อเล็กซ์พาหลิวไห่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ยังพาเข้าร้านเสริมสวยโกนหนวดตัดผม ในตอนนี้อเล็กซ์ได้แต่มองอย่างชื่นชมด้วยความหล่อเหลาของหลิวไห่ที่ดูเหมือนคนละคนในตอนที่เดินเข้ามาในร้านเสริมสวย ทำให้พนักงานทุกคนทั้งหญิงและชายต่างมองอย่างตกตะลึง และยังผลัดกันมาชื่นชมเขาไม่ขาด
“ผมเบื่อคำชมของพวกนั้นแล้ว ไปเราไปกันเถอะ รู้สึกเหมือนพี่จะโดนแย่งยังไงก็ไม่รู้”
หลิวไห่พยักหน้าแล้วเดินตามเขาออกมา
อเล็กซ์พาเขามาที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง หลิวไห่ในชุดสูทราคาแพงและยังนั่งรถหรูมากับอเล็กซ์จึงได้รับการต้อนรับราวกับพระราชา
พวกเขานั่งในห้องวีไอพี อเล็กซ์สั่งทุกอย่างที่แพงหูฉี่ของที่ร้านมา รวมทั้งไวน์ขวดหมื่นเหรียญมาให้หลิวไห่ลองชิม
หลิวไห่ไม่ขัดข้อง เขาดื่มกินของดีอย่างเต็มที่
“หลังออกจากคุกนายคงชดเชยเต็มที่สิ”
“ใช่พี่ ตอนนี้พี่ได้ชีวิตใหม่แล้ว ประวัติของพี่นายใหญ่เคลียร์ให้ขาวสะอาด คดีของพี่ก็พลิกถูกตัดสินใหม่แล้ว รับรองว่าจากนี้ไม่มีใครยุ่งกับพี่อีก หากพี่ไม่หาเรื่องใส่ตัว”
อเล็กซ์ทุบปูอย่างแรงจนแหลกคามือ เขาส่ายหน้าแล้วเรียกพนักงาน
“หาสาว ๆ สวย ๆ มาช่วยทุบปูแกะกุ้งสักคนสองคนหน่อยสิ”
“ครับ”
หลิวไห่มองอเล็กซ์ เรื่องของลุงเฉิงยังเป็นเรื่องที่เขาอยากรู้อยู่
“ฉันถามนายคงไม่ตอบเรื่องลุงเฉิง ถ้างั้นนายพอจะตอบได้หรือเปล่าว่าสกุลกู้ทำอะไรที่ไม่สุจริตบ้าง”
อเล็กซ์หัวเราะ
“เป็นองค์กรข้ามชาติเลยแหละ ผมรู้แต่ว่าพวกมันกำลังทดลองอะไรบางอย่าง มีนักวิทยาศาสตร์มากมายอยู่ในนั้นและเป็นความลับสุดยอด นายใหญ่รู้เรื่องแต่ก็ไม่เคยบอกผมและนายใหญ่ก็ไม่อยากยุ่งกับพวกมันด้วย ผมถึงบอกพี่ยังไงล่ะว่าพ่อของพี่ที่จริงเกี่ยวพันอะไรกับพวกมันกันแน่ ถึงทำให้พวกมันตามฆ่า”
หลิวไห่เข้าใจแล้ว เขานึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้
“มีแฟรชไดร์อันหนึ่งที่พวกมันตามหา คงมีข้อมูลสำคัญอยู่ที่นั่น วันที่พวกมันฆ่าพ่อมันมาตามหาของสิ่งนั้น”
อเล็กซ์เอนตัวไปใกล้เขาแล้วพูดว่า
“ถ้างั้นพี่ต้องหาแฟรชไดร์นั้นให้เจอ ลองคิดดูว่าพ่อพี่จะซ่อนเอาไว้ที่ไหน”
หลังจากนั้นพนักงานสาวสวยที่อเล็กซ์ร้องขอก็เข้ามา พวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรกันอีก จนกระทั่งกินอาหารเย็นมื้อใหญ่เสร็จ อเล็กซ์ปัดมือตัวเองให้ทิปพนักงานไปจำนวนหนึ่งแล้วสั่งให้เธอออกไป
เขาบอกให้คนคิดเงินค่าอาหาร หลิวไห่ประเมินคร่าว ๆ ค่าอาหารวันนี้คงจะไม่ต่ำกว่าสามหมื่นเหรียญแน่ ๆ ยังมีไวน์ราคาแพงขวดนั้นอีกที่เขายังไม่ได้คิดรวม
ในขณะที่ไม่มีใครอยู่นั้นอเล็กซ์หยิบกล่อง ๆ หนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้วยมืออันว่องไว กระทั่งกล้องวงจรปิดยังจับภาพนั้นไม่ได้ แต่หลิวไห่ตาไวมองเห็นแล้ว
หลิวไห่สงสัยว่าเขาจะทำอะไรกันแน่
“นายจะทำอะไร”
อเล็กซ์หัวเราะแล้วตอบว่า
“หาเรื่องกินฟรี”
เขาเปิดกล่องไม้กล่องเล็กออก โยนแมลงสาบตัวเล็กที่อยู่ในกล่องหลายตัวลงในหม้อไฟอย่างรวดเร็วโดยไม่เป็นที่สังเกตุ ยังมีในจานของหลิวไห่ และในจานของเขา พวกมันตัวเล็กมากถ้าไม่เขี่ยดูหรือไม่สังเกตุก็แทบมองไม่เห็น
อเล็กซ์แกล้งเขี่ยอาหารบนจาน ทุกท่าทางของเขาล้วนถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้
เขาเริ่มกลายเป็นนักแสดง ทำท่าเหมือนเจอบางอย่างบนจาน เขาอมบางสิ่งไว้ในปากก่อนจะทำท่าอาเจียนออกมา พร้อมกับโวยวายเสียงดัง
“อะไรกันภัตตาคารระดับนี้ แหวะ จะอ๊วก แม่งเอ๊ย พวกเลวนี่จะฆ่าฉันหรือยังไง ฉันจะฟ้องพวกแก ฉันจะฟ้องให้หมดให้พวกแกต้องปิดร้านไปเลย กล้าดียังไงทำแมลงสกปรกพวกนี้ให้ฉันกิน พวกเลวเอ๊ย”
พนักงานรีบเข้ามาทันที อเล็กซ์เขี่ยแมลงตัวเล็กออกจากจานของตัวเอง และยังมีของหลิวไห่
พนักงานขอโทษก่อน แต่ยังไม่เชื่อจนกระทั่งพวกเขาเห็นว่ามีบางสิ่งที่อยู่บนจานและในน้ำซุป
พนักงานพยายามเพ่งมอง ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นเศษพริกไทยดำ แต่เมื่อมองดูดี ๆ กลายเป็นว่ามีแมลงตัวเล็กอยู่ในนั้น
อเล็กซ์ทำท่าอันธพาล ชี้หน้าพนักงานกระทั่งไปถึงผู้จัดการร้าน
“จะแก้ตัวยังไงว่ามา ว่ามาเลย”
ผู้จัดการร้านเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนจึงได้ขอตรวจกล้องวงจรปิด ให้พวกเขานั่งรอ
แต่เมื่อตรวจดูกล้องก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ไม่เห็นว่าอเล็กซ์เอาแมลงใส่ตอนไหน จึงต้องยอมรับความจริงและไม่คิดเงินค่าอาหาร แลกกับที่ขอให้พวกเขาไม่ฟ้อง
อเล็กซ์ยังได้บัตรทานอาหารฟรี มูลค่าหนึ่งหมื่นเหรียญเป็นเงินค่าปิดปากอีกด้วย
“ใครจะอยากมากินฟรี อาหารขยะที่มีแมลงแบบนี้ เห็นฉันกระจอกหรือไงวะ”
อเล็กซ์โวยวายอย่างหนัก สุดท้ายเขาจึงได้รับเงินสดมาฟรี ๆ อีกหนึ่งหมื่นเหรียญ
หลิวไห่ไม่เข้าใจเขานัก ทั้งสงสารพนักงาน แต่ตัวเองร่วมหัวจมท้ายกับอเล็กซ์แล้วจึงได้แต่นิ่งเงียบ
หลังออกจากร้านอาหารหลิวไห่จึงถามอเล็กซ์ว่า
“ถ้านายไม่มีเงินทำไมไม่บอก ฉันมีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้”
อเล็กซ์หัวเราะแล้วพูดว่า
“ฉันตั้งใจอยู่แล้ว ช่วยพี่แก้แค้นไงล่ะ”
หลิวไห่สงสัย
“ช่วยฉันแก้แค้น เกี่ยวอะไรกับโกงค่าอาหารคนพวกนั้นด้วย”
“พี่นี่ไม่รู้อะไร ภัตตาคารนั้นน่ะเป็นภัตตาคารอันดับหนึ่งของฮ่องกงเชียวนะ”
“ฉันรู้แล้ว นายบอกฉันแล้ว ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีเกี่ยวอะไรกับการแก้แค้น”
อเล็กซ์หัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหลิวไห่
“พี่คิดว่าใครล่ะเป็นเจ้าของภัตตาคารนั่น”
หลิวไห่เบิกตากว้าง เขาเข้าใจในทันที
“สกุลกู้?”
อเล็กซ์พยักหน้า
“ถึงจะหัวช้าไปบ้างแต่ก็ยังคิดได้ ถือซะว่านี่เป็นบทแรกที่ผมช่วยเริ่มต้นให้พี่แล้วกัน บทต่อไปพี่ต้องเขียนเองแล้วล่ะ อยากให้ช่วยอะไรก็บอกผมยินดี ในเมื่อเป็นคนรู้ใจของผมและยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตนายใหญ่อีก ผมอเล็กซ์คนนี้ยินดีรับใช้พี่ด้วยชีวิต”