อารมณ์หื่นของหลี่เจี่ยซินสุดท้ายก็ถูกปลดปล่อย ในขณะที่หลิวไห่กำลังยืนหนาวสั่นเพราะถูกเธอฉีกเสื้อผ้าจนขาด โชคดีที่กางเกงของเขาพอจะใส่ได้จึงไม่ได้ดูอนาจารเท่าไหร่
“ฉันขอโทษนะที่รัก ฉันรุนแรงเกินไป”
หลี่เจี่ยซินยกมือปิดปาก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเธอตกใจที่เพิ่งรู้ว่าเขาในตอนนี้มีสภาพย่ำแย่แค่ไหน
หลิวไห่หัวเราะ พยายามทำตัวให้แข็งแรงเอาไว้ ภายในเวลาชั่วพริบตาหลี่เจี่ยซินรีดน้ำของเขาออกไปถึงสี่น้ำโดยที่เขาเองยังไม่รู้เลยว่าเธอทำได้ยังไง ดูเหมือนว่าหลี่เจี่ยซินจะมีความสามารถรู้จุดอ่อนของเขาไปเสียหมด เขายังจุกไม่หายที่เธอต่อยท้อง ขายังสั่นระริกเหมือนจะยืนไม่ไหวแล้ว พยายามทำเสียงให้เเข้มแข็ง
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แค่นี้จิ๊บ ๆ ยินดีที่ได้ช่วยเธอ”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันจริง ๆ ถึงได้เป็นแบบนี้”
หลิวไห่เริ่มหนาว อากาศเย็นแบบนี้เขาเหมือนจะกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว หลังของเขาพิงผนังที่เย็นชื้นจึงเด้งออกมาอย่างไว ปากของเขาเริ่มสั่นในตอนที่หลี่เจี่ยซินดึงกางเกงของตัวเองขึ้นมา
“ฉันว่าไอ้หมอนั่นต้องวางยาเธอแน่ ๆ แต่ตอนนี้เรากลับกันเถอะก่อนจะมีใครมาเจอฉันในสภาพนี้”
หลี่เจี่ยซินอยากจะแย้ง เธอไม่คิดว่าเขาจะวางยาแน่นอน มันไม่เหตุผลเอาเสียเลยที่หูเสี่ยวเทียนจะทำแบบนั้น แต่ก็เหมือนที่เขาบอกว่าที่นี่ไม่เหมาะที่จะคุยกัน
หลี่เจี่ยซินมองถนนหน้าตรอกที่มีแสงไฟเลือนลาง เห็นว่ายังเปลี่ยวเธอจึงหิ้ว เอ๊ย พยุงเขาออกไป
หลิวไห่ปัดมือของเธอออก แค่นี้เขาก็รู้สึกว่าตัวเองดูน่าอนาจเกินไปแล้ว จึงไม่ยอมให้เธอพยุง ทันทีที่เขาเดินอย่างผ่าเผยออกไปเจอแสงไฟ ผู้หญิงกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งก็เดินผ่านมาทันที
พวกเขาเห็นหลิวไห่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งทั้งกางเกงยังขาดจนเห็นกางเกงใน ถึงเขาจะกล้ามแน่นและหน้าตาดี แต่ในเวลานี้ที่โผล่ออกมามาในมุมมืดอย่างถูกจังหวะ ใครเห็นก็คิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตอนาจาร
“กรี๊ดดด”
“คนลามก ไอ้คนวิปริต”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับเสียงของตำรวจที่มาตรวจบริเวณนี้พอดี ตำรวจเป่านกหวีดให้เขาหยุด หลิวไห่ยังตกตะลึงเขาพยายามอธิบาย ผู้หญิงกลุ่มนั้นกำลังจะรุมตีเขาหลิวไห่ไม่เคยทำร้ายผู้หญิงจึงได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ถูกมือถูกเท้าคนพวกนั้นไปหลายที
ก่อนที่ตำรวจจะถึงตัวของหลิวไห่ เหมือนมีลมใหญ่หอบหนึ่งพัดมาอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงพวกนั้นถูกผลักกระเด็นกระจายเป็นวงกลมโดยรอบ หลี่เจี่ยซินหิ้วหลิวไห่ด้วยมือเดียว วิ่งหนีเร็วยิ่งกว่านักวิ่งโอลิมปิด
หลิวไห่ที่อยู่ในอ้อมแขนของหลี่เจี่ยซินรู้สึกตัวอีกที ก็ถูกเธอยัดใส่ในรถของเธอเองและขับออกมาอย่างรวดเร็ว ทิ้งคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ข้างหลังมึนงงว่าผู้ชายลามกคนนั้นหายไปไหน
“ที่รักฉันทำเธอเดือดร้อนแล้ว”
หลี่เจี่ยซินขอโทษขอโพยเขา เรื่องเกิดขึ้นราวกับฝันไปหลิวไห่ยังมึนงง กระทั่งเขาได้สติ หลิวไห่ในตอนนี้ยังเจ็บที่หลี่เจี่ยซินต่อยท้องเขาไม่หาย ยังมาถูกผู้หญิงพวกนั้นตบหน้าเพราะเข้าใจผิด เขารู้สึกสงสารตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ได้แต่นั่งนวดหน้าตัวเองอย่างเจ็บปวด
นี่เขาเป็นประธานพันล้านทำไมคนพวกนั้นรวมทั้งหลี่เจี่ยซินถึงได้ย่ำยีเขาเหมือนกับคนข้างถนนทั่วไปด้วย
ทั้งหมดนี้ต้นเหตุคือหูเสี่ยวเทียนที่วางยาหลี่เจี่ยซิน
“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเจอเขาอีกแล้ว ทั้งหมดเพราะเขาวางยาเธอ”
“ที่รักฉันรู้ว่าเธอไม่เชื่อฉัน แต่ฉันมั่นใจว่าไม่ใช่เขาจริง ๆ ฉันคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน”
“ใช่สิ เธอถูกวางยาก็เลยเป็นแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอยังไงล่ะ ถ้าฉันไม่ตามมาตอนนี้เธอคงถูกหมอนั่นลากไปขืนใจแล้ว”
ถึงหลิวไห่จะพูดแบบนั้นแต่เขาก็แน่ใจว่าคงเป็นหลี่เจี่ยซินที่เป็นฝ่ายปล้ำหูเสี่ยวเทียนต่างห่าง ถ้าหากเขาไม่ตามมาต้องเกิดเรื่องแน่ ๆ แค่นี้ก็ทำให้เขาโกรธจนอยากลากคอมันมากระทืบแล้ว
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ไม่แน่นอน ฉันมีความต้องการแต่เห็นเขาแล้วกลับไม่ได้อยากนอนกับเขา ในใจของฉันมีแต่เธอน่าแปลกมากต้องเป็นเธอเท่านั้นที่ช่วยฉันได้ ที่รักเรื่องนี้แปลกฉันต้องไปหาหมอแล้ว”
หลี่เจี่ยซินพูดไปเรื่อย ๆ ในขณะที่หลิวไห่สะดุดกับคำพูดของเธอ ประโยคเมื่อกี้
“เธอว่ายังไงนะ”
หลี่เจี่ยซินทวนคำ
“ฉันคิดว่าฉันต้องไปหาหมอ”
“ไม่ใช่ก่อนหน้านั้น ก่อนไปหาหมอ”
หลี่เจี่ยซินย้อนคำพูดตัวเอง
“ฉันบอกว่าฉันต้องการมาก แต่เป็นคนอื่นไม่ได้ต้องเป็นเธอเท่านั้นในใจของฉันมีแต่เธอ”
หลิวไห่มองหลี่เจี่ยซินทั้งตกตะลึง
“เธอบอกว่าในใจมีแต่ฉันเท่านั้น”
“อิ้อ แปลกมาก ฉันไม่สามารถทำเรื่องนี้กับคนอื่นได้ ต้องเป็นเธอเท่านั้น ที่รักฉันว่าฉันไม่สบายจริง ๆ ทำไมเป็นแบบนี้”
หลิวไห่หัวเราะเสียงดัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
หลี่เจี่ยซินมองเขา “หัวเราะอะไร”
หลิวไห่อมยิ้ม ในใจลิงโลดโบยบินยิ่งกว่าผีเสื้อ
“ยัยบื้อเอ๊ย”
เขาคิดว่าเธอต้องชอบเขา แต่เธอไม่รู้ตัวยังคิดว่าตัวเองชอบไอ้หน้าขาวตำรวจนั่น ถึงจะถูกวางยาแต่เธอก็ยังคงโหยหาแค่เขา นั่นมันเป็นปฏิกิริยาของร่างกายและของหัวใจที่มีต่อคนที่เธอพอใจเท่านั้น
และแน่นอนมันคือเขา หูเสี่ยวเทียน นายแพ้ฉันแล้ว เอาล่ะฉันตัดสินใจไม่ถือสานาย
“เธอว่าฉันเหรอ”
หลิวไห่เสียงอ่อนลง
“ไม่ได้ว่า ฉันแค่บอกว่าเธอไม่สบายเธอไปตรวจร่างกายน่ะดีแล้วล่ะ ดูว่ามีสารตกค้างในร่างกายหรือเปล่า”
“อื้อ”
หลายวันต่อมาหูเสี่ยวเทียนกำลังตามสืบคดีคนหายต่อเนื่อง มีผู้หญิงหายออกจากบ้านทั้งยังติดต่อไม่ได้นับสิบคนอย่างไร้ร่องรอย เขาค่อนข้างยุ่งแต่ยังมีเวลาแวะมาหาหลี่เจี่ยซินตามที่นัดหมายกันในเย็นวันหนึ่ง
“วันนั้นขอโทษนะ ฉันเสียมารยาทหรือเปล่าที่รีบกลับแบบนั้น”
หูเสี่ยวเทียนส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร แต่เธอเหมือนมีเรื่องด่วนนะจัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“อื้ม จัดการแล้วขอบใจที่เข้าใจนะ”
หลี่เจี่ยซินเห็นหน้าหล่อ ๆ ของเขาแล้วก็รู้สึกสบายอกสบายใจ
“เห็นเธอยุ่งมากเลยนะช่วงนี้”
“ใช่มีคดีหญิงสาวหายตัวไป แต่ละคนหน้าตาดีและอายุประมาณเธอทั้งนั้น ที่นัดมาวันนี้ก็เพื่อจะเตือนเธอให้ระวังตัว อย่าอยู่คนเดียว”
หลี่เจี่ยซินตกใจ
“มีเบาะแสคนร้ายหรือยัง”
หูเสี่ยวเทียนส่ายหน้า
“ไร้ร่องรอย คนร้ายเป็นมืออาชีพไม่มีหลักฐานอะไรเลย ฉันเห็นว่ามันน่ากลัวช่วงนี้ก็ให้ระวังหน่อย”
เขาดึงมือของหลี่เจี่ยซินไปจับ
“ฉันห่วงเธอจริง ๆ นะ”
หลี่เจี่ยซินผู้อ่อนแอในสายตาของหูเสี่ยวเทียนแกล้งทำท่าทางตกใจ กระทั่งเธอถูกใครคนหนึ่งกระชากมือออกจากการเกาะกุมของหูเสี่ยวเทียน
“ไม่ต้องห่วงหรอกคู่หมั้นของฉัน ฉันดูแลเองได้”
“ที่รักเธอมาได้ยังไง”
หลิวไห่ลากเก้าอี้ออก นั่งลงข้าง ๆ เธอ
“นี่เธอจะตกใจทำไมในเมื่อเธอนัดกับเขาอยู่ที่คาเฟ่ในตึกบริษัท ฉันก็ตามมาได้สิ”
หลี่เจี่ยซินยิ้มแหย ๆ
“เอ่อจริงด้วยแฮะ”