“ถ้าเธอไม่เลือกสักทีก็เอาวงนี้แหละ ก็ดูดีนะ”
หลี่เจี่ยซินรับแหวนราวกับรับลูกบอลที่ไร้ค่าลูกหนึ่ง เธอเห็นแล้วแย้งขึ้นมาทันที
“มันเม็ดโตเกินไปใครเขาจะใส่ติดมือได้ล่ะ”
หลิวไห่กวาดตามองอีกครั้ง สะดุดตาเข้ากับแหวนเม็ดโตอีกวง เขาจึงหยิบขึ้นมาแล้วโยนให้เธอ หลี่เจี่ยซินรับราวกับมันเป็นลูกบอลลูกที่สอง เมื่อพิจารณาอยู่ชั่วครู่หลี่เจี่ยซินจึงส่ายหน้า
“วงนี้ก็ใหญ่เกินไป เธอหาวงเล็ก ๆ หน่อยสิ”
หลิวไห่เริ่มหงุดหงิดแล้ว
“ทำไมเรื่องมากแบบนี้นะ นั่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา”
เขาบ่นเบา ๆ ให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว หลี่เจี่ยซินหน้ามุ่ยคิดในใจว่า
ฉันไม่ได้คิดจะมาสักหน่อย เป็นเธอนั่นแหละที่ลากฉันมา ในใจก็อยากจะถามเขาว่า ช่วงนี้ถังแตกไม่ใช่เหรอทำไมถึงมาร้านหรูขนาดนี้ล่ะ หรือกลัวจะเสียหน้ากันแน่
สองคนเลือกเพชรอยู่นานก็ไม่ได้อย่างที่ต้องการสักที ต่างโยนกันไปโยนกันมาอย่างสนุกสนาน
พนักงานที่คอยดูแลสองคนต่างมองหน้ากันด้วยความหวาดเสียวกลัวว่าแหวนจะร่วงลงพื้น ตั้งแต่ทำงานมาพวกเธอไม่เคยเห็นใครเลือกแหวนหมั้นราคาสูงลิบลิ่วแล้วโยนให้กันราวกับว่ามันเป็นของปลอมราคาต่ำแบบนี้
แหวนสองวงนี้มีราคาพอกับคฤหาสน์สุดหรูเลยนะ
เมื่อหลี่เจี่ยซินยืนกรานอยากได้แหวนที่เล็กลงกว่านี้หลิวไห่ก็ขี้เกียจทะเลาะกับเธอแล้ว เขาจึงหันไปบอกพนักงาน
“คู่หมั้นผมอยากได้วงเล็กกว่านี้มีหรือเปล่าครับ”
พนักงานยิ้ม ดูท่าทางแล้วสองคนนี้ทั้งหน้าตาดี แต่ดูแล้วการแต่งตัวก็ไม่เท่าไหร่ ถึงชุดสูทผู้ชายจะดูราคาแพงแต่ผู้หญิงกลับแต่งตัวเหมือนบอดี้การ์ด ไม่เหมือนคุณผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานแม้แต่น้อย หากไม่หน้าตาสวยล่ะก็คงยากที่จะต้อนรับด้วยใจจริง
พนักงานคนนั้นจึงปรามาสคนทั้งสองในใจ
คงเป็นพวกอวดรวย เสียแต่ว่าหน้าตาดี ไม่รู้ว่าจะเอื้อมถึงแหวนในร้านนี้สักวงหรือเปล่า
พนักงานคนนั้นทำท่าลังเลแล้วพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า
“วงเล็กกว่านี้ทางเรามีค่ะ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงนะคะเนื่องจากเป็นเพชรน้ำงามที่ได้รับการการันตีจากสมาคมค้าเพชรค่ะ หากจะมองหาราคาที่ต่ำคิดว่าต้องเชิญร้านถัดไปแลวค่ะ”
คำพูดนี้ใครฟังก็ดูรู้ว่ากำลังได้รับการดูถูก หลี่เจี่ยซินไม่ใช่คนโง่เธอถึงกับหน้าร้อนผ่าว ในขณะที่หลิวไห่เองเขาไม่ได้ยินคำพูดประเภทนี้มาเนิ่นนานจนลืมไปแล้ว
นั่นทำให้เขาคิดถึงวันแรกที่ออกจากคุกมา และได้รับสายตาสมเพชที่มองมาที่เขาแบบนี้
หลิวไห่ยกยิ้มแล้วพูดว่า
“ไม่ทราบว่า ใครถามราคาครับ ผมและคู่หมั้นได้ถามราคาไปหรือยังครับถึงได้ตอบผมแบบนี้ เงินแค่นี้เล็กน้อยมากครับสำหรับผม”
หลิวไห่เองไม่ชอบให้ใครตอบไม่ตรงคำถาม
พนักงานคนนั้นอึกอัก แล้วตอบว่า
“เอ้อ ก็เห็นคุณผู้หญิงต้องการเม็ดเล็กกว่านี้เราถึงต้องแจ้งราคาไปด้วยค่ะ”
พนักงานคนนั้นพยายามแก้ตัว คงเป็นเพราะพวกเขาดูไร้รสนิยมในการเลือกของจึงดูเหมือนไม่มีเงินในสายตาเธอ ทำให้เธอพูดแบบนั้นออกไป
หลิวไห่หัวเราะหยัน เขาไม่ชอบคนดูถูกคนที่สุด
“ผมถามแค่ว่ามีเล็กกว่านี้หรือเปล่า ไม่ได้ถามว่าราคาเท่าไหร่คุณคนนี้คงจะไม่เข้าใจ ถ้าเช่นนั้นผมขอเปลี่ยนพนักงานดูแลนะครับ ถ้าไม่เปลี่ยนวันนี้ผมคงได้ออกจากร้านตัวเปล่าแล้ว”
พนักงานคนนั้นหน้าเสียทันที ในขณะที่พนักงานอีกคนพูดขึ้น
“ต้องขอประทานโทษคุณผู้ชายนะคะที่อาจจะเข้าใจผิด เดี๋ยวยังไงทางเรานำแหวนมาให้ดูนะคะ และจะมีพนักงานคนใหม่มาให้บริการคุณผู้ชายค่ะ”
หลิวไห่พยักหน้าแล้วพูดว่า
“ดีครับผมรู้สึกว่าพนักงานท่านนี้ทำเกินหน้าที่ไปสักหน่อย อ้อ แหวนสองวงเมื่อสักครู่ที่ผมโยนเล่น ผมขอซื้อทั้งสองวงเลยครับแม้ว่ามันจะไม่ถูกใจคู่หมั้นเท่าไหร่เพราะคู่หมั้นอยากได้วงเล็กหน่อยเขาจะได้ใส่สบายใจคุณช่วยเลือกที่ดีที่สุดให้คู่หมั้นของผมด้วยนะครับ”
“ค่ะ ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันจะเตรียมออกใบรับประกันให้ด้วยเลยนะคะ เมื่อสักครู่ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ค่ะ”
“ไม่มีค่าให้พูดถึงครับ”
หลิวไห่โบกมือ หลี่เจี่ยซินมองเขาอย่างทึ่ง ๆ ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูเท่ห์จริง ๆ
พนักงานทั้งสองคนนั้นเก็บแหวนทั้งหมดออกไปแล้ว หลี่เจี่ยซินรู้สึกอัดอั้นคันปากยิก ๆ อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงได้เวอร์ขนาดนี้ แต่พนักงานคนใหม่เข้ามาพร้อมกับแหวนสองวงที่หลิวไห่เลือกแบบโยน ๆ เมื่อสักครู่ ยังมีแหวนวงเล็กกว่าอีกหลายวงมาให้หลี่เจี่ยซินเลือก
หลี่เจี่ยซินจึงเลือกวงเล็กไปส่ง ๆ ในใจอยากจะคุยกับเขาสองต่อสองนัก
หลิวไห่ถามย้ำ เมื่อเห็นว่าหลี่เจี่ยซินดูเหม่อลอย
“ตกลงชอบวงนี้นะ”
หลี่เจี่ยซินพยักหน้า
“ค่ะ”
หลิวไห่ค่อย ๆ สวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ เพชรเม็ดเล็กแต่น้ำงามมากฝังอยู่ในตัวเรือนเปล่งประกายงดงามเข้ากับหลี่เจี่ยซินเป็นอย่างยิ่ง มันสวยและพอดีกับนิ้วของหลี่เจี่ยซินพอดีเป๊ะ
หลิวไห่พอใจมาก
หลี่เจี่ยซินก้มลงมองนิ้วของตัวเอง จู่ ๆ ก็ใจเต้นแรงกระหน่ำ ใบหน้าของหลี่เจี่ยซินแดงซ่าน
หลิวไห่คิดว่าหญิงสาวคงรู้สึกประทับใจมาก เขาจึงยิ้มออกมา ในที่สุดเขาก็ทำให้ผู้หญิงคนนี้เขินอายได้แล้ว ช่างน่าภูมิใจจริง ๆ
หลิวไห่ตอบตกลงกับพนักงาน
“ผมอยากได้อีกวงครับ เอาแบบนี้คล้ายกัน ขอเป็นของผู้ชายนะครับ”
“ได้ค่ะ คุณผู้ชายรอสักครู่นะคะ เรามีของผู้ชายที่คล้ายกันพอดีเลยค่ะ”
พนักงานนำแหวนคู่มาให้เขาอีกวง หลิวไห่เคาะหน้าผากของหลี่เจี่ยซิน ดูเหมือนว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์คิดว่าหลี่เจี่ยซินคงกำลังปลื้มใจจนน้ำตาไหลเป็นแน่
“ที่รักใส่ให้ผมหน่อยสิ”
หลี่เจี่ยซินชี้ที่ตัวเอง หลิวไห่พยักหน้าแม้จะไม่ได้พูดเธอก็อ่านใจเขาออก
เธอน่ะแหละยัยตัวดี แสดงละครดี ๆ ล่ะอย่าให้ขายหน้า
นั่นทำให้เธอรีบสวมแหวนให้เขา หลิวไห่มองแหวนที่หลี่เจี่ยซินสวมให้แล้วยิ้มไม่หยุด
หลี่เจี่ยซินตั้งสติได้แล้วจึงถามเขาทันใด
“ที่รักคะ แหวนทั้งหมดนี่ราคาเท่าไหร่กันคะ”
หลิวไห่เลิกคิ้วพร้อมส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ เท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ จะถามทำไม”
“ก็บอกหน่อยนะคะฉันอยากรู้นี่คะ”
หลี่เจี่ยซินทำท่าอ้อน หลิวไห่ใจอ่อนยวบเมื่อเห็นตาปริบ ๆ ของเธอ เขาจึงหันไปถามพนักงาน
“คุณตอบคู่หมั้นผมหน่อยว่าราคารวมกันแล้วเท่าไหร่”
พนักงานจึงตอบพร้อมรอยยิ้มบาดใจ
“แหวนหมั้นสองวงนี้เป็นเพชรน้ำงามเลยนะคะราวร้อยล้านหยวนค่ะ ถ้ารวมทั้งหมดที่คุณผู้ชายสั่งก็ราวหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวนค่ะ”
หลี่เจี่ยซินตาโต น้ำตาของเธอเหมือนจะไหลพรากออกมา จู่ ๆ เธอก็ดึงหลิวไห่เข้ามากอดแนบแน่น
หลิวไห่ปลื้มใจมากคิดไม่ถึงว่าหลี่เจี่ยซินจะอ่อนไหวเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ เมื่อได้แหวนเพชรที่มีราคาสูงลิ่วแบบนี้ ยิ่งเห็นเธอหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจเขาก็รู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ
กระทั่งหลี่เจี่ยซินกระซิบที่ข้างหูของเขาน้ำเสียงสั่นเครือ
“เธอจะเอาเงินไหนมาจ่ายเขา เราจะชิ่งหนีออกไปยังไงดีโดยไม่ขายหน้า ฉันใจเต้นแรงไปหมดแล้วกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเราไม่มีเงิน”
หลิวไห่ถึงกับตกใจในความคิดของเธอ
อย่าบอกนะว่าที่เธอร้องไห้หน้าแดงนี่ เพราะคิดว่าเขาไม่มีเงินจ่ายและกำลังจะหาทางชิ่งหนีเพราะกลัวจะถูกจับได้
หลี่เจี่ยซินเธอนี่มัน….เฮ้ย