“ขอโทษครับคุณผู้หญิง คุณทำกระเป๋าสตางค์หล่นครับ”
หลี่เจี่ยซินแทบจะลมจับอยู่แล้วเพราะเธอคิดว่าหูเสี่ยวเทียนจะจำเธอได้ แต่ที่ไหนได้ที่เขาตามเธอมาก็เพราะเธอทำกระเป๋าเงินหล่นนั่นเอง หญิงสาวบีบเสียงให้แหลมเล็กพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย
“ขอบคุณมากค่ะ”
แน่นอนว่าใบหน้าของหลี่เจี่ยซินย่อมคุ้นหน้าเขาเป็นอย่างมาก หูเสี่ยวเทียนจึงถามออกไป
“ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”
หลี่เจี่ยซินยิ้มหวานในใจ สมแล้วที่เป็นคนที่เธอชอบฉลาดจังเลย แต่ก่อนที่จิตใจของเธอจะเตลิดคุณลุงคนขับรถที่มาด้วยก็กระแอมเสียงดัง
หลี่เจี่ยซินจึงแสร้งทำหน้าบึ้งเล็กน้อย เอาล่ะถึงเวลาที่เธอต้องแสดงละครแล้ว
“อย่าใช้มุกนี้จีบสาวอีกนะคะ มันโบราณมากเลยค่ะ”
หลี่เจี่ยซินในคราบของหลี่เจินจึงสะบัดหน้าหนีออกมาท่ามกลางอาการโล่งอกของหลิวไห่และอาการเก้อของหูเสี่ยวเทียน เขาคุ้นหน้าเธอจริง ๆ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน แต่การถามเธอไปแบบนั้นก็ทำให้เธอเข้าใจผิดได้
หูเสี่ยวเทียนจึงเดินไปหยิบของที่ต้องการซื้อแล้วเดินไปจ่ายเงิน คนของกู้เมิ่งที่กำลังสะกดรอยตามหลี่เจินอยู่ย่อมรู้จักตำรวจชื่อเสียงโด่งดังอย่างหูเสี่ยวเทียน พวกเขาจึงรอจนกระทั่งตำรวจคนนั้นเดินห่างออกไปจึงเริ่มตามหลี่เจินอีกครั้ง
หลี่เจี่ยซินกวาดตามองเธอแสร้งไปเข้าห้องน้ำเพื่อให้คนพวกนั้นมีเวลาเตรียมตัวจับตัวเธอ
จนกระทั่งพวกเขาซื้อของเสร็จจึงเดินไปที่รถ ลานจอดรถชั้นใต้ดินอาคารห้างสรรพสินค้ามีรถจอดอยู่เต็มไปหมด และแน่นอนว่าเพราะชั้นนี้ที่จอดรถเต็มแล้วจึงไม่มีรถคันอื่นสวนไปมา หลี่เจินมากับคนแก่คนหนึ่งซึ่งเป็นคนขับรถจึงตกเป็นเป้าการลักพาตัวได้อย่างง่ายดาย
เมื่อคนของกู้เมิ่งยืนยันตัวตนของหลี่เจินเรียบร้อย พวกเขาจึงคิดหาทางลงมือ
ในขณะที่หลิวไห่เปิดประตูรถเพื่อสตาร์ทรถรอนั้นเอง คนพวกนั้นก็เตรียมตัวเข้าชาร์ทตัวหลี่เจี่ยซิน หลิวไห่แสร้งทำของหล่นเขาจึงก้มลงเก็บ และหลี่เจี่ยซินถูกคนพวกนั้นลากมาเธอแสร้งโวยวายจนกระทั่งถูกผงยาสลบปิดที่ปาก
ไม่นานหลี่เจี่ยซินก็สิ้นฤทธิ์ แต่ร่างกายของหลี่เจี่ยซินเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ไม่นานเธอก็สามารถกำจัดพิษของผงยาสลบออกไปได้ หญิงสาวรู้สึกตัวในอีกห้านาทีต่อมาและเธอกำลังอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง
หลี่เจี่ยซินยังแกล้งสลบ แต่เสียงของคนในรถรวมทั้งใบหน้ากำลังถูกดวงตาสวรรค์ของหลิวไห่จ้องมองและบันทึกภาพอยุ่
“พวกมันเลี้ยงไปที่ถนนตงไห่ครับนาย เดี๋ยวผมจะส่งจีพีเอสให้”
หลิวไห่กังวลใจมาก แต่เขาได้ยินเสียงของคนพวกนั้นชัดเจนจากอุปกรณ์ไฮเทคที่ติดตัวหลี่เจี่ยซินไป หญิงสาวเองในตอนนี้ถูกมัดปากและมัดมือมัดเท้า หลี่เจี่ยซินไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวว่าเธอจะเผลอทำเชือกขาดทำให้แผนการณ์ของเธอต้องยุติ
หลี่เจี่ยซินได้แต่ท่องในใจว่าตอนนี้ตัวเองคือผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้นนะ เธอต้องสะกดจิตตัวเองว่าเธอกำลังกลัว ไม่สามารถทำร้ายคนพวกนี้ได้
นิสัยเสียของหลี่เจี่ยซินคือ ถ้าใครลงมือทำร้ายเธอหลี่เจี่ยซินค่อนข้างจะหัวร้อนและเอาคืนให้หนักกว่า หญิงสาวจึงได้แต่หลับตาและคิดว่าตัวเองสบายดีข่มอารมณ์ตัวเองอย่างเต็มที่
จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงหลิวไห่ที่ดังข้างหูอันเป็นผลมาจากไมโครชิพที่ต่างหูของเธอ
“ที่รักอย่าตกใจนะ ฉันกำลังตามเธอไปเธอห้ามทำร้ายคนเด็ดขาด”
เอาล่ะสิ ที่หลิวไห่ก็เธอตกใจก็เพราะกลัวว่าหลี่เจี่ยซินจะทำแผนแตกเช่นเดียวกับเธอ เขาไม่ได้ห่วงเธอแม้แต่น้อย
หลี่เจี่ยซินนอนฟังนิ่ง ๆ ได้ยินพวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุก
“งานนี้ง่ายกว่าที่คิดไว้ว่ะ แม่สาวสวยนี่คงคิดไม่ถึงว่าจะมีใครมาลักพาตัวถึงได้ไม่ป้องกันอันตรายอะไรเลย”
หลี่เจี่ยซินได้ยินแบบนั้นก็คิดให้อภัยลดโทษลงเหลือกึ่งหนึ่ง จากความผิดร้อยเปอร์เซ็นตอนนี้ลดเหลือสัก ห้าสิบเปอร์เซ็นในฐานะที่พวกเขาบอกว่าเธอสวย
นั่นแปลว่าเธอจะไม่ฆ่าพวกเขาแต่ให้สาหัสแทนแล้วกัน
“แล้วคนก่อนหน้านั้นล่ะ เราต้องปล่อยพวกเธอหรือเปล่า ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนที่นายใหญ่ตามหา”
อีกคนได้ยินจึงพูดว่า
“จะปล่อยให้พวกมันตามตำรวจมาจับเราเหรอ มึงบ้าหรือเปล่าที่ถามแบบนี้เมื่อไม่มีประโยชน์แล้วนายใหญ่ก็ต้องให้กำจัดทิ้งให้หมดอยู่แล้ว”
อีกคนจึงพูดว่า
“พวกเธอแต่ละคนมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดานะ ถ้าฆ่าทิ้งแล้วคนของพวกเธอตามกัดเราไม่ปล่อยล่ะ”
ผู้ชายคนนั้นดูจะกลัวมาก แต่ผู้ชายอีกคนกลับคิดชั่ว
“ข่มขืนพวกมัน แล้วถ่ายคลิปเอาไว้ดีหรือเปล่าค่อยปล่อยกลับ ใครกล้าหือเอาเรื่องก็ขู่ปล่อยคลิปให้มันอับอายแม่งเลย”
หลี่เจี่ยซินที่นอนนิ่ง ๆ กำมือแน่น เธอคันไม้คันมืออยากจะซัดคนให้หมอบคาตีนแล้ว
หน็อยคิดจะข่มขืนผู้หญิง กล้ามากนะพวกแก
หลิวไห่ได้ยินที่พวกเขาคุยกันก็กลัวมาก เขากลัวว่าหลี่เจี่ยซินจะระงับอารมณ์ไม่อยู่จริง ๆ เขาพยายามคิดหาวิธีไม่ให้เธอหัวร้อน
“ที่รักเธอใจเย็น ๆ นะ อย่าเพิ่งสติหลุดจัดการพวกมันจะเราไปไม่ถึงรังมันนะ”
หลิวไห่ย้ำอีกครั้ง หลี่เจี่ยซินหลับตาแน่น คิดว่าไม่ได้ยินอะไร เธอไม่ได้ยินอะไร
หลี่เจี่ยซินนั่งอยู่ในรถตู้ราวสองชั่วโมง รถของคนร้ายก็พาเธอเลี้ยงเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่เป็นเหมือนอุโมงค์ลึกและหลังจากรถของเขาคันนั้นเข้าไปในอุโมงแล้ว หลี่เจี่ยซินก็พบว่าสัญญาณของหลิวไห่ขาดหาย เมื่อไม่มีเขาเธอก็กลัวว่าเธอจะอดใจไม่ไหวแล้ว
หลี่เจี่ยซินได้แต่คิดในใจ
ให้ตายเถอะ เฉินเฟยอวี๋เธอต้องทำอะไรทุกอย่างแล้ว ตอนนี้พวกมันกำลังดูถูกผู้หญิงฉันทนไม่ไหวอยากจะต่อยให้ฟันมันร่วงเสียจริง
หลิวไห่เองก็ขาดการติดต่อจากเธอทั้ง ๆ ที่เขาขับรถตามแท้ ๆ กลับถูกรถบรรทุกคันหนึ่งบังหน้าและพวกนั้นก็หายจากสัญญาณไปในที่สุด
นอกจากนั้นเขายังไม่สามารถติดต่อหลี่เจี่ยซินได้อีก
หลิวไห่จอดรถข้างทางบริเวณที่หลี่เจี่ยซินหายไป เขาตรวจสอบโดยรอบพบว่าใต้สะพานนี้เป็นที่กลับรถซึ่งค่อนข้างเปลี่ยวและรถตู้ที่จับหลี่เจี่ยซินก็หายไปใต้อุโมงค์แห่งนี้
หลิวไห่ขับรถวนดูอีกรอบ จนกระทั่งจอดตรงหัวโค้งเขาเห็นกรวยตำรวจตั้งอยู่แถวนั้น จึงเอามาเรียงและสั่งคนของเขาให้มาหาเขาสองคน ช่วยกันปฏิบัติการตามหาหลี่เจี่ยซิน
นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่อาจกระโตกกระตากได้ การนำคนมาสองคนเขาคิดว่าเพียงพอแล้ว
คนของเขามาถึงอย่างรวดเร็ว พร้อมกรวยจรจรปิดถนน สังเกตุตามผนังห้อง สุดท้ายหลิวไห่ก็รู้แล้วว่าตรงนี้ด้านในเป็นรูกลวง นั่นแสดงว่าตรงนี้ย่อมเป็นประตูที่รถสามารถผ่านเข้าไปได้แน่
หลิวไห่พลาดท่าเมื่อด้านหน้ามีกล้องวงจรปิด เขาจึงขยับมาในมุมอับ โทรให้ดวงตาสวรรค์กำจัดกล้องนั้นทิ้งทันใด
ดวงตาสวรรค์หาข้อมูลกล้องอันนั้นโดยใช้เวลาไม่ถึงห้านาที พวกเขาก็ควบคุมทุกอย่าง เริ่มจากเอาภาพเดิมที่ไม่มีรถผ่านเข้ามาปิดช่วงเวลาที่พวกเขาลบภาพหลิวไห่และคนของเขาออก นอกจากนั้นยังใช้ภาพปลอมฉายทับเข้าไปในวิดีโอ ทำให้พวกนั้นไม่รู้ความเคลื่อนไหวของหลิวไห่แล้ว