเอียด ทุกอย่างถูกต้อง ผู้จัดการให้หลิวไห่ลงลายมือชื่ออีกครั้ง
คราวนี้หลิวไห่ตั้งใจเซ็นมากกว่าเดิม ลายมือจึงคล้ายของเดิมเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อเอกสารยืนยันตัวตนถูกต้องผู้จัดการจึงเซ็นอนุมัติให้เขาถอนเงินทันที
“เรียบร้อยครับ รูสักครู่นะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
ผู้จัดการหยิบโทรศัพท์ในห้อง ต่อสายถึงแคชเชียร์และสั่งให้เตรียมเงินสดให้หลิวไห่จำนวนร้อยล้านเหรียญ
เหมือนปลายสายจะถามย้ำอีกหลายที เธอแทบจะทำโทรศัพท์ร่วงไม่คิดว่าผู้ชายท่าทางเหมือนโจรคนนั้นจะเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง
“รีบเตรียมให้คุณหลิว”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
เมื่อวางสาย ผู้จัดการถามหลิวไห่ว่า
“คุณหลิวเอารถมาหรือเปล่าครับ ผมคิดว่าคุณควรมีคนคุ้มครอง หรือมีบอดี้การ์ดส่วนตัวหรือเปล่า”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“ผมไม่มีรถครับ ผมต้องการเงินไปซื้อรถสักคันครับ”
“อ้อ เข้าใจแล้วครับ บริการพิเศษของทางธนาคารคือยินดีจะไปส่งคุณหลิวพร้อมด้วยตำรวจสองนาย จนกว่าจะถึงที่หมายครับ ถ้าคุณหลิวไม่รังเกียจ”
หลิวไห่เองก็คิดว่าตัวเองจะเอาเงินสดร้อยล้านไปซื้อรถยังไง จึงตอบรับอย่างยินดี
“ขอบคุณครับ ผมรับข้อเสนอของคุณ ผมจะไปโชวรูมรถหรูครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนให้คนไปส่งผมที่นั่นหน่อยนะครับ”
“ยินดีมาก ๆ ครับ”
ป้าแม่บ้านคนนั้นเข้ามาแล้ว เอาขนมหลายอย่างมาให้เห็นชัดว่าตั้งใจทำมาอย่างดี หลิวไห่ยิ้มแล้วพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
“ขอบคุณครับป้า”
หลิวไห่สังเกตุเห็นว่าข้อมือของป้าถูกพันด้วยผ้าพันแผล จึงถามด้วยความสนใจ
“ข้อมือเกิดอุบัติเหตุเหรอคะ”
ด้วยมารยาทป้าไม่กล้าพูดกับลูกค้าของทางธนาคารอยู่แล้ว เธอจึงไม่กล้าตอบ ผู้จัดการเห็นลูกค้าวีไอพีอย่างหลิวไห่สนใจเลยบอกว่า
“คุณหลิวอยากรู้อะไร ถ้าป้าตอบได้ก็ตอบไปเถอะครับ ถือว่าคุยเป็นเพื่อนลูกค้า”
ป้าแม่บ้านยิ้มแล้วตอบว่า
“ลูกสาวป้าทำน่ะค่ะ บางทีเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ก็จะทำร้ายป้า เธอค่อนข้างแรงเยอะเลยบิดแขนของป้าจนเคล็ดค่ะ”
หลิวไห่พยักหน้าเข้าใจ ป้าคนนั้นจึงพูดต่อว่า
“เพราะแบบนี้เธอเลยไปโรงเรียนไม่ได้ค่ะ เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ในบางครั้งทำร้ายเพื่อนจนบาดเจ็บ ป้าเลยต้องให้เธออยู่บ้านค่ะ สามีของป้าถูกเธอทำร้ายที่ขาจนเดินเหมือนคนปกติไม่ได้ค่ะ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เลยต้องอยู่บ้านคอยดูแลเธอค่ะ”
ดูเหมือนป้าแม่บ้านจะเป็นทุกข์มาก คนแก่คนนั้นปาดน้ำตาร้องไห้ออกมา
“ขอโทษนะคะ ที่ต้องให้คุณลูกค้ามาฟังอะไรแบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมถามป้าเองนี่ว่าแต่ว่า ลูกของป้าอายุเท่าไหร่แล้วครับ”
“ห้าขวบค่ะ”
“แรงเยอะเลยเหรอครับ”
“ค่ะ คือปีก่อนเธอถูกคนลักพาตัวไปค่ะ ป้าตามหาแทบบ้าอยู่เป็นปี จนกระทั่งมีคนไปพบเธอถูกทิ้งที่ข้างถังขยะในปีต่อมา หลังจากนั้นเธอก็แปลกไป ยังมีแรงที่มากขึ้นแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ”
อยู่ ๆ หลิวไห่ก็รู้สึกว่าแปลก เขาย้อนคิดไปถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยช่วยเขาเอาไว้
เด็กคนนั้นก็แรงเยอะจนน่าตกใจเหมือนกัน
หลิวไห่คิดบางอย่างแล้วพูดขึ้น
“ผมค่อนข้างชอบป้า ผมกำลังมองหาแม่บ้าน และผมก็รู้สึกชอบป้ามาก จะเป็นอะไรหรือเปล่าถ้าผมจะเสนอเงินเดือนให้ให้ป้าเดือนละสามหมื่นเหรียญมาทำงานเป็นแม่บ้านให้ผมนะครับ อ้อ ตอนนี้ผมยังไม่มีบ้านแต่กำลังจะไปซื้อ ถ้าป้าไม่รังเกียจก็ย้ายมาอยู่กับผมที่บ้านใหม่ผมได้เลยและสามารถเริ่มงานได้เลย”
ทั้งผู้จัดการธนาคารทั้งป้าแม่บ้านที่เงินเดือนไม่ถึงสามพันเหรียญถึงกับตกใจ
“สามหมื่นเหรียญนี่เท่ากับเงินเดือนผู้จัดการเลยนะคะ”
“ครับ ผมให้สามหมื่นเหรียญหรือถ้าเกิดป้าคิดว่าน้อยไป เสนอมาได้เลยนะครับผมยินดีจ่ายเพิ่ม”