ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 – ตอนที่ 39 ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอ

หลังจากปล่อยคนไปแล้ว หลี่เจี่ยซินก็นำกระเป๋าสตางค์ใบนั้นให้คู่หมั้นดู ปกติเฉินเฟยอวี๋ไม่เคยสนใจเรื่องประเภทนี้มักจะยกให้หลี่เจี่ยซินจัดการทั้งหมด แต่คราวนี้เรื่องที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อเฉินเฟยอวี๋บอกว่าจะสืบต่อเอง

“เธอไม่ต้องสืบต่อแล้ว ฉันจะให้คนของฉันสืบต่อเอง”

หลี่เจี่ยซินหรี่ตา เธอไม่ได้รู้สึกไม่พอใจเพราะลูกน้องของเธอก็ไม่ได้เก่งเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนเท่าไหร่ แต่สงสัยว่าเฉินเฟยอวี๋ไปมีคนตั้งแต่เมื่อไหร่

“ก็คนของเพื่อนเก่าที่เจอที่ฮ่องกงไงล่ะ ฉันบอกเธอแล้วนี่พวกเขาเก่งเรื่องนี้”

หลี่เจี่ยซินพยักหน้าเข้าใจ

“อ้อ จำได้แล้ว”

สองคนเดินออกจากโรงเรียน เด็ก ๆ ยังคงเรียนกันอย่างตั้งใจ หลี่เจี่ยซินอธบายให้เขาฟังด้วยความภูมิใจ

“ยังไงก็ต้องขอบคุณที่รักที่เข้ามาช่วยกู้สถาณการณ์ได้ทันเวลาพอดี ไม่งั้นแย่แน่เลย”

หลิวไห่รู้เรื่องนี้ดีเพราะน้องชายเล่าให้ฟังโดยละเอียด

“ถ้าวันนั้นไม่ได้ที่รักฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้ พยุงบริษัทและรอดมาได้จนถึงวันนี้ก็เพราะเธอนะ”

จู่ ๆ หลิวไห่ก็กอดเธอ หลี่เจี่ยซินยิ้มยอมให้เขากอด สองคนเดินไปด้วยกันจนกระทั่งมาถึงหน้าตึก กำลังจะขึ้นรถเสียงของผู้ชายคนหนึ่งก็ทักหลี่เจี่ยซิน

“เจี่ยซิน สวัสดี”

แค่เพียงหลี่เจี่ยซินเห็นไอ้หนุ่มหน้ามนตัวสูงคนนั้นก็รีบผลักหลิวไห่ออกทันที

แรงของหลี่เจี่ยซินมีไม่ใช่น้อยหลิวไห่เกือบเสียหลักล้มลงไม่เป็นท่า หลี่เจี่ยซินนึกขึ้นได้รีบคว้าแขนของหลิวไห่เอาไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะหน้าคว่ำลงไปกองคลุกหิมะ

หลิวไห่โกรธจัดจนหน้าแดง หลี่เจี่ยซินรีบปัดมือปัดไม้ให้เขาแม้ว่าเขาจะยังไม่ล้มก็ตาม

“ที่รักฉันขอโทษนะ ฉันลืมตัว”

หลี่เจี่ยซินดูจะตื่นเต้นผิดปกติ หลิวไห่เองก็มึนงง จู่ ๆ ถูกผลักออกโดยไม่ทันตั้งตัว ทั้ง ๆ ที่เมื่อสักครู่กอดกันเดินออกจากตึกแท้ ๆ

ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เห็นได้ชัดว่าหลี่เจี่ยซินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง หลิวไห่ยิ่งไม่พอใจ

“เจี่ยซินเธอก็อยู่ที่นี่เหรอ”

“อื้ม”

หลี่เจี่ยซินยิ้มอาย ๆ ยังบิดแขนเสื้อหลิวไห่เล่น

“นายมาตรวจลาดตระเวณเหรอ”

“ใช่ ผ่านมาทางนี้เลยแวะดูความเรียบร้อยให้เธอหน่อย ก่อนหน้านี้ก็ไปอีกเขตเห็นโรงเรียนของเธออีกสาขาสงบดีก็วางใจแล้ว”

หลี่เจึ่ยซินยิ้มหน้าบาน

“นายยังใจดีกับฉันเหมือนเดิมนะ”

“สำหรับเธอเท่านั้นแหละ”

เขาหยอดคำหวาน หลี่เจี่ยซินทั้งเขินทั้งอายม้วน ดูผิดปกติวิสัยเป็นอย่างยิ่ง

หลิวไห่กระแอมหลายครั้ง ดูเหมือนว่าสองคนนั้นกำลังเตะขาออกจากตรงนี้ เหมือนเขาเป็นส่วนเกินหรืออะไรสักอย่าง

หลี่เจี่ยซินเพิ่งจำได้ว่าเฉินเฟยอวี๋อยู่กับเธอ เธอจึงแนะนำเขาให้กับเพื่อนรักที่เป็นตำรวจคนนี้ให้เขารู้จัก

“อ้อลืมแนะนำไปเลย นี่เพื่อนสมัยเด็กของฉันค่ะ เขาคือ ผู้กองหูเสี่ยวเทียน ส่วนนี่ก็เป็นเจ้านายของฉันค่ะ คุณเฉินเฟยอวี๋”

หลิวไห่กระแอมเมื่อหลี่เจี่ยซินแนะนำตัวเขาไม่ครบ หลี่เจี่ยซินพูดแค่นั้นก็มองนายตำรวจหูเสี่ยวเทียนนั่นตาเยิ้ม

หูเสี่ยวเทียนจึงพูดขึ้น

“ใช่ครับเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ผมมาเจอเธออีกครั้งไม่นานมานี้ ยังเป็นเหมือนเดิม ผู้หญิงตัวเล็ก น่ารักสดใสที่แสนอ่อนแอคนเดิม ผมยังไม่เชื่อเลยว่าเธอจะสามารถดูแลโรงเรียนสอนศิลปะของพ่อต่อได้ ยังขยายสาขาอีก ผมนี่ทึ่งมากเลย ทั้ง ๆ ที่เธอบอบบางและอ่อนแอแบบนี้”

หลิวไห่แทบจะดวงตาถลนออกมา เขาจ้องหลี่เจี่ยซินเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด

หลี่เจี่ยซินนี่นะ อ่อนแอ น่าทะนุถนอม บอบบาง ช่างเป็นคำนิยามที่ตรงข้ามกับเธออย่างสิ้นเชิง

หูเสี่ยวเทียนยื่นมือมา ทำความรู้จักกับเขา หลิวไห่ยื่นมือออกไปจับและค่อนข้างจะบีบแน่นสักหน่อย

หูเสี่ยวเทียนเองก็รู้สึกว่าแรงบีบค่อนข้างเยอะ กระทั่งเจ้านายของหลี่เจี่ยซินพูดขึ้นมาว่า

“ผมนอกจากจะเป็นเจ้านายของเธอแล้ว ยังเป็นคู่หมั้นที่ใกล้จะแต่งงานกันด้วย”

หลี่เจี่ยซินคาดไม่ถึงว่าเขาจะกันซีนเธอขนาดนี้ เธอมองคู่หมั้นหนุ่มด้วยสายตาผิดหวัง เธอรู้ว่าเฉินเฟยอวี๋เกลียดตำรวจเพราะเคยถูกนายตำรวจหักอกมา แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย ทำไมเขาถึงพาลได้ขนาดนี้

หูเสี่ยวเทียนเองก็ชอบหลี่เจี่ยซินมานาน การที่ผู้ชายคนนี้จู่ ๆ ประกาศตัวเป็นคู่หมั้นของหลี่เจี่ยซินทำให้เขาตกใจ

เมื่อตกใจจึงเผลอบีบมือของหลิวไห่แน่นเช่นกัน

สองหนุ่มกำลังต่อสู้กันด้วยกำลัง ดูเหมือนว่าแรงของทั้งสองคนจะพอ ๆ กัน แต่สุดท้ายคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมย่อมชนะ นายตำรวจหนุ่มแสนซื่อจะสู้ผู้ชายที่ผ่านคุกมาอย่างหลิวไห่ได้ยังไง

สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นฝ่ายแพ้และต้องรีบดึงมือออกอย่างรวดเร็ว

หลิวไห่ยิ้มเยาะเย้ย หลี่เจี่ยซินเองคอตก ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง คราวนี้เธอขายไม่ออกแน่แล้ว

หูเสี่ยวเทียนที่กำลังผิดหวังจึงพูดขึ้น

“ยังไงวันนี้ฉันขอตัวก่อนนะ มีอีกหลายที่ต้องไปลาดตระเวณ”

“อื้อ ไว้เจอกันนะ อาหารมื้อที่นายติดฉันอยู่ฉันยังรออยู่นะ”

หลิวไห่ควันออกหู เขาจึงพูดขัดขึ้น

“ในฐานะที่เป็นคู่หมั้น ขอตามแฟนไปทานอาหารด้วยจะได้หรือเปล่าครับ ไหน ๆ ก็เป็นเพื่อนเก่ากัน เพื่อนของคู่หมั้นผมเองก็อยากสนิทด้วย”

หูเสี่ยวเทียนอยากจะตะโกนใส่หน้าผู้ชายหน้าทนคนนี้นัก

ไม่อยากสนิทโว้ย

แต่ด้วยมารยาทจึงได้แต่ทนกล้ำกลืนเอาไว้ ได้แต่พยักหน้ารับ

“ยินดีครับ วันนี้ขอตัวก่อนนะครับ”

หูเสี่ยวเทียนขับรถตำรวจออกไปแล้ว หลิวไห่กอดไหล่ของหลี่เจี่ยซินเอาไว้ เธอสบัดมือของเขาออกแล้วพูดอย่างโกรธ ๆ

“กันซีนฉันรู้หรือเปล่า ไม่ชอบตำรวจแต่ก็ไม่น่าทำขนาดนี้”

หลิวไห่ตามน้ำ

“รู้แล้วก็อย่าทำ ฉันบอกก่อนว่าฉันไม่ชอบหน้าไอ้หมอนั่น”

“แต่เขาเป็นเพื่อนฉันนะ อีกอย่าง ฉันน่ะ ก็แอบชอบเขาอยู่”

หลิวไห่แทบจะพ่นไฟออกจากปากเมื่อได้ยินคำนี้

“อ้อ ก็เลยแสร้งทำอ่อนแอต่อหน้าเขาเพราะกลัวเขารู้ตัวตนของเธอแล้วจะไม่ชอบล่ะสิ”

หลี่เจี่ยซินแทบจะร้องไห้ออกมา

“ก็ใช่น่ะสิ เขาชอบผู้หญิงตัวเล็กน่ารักแรงน้อย ฉันนี่ตรงกันข้ามกับคำว่าแรงน้อยเลย ถ้าฉันบอกความจริงว่าฉันเป็นยังไงกลัวจะวิ่งหนีไปน่ะสิแค่นี้โอกาสของฉันก็น้อยนิดแล้ว รอบกายของเขามีแต่ผู้หญิงประเภทนี้ทั้งนั้น”

หลิวไห่ถอนหายใจออกมา

“ถ้าเขาไม่ชอบตัวตนของเธอ เธอจะฝืนทำไมล่ะ”

หลี่เจี่ยซินตอบเสียงเบา

“ก็ไม่รู้สิ บางทีคงเป็นเพราะฉันชอบเขามากจนอยากให้เขาชอบฉันล่ะมั้ง”

หลิวไห่พ่นไฟออกจากปากอีกครั้งโดยที่หลี่เจี่ยซินไม่รู้ เขาลากเธอไปขึ้นรถเป็นฝ่ายคาดเข็มขัดนิรภัยให้

หลี่เจี่ยซินนั่งหงอยถามเขาว่า

“เราจะไปไหนกันต่อล่ะ”

หลิวไห่ยกมุมปากคล้ายจะยิ้ม

“เธอกับฉันหมั้นกันภาษาอะไร แม้แต่แหวนหมั้นยังไม่มี ฉันจะพาเธอไปซื้อแหวนหมั้น”

หลี่เจี่ยซินหันขวับมองเขาทันใด

“แหวนหมั้นเหรอ ทำไมต้องใส่มันด้วยล่ะ”

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25
Status: Completed
อ่านความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25สภาพของโรงฝึกที่ถูกรื้อค้นจนเละตุ้มเป๊ะ คนของเธอสามคนถูกทำร้ายและยังถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ในมือของผู้ชายคนนั้นมีปืนที่กำลังจ่อเข้าไปที่หัวของครูฝึกของเธอ หลี่เจี่ยซินกลืนน้ำลายลงคอ พวกเขามองหน้าเธอแล้วบอกเธอให้หนีไป หลี่เจี่ยซินน้ำตาคลอเบ้า เธอกำมือแน่นปล่อยถุงผักผลไม้ที่เพิ่งซื้อมาลงไปกองกับพื้น ส้มลูกหนึ่งกลิ้งไปหยุดที่หน้าของชายคนหนึ่งที่หนึ่งอยู่บนเก้าอี้ ม้นก้มลงเก็บส้มที่หยุดเมื่อกลิ้งมาโดนขาของมันขึ้นมา ใบหน้าที่เป็นรอยนั้นแลดูน่ากลัว มันหยิบส้มขึ้นมาดมแล้วแสยะยิ้มพร้อมกับปอกส้มช้า ๆ  "ถ้าเงินไม่มีก็ขายตัวให้ฉัน เข้าซ่องสักปีสองปีแป๊บเดียวก็ใช้หนี้หมดตอนนั้นอยากได้ตึกคืนก็ไม่สาย"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset