หลี่เจี่ยซินพาเขามาถึงโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวของเธอเอง ตอนนี้ที่โรงเรียนกิจการดีขึ้นทำให้นักเรียนมาเรียนค่อนข้างมาก คนพลุกพล่านแต่กลับไม่มีใครสนใจหลี่เจี่ยวซินที่หิ้วคนสองคนเข้ามาในโรงแรียน
เธอพาคนสองคนนั้นไปที่โรงยิมหลังโรงเรียน เป็นโรงยิมเล็กที่เธอไม่ได้ใช้แล้วจึงไม่มีคนนอกเข้ามาวุ่นวาย
หลี่เจี่ยซินมัดพวกเขาผูกติดกับเก้าอี้สองคนนั้นยังสลบอยู่ หลี่เจี่ยซินจึงไปหาเก้าอี้มาให้เจ้านายของเธอนั่งรอ
“ที่รักอย่าตกใจไปนะ ถ้าฉันทำอะไรรุนแรงสักหน่อย”
เธอยังให้คนเอาน้ำเย็นมาให้เขาด้วย
หลิวไห่พยักหน้าแล้วตอบเสียงเล็กเสียงน้อยทั้ง ๆ ที่รู้สึกทุเรศตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
“อย่าทำรุนแรงมากนะ เค้ากลัว แต่ต้องเค้นเอาความจริงมาให้ได้”
หลี่เจี่ยซินยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ทำให้หลิวไห่ถึงกับชะงักค้าง
เอาอีกแล้วผู้หญิงคนนี้กำลังหว่านเสน่ห์ให้เขาอีกแล้ว
“ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าตกใจก็เอามือปิดตาไว้ล่ะกัน”
หลี่เจี่ยซินปลอบเขาเหมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่ง ความจริงเธอไม่อยากให้คู่หมั้นเห็นอะไรแบบนี้ รู้ว่าร่างกายบึกบึนนี่กลัวเลือดแค่ไหน แต่วันนี้น่าประหลาดที่เขายืนกรานจะดูเธอไต่สวนคนร้าย
หลี่เจี่ยซินปลอบเขาอีกไม่กีคำก็เริ่มกระบวนการสอบสวน
อันดับแรกคนของหลี่เจี่ยซินท่าทางค่อนข้างน่ากลัวสองคนนำน้ำเย็นจัดมาให้เธอ หลี่เจี่ยซินไม่รอช้าสาดน้ำเข้าไปที่ร่างของคนสองคนที่ถูกจับมัดโดยทันที
พวกมันสะดุ้งตื่น และทันทีที่สะดุ้งก็ถูกหมัดของหลี่เจี่ยซินต่อยจันฟันร่วง
หลิวไห่ตกตะลึงไม่คิดว่าหลี่เจี่ยซินจะเหี้ยมโหดแบบนี้
ภาพของผู้หญิงบอบบางคนหนึ่งทำเรื่องชั่วช้า หลิวไห่รู้สึกรับไม่ได้เขาจึงยกมือปิดหน้าเอาไว้
หลี่เจี่ยซินมองเฉินเฟยอวี๋เห็นเขายกมือปิดหน้าตัวเองก็หน้าเสีย
ตายล่ะเธอทำรุนแรงไปจริง ๆ แม่สาวบอบบางนั่นจึงได้ตกใจขนาดนั้น
หลี่เจี่ยซินจึงคิดจะลดแรงลงสักหน่อย เพื่อไม่ให้คู่หมั้นตกใจจนเกินไป
เมื่อหลี่เจี่ยซินไม่ตีคนแล้ว หลิวไห่จึงยกมือลงเขากระแอมแล้วกอดอกดูตุลาการศาลเตี้ยหลี่เจี่ยซินสอบสวนคนร้ายต่อ
“ใครจ้างพวกแกมา”
สองคนนั้นส่ายหน้าลนลานด้วยความหวาดกลัว พวกมันทั้งสองยังไม่ได้ตั้งตัวก็วูบไป ฟื้นขึ้นมาก็อยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ผู้หญิงคนนี้ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน กระทั่งฟื้นขึ้นมาก็ฟันหักไปคนละซี่แล้ว
“ยังไม่สารภาพอีก”
หลี่เจี่ยซินทำท่าหลังแหวน สองคนนั้นกลัวจนตัวสั่น เธอยังหันมายิ้มหวานให้คู่หมั้นของตัวเอง เอาล่ะต้องปลอบใจเฉินเฟยอวี๋ไม่ให้กลัวเกินไป เดี๋ยวจะนอนไม่หลับเอา
“จะพูดไม่พูด”
หลี่เจี่ยซินถีบเก้าอี้ที่มัดคนทั้งสองเอาไว้ แต่ยังยั้งแรงโชคดีเก้าอี้ไม่ล้มเพียงแต่มันหมุนรอบทิศไปหลายรอบจนทำให้สองคนนั้นอ้วกออกมา
อย่าว่าแต่คนร้ายสองคนนั้นเลย หลิวไห่เองที่นั่งมองเก้าอี้นั้นหมุนเป็นลูกข่างยังอดที่จะเวียนหัวแทนไม่ได้
วิธีการนี้ของหลี่เจี่ยซินโหดเหี้ยมจนเขาชักจะกลัว หากอนาคตเขานอกใจเธอหรือทำให้หลี่เจี่ยซินโกรธอะไรจะเกิดขึ้นกับเขากันนะ
หลิวไห่ดูไปก็ขนลุกไปเมื่อคิดถึงอนาคตของตัวเองที่ต้องผูกติดกับผู้หญิงคนนี้
เขาเตือนสติตัวเอง
กลับตัวกลับใจตอนนี้ยังทัน แต่ที่น่าเจ็บใจคือใจเจ้ากรรมของเขาดันไม่ฟังเขาแม้แต่น้อย
ลูกน้องของหลี่เจี่ยซินเข้ามา ในมือของพวกเขามีคีมเหล็กและเตาไฟร้อน ๆ
“ท่านประธานครับ”
หลิวไห่ยืดตัวคิดว่ามีใครเรียกตัวเอง แต่ที่ไหนได้ไม่ใช่เขาสองคนนั้นค้อมตัวให้หลี่เจี่ยซินแล้วยืนคีมเหล็กนั่นให้เธอ
หลิวไห่ร้อง เห๊อะ ในใจ
ผู้หญิงคนนี้เป็นท่านประธานอย่างนั้นเหรอ อ้อ ก็น่าจะใช่ ในเมื่อเธอขยายกิจการต่อสู้ไปหลายสาขา ตำแหน่งในตอนนี้ก็คงเป็นท่านประธานอยู่แล้ว
หลี่เจี่ยซินรับคีมเหล็กมา เธอเอาไปเผาไฟจนร้อนแล้วจุ่มลงในน้ำเสียงดัง ซู่
สองคนนั้นตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อหลี่เจี่ยซินพูดว่า
“ถ้ายังไม่บอก ฉันจะเอาคีมนี่เผาไฟแล้วหนีบน้องชายพวกนายจนขาด ต้องการแบบนี้ใช่หรือเปล่า”
นอกจากสองคนนั้นจะกลัวจนแทบฉี่ราดแล้ว หลิวไห่เองในตอนนี้ก็นั่งหุบขากุมน้องชายเอาไว้พลางเหงื่อตก
เมื่อสักครู่ว่าหลี่เจี่ยซินโหดเหี้ยมแล้ว ที่ไหนได้ วิธีการนี้โหดเหี้ยมยิ่งกว่าอีก
หลี่เจี่ยซินยัดคีมเหล็กเข้าไปในเตาไฟ สั่งคนของเธอให้ถอดกางเกงผู้ชายทั้งสองคน
พวกเขาเริ่มโวยวาย
“ขอร้องครับเจ้านาย เอ้อ ท่านประธานครับ ขอร้องครับ ผมบอกแล้วครับผมบอกแล้ว”
หลี่เจี่ยซินยิ้มเหี้ยมเกรียมุ หลี่เจี่ยซินโยนคีมเหล็กลงบนพื้นแล้วถามต่อ
“มันเป็นใคร”
สองคนนั่นแย่งกันพูด
“พวกผมไม่ได้ฆ่าใครครับ ปกติก็รับจ้างติดจีพีเอสให้กับพวกชอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยครับ คนที่จ้างบอกผมว่าผู้ชายคนนี้มีเมียน้อย ให้พวกผมหาโอกาสติดจีพีเอสในตอนที่พวกเขาเผลอ เราก็แค่รับจ้างติดจีพีเอสนะครับ เท่านั้นจริง ๆ ครับ”
หลิวไห่ตะโกนออกไป
“หน้าอย่างฉันนี่เหรอจะมีเมียน้อย คนที่พวกแกกำลังคุยด้วยก็คู่หมั้นของฉัน พวกแกนี่มันวอนตายแล้ว”
“ขอโทษครับ พวกเราไม่ได้ตั้งใจครับ มีคนจ้างพวกเราก็แค่ทำงานครับ”
หลี่เจี่ยซินถามต่อ
“ใครเป็นคนจ้างพวกแก”
“ไม่รู้ครับ พวกเขาโอนเงินทางอินเตอร์เน็ต ให้รูปรถและที่อยู่มาครับ พวกเราแก็แค่ทำงานจริง ๆ นะครับ ผมไม่รู้จักลูกค้าคนนี้ครับ ผมสาบานได้ครับ”
แค่รับงานติดจีพีเอส พวกเขาทำมานักต่อนักแล้วไม่เคยมีปัญหา แต่วันนี้ดันซวยเจอของจริงเข้าแล้ว เห็นทีว่าพวกเขาคงเข็ดจนตาย
หลี่เจี่ยซินยกคีมเหล็กขึ้นมาขู่พวกมันอีก
“ถ้าโกหกคิดว่าพวกนายจะเจออะไร”
สองคนนั้นตะโกนลั่น
“เป็นความจริงครับ นามบัตรผมอยู่ในกระเป๋ากางเกงครับ นามบัตรผมครับคุณดูได้เลย”
หลี่เจี่ยซินสั่งให้ลูกน้องของเธอค้นตัวสองคน เจอนามบัตรของพวกเขาและเอาไว้เช็คในอินเตอร์เน็ต
“ท่านประธานครับ พวกเขารับจ้างติดจีพีเอสจริง ๆ ครับ”
หลิวไห่ดูรูปพวกเขาในเว่ยป๋อ ทั้งในเว็บไซต์ก็มีรับติดจีพีเอสพร้อมด้วยโปรไฟล์ผลงาน แต่เธอยังไม่วางใจเท่าไหร่
“เอาเบอร์ของลูกค้าคนนั้นมาให้ฉัน ส่วนพวกนายถ้าโกหกจำไว้ว่าฉันไม่ปล่อยนายไปแน่ ไสหัวไปแล้วเก็บฟันของนายไปด้วย”
หลี่เจี่ยซินสั่งให้ลูกน้องแก้มัด แล้วพาพวกเขาไปส่งยังที่ห่างไกลสักแห่ง ยึดกระเป๋าตังค์ของพวกเขาเอาไว้ตรวจสอบ
หลิวไห่เห็นว่าการทำงานของหลี่เจี่ยซินยังหละหลวม เขาจึงถามว่า
“ไม่กลัวพวกมันไปแจ้งความเหรอ แบบนั้นจะสร้างความยุ่งยากให้เรานะ”
หลี่เจี่ยซินหัวเราะ
“มันไม่กล้าหรอก ลูกน้องของฉันสืบค้นครอบครัวของมันแล้ว ถ้ามันกล้าหาเรื่องให้ตัวเองก็ลองดู”
การทำงานของหลี่เจี่ยซินว่องไวและรอบคอบกว่าที่เขาคิดมาก นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่หลิวไห่ยอมรับการตัดสินใจของเฉินเฟยอวี๋
คือการที่จ้างให้หลี่เจี่ยซินเป็นบอดี้การ์ดและยังเป็นคู่หมั้นจอมปลอม
นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่หลิวเฟยอวี๋ทำในชีวิตแล้วกระมัง